ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 225 หน้าใหญ่
บทที่ 225 หน้าใหญ่
ขณะที่ชายคนนั้นคิดคุกเข่า ไป๋ชิวหรานก็ทราบว่าอีกฝ่ายคิดจะคำนับเป็นอาจารย์
ดังนั้นไป๋ชิวหรานจึงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด พลังผู้ฝึกตนที่ปรากฏบนแดนมนุษย์นี้ อาจกล่าวได้ว่าไร้เทียมทาน ทว่าอีกทางหนึ่ง พลังที่ไม่อาจยับยั้งถือเป็นสิ่งอันตรายยิ่งใหญ่
หรือก็คือ ไม่สามารถวางบุคคลระดับสูงไว้ในหมู่บ้านเพื่อสร้างความวุ่นวายได้
เมื่อเห็นสายตาของชายคนนั้นที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ไป๋ชิวหรานจึงไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถควบคุมความปรารถนาหลังจากเรียนรู้เคล็ดวิชาได้
ไป๋ชิวหรานจะเป็นผู้เบิกเส้นทาง และต่อให้ชายคนนี้รวมโลกทั้งใบได้ แต่ยามที่เขาตาย ฝูซางจะตกอยู่ในห้วงความโกลาหลอีกครั้ง
เขาเกียจคร้านเกินกว่าจะเช็ดก้นให้ชายหนุ่มคนนี้
ขณะเมินสองคนนี้ที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อ ไป๋ชิวหรานและเจียงหลานจึงเดินทางกลับไปยังนครหลวงแม้ว่าฝนจะตกอยู่ จากนั้นได้พบที่พักแบบเรียวกัง*[1] ในนครหลวง
ผีร้ายตนนั้นกลืนกินคนเป็นทั้งหมดในหมู่บ้าน ความสามารถของมันนับว่าอยู่ในอันดับต้นของผีร้ายป่าเถื่อน จุดกำเนิดเองก็ผิดปกติเช่นกัน
เจียงหลานรู้สึกผิดมาก ทว่าไป๋ชิวหรานย่อมไม่โทษนางอย่างแน่นอน เดิมทีแล้ว เป็นผีร้ายที่มาข่มขู่ด้วยหมายจะกลืนกินวิญญาณ ทำให้เจียงหลานลงมือจนจัดการมันไปถึงแกนกลาง หากจะยึดตามกฎเกณฑ์ของโลก ซึ่งการกระทำของเจียงหลานก็นับว่าเป็นการป้องกันตัวที่ถูกต้องเท่านั้น
ไป๋ชิวหรานและเจียงหลานกำลังจะพักในนครหลวงช่วงกลางคืน เพื่อคำนวณสิ่งที่ต้องทำในวันต่อไปอีกครั้ง
ทั้งสองตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมา ขณะไป๋ชิวหรานยังคงหวีผมให้เจียงหลาน เขาก็ได้ยินเสียงคนกรีดร้องมาจากข้างนอก
“เกิดอะไรขึ้นอีก?”
ชายหนุ่มหยุดหวีผมให้เจียงหลานชั่วคราว จากนั้นจึงรีบเดินไปที่หน้าต่างและมองออกไป มีหลายคนได้ยินเสียงร้องดังกล่าว และต่างพากันวิ่งออกจากบ้าน ก่อนจะตามไปยังหัวมุมถนน มุ่งสู่ถนนที่เสียงกรีดร้องดังขึ้น
“ทางนั้นมันอะไรหรือ?”
ไป๋ชิวหรานถาม
“ทางนั้นคือย่านโคมแดงที่ใหญ่ที่สุดในนครหลวง”
เจียงหลานตอบ
“มันคือสถานที่เดียวกับแดนเริงรมย์ที่เซียงเสวี่ยเปิดอย่างลับ ๆ ”
“โห ถนนบุปผาสินะ”
ไป๋ชิวหรานกล่าวกับเจียงหลาน
“หลานเอ๋อร์ ข้าจะออกไปดูเสียหน่อย”
เขาหันร่างพุ่งทะยานจากหน้าต่าง จื้อเซียนที่อยู่ภายนอกที่พักบินพุ่งตามติดห้อยตัวอยู่กับเข็มขัด ก่อนที่ร่างจะกระโดดด้วยฝีเท้าเบาย่องบนหลังคา จนมาถึงสถานที่เกิดเหตุจากที่สูง
ร้านค้าบริเวณย่านโคมแดง ผู้ตายคือบุรุษ ทว่าไร้ศีรษะ ผู้อื่นปิดลำคอโชกเลือดเอาไว้ด้วยผ้าขาว พร้อมหามด้วยเสื่อฟางออกมา และวางลงกับพื้น
ไป๋ชิวหรานสัมผัสพลังลมปราณหยินจากคนคนนี้อีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่รุ่งสางดีนัก เขาก้มมองไปยังบริเวณหน้าร้าน ทันใดนั้นจึงพบกับมุมมืดบนชั้นสองของร้านนี้ ซึ่งปรากฏร่างของหญิงสาวสวมชุดโออิรันหรูหรากำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น สีผิวซีดเผือดไร้โลหิต แต่ริมฝีปากแดงราวกับโลหิต ใบหน้าครึ่งหนึ่งอยู่หลังกำแพง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งแอบมองออกมา และเห็นไป๋ชิวหรานที่มองมาเช่นกัน
ทั้งสองสบตากัน ไป๋ชิวหรานรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์!
จากนั้น เพียงพริบตาหญิงสาวในชุดโออิรันกลับหายตัวลับไป
“จื้อเซียน เจ้าเห็นหรือเปล่า?”
“อา เป็นผีร้ายอีกแล้ว”
จื้อเซียนถอนหายใจ
“ดูท่าจะมีปัญหาในยมโลกจริง”
เมื่อเห็นดังนี้ ไป๋ชิวหรานจึงกลับที่พักอย่างแน่วแน่
เจียงหลานอาบน้ำเสร็จแล้ว เมื่อเห็นไป๋ชิวหรานกลับมาจึงถามว่า
“เกิดอะไรขึ้น?”
“อาจจะมีปัญหาในยมโลก”
ไป๋ชิวหรานตอบ ขณะร่ายเคล็ดวิชาอัญเชิญผีร้าย
“ข้าจะเรียกผีร้ายเพื่อมาสอบถาม”
ถ้าหากเป็นเขาคนเก่า อาจจะไม่กังวลต่อเหตุการณ์ของยมโลก แต่นี่เพิ่งกลับมาจากยุคเทพเมื่อไม่นานมานี้ ช่วงเวลาที่ยมโลกถูกสร้างขึ้นยังคงสดใหม่ในความคิด ไป๋ชิวหรานย่อมไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
คนแรกที่ไป๋ชิวหรานเรียกมาคือคนรู้จักเก่าแก่อย่างเชวียหลิง แต่เชวียหลิงกลับไม่ตอบรับการเรียกของเขา ดังนั้นไป๋ชิวหรานจึงเปลี่ยนวิธีเพื่อสลับเป้าหมายการเรียก… เป็นทั่วทั้งยมโลกแทน
ครู่ต่อมา ในที่สุดก็มีคนตอบรับการเรียกของเขา ครั้งนี้เป็นเสียงฆ้องที่ดังมาจากความว่างเปล่า ผีร้ายเพศชายสวมชุดกำมะหยี่ ท่าทางซีดเซียว ถือฆ้องและโคมกระดาษในมือออกมาจากความว่างเปล่า ขมวดคิ้วด้วยความไม่ยินดีขณะกล่าวว่า
“ใครเป็นคนเรียกผีร้าย?”
ยมทูตที่เขาไม่รู้จัก…
ขณะไป๋ชิวหรานครุ่นคิด เขาประสานมือก่อนตอบว่า
“ข้าเอง”
ยมทูตมองไป๋ชิวหรานขึ้นลงก่อนจะกล่าวว่า
“ผู้ฝึกตนขั้นกลั่นลมปราณ… ชีวิตของเจ้ากำลังจะถึงจุดจบแล้ว เตรียมรับผลที่ตามมาได้เลย”
ไป๋ชิวหรานไม่ยินดี ทว่าเจียงหลานนิ่งเฉยขณะมองไปที่อีกฝ่าย
หลังจากพูดจาไม่น่าฟังแล้ว จึงถามอีกครั้งว่า
“ช่างเถิด เจ้าเรียกข้ามาด้วยเหตุอันใด?”
“มีผีร้ายนิสัยไม่ดีอยู่ในย่านโคมแดงฟากนั้น”
ไป๋ชิวหรานชี้ไปที่ย่านโคมแดงที่อยู่ด้านข้าง
ยมทูตขมวดคิ้วขณะชำเลืองมอง จากนั้นถอนหายใจออกมา
“มันมาอีกแล้วหรือ? พอข้าไปมันก็มา”
เขาโยนโซ่ขณะเดินทะลุกำแพง ผ่านไปไม่กี่อึดใจ เจ้าผีร้ายกลับมาอีกครั้ง ทว่าครานี้เป็นโซ่เหล็กในมือมัดผีร้ายเพศหญิงดุร้ายสวมชุดโออิรันอันงดงามเอาไว้
“บุญคุณนี้ข้าจะจดจำเอาไว้”
ยมทูตกล่าวกับไป๋ชิวหราน
“ขอบคุณ”
ชายหนุ่มประสานมือ จากนั้นจึงถามด้วยความลังเลว่า
“ช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นในยมโลกนี้หรือเปล่า? พูดตามตรง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ภรรยากับข้าเคยเห็นผีร้ายเช่นนี้”
“ไม่มีอะไรมาก แค่การกระทำของวิถีอสูรได้เปลี่ยนไปน่ะ”
ผีร้ายตอบ
“เรื่องราวของยมโลก ปุถุชนอย่าได้ถามจนเกินควร จบที่ตรงนี้ ข้ายุ่งมากมีเรื่องให้ต้องจัดการ ขอตัวกลับก่อน… จริงด้วย เจ้าชื่อแซ่ว่าอันใด?”
“ชื่อของข้าคือไป๋ชิวหราน”
ชายหนุ่มตอบกลับไป
“ไป๋ชิวหราน ไป๋ชิวหราน…”
ยมทูตพลิกสมุดแห่งความเป็นความตายเล่มเล็กที่พกติดตัวไปมา
“ทำไมชื่อช่างดูคุ้นเคยนัก? หืม? ชื่อของเจ้าไม่ได้อยู่ในสมุดแห่งความเป็นความตายเลยนี่”
ยมทูตมองใบหน้าของไป๋ชิวหราน ขมวดคิ้ว ครุ่นคิดสักพักจากนั้นพลันอุทานว่า
“ท่านนี่เอง! จักรพรรดิภูตผีในอนาคต!”
“จักรพรรดิภูตผีในอนาคตคืออะไร?”
ไป๋ชิวหรานถามอย่างไม่ยินดี
“ข้าไม่ใช่จักรพรรดิภูตผีเสียหน่อย”
เจ้าเด็กฉาวโฉ่ไป๋ลี่ เอาอะไรมายัดให้ข้า? ช่างวุ่นวายนัก
เขาครุ่นคิด
ยมทูตก้าวถอยหลัง ตั้งท่าป้องกันและถามด้วยเสียงสั่นเครือว่า
“ท่านไม่รู้วิธีจัดการกับผีร้ายหรือ? ข้าได้ยินมาว่าท่านมีงานอดิเรกเป็นการจัดการกับพวกสวะนี่”
“เขาไม่ทำหรอก”
เจียงหลานเปิดปากเพื่อปกป้องไป๋ชิวหราน ในฐานะตัวตนที่อยู่เหนือเซียน แน่นอนว่านางสามารถมองเห็นยมทูตได้ด้วยตาเปล่า
“ก่อนหน้านี้ชิวหรานไม่ทำเพราะพวกเจ้าเป็นคนทำมาก่อนอย่างไรเล่า”
“หืม? ท่านมองเห็นข้าเหมือนกันงั้นหรือ?”
เพราะมีบทเรียนจากไป๋ชิวหรานแล้ว ท่าทีของยมทูตในครั้งนี้จึงระแวดระวังเล็กน้อย เขาก้มศีรษะให้เจียงหลานแล้วกล่าวว่า
“ขอบังอาจถามว่าแม่นาง…”
“มหาวิหารฝูซาง เจียงหลาน”
เจียงหลานคำนับให้ยมทูต
“หื้ม… ท่านหญิงฝูซาง”
ยมทูตผงะ จากนั้นจึงก้มศีรษะให้เจียงหลานมากขึ้นไปอีกเท่าตัว
“ได้พบท่านในวันนี้ ข้าน้อยซานเซิงนับว่าโชคดีนัก”
“ไม่ต้องสุภาพนักหรอก”
เจียงหลานโบกมือขณะยิ้มให้
“ถ้าเจ้ามีเรื่องยุ่งวุ่นวาย ก็กลับไปก่อนเถอะ พวกข้าสามีภรรยาไม่คิดรั้งตัวไว้หรอก”
ยมทูตถอยกลับด้วยความงุนงงแล้วดึงผีร้ายไว้มั่น ใช้พลังที่ได้รับจากสวรรค์เพื่อข้ามความว่างเปล่า จากนั้นมุ่งสู่ยมโลก
“นี่มันไม่ถูก…”
เมื่อไปได้ครึ่งทาง เขาพลันตอบสนอง
“ท่านหญิงฝูซางไม่ใช่ภรรยาของจักรพรรดิเซียน แต่เป็นภรรยาของบรรพบุรุษเซียนไม่ใช่หรือ? ทำไมนางกับคนบาปแห่งยมโลกอย่างจักรพรรดิภูตผีในอนาคตถึงได้สนิทสนมกันนัก แถมยังเรียกตัวเองว่า ‘พวกข้าสามีภรรยา’ หรือว่า…”
เขาครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ ใบหน้าที่ชวนเวทนาพลันหวาดกลัวยิ่ง เขาสัมผัสหัวใจตัวเองที่หยุดเต้นไปนานแล้วโดยไม่รู้ตัวขณะพึมพำว่า
“โชคดีที่ข้าตายไปแล้ว ไม่รู้ว่าที่ยมโลกมีโอสถรักษาหัวใจที่ออกฤทธิ์เร็วสำหรับผีร้ายหรือไม่…”
[1] ที่พักในสไตล์ญี่ปุ่น ห้องพักจะเป็นในรูปแบบญี่ปุ่นสมัยก่อน และการตกแต่งแบบสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม