ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 244 พบจักรพรรดิภูตผี!
บทที่ 244 พบจักรพรรดิภูตผี!
บทที่ 244 พบจักรพรรดิภูตผี!
ถูกต้องแล้ว เป็นพวกเขา
เมื่อเห็นทั้งสามยืนอยู่ตรงหน้า ผู้ทรงเกียรติหลี่ก็รู้สึกกระวนกระวายใจ แม้แต่ผู้ทรงเกียรติหลานยังไม่สามารถเก็บความกังวลได้!
ชื่อของสามคนนี้สามารถออกเสียงได้อย่างชัดเจนโดยอสูรทุกตนในยมโลก
ท่านผู้ทรงเกียรติกู่ ท่านผู้ทรงเกียรติเสวี่ย ท่านผู้ทรงเกียรติอิ๋น คืออาวุโสสูงสุดในยมโลก
พวกเขาต่างจากผู้ทรงเกียรติหลี่กับผู้ทรงเกียรติหลาน เซียนทั้งสองที่ฝึกฝนมาเพียงสังสารวัฏกลับชาติมาเกิดเพียงสองครั้ง ทว่าสามคนนี้คือมนุษย์ที่อยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณ และไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะเรียกขานพวกเขาว่าอาวุโสสูงสุด
ทั้งสามคือมหาอำนาจสูงสุดที่ฝึกฝนสังสารวัฏหกวิถีแห่งการกลับชาติมาเกิดอย่างสมบูรณ์ และอยู่ห่างจากขอบเขตจักรพรรดิเซียนสวรรค์เพียงก้าวเดียว!
สำหรับผู้ทรงเกียรติหลี่และผู้ทรงเกียรติหลาน ทั้งสองราวกับว่ามีชีวิตอยู่ในอีกขอบเขตหนึ่ง
เมื่อเห็นว่าทั้งผู้ทรงเกียรติหลี่ไม่กล้าตอบโต้ ผู้ทรงเกียรติอิ๋นถึงกับเย้ยหยัน
“ให้ชายชราตัวน้อยบอกเจ้าว่าพวกเขาเป็นใคร ข้าดูเหมือนจะได้ยินเจ้าพูดว่าเขาไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะสั่งสอนเจ้างั้นหรือ?”
เขาสูดลมหายใจลึก ความรู้สึกกดดันมหาศาลและน่าสะพรึงกลัวแผ่ขยายออกจากร่างกายของทั้งสาม พลังของพวกเขาเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ พลังเซียนอมตะที่เหนือจินตนาการกำลังรบกวนโลกอสูรทั้งใบ และในความมืดมิด เสียงคำรามที่สุดจะพรรณนาก็ดังขึ้น การกลับชาติมาเกิดสังสารวัฏหกวิถีขนาดใหญ่สามครั้งพลันปรากฏอยู่เบื้องหลังของอาวุโสเก่าแก่ทั้งสาม
สังสารวัฏหกวิถีค่อย ๆ หมุนไปอย่างเชื่องช้า แสงสีของสวรรค์และมนุษย์ เลือดอสูร ความโกลาหลของมนุษยชาติ การฆ่าฟัน การสังหาร เสียงคร่ำครวญของวิญญาณ และเสียงเรียกจากปรโลกกำลังข่มเหงทุกสิ่งในยมโลกแห่งนี้
“ไร้สาระ!”
ดวงตาของผู้ทรงเกียรติอิ๋นเบิกกว้าง แรงกดดันมหาศาลทุบลงบนศีรษะของผู้ทรงเกียรติหลี่
“กล้าพูดจาหยาบคายใส่เขา เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร?!”
“อึ่ก!”
ผู้ทรงเกียรติหลี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาจึงไม่อาจต้านทานแรงกดดันนั้นได้ ฉับพลันจึงกระอั่กโลหิตออกมา และกงล้อที่หมุนเวียนอยู่ด้านหลังศีรษะของเขาก็จางหายไปก่อนจะทรุดตัวคุกเข่าลงบนพื้น
พื้นดินหลายพันลี้ถูกบดขยี้โดยการคุกเข่าของเขา มันสั่นสะเทือนและแตกออก แม้แต่อสูรที่กำลังสังหารอย่างบ้าคลั่งรอบ ๆ ยังต้องหยุดมืออย่างเชื่อฟัง อีกทั้งยังหุบปากเงียบเมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันมหาศาลนี้
“แล้วเขาเป็นใคร?”
หลังจากตั้งสติได้แล้ว ในที่สุดผู้ทรงเกียรติหลานก็เอ่ยปากถาม
ผู้ทรงเกียรติอิ๋น ผู้ทรงเกียรติกู่ และผู้ทรงเกียรติเสวี่ยเหลือบมองเขา ก่อนจะหันไปหาไป๋ชิวหรานพร้อมโค้งคำนับ
พวกเขากล่าวพร้อมกันว่า
“เคารพจักรพรรดิภูตผี!”
ด้านหลังของพวกเขาเป็นผู้ทรงเกียรติเหล่ย ราชานรก เชวียหลิง และเหล่ายมทูตทั้งหลายพันตนต่างโค้งคำนับต่อชายสวมหน้ากากอย่างพร้อมเพรียง
“เคารพจักรพรรดิภูตผี!”
ทั้งหมดยังคงกล่าวคำออกมาอย่างชัดเจน
ผู้ทรงเกียรติหลี่ ผู้ทรงเกียรติหลาน และอสูรทั้งหมดจ้องมองชายสวมหน้ากากและสตรีด้านข้างด้วยความตื่นตระหนก
“ภูตผี ภูตผี”
ราชาอสูรหยกวิเศษจับศีรษะก่อนจะกล่าวกับตนเองว่า
“ดูเหมือนว่าข้าจะมีพี่ใหญ่ที่น่าเหลือเชื่อไม่น้อย”
ทั้งผู้ทรงเกียรติหลี่และผู้ทรงเกียรติหลานเหลือบมองชายสวมหน้ากากด้วยใบหน้าตื่นตระหนก พวกเขาไม่อาจกล่าวคำอะไรออกมาได้ในเวลานี้
จักรพรรดิภูตผี ชื่อนี้เป็นสิ่งที่แม้แต่ในหมู่เซียน… ก็ไม่มีเซียนคนใดไม่รู้จัก!
เขาคือผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุด จักรพรรดิผู้ครองวัฏจักรแห่งชีวิตและความตาย เป็นผู้ปกครองยมโลก และทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนอยู่ภายใต้อำนาจของเขา
กล่าวในนาม เขาเทียบเท่ากับสถานะของจักรพรรดิเซียนผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้าที่ปกครองแดนเซียนและโลกใต้พิภพ แต่ในแง่ของอำนาจกับสถานะของเขามันกลับสูงส่งกว่าจักรพรรดิเซียนผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้าด้วยซ้ำ
เพราะหากวันหนึ่ง จักรพรรดิเซียนทั้งห้าโชคร้าย สูญเสียร่างกายอมตะอันทรงพลังและยังสูญเสียพลังเซียน และหลงเหลือเพียงวิญญาณ หากต้องการกลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้ง พวกเขาจะต้องได้รับการยินยอมจากจักรพรรดิภูตผี
หากจักรพรรดิภูตผีไม่ยอมรับ แสดงว่าวิญญาณของพวกเขาจะอยู่ได้เพียงยมโลกเท่านั้น ทั้งหมดล้วนเป็นอำนาจของจักรพรรดิภูตผี
เช่นเดียวกับเซียนตนอื่น ๆ แม้ว่าเซียนจะมีอายุขัยที่ไร้ขีดจำกัด หรือสามารถมีชีวิตอยู่ได้จนถึงวันสิ้นโลก แต่หากถูกฆ่า พวกเขาก็สามารถตายตกได้เช่นกัน เซียนอมตะมากมายที่ถูกผู้อื่นสังหาร และภายหลังจากที่เซียนเหล่านี้ตายตก วิญญาณของพวกเขาจะเข้าสู่ยมโลก มีทางเลือกสองทางคือกลายเป็นภูตผีหรือว่าไปเกิดใหม่
ในเวลานั้น ไม่ว่าพวกเขาจะสูงส่งเพียงใด แต่ในช่วงชีวิตหลังความตาย จะต้องก้มศีรษะต่อจักรพรรดิภูตผี
และเป็นเพราะความสำคัญสังสารวัฏหกวิถี ‘ไป๋ลี่’ จักรพรรดิเซียนที่สร้างแดนเซียนขึ้นมา และจัดตั้งตำแหน่งของจักรพรรดิภูตผีขึ้นเป็นพิเศษ
นับตั้งแต่การสร้างแดนเซียน ตำแหน่งจักรพรรดิภูตผีก็ได้รับการก่อตั้งขึ้นโดยจักรพรรดิเซียน แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่เคยมีผู้ใดทราบชัดว่าใครเป็นผู้ดำรงตำแหน่งนี้
ว่ากันว่าจักรพรรดิเซียนอู่ฟางเคยร่วมกันเขียนสารถึงจักรพรรดิเซียน เพื่อถามถึงตำแหน่งของจักรพรรดิภูตผี แต่จักรพรรดิเซียนตอบกลับเพียงว่า ตำแหน่งของจักรพรรดิภูตผีมีคนรับผิดชอบแล้ว…
แต่ภายในยมโลกนั้นดำรงอยู่มานานหลายแสนปีแล้ว จักรพรรดิเซียนอู่ฟางจัดการกับสังสารวัฏโดยพลการเสมอมา และพวกเขาไม่เคยเห็นจักรพรรดิภูตผีมาแก้ไขความโกลาหลสักครั้ง
เป็นผลให้เมื่อผู้ทรงเกียรติหลานกับผู้ทรงเกียรติหลี่ทรยศยมโลกและตั้งใจจะปลดปล่อยศัตรูที่ยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์เพื่อจัดการกับส่วนลึกของโลกอสูร จักรพรรดิภูตผีที่เคยได้ยินเพียงชื่อและไร้ซึ่งตัวตนปรากฏมาเนิ่นนานหลายแสนปี ทว่าวันนี้ปรากฏตัวขึ้นแล้วงั้นหรือ?
“ฮ่า ๆๆๆ…”
ผู้ทรงเกียรติหลานชี้ไปที่ชายสวมหน้ากากก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“มันสายไปแล้ว มันสายเกินไปแล้ว! เหตุใดท่านถึงไม่ปรากฏตัวก่อนหน้านี้? ท่านรอจนกว่าข้าจะปล่อยเขาออกมางั้นหรือ? หากเคยมาที่นี่เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน สถานการณ์คงไม่พัฒนามาจนถึงขั้นนี้!”
ไป๋ชิวหรานขมวดคิ้ว แต่ใบหน้าของเขาถูกปกปิดด้วยหน้ากาก ดังนั้นจึงไม่มีใครเห็นท่าทีของเขา
ชายหนุ่มเอ่ยปากถาม
“ผู้ทรงเกียรติหลาน หมายความว่าอย่างไร?”
“เทพเจ้าทั้งสามแห่งยมโลก นอกจากผู้ทรงเกียรติกู่ ผู้ทรงเกียรติอิ๋นผู้ทรงเกียรติเสวี่ยแล้ว ราชวงศ์อื่น ๆ ทั้งหมดต่างยอมรับใช้จักรพรรดิเซียนอู่ฟาง ในช่วงหลายร้อยหลายพันปีที่ผ่านมา เหล่าเซียนทั้งหมดพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้จักรพรรดิเซียนสามารถควบคุมการทำงานของสังสารวัฏหกวิถี”
ผู้ทรงเกียรติหลานเหลือบมองผู้ทรงเกียรติหลี่ที่ยืนด้านข้าง
“แม้ว่าจะรวมถึงเหตุการณ์นี้ด้วย แต่มันคือเป้าหมายของจักรพรรดิเซียนอู่ฟาง ข้ากับผู้ทรงเกียรติหลี่เป็นหมากในกระดานที่อยู่ในมือของจักรพรรดิเซียนภายในโลกของพวกเรา”
“ผู้ทรงเกียรติหลาน… เจ้า…”
ดวงตาของผู้ทรงเกียรติหลี่เบิกกว้าง ตอนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและใกล้จะตายตก เขาจึงไม่มีเรี่ยวแรงจะทำสิ่งใดอีกแล้ว
“แล้วตอนที่จักรพรรดิเซียนอู่ฟางวุ่นวายกับสังสารวัฏหกวิถี วุ่นวายกับการกลับชาติมาเกิดใหม่ และทำทุกอย่างที่เขาต้องการ ข้าอยากทราบว่าท่านไปอยู่ที่ใดงั้นหรือ ท่านจักรพรรดิภูตผี?”
ผู้ทรงเกียรติหลานกำหมัดแน่นต่อหน้าไป๋ชิวหราน เขาเริ่มหงุดหงิด
“เป็นเวลาหลายแสนปีที่ยมโลกถูกทิ้งไว้ไร้ซึ่งคนดูแล เช่นนั้นจึงถูกกองกำลังของจักรพรรดิเซียนอู่ฟางรุกราน ข้าอยากถามว่าเหตุใดท่านจักรพรรดิภูตผีถึงไม่ออกมาสร้างทวงความยุติธรรมกลับคืน?”
ข้ายังไม่เกิดไม่ใช่หรือ? จะให้ไข่ที่ยังไม่ปฏิสนธิเป็นจักรพรรดิภูตผี?
ไป๋ชิวหรานขุ่นเคืองเล็กน้อย เขาสัมผัสใบหน้าของตนเองโดยไม่รู้ตัว แต่เวลานี้สัมผัสได้เพียงหน้ากากที่เย็นเยียบและแข็งเท่านั้น
“ตั้งแต่ที่ผู้ทรงเกียรติหลานถามคำถามนี้ เช่นนั้นมันคงไม่เกี่ยวข้องกับผู้ทรงเกียรติหลี่”
ด้วยมือของเขาที่ไพล่หลังอยู่ เขากำลังเกลี้ยกล่อมให้ผู้ทรงเกียรติหลานยอมแพ้
“เช่นนั้นผู้ทรงเกียรติหลานจะถูกจับกุม หยุดการก่อกบฏนี้ซะแล้วตามข้ามา… เมื่อจักรพรรดิกลับมาแล้ว จักรพรรดิจะสามารถตอบคำถามของพวกเจ้าทีละคนได้”
“สายไปแล้ว”
ผู้ทรงเกียรติหลานกล่าวคำอย่างใจเย็น
เขามองดูเหล่าอสูรบนท้องฟ้า ก่อนจะมองไปที่จักรพรรดิภูตผี
“ข้าเกรงว่าท่านคงยังไม่ทราบ ในส่วนลึกของโลกอสูรนี้ นอกจากวิญญาณเทวะที่พ่ายแพ้แล้ว ยังมีสิ่งใดอื่นผนึกเอาไว้?”
“จักรพรรดิองค์นี้ไม่ทราบเรื่องนั้น”
ไป๋ชิวหรานส่ายศีรษะอย่างจริงจัง
“ข้าพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อค้นหาเบาะแสจากม้วนตำราที่ไม่สมบูรณ์ในแดนเซียน”
ผู้ทรงเกียรติหลานหัวเราะออกมาด้วยความสมเพช
“ภายใต้พื้นดินของโลกอสูรนี้ ครั้งหนึ่งเคยฝังทั้งร่างของเทพเจ้าอสูรโบราณ ครั้งหนึ่งเคยต่อสู้กับจักรพรรดิแห่งสวรรค์ และวิญญาณของเขากำลังหลับใหลอยู่ในร่างนั้น… ตอนนี้เขากำลังจะตื่นขึ้นมาแล้ว”
เมื่อกล่าวจบ โลกอสูรทั้งหมดพลันเปลี่ยนสีอีกครั้ง