ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 277 ขอบเขตบดสลาย!
บทที่ 277 ขอบเขตบดสลาย!
บทที่ 277 ขอบเขตบดสลาย!
เมื่อโดนไป๋ชิวหรานดุด่า จักรพรรดิตะวันออกไท่อีก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย เขากล่าวเสียงทุ้มอย่างอารมณ์เสีย
“วิธีคิดของไป๋อ้ายชิงนั้นแตกต่างจากคนทั่วไป อีกทั้งความแข็งแกร่งในปัจจุบันยังไม่มีปัญหาหากจะทำลายสวรรค์ เหตุใดถึงคิดหมกมุ่นเรื่องเล็กน้อยเช่นขั้นรากฐานด้วย? เจ้าสามารถฝึกฝนทางอื่นได้มากมาย ซึ่งสิ่งนั้นก็สมบูรณ์ แข็งแกร่งกว่าวิถีเซียน!”
“มารดาท่านเถิด!”
ไป๋ชิวหรานยังคงดุด่า
“ท่านยังไม่เข้าใจขั้นสร้างรากฐานแม้แต่น้อย!”
“เอาล่ะ ข้าคร้านจะกล่าวคำกับคนบ้าเช่นเจ้า!”
จักรพรรดิตะวันออกไท่อีกล่าวอย่างรำคาญ
“พลังวิญญาณที่แท้จริงในร่างกายนี้ของข้ามีมากกว่าเจ้าในยามนั้นถึงสิบเท่า หลังจากสังหารเจ้าแล้ว ข้าจะไปสังหารจักรพรรดิเซียนอู่ฟาง และค่อยยึดครองศพของจักรพรรดิเซียนไป๋ลี่ จากนั้นก็จะยึดครองโลกทั้งหมดอีกครา!”
“ฝ่าบาท ข้าได้ยินสิ่งที่ท่านกล่าวเมื่อครู่นี้แล้ว เช่นนั้นจึงคิดว่า… วันนี้เราควรจะจัดการเรื่องนี้ให้จบสิ้นเสียที”
ไป๋ชิวหรานส่ายศีรษะ พร้อมเผยรอยยิ้มมั่นใจ
“แต่ยามนี้ข้าสบายใจแล้ว แม้ว่าพลังวิญญาณที่แท้จริงของท่านจะมากกว่าสิบเท่า ทว่าวันนี้ข้าจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน”
“เจ้าไปเอาความมั่นใจเหล่านี้มาจากที่ใด?”
จักรพรรดิตะวันออกไท่อีกล่าวเย้ยหยัน
“มันคือขอบเขตแห่งการบดสลาย ตัวข้าที่ห้อยโหนอยู่ขั้นรากฐานเสมือน ขณะที่ตัวเจ้าอยู่ขั้นกลั่นลมปราณกระมัง?”
ไป๋ชิวหรานรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้นมากโขในเวลานี้
กว่าสามพันปีที่ผ่านมา ในที่สุดเขาก็สามารถกล่าวประโยคนี้ได้อย่างมั่นใจ
นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย…
“ขั้นรากฐานเสมือนคืออะไร?”
จักรพรรดิตะวันออกไท่อีตะโกนเสียงดัง
“ข้ารู้เพียงแค่ว่าพลังวิญญาณที่แท้จริงในร่างกายของเจ้ามีเพียงหนึ่งในสิบของข้าเท่านั้น หากสามารถบดขยี้ข้าได้จริง ๆ ก็ลองดู!”
ด้วยร่างกายที่ใหญ่โต ทั้งยังมีมือมากกว่าหนึ่งโหล ผนึกมากมายอยู่ในมือเหล่านั้น คลื่นพลังวิญญาณที่แท้จริงในร่างกายก็ปะทุออก ส่งให้ท้องฟ้าทั้งหมดแปรเปลี่ยนเป็นท้องฟ้าที่งดงามในทันใด!
บนฟากฟ้าปรากฏดวงตะวัน จันทราห้อยโหน ดวงดาวทอประกาย มีวิหารสูงส่งปรากฏขึ้น จักรพรรดิตะวันออกไท่อียืนอยู่ท่ามกลางความสวยงาม เขาเงยหน้าขึ้นฟ้าก่อนจะร้องคำรามออกมา จากนั้นใช้ทุกสิ่งในมือพุ่งโจมตีไป๋ชิวหราน
“อืม ข้าล้วนแต่กล่าวความจริงเสมอ แต่ฝ่าบาทกลับไม่คิดเชื่อถือข้า”
ชายหนุ่มส่ายศีรษะพร้อมเหยียดมือออกแล้วตะโกน
“กระบี่ศักดิ์สิทธิ์”
สิ้นเสียง วารีสารทกระจ่างฟ้าก็กลายเป็นลำแสงสีฟ้าแห่งคลื่นสมุทรปรากฏขึ้นในมือ
ไป๋ชิวหรานตั้งรับ เขาตั้งสมาธิพร้อมกลั้นหายใจ นี่คือครั้งแรกในรอบสองพันปีที่ได้เคลื่อนไหวด้วยกระบี่นี้อย่างแท้จริง
“ฝ่าบาท ความจริงแล้วข้ามีวิถีกระบี่ของตนเอง”
เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะเผยรอยยิ้มสบาย ๆ
“ข้าไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาลับนี้กว่าสองพันปีแล้ว จึงค่อนข้างคิดถึงไม่น้อย”
เขายกกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้น วารีสารทกระจ่างฟ้าในมือของไป๋ชิวหรานส่องแสงประกายเจิดจ้า มันคือวิถีลึกลับไร้ผู้ใดเทียบ นี่คือวิถีกระบี่ที่เขาสร้างขึ้นเอง อย่างที่กล่าว เขาไม่ได้ใช้มันมากว่าสองพันปีแล้ว…
เคล็ดลับที่สร้างวิชากระบี่ด้วยตนเอง ขุนเขาขจี หิมะโรยราฟ้าเบิกแสง กระแสกระบี่ร่วงหล่นจากฟากฟ้าเบื้องบน
ไป๋ชิวหรานอัดพลังเข้าไป พลังในกระบี่ตัดผ่านความว่างเปล่าดุจดั่งกระแสน้ำบริสุทธิ์ ยิ่งมันพุ่งออกไปไกลเท่าใด พลังจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น นี่คือพลังที่ไร้เทียมทาน และทุกคลื่นพลังล้วนแต่เป็นทักษะที่ลึกลับยิ่ง!
ดั่งธาราสวรรค์หลั่งไหลตกจากฟากฟ้า ทั้งหมดพุ่งทะยานเข้าหาจักรพรรดิตะวันออกไท่อี
พลังของทั้งสองปะทะกัน ธาราสวรรค์ปั่นป่วนสูงกว่าหลายสิบลี้ จากนั้นคลื่นพลังได้แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงของกระบี่พุ่งทะยานทุบดวงดาวบนท้องฟ้า จากนั้นจึงบดขยี้ดวงตะวัน และจันทรา แม้แต่วิหารสูงตระหง่านยังถูกบดขยี้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“บัดซบ”
จักรพรรดิตะวันออกไท่อีอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา
“เป็นไปไม่ได้!”
ทว่าก่อนที่จะกล่าวจบ ธาราสวรรค์ตัดผ่านท้องฟ้าที่แหลกสลายทั้งหมด และพุ่งเข้าโจมตีจักรพรรดิตะวันออกไท่อีอย่างรุนแรง
ธาราสวรรค์ทุบร่างกายของเทพเจ้ายักษ์อย่างไร้ปรานี และจักรพรรดิตะวันออกไท่อีที่มีร่างกายของสวรรค์ริษยาที่มากล้นได้ถูกแช่แข็งไว้ในลมหายใจเดียว!
“เมื่อนานมาแล้ว ข้าเคยคิดอยากจะฆ่าตัวตาย แต่ไม่ทราบว่าจะฆ่าอย่างไร… ฝ่าบาท เกรงว่าในโลกนี้จะไม่มีใครจัดการกับสวรรค์ริษยาได้ดีกว่าข้าแล้ว”
ไป๋ชิวหรานเก็บกระบี่ก่อนจะเอามือไพล่หลัง เขากล่าวคำเบากับอีกฝ่าย
“แม้จะมีความทะเยอทะยาน แต่หากท่านต้องการควบคุมร่างกายที่ทรงพลังเช่นนี้ แม้แต่จักรพรรดิตะวันออกไท่อียังต้องใช้จิตวิญญาณที่สมบูรณ์เพื่อควบคุมมัน ฝ่าบาท… หลังจากนี้ท่านคงไม่คิดถึงการคืนชีพแล้วใช่หรือไม่?”
จักรพรรดิตะวันออกไท่อีมองเขาและพยายามเปิดปากกล่าว
แต่กลับไม่สามารถเปล่งเสียงได้ ปราณกระบี่ธาราสวรรค์ที่เข้าสู่ร่างกายของเขา ทำให้ทุกสิ่งถูกทำลายหมดสิ้น!
แสงสีขาวพุ่งออกจากทวารทั้งเจ็ด ร่างกายพองโตขึ้นคล้ายดวงอาทิตย์ยักษ์ ก่อนที่จะ…
ตู้ม!
การระเบิดครานี้ยิ่งใหญ่กว่าที่จินตนาการไว้ ปราณกระบี่สีขาวไร้เทียมทานระเบิดร่างกายของเขาอย่างรุนแรง พลังมหาศาลฉีกความปั่นป่วนในห้วงมิติจนเกิดความร้อน เช่นนี้ร่างกายของจักรพรรดิตะวันออกไท่อีจึงถูกแผดเผา
ร่างกายที่ถูกเลียนแบบมาจากไป๋ชิวหรานพลันระเบิดออกในเวลานี้
ความปั่นป่วนของพลังที่น่าสะพรึงก่อตัวเป็นพายุกระโชกในความว่างเปล่า ในบริเวณที่เกิดการระเบิด ความว่างเปล่าจะถูกขจัดขับไล่ออก พื้นที่ขนาดใหญ่เล็กนับไม่ถ้วนถูกทำลายหมดสิ้น และยังมีอีกหลายพื้นที่ที่สั่นสะเทือนจากแรงระเบิดในความว่างเปล่า
สิ่งเหล่านี้จะพัฒนาไปสู่โลกใบใหม่ และบางทีในโลกใบนั้นอาจจะมีแดนเซียน ทวยเทพองค์ใหม่… หรือเผ่าพันธุ์มนุษย์ใหม่ที่จะถือกำเนิดขึ้น
ไป๋ชิวหรานยืนมองกระแสพลังที่ปั่นป่วนในความว่างเปล่า เขาเก็บวารีสารทกระจ่างฟ้าก่อนจะส่ายศีรษะเบา ๆ
“เจ้าโง่ ข้าคือบรรพชนกระบี่!”
เขาหันหลังกลับพร้อมตรงเข้าสู่ตำแหน่งของเก้ามหาทวีปสิบแผ่นดิน และจื้อเซียนที่ห้อยอยู่ตรงเอวถึงกับถอนหายใจออกมา
“น่าเสียดาย ข้าไม่รู้ว่าร่างกายที่เขาได้รับมาจากที่ใด หากทิ้งศพเอาไว้สักหน่อย บางทีข้าอาจใช้ภูมิปัญญาอันยิ่งใหญ่เพื่อตรวจสอบได้”
“เก็บไว้ไม่ได้”
ไป๋ชิวหรานส่ายศีรษะ
“การได้เผชิญหน้ากับศัตรูเช่นนี้ หากข้าคิดออมมือ มันจะกลายเป็นหายนะ…”
จื้อเซียนไม่คิดโต้แย้ง ด้วยเข้าใจดีว่าไท่อีคือศัตรูตัวฉกาจที่คู่ควรกับการถูกทำลาย
“ข้าก็แค่สงสาร…”
เขาอดไม่ได้ที่จะพึมพำ
“ในโลกนี้ ไท่อีไม่ใช่คนเดียวที่ครอบครองความลับเช่นนี้”
ไป๋ชิวหรานส่ายศีรษะ
“อย่างเช่น ข้าอยากรู้ว่าสิ่งที่ชายผู้นั้นพูดเกี่ยวกับ ‘ศพจักรพรรดิเซียน’ ดูเหมือนว่าศิษย์ที่ไม่คู่ควรของข้าจะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไม่น้อย”
“ข้าก็ใคร่ทราบเรื่องนั้น”
จื้อเซียนเริ่มฟุ้งซ่านในทันที
“นี่ เจ้าไม่ลองถามเซียนอาวุโสกับกองทัพจักรพรรดิเซียนสามพันนายจากแดนเซียนดูหน่อยล่ะ? บางทีพวกเขาอาจทราบอะไรบางอย่าง”
“นั่นคือสิ่งที่ข้าจะทำต่อไป”
ไป๋ชิวหรานพยักหน้า
หลังจากเหาะเหินกลางอากาศมาได้ครู่ใหญ่ ชายหนุ่มก็กลับสู่โลกใบเดิม ไป๋ชิวหรานฉีกห้วงมิติออกพร้อมก้าวข้ามช่องว่างในอวกาศกลับสู่สถานที่ที่เขากับไท่อีต่อสู้กันครั้งสุดท้าย
หุบเหวหลายพันลี้ยังคงปรากฏ นี่คือบาดแผลที่ไม่อาจลบออกจากผืนป่ากว้างใหญ่
ไป๋ชิวหรานมองไปยังทิศทางของหุบเขาฮวายเจียง และยกมือขึ้นพร้อมปลดปล่อยสายฟ้าสีชาด!
สายฟ้าพุ่งทะยานเข้าสู่ก้อนเมฆ กลายเป็นดวงอาทิตย์ร้อนแรงร่วงหล่นลงสู่พสุธา มันกลืนกินซากปรักหักพังของหุบเขาฮวายเจียงทั้งหมด และทำลายถังรองบ่มเพาะเผ่ามารที่หลงเหลือจนหมดสิ้น
หลังจากทุกสิ่งเสร็จสิ้นแล้ว เขาปัดมือไปมา ก่อนจะพาเซียนอาวุโสหยางและกองทัพจักรพรรดิเซียนสามพันคนออกมาเพื่อสอบถาม ทว่าเวลาเดียวกันกลับได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้นจากด้านข้าง
“บรรพชนกระบี่?”
ไป๋ชิวหรานหันตามเสียงเรียก และพบชายร่างสูงถือปืนขนาดใหญ่ ชุดเกราะสีดำขลับยืนอยู่ไม่ไกลนัก ดูจากชุดเกราะแล้ว เขาคงจะผ่านการต่อสู้ที่หนักหนาสาหัสไม่น้อย
เขาคือจ้าวเทียนจ้ง ผู้บัญชาการกองทัพเทพยุทธ์…