ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 280 ขึ้นสู่สวรรค์
บทที่ 280 ขึ้นสู่สวรรค์
บทที่ 280 ขึ้นสู่สวรรค์
เซียนอาวุโสหยางก้าวเข้าใกล้ไป๋ชิวหรานก่อนจะถอนหายใจเบา
“ฝ่าบาท จักรพรรดิตะวันออกชิง คือจักรพรรดิที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาจักรพรรดิเซียนทั้งห้า แต่เขากลับเป็นผู้ที่มีความทะเยอทะยานมากที่สุด”
กล่าวจบ เขาเหลือบมองไป๋ชิวหรานด้วยสายตาลังเล
“ความจริงแล้ว โลกนี้คือโลกที่จักรพรรดิชิงและเซียนทั้งสิบสามคนของเราจากแดนเซียนตะวันออกอยู่ที่นี่ ก่อนจะขึ้นสู่สวรรค์”
“หืม?”
หลังจากได้ยินถ้อยคำของเซียนอาวุโสหยาง ไป๋ชิวหรานนึกถึงราชวงศ์ที่จื้อเซียนกล่าวถึง
“เจ้าหมายถึง…”
“ก่อนที่จักรพรรดิชิงจะเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ พระองค์คือผู้นำสูงสุดแห่งจักรพรรดิราชวงศ์”
เซียนอาวุโสหยางกล่าวตอบ
“และราชวงศ์ที่เขาเคยปกครองในคราวนั้นถูกเรียกขานว่าราชวงศ์ชิงตะวันออก”
“เป็นเจ้านั่นเอง!”
ในเวลานี้ จื้อเซียนที่ห้อยอยู่ตรงเอวของไป๋ชิวหรานตะโกนออกมา
“ราชวงศ์ชิงตะวันออกถูกทำลายในชั่วข้ามคืน!”
“เอ่อ… เขาคือผู้ใด?”
เมื่อเห็นสิ่งแปลกประหลาดเช่นจื้อเซียน เซียนอาวุโสหยางจึงอดไม่ได้ที่จะหันมองโดยรอบ
“เป็นสหายข้า อย่าได้ขุ่นเคือง”
ไป๋ชิวหรานโบกมือ
“เจ้าเล่าต่อเถิด”
เซียนอาวุโสหยางมองไป๋ชิวหรานก่อนจะเหลือบมองจื้อเซียน จากนั้นจึงกล่าวต่อ
“เช่นนี้… จึงกล่าวว่า องค์เหนือหัวจักรพรรดิชิง เป็นจักรพรรดินักสู้ศักดิ์สิทธิ์คนสุดท้ายของราชวงศ์ชิงตะวันออก อย่างไรก็ตามราชวงศ์ชิงตะวันออกไม่ได้ถูกทำลายในชั่วข้ามคืน แต่เป็นเสด็จกลับสู่สวรรค์ในชั่วข้ามคืน”
“เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ในชั่วข้ามคืน?”
จื้อเซียนเหาะเหินออกจากเข็มขัดของไป๋ชิวหราน พร้อมกับจ้องมองเขาด้วยแววตาดุดัน
“ใช่ ขึ้นสู่สวรรค์ชั่วข้ามคืน”
เซียนอาวุโสหยางกล่าวตอบ
“เป็นการขึ้นสู่สวรรค์โดยพร้อมเพรียงกัน ซึ่งในเวลานั้นถูกเรียกว่าการเลือกตั้งศักดิ์สิทธิ์ ในเวลานั้นทั่วทั้งราชวงศ์ชิงตะวันออก ข้าราชการ กองกำลังทหาร ตระกูลขุนนาง และเหล่าผู้ภักดีต่อราชวงศ์จักรพรรดิชิงที่แข็งแกร่งเหนือแคว้นโฮ่วถูทั้งหมดติดตามเขาขึ้นสู่สวรรค์ เป้าหมายคือแดนเซียน”
ไป๋ชิวหรานตระหนักได้ถึงบางอย่าง ก่อนจะเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน
“หนึ่งคนบรรลุเต๋า ทั้งแดนดินเคลื่อนสู่สวรรค์ด้วยเพียงมือข้างเดียว”
การเข้าสู่สวรรค์ของผู้อื่นเริ่มต้นจากศูนย์ แต่จักรพรรดิตะวันออกชิงกลับดีกว่าผู้อื่น ในมือของเขาเต็มไปด้วยราชวงศ์มากมาย และสิ่งนี้ทำให้เหล่าเซียนคนอื่นไม่สามารถต่อต้านได้
“ดูเหมือนท่านจะทราบแล้ว… ถูกต้อง ฝ่าบาทนำราชวงศ์ชิงตะวันออกทั้งหมดขึ้นสู่สวรรค์ เพื่อเข้าสู่แดนเซียนและต่อสู้ยึดอำนาจจากจักรพรรดิเซียน”
เซียนอาวุโสหยางกล่าวต่อ
“ในเวลานั้นฝ่าบาทของข้าไม่ทราบว่าจะหาผู้ฝึกตนเหนือแคว้นโฮ่วตูไปที่แดนเซียนจากที่ใด… เป็นเวลานานกว่าที่จะเข้าสู่แดนเซียน เขาอยู่ในขั้นของจักรพรรดิเซียนนานแล้ว และเมื่อเราขึ้นไปมันก็ใกล้เคียงกับการสิ้นพระชนม์ของบรรพบุรุษจักรพรรดิชิงที่บาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้ ตอนนั้นแดนเซียนตะวันออกจึงไร้ซึ่งผู้นำ… หลังจากที่ไตร่ตรองดูแล้ว ตั้งแต่ฝ่าบาทเสด็จเข้าสู่ถิ่นทุรกันดาร และเมื่อเสด็จกลับมา ขั้นการฝึกฝนก็สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด อาจจะเป็นตอนนั้นที่เขาได้พบเจอกับจักรพรรดิตะวันออกไท่อี และได้รับการสั่งสอนจากคนผู้นั้น”
“หมายความว่าเจ้าละทิ้งคนของตนเองงั้นหรือ?”
ในฐานะของผู้ที่ถูกราชวงศ์เซียนทอดทิ้ง จื้อเซียนอดไม่ได้ที่จะกล่าวถาม
“ข้าไม่ปฏิเสธ และก็ทราบถึงความผิดนี้ แต่ในขณะนั้นจักรพรรดิชิงตะวันออกคือบุคคลที่ข้าต้องจงรักภักดี และเป็นหน้าที่ทหารเช่นข้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเขา”
เซียนอาวุโสหยางกล่าวยอมรับอย่างตรงไปตรงมา
“จักรพรรดิชิงตะวันออกไม่สนใจและละทิ้งอาณาจักรกับประชาชนของเขา เพราะการที่ละทิ้งราชวงศ์ชิงตะวันออกนี้ เขาจะสามารถก้าวเข้าสู่ราชวงศ์เซียนสูงสุดในแดนเซียน และครองโลกทั้งหมด ความจริงแล้วในราชวงศ์เซียนดั้งเดิม โลกนี้ถูกเรียกว่าดินแดนรกร้างเสมอมา”
“หลังจากจักรพรรดิชิงตะวันออกขึ้นสู่บัลลังก์ เผ่ามารบุกโจมตีและกลืนกินดินแดนส่วนใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ข้าเกรงว่าจะเป็นจักรพรรดิชิงตะวันออก และจักรพรรดิตะวันออกไท่อีสมรู้ร่วมคิดกัน?”
ไป๋ชิวหรานเผยใบหน้าบูดบึ้ง
เซียนอาวุโสหยางมองเขาอย่างระมัดระวังก่อนจะกล่าวเสียงแผ่วเบา
“เท่าที่ข้าทราบเกี่ยวกับฝ่าบาท… เก้าในสิบพวกเขาควรจะเป็นเช่นนั้น”
“ไร้เหตุผล…”
ไป๋ชิวหรานพึมพำพร้อมกับเอามือไพล่หลัง เขาเดินวนไปสองสามก้าวก่อนจะหันกลับมาถามอีกครั้ง
“แล้วเจ้ารู้เรื่องของจักรพรรดิเซียนไป๋ลี่มากเพียงใด?”
“ไม่ค่อยมีผู้ใดทราบนัก”
เซียนอาวุโสหยางกล่าวตอบ
“จักรพรรดิเซียนองค์แรกเป็นผู้ปกครองที่ลึกลับยิ่ง เราทราบเพียงว่าเขาอยู่ในแดนเซียนกลางด้านหลังประตูที่ปิดสนิทในสวรรค์สูงสุด แม้ว่าจะอยู่ในนามผู้นำจักรพรรดิเซียนทั้งห้า ทว่าในความเป็นจริง จักรพรรดิเซียนทั้งห้ายังคงเชื่อฟังคำสั่งของจักรพรรดิเซียนของตน”
“นับหมื่นปีแล้ว เจ้าไม่เคยเห็นเขาสักครั้งเลยหรือ?”
เซียนอาวุโสหยางครุ่นคิด
“นับการมองเห็นของชายชราในคันฉ่องถ่ายทอดหรือไม่?”
“แน่นอนว่าไม่”
“เช่นนั้นข้าก็ไม่เคยพบเขา”
เซียนอาวุโสหยางกล่าวตอบ
“แดนเซียนกลางถูกปิดกั้นจากโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ แม้แต่เซียนอย่างพวกเรายังไม่อาจล่วงล้ำ และแดนเซียนกลางก็ไม่สามารถเข้าได้ด้วยการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์โดยตรงในทุก ๆ ร้อยปี แดนเซียนกลางจะส่งผู้ตรวจการออกไปสำรวจรอบโลก หากต้องการเข้าร่วมในแดนเซียนกลาง เช่นนั้นจึงต้องผ่านการทดสอบของผู้ตรวจการ”
“ลึกลับนัก มันคงจะซุกซ่อนสิ่งใดไว้แน่”
ไป๋ชิวหรานขมวดคิ้วยุ่ง
บางสิ่งที่จักรพรรดิตะวันออกไท่อีกล่าวอาจจะเป็นความจริง ยามนี้ศิษย์ที่ไม่คู่ควรของเขาคงจะตายตกไปแล้ว
“ข้าทราบเพียงเท่านี้ จึงไม่อาจช่วยเหลือท่านได้ ต้องกล่าวขออภัย”
เซียนอาวุโสหยางโค้งศีรษะให้ไป๋ชิวหราน
“ไม่ นั่นช่วยข้าได้มาก”
ไป๋ชิวหรานหยุดชั่วคราวก่อนจะกล่าวว่า
“มีอีกวิธีหนึ่ง เซียนอาวุโสหยาง ข้าไม่สามารถปล่อยให้เจ้าวิ่งไปมาในเวลานี้ได้ โปรดเข้าใจ”
“ข้าเข้าใจ”
เซียนอาวุโสหยางกล่าวพร้อมกับทรุดกายลง
“ต่อให้ข้าต้องกลับไปที่แดนเซียนในเวลานี้ ข้าก็ไม่สามารถกลับไปได้เช่นกัน”
“เจ้ามีภรรยาและบุตรหรือไม่?”
ไป๋ชิวหรานกล่าวถาม
“ภรรยาของข้าตายตกในสมัยราชวงศ์เซียน และบุตรชายของข้าได้รับเลือกเข้าสู่แดนเซียนกลางเมื่อหลายพันปีก่อน…”
“ไม่แปลกใจว่าเหตุใดจักรพรรดิเซียนชิงถึงต้องการให้เจ้าตาย”
ไป๋ชิวหรานพยักหน้าพร้อมกล่าวต่อ
“คนชอบธรรมเช่นเจ้าไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถใช้ต่อรองเพื่อควบคุมได้ จากความคิดของจักรพรรดิเซียนตะวันออกชิง ในวันหนึ่ง เจ้าคงจะหันหลังให้กับเขาแน่”
เซียนอาวุโสหยางเงียบ
“รอสักครู่ ข้าจะเตรียมสถานที่ให้ และเจ้าจะอยู่ที่นั่นสักระยะหนึ่ง”
หลังจากไป๋ชิวหรานกล่าวจบ เขาก็หลับตาลง สัมผัสเทวะมุ่งเข้าสู่ยมโลก เขาเข้าควบคุมจักรพรรดิภูตผีที่อยู่ในยมโลกด้วยตนเอง
หลังจากเข้าสู่ร่างของจักรพรรดิภูตผี เขาก็ลุกขึ้นจากบัลลังก์และออกคำสั่ง
“เรียกผู้ทรงเกียรติอิ๋นและผู้ทรงเกียรติหลิงมาพบจักรพรรดิองค์นี้!”
…
หลังจากที่ใช้จักรพรรดิภูตผีออกคำสั่ง ไป๋ชิวหรานก็พาเซียนอาวุโสหยางกลับไปหาจ้าวเทียนจ้ง ในเวลานี้ผู้บัญชาการของกองทัพเทพยุทธ์เพิ่งช่วยเหลือชีวิตผู้ฝึกตนและเหล่าเซียนทั้งหมดเสร็จสิ้น
เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินออกมาพร้อมกับชายร่างสูงที่ไม่คุ้นเคย ผู้บัญชาการในชุดเกราะดำกล่าวถามด้วยความสงสัย
“บรรพชนกระบี่ นั่นคือผู้ใดหรือ?”
เขาไม่รู้จักเซียนอาวุโสหยาง แต่เหล่าเซียนจำนวนมากที่ถูกจับกุมในเหตุการณ์นี้จดจำเขาได้ชัดเจน และเมื่อเห็นว่าเซียนอาวุโสหยางเดินตรงมา ความสยดสยองเผยผ่านใบหน้าของทุกคน
“เป็นท่าน เซียนอาวุโสหยาง!”
เมื่อเห็นสีหน้าของเหล่าเซียนทั้งหมด เซียนอาวุโสหยางเผยรอยยิ้มก่อนจะกล่าวอย่างขมขื่น
“ไม่ต้องกังวล ทุกท่าน หยางผู้นี้ก็เหมือนกับพวกท่านทุกคน นี่คือผู้ลี้ภัยที่ไม่อาจปกป้องตนเองได้”
เมื่อเหล่าเซียนทั้งหมดได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็เผยความสงสัยผ่านแววตา
“บรรพชนกระบี่ เซียนผู้นี้คือใครหรือ? ดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแกร่งไม่น้อย”
จ้าวเทียนจ้งถามอีกครา
ไป๋ชิวหรานเหลือบมองเซียนอาวุโสหยาง
“ข้าก็ไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดเช่นกัน”