ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 302 สระรากฐาน
บทที่ 302 สระรากฐาน
บทที่ 302 สระรากฐาน
แดนเซียนกลางดูเหมือนจะมีพื้นที่น้อยลงเรื่อย ๆ เมื่อขึ้นสู่ด้านบน จักรพรรดิชั้นต่ำที่สุดเช่นหวงเฉิงเทียนก็ยังสำเร็จแดนดินทะเลที่สมบูรณ์ เกาะสวรรค์กระจ่างลอยอยู่เหนือเมฆ หลังเข้าสู่เขตอวี่ชิงแล้ว นอกจากหอคอยจักรพรรดิที่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้า ยังมีเมืองใหญ่โดยรอบที่ถูกปรับแต่งไว้ด้วยอาวุธสงคราม
เซียนหงเฉินพาไป๋ชิวหรานและพรรคพวกเข้ามาที่จัตุรัสใหญ่หน้าพระราชวัง ที่นั่นมีใครบางคนกำลังยืนรออยู่
เป็นชายวัยกลางคน แม้จะดูธรรมดาทว่าเต็มไปด้วยความสง่างาม เขาสวมเสื้อคลุมสีดำหรูหรา ปักด้วยลวดลายมังกรสีทองอร่าม
คนผู้นี้ไม่ได้มีลมหายใจแข็งแกร่งนัก เขาพาคนรับใช้มาด้วยกว่าหนึ่งโหลและยืนรออยู่ที่จัตุรัส หลังจากที่เห็นไป๋ชิวหราน และคนอื่น ๆ ที่กำลังเข้ามาใกล้
ขณะที่เขากำลังจะกล่าว ทว่าป๋ชิวหรานกลับพูดขึ้นก่อนว่า
“ข้าคุ้นเคยกับพลังเทวะบนร่างกายของท่านยิ่ง ท่านเสี่ยวหวงที่มายังยมโลกเพื่อทดสอบจักรพรรดิภูตผีหรือไม่”
“เสี่ยวหวงไม่กล้า คราวที่แล้วนั้นเป็นบรรชนอาจารย์ถังตู”
ชายวัยกลางคนเผยรอยยิ้มขมขื่น
“ศิษย์เล่อเจิ้นเทียนเคารพท่านอาจารย์”
“เอาล่ะ ไม่ต้องสุภาพนัก”
ไป๋ชิวหรานโบกมือพร้อมกล่าวว่า
“ไปกันเถิด ข้าเบื่อเต็มที”
เล่อเจิ้นเทียนประสานหมัดตอบรับ ก่อนจะเหลือบมองบุคคลที่อยู่ด้านหลังของไป๋ชิวหรานแล้วกล่าวว่า
“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่สวรรค์กระจ่างเขตอวี่ชิง”
ถังรั่วเวยและหลีจิ่นเหยาโค้งคำนับอย่างใจเย็น ในขณะที่ชิงหมิงจื่อกับหลิวซือก้าวถอยหลังและกล่าวคำ
“มิกล้า มิกล้าแล้ว ข้าคือชิงหมิงจื่อ และนี่คือหลิวซือ เคารพต่อจักรพรรดิเซียนกลาง”
“ข้าไม่อาจรับไว้ได้”
เล่อเจิ้นเทียนเหลือบมองเซียนหงเฉิน พร้อมกล่าวกับชิงหมิงจื่อและหลิวซือ
“ไม่เป็นไรหากเราจะพูดคุยกัน… แต่ได้โปรดอย่าโค้งคำนับต่อข้า ข้าไม่กล้าที่จะยอมรับ”
เขาก้าวไปด้านหน้าไป๋ชิวหรานก่อนจะกล่าวอย่างนอบน้อม
“ข้าจัดเตรียมที่พักของท่าน และทุกคนไว้เรียบร้อยแล้ว เราไปที่ห้องโถงมหาสงบของอวี่ชิงกันเถิด โปรดติดตามข้ามา”
ไป๋ชิวหรานติดตามเขาไป ก่อนจะกล่าวเข้าประเด็นถึงสิ่งที่ต้องการ
“ข้าต้องการไปที่หอคอยจักรพรรดิเพื่อพบอาจารย์ของเจ้า”
“ท่านอาจารย์ ท่านคงไม่ทราบว่าหอคอยจักรพรรดิต้าหลัวเทียนมีอาคมป้องกัน แม้แต่ข้ายังไม่อาจเข้าไปได้ตามใจชอบ ข้าสามารถเข้าไปได้ในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น”
จักรพรรดิเซียนกลางเล่อเจิ้นเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้มแห้ง
“แล้วข้าจะได้เข้าไปเมื่อใด?”
ไป๋ชิวหรานกล่าวถาม
“ครั้งต่อไปที่หอคอยจักรพรรดิจะเปิดออก และเป็นเวลาอีกสองสามเดือนต่อจากนี้”
เล่อเจิ้นเทียนกล่าวตอบ เวลาสองถึงสามเดือนสำหรับผู้ฝึกตนและเหล่าเซียนเป็นเพียงชั่วอึดใจ และแม้แต่สำหรับมนุษย์ เวลาเท่านี้ก็ไม่ใช่ว่ายาวนานนัก
“เอาล่ะ อย่างเช่นนั้น”
ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“เกิดอะไรขึ้นกับอาจารย์ของเจ้า? ข้าได้ยินข่าวคราวว่าเขาสิ้นใจแล้ว”
“นั่น… จะถือว่าท่านอาจารย์ตายตกไปแล้วได้หรือไม่”
เล่อเจิ้นเทียนกล่าวตอบด้วยใบหน้าซับซ้อน
“มันยากที่จะตอบได้ ท่านคงจะทราบเรื่องของท่านอาจารย์เมื่อเข้าสู่หอคอยจักรพรรดิ”
“ในช่วงเวลานี้ ข้าขออภัยที่ให้ท่านอาศัยอยู่ในโถงมหาสงบชั่วคราว หากมีคนรู้จักที่อยู่ในสวรรค์ทั้งสามสิบหกขั้น ท่านสามารถไปเยี่ยมเยียนพวกเขาได้”
เล่อเจิ้นเทียนพาไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ ไปที่โถงมหาสงบ มันสะอาดสะอ้านและสง่างาม ในเวลาต่อมาเขากล่าวว่า
“ศิษย์น้องโม่เฉินอยู่ที่นี่ ท่านสามารถขอให้เขานำทางไปยังสถานที่ที่ต้องการได้ ศิษย์กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเวลานี้ จึงไม่อาจรับใช้ได้ โปรดยกโทษให้ข้า”
“แต่ข้าสามารถมาเยี่ยมเยียนท่านในทุก ๆ วัน”
ไป๋ชิวหรานโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ
“ไปได้แล้ว”
หลังจากที่เล่อเจิ้นเทียนออกไป ไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ ต่างเลือกห้องของตนเอง จากนั้นไป๋ชิวหรานหวนนึกถึงสิ่งที่เจียงหลานร้องขอได้ ดังนั้นจึงหันไปกล่าวกับเซียนหงเฉินว่า
“เทพซีเหอและอีกาสามขา ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสวรรค์ชั้นใด?”
“อยู่ในนี้”
เซียนหงเฉินกล่าวตอบ
“อีกาสามขาอยู่ในสวรรค์กระจ่างข้ามเมฆาที่ภายในของเขตยามดารา ส่วนเทพซีเหออาศัยอยู่อย่างสันโดษในสวรรค์จงเทียน”
“เช่นนั้นเราไปกันเถิด”
ไป๋ชิวหรานเดินมาที่ห้องโถงก่อนจะกล่าวถามคนอื่น ๆ ว่า
“ข้าจะไปเยี่ยมเยียนสหายเก่า พวกเจ้าต้องการไปด้วยหรือไม่?”
“ข้ากับซือเอ๋อ… พวกเราไม่ไป เจ้าสามารถไปได้”
ชิงหมิงจื่อกับหลัวซือจับมือกันแน่นก่อนจะกล่าวตอบ
“ข้อมูลมากมายที่พวกเราได้ทราบในวันนี้ ต้องใช้เวลาอย่างมากในการทำความเข้าใจ”
“ท่านบรรพชนกระบี่”
หลีจิ่นเหยาที่ยืนอยู่ด้านข้างกล่าวขึ้น
“สหายเก่าของท่านเป็นบุรุษหรือสตรี?”
“สตรี”
“งดงามหรือไม่?”
“แล้วอย่างเจ้าเรียกว่างดงามหรือไม่?”
ไป๋ชิวหรานถามกลับ
“เช่นนั้นข้าต้องการติดตามเพื่อไปรับชมความงามของนาง”
หลีจิ่นเหยายืนขึ้นทันที ในขณะเดียวกันนางเอื้อมมือไปคว้าร่างของถังรั่วเวย
ถังรั่วเวยมองแขนตนเองที่ถูกศิษย์พี่หลีคว้าไว้ก่อนจะถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
“ข้าก็ไปด้วย”
“อากุ้ย ไปกันเถิด”
ไป๋ชิวหรานมองผู้ทรงเกียรติกุ้ยที่นั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ เมื่อเขากล่าวคำนั้น ผู้ทรงเกียรติกุ้ยก็พยักหน้าตอบรับเบา ๆ
ดังนั้นไป๋ชิวหรานจึงยกอากุ้ยขึ้นขี่คอ จากนั้นนำหลีจิ่นเหยากับถังรั่วเวย ตามด้วยเซียนหงเฉิน ทั้งหมดตรงสู่สวรรค์กระจ่างข้ามเมฆาซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของอีกาสามขาและซีเหอในแดนเซียน
ก่อนที่พวกเขาจะไปถึง จากระยะไกล ไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ ก็เห็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ที่ไม่อาจพบเจอได้ง่ายแผ่กิ่งก้านสาขางอกออกจากทะเมเมฆหมอก
“หืม? ฝูซางถูกย้ายมาที่นี่หรือ?”
ไป๋ชิวหรานกล่าวอย่างประหลาดใจ
“ถูกต้องแล้ว”
เซียนหงเฉินกล่าวตอบ
“ในช่วงแรกเริ่มของการก่อตั้งแดนเซียน ท่านอาจารย์ขอให้เทพซีเหอ และอีกาสามขาใช้ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ฝูซางที่พวกนางอาศัยอยู่เพื่อสนับสนุนแดนเซียน ต้นไม้นี้ช่วยเหลือในการสร้างโลก เทพทั้งสองตอบรับคำชวน ดังนั้นภายหลังพวกนางจึงได้รับสถานะที่ยิ่งใหญ่ภายในแดนเซียน”
“เหตุใดไม่ใช้พฤกษากำเนิดเบิกฟ้าเพื่อรองรับแดนเซียนเอาไว้?”
ไป๋ชิวหรานถาม
“พฤกษากำเนิดเบิกฟ้าถูกเหล่าทวยเทพเผาไปเมื่อครั้งสิ้นสุดสงคราม”
เซียนหงเฉินส่ายศีรษะ
“น่าเสียดายนัก”
“มันสูญสิ้นไปแล้ว หากของเก่าไม่สูญสิ้นไป… ของใหม่ย่อมไม่ได้ถือกำเนิด”
ไป๋ชิวหรานมองไปที่เกาะตรงหน้า และกิ่งก้านที่ยิ่งใหญ่ของฝูซาง
“แต่ว่า… พวกเจ้าสามารถเคลื่อนย้ายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ฝูซางนี้มาด้วยตนเองอย่างนั้นหรือ… อย่างไรแล้วข้าก็คิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้ แต่แท้จริง ข้อมูลที่ได้รับมาจากแดนเซียนตะวันออก เมื่อคำนวณพลังต่อสู้ของแดนเซียนทั้งห้าแล้ว จะสามารถย้ายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ฝูซางนี้ไปยังแดนเซียนกลาง…”
“ย่อมเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าแดนเซียนทั้งห้าจะรวมเป็นหนึ่ง”
เซียนหงเฉินกล่าวตอบอย่างไม่ลังเล
“ท่านอาจารย์สามารถทำได้ นั่นเป็นเพราะในสมัยของท่านอาจารย์ จำนวนจักรพรรดิเซียนนั้นมากมายหลายเท่ายิ่งกว่าจักรพรรดิเซียนในเวลานี้ โดยปกติแล้วจำนวนจักรพรรดิเซียนในขณะนั้นเทียบเท่ากับจำนวนของเหล่าเซียนในเวลานี้”
“แล้วจักรพรรดิเซียนเหล่านั้นล่ะ?”
“พวกเขาทั้งหมดตายตกในสนามรบ”
เซียนหงเฉินกล่าวตอบด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว
“ทั้งหมดคือสิ่งที่พี่ใหญ่บอกกล่าวเมื่อไม่นานมานี้”
“สงคราม? ผู้ใดคือศัตรู?”
“เรื่องนั้นข้าก็ไม่ทราบเช่นกัน”
เซียนหงเฉินส่ายศีรษะ
“พี่ใหญ่บอกกล่าวไว้ว่า เมื่อเราเข้าสู่หอคอยจักรพรรดิ เราจะทราบเรื่องทั้งหมด”
“หอคอยจักรพรรดิ หอจักรพรรดิ พวกคนเหล่านี้ยังคิดอยากเล่นหยอกล้อกับข้า…”
ไป๋ชิวหรานถอนหายใจ
“ลืมไปเสีย ประเดี๋ยวเราไปพบเทพซีเหอกับอีกาสามขากันก่อน”
…
ทั้งมารดาและบุตรสาวยังคงอาศัยอยู่บนต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ฝูซาง ราชวังสีทองอร่ามถูกสร้างขึ้นบนต้นไม้ นี่คือที่อยู่อาศัยของมารดาและบุตรสาว มีสาวใช้เล็กน้อยอยู่ภายในกับทั้งสอง
“เทพซีเหอ และอีกาสามขาไม่อยู่”
เหล่าสาวใช้กล่าวตอบ
“และอีกาสามขาเพียงกลับมาจากฝึกฝน ตอนนี้นางกำลังอาบน้ำอยู่ในสระรากฐาน”
“อะไรนะ?”
สติของไป๋ชิวหรานพลันตื่นตระหนก ดูเหมือนเขาเพิ่งได้ยินคำพูดที่น่าอัศจรรย์ใจจึงรีบกล่าวถาม
“เมื่อครู่เจ้ากล่าวว่าอีกาสามขาไปอาบน้ำที่สระใด?”