ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 303 สตรอว์เบอร์รี
บทที่ 303 สตรอว์เบอร์รี
บทที่ 303 สตรอว์เบอร์รี
“สระรากฐานเจ้าค่ะ”
สาวรับใช้เผยรอยยิ้มอ่อนโยน
“นายท่านไม่เคยได้ยินเรื่องนี้หรือ?”
“สระ… สระรากฐานอย่างนั้นหรือ?”
ลมหายใจของไป๋ชิวหรานที่เคยสงบพลันแปรเปลี่ยน เขาเปรียบกับผีทะเลที่หิวโหยร่างกายสตรีงดงาม…
“สระนี้มีสิ่งใดพิเศษอย่างนั้นหรือ? เหตุใดถึงตั้งชื่อเช่นนั้น?”
“ท่านอาวุโส”
เป็นเซียนหงเฉินที่กล่าวอธิบายขึ้นมา
“สระรากฐานปรากฏขึ้นหลังจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ฝูซางถูกย้ายมาอยู่ที่แดนเซียนกลาง เนื่องจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์หยั่งรากลึก จักรพรรดิหวงเฉิงเทียนจึงดูดซับพลังงานในกระแสความว่างเปล่า และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นพลังวิญญาณมหาศาล น้ำพุวิญญาณจึงปรากฏขึ้นในภูเขาวิญญาณเหนือยอดไม้ และน้ำพุวิญญาณได้ไหลหลั่งจากยอดเขาบนโลกทั้งหกไปอยู่ในกระแสของกามภูมิ ก่อตัวเกิดเป็นสระวิญญาณขนาดเล็กและใหญ่ เรียกกันว่าสระรากฐานเพราะมันมีพลังจิตวิญญาณมากมาย หากผู้ฝึกตนพลังปราณทั่วไปได้เข้าไปแช่ตัวในสระนั้นสักสองถ้วยชา พวกเขาจะสามารถชำระล้างร่างกายและขัดเกลากระดูกได้ เมื่อนั้นจะสามารถเข้าสู่ขั้นสร้างรากฐานได้โดยตรง”
“สระรากฐานที่เราใช้ในห่าวถิงเซียว เป็นน้ำพุต้นกำเนิดของสระรากฐานทั้งหมดในแดนเซียน”
สาวรับใช้กล่าวเสริม
“นอกจากอีกาสามขาแล้ว ยังมีเทพีองค์อื่นที่ชอบมาอาบน้ำที่นี่ด้วย”
“สระนี้สำหรับสตรีอย่างนั้นหรือ?”
ไป๋ชิวหรานกล่าวถาม
“ไม่มีกฎเกณฑ์ใด แต่ข้ารู้จักเพียงเหล่าเทพีและนางฟ้าที่ไปยังสถานที่แห่งนั้น”
สาวรับใช้กล่าวตอบ
“ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีศิษย์คนใดกล้าเสี่ยงที่จะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านด้วยเปลวไฟต้นกำเนิดของดวงตะวันเพียงเพราะต้องการชมทิวทัศน์อันงดงามเหล่านั้น”
“โอ้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไป๋ชิวหรานก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแพ้ แต่เขากลับไม่เต็มใจและจ้องมองไปยังทิศทางที่สาวรับใช้ชี้บอกไว้ก่อนหน้าอย่างกระวนกระวาย
เมื่อสังเกตเห็นท่าทีของอีกฝ่าย หลีจิ่นเหยาจึงไอเบา ๆ จากนั้นดึงเสื้อของเซียนหงเฉินอย่างลับ ๆ
เซียนหงเฉินจ้องมองนางอย่างสงสัย ตอนนี้เองที่หลีจิ่นเหยาขยิบตาให้เขา และหันไปมองทางไป๋ชิวหรานที่กำลังกระวนกระวาย
เซียนหงเฉินมองดู และเข้าใจเรื่องราวทันที
“ท่านอาจารย์”
เขาประสานมือพร้อมกล่าวว่า
“เหตุใดเราจึงไม่ไปที่สระรากฐานเพื่อรอพบกับอีกาสามขา”
“จะไม่เป็นไรอย่างนั้นหรือ?”
ไป๋ชิวหรานอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาอย่างไม่เต็มใจ
“มันไม่ถูกต้องนัก หากจะไปที่สระอาบน้ำของเหล่าสตรี…”
“ข้าไม่เห็นว่าจะผิดปกติอย่างไร”
เซียนหงเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ท่านไม่ได้กระทำเรื่องน่ารังเกียจสักหน่อย”
“แล้ว…”
ไป๋ชิวหรานไอ พร้อมกล่าวเคร่งขรึม
“เกรงว่าอีกาสามขาจะคิดมากเกินไป ดังนั้นไปรอที่ด้านนอกของสระรากฐานดีกว่า”
เซียนหงเฉินพยักหน้าและโบกมือเรียกสาวรับใช้
“สาวน้อย ต้องรบกวนเจ้าแล้ว ช่วยพาเราไปที่นั่นทีเถิด”
ไป๋ชิวหราน และคนข้างกายเดินตามสาวรับใช้ไปที่ด้านนอกของภูเขาหลิงซานซึ่งอยู่ตรงที่ใดสักแห่งภายในท้องฟ้าเหนือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ฝูซาง ทุกคนสัมผัสได้ถึงพลังอบอุ่นที่อยู่ภายในส่วนลึกของภูเขาวิญญาณ พลังงานควบแน่นเป็นลำแสงสีม่วงเปล่งประกายอยู่เหนือน่านฟ้า มีม่านน้ำตกย้อยลงมาจากยอดเขา
“สระรากฐานอยู่บนภูเขา”
สาวรับใช้ยืนอยู่ท่ามกลางกิ่งไม้ที่ตีนเขา ก่อนจะโค้งคำนับให้กับไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ
“ท่านต้องการให้สาวใช้ผู้นี้ไปแจ้งต่อนายหญิงถึงเรื่องนี้หรือไม่?”
“ไป”
เซียนหงเฉินโบกมือไปมา
สาวใช้ทำความเคารพก่อนจะเดินออกไปตามถนนขึ้นสู่ยอดเขา ขณะไป๋ชิวหรานมาถึงธารน้ำตก ชายหนุ่มทอดมองน้ำตกตรงหน้าด้วยแววตาชื่นชม
“น้ำตกนี้ช่างงดงามนัก กลิ่นอายของมันราวกับสตรอว์เบอร์รีอันหอมหวน”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของไป๋ชิวหราน ถังรั่วเวยมองเขาอย่างเหยียดหยาม
“อย่าได้คิดดื่มมัน นี่คือน้ำที่เทพธิดาและนางสวรรค์ใช้อาบน้ำ”
“แค่ก ๆ”
ไป๋ชิวหรานหยิบขวดหยกมาถือไว้ในมือก่อนจะกล่าวด้วยสุ้มเสียงเคร่งขรึม
“ไร้สาระ อาจารย์จะดื่มมันได้อย่างไร? นี่คือการเก็บตัวอย่างเพื่อไปตรวจสอบ ข้าเพียงแค่ต้องการวิเคราะห์มัน”
ถังรั่วเวยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
“เอาน้ำที่เหล่าเทพธิดาและนางสวรรค์อาบเสร็จสิ้นกลับไปตรวจสอบเพราะวิเคราะห์อย่างนั้นหรือ?”
“เจ้าคิดว่าอาจารย์ของเจ้ามาที่นี่เพราะมันคือสระน้ำของเหล่าสาวงามอย่างนั้นหรือ? คิดว่าข้ามาเพื่อตักน้ำหรือไร?”
ไป๋ชิวหรานเริ่มโกรธ
“เจ้าศิษย์ไม่เชื่อฟัง แสร้งทำตัวสับสน เจ้าเชื่อจริงหรือว่าอาจารย์ของเจ้าจะทำเช่นนั้น หากสระนี้เรียกว่าสระน้ำเสริมทรวงอก เจ้าคงจะประพฤติตนเกินกว่าอาจารย์ของเจ้าในตอนนี้แน่!”
“ท่านกำลังใส่ร้ายข้า!”
ถังรั่วเวยพยายามที่จะยืดหน้าอกขึ้นพร้อมตำหนิอีกฝ่าย
อาจารย์และศิษย์มักจะทะเลาะกันเป็นปกติ ส่วนตอนนี้หลีจิ่นเหยากำลังยืนมองน้ำตกตรงหน้าพร้อมกับครุ่นคิด
“อาวุโสโม่เฉิน”
นางกล่าวถาม
“สระรากฐานในสถานที่อื่นของแดนเซียนกลางไหลรินออกจากที่นี่ด้วยหรือไม่?”
“หากไม่ใช่น้ำตกแห่งนี้ แต่เป็นน้ำพุบนภูเขา… เช่นนั้นคงจะมีลำธารอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน”
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เซียนหงเฉินก็กล่าวตอบ
“แต่แหล่งน้ำส่วนใหญ่ควรจะมาจากที่แห่งนี้ เพราะน้ำตกแห่งนี้เชื่อมต่อกับแอ่งน้ำที่ยอดเยี่ยมที่สุด และใหญ่ที่สุดบนภูเขาวิญญาณ โดยทั่วไปแล้ว เหล่านางสวรรค์ชอบมาอาบน้ำในที่แห่งนี้”
“อ้อ…”
หลีจิ่นเหยาราวกับตระหนักได้ถึงบางอย่าง
“หมายความว่าในแดนเซียนทั้งหมดตั้งแต่ห่าวถิงเซียวลงมา น้ำส่วนใหญ่นั้นมาจากสระรากฐานจริง ๆ และมันก็เป็นน้ำที่เหล่าเทพีและนางสวรรค์ใช้อาบน้ำ?”
“เรื่องนั้น…”
เซียนหงเฉินไตร่ตรองก่อนจะกล่าวอย่างประหลาดใจ
“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น”
“ข้าได้ยินว่าในแดนเซียนบางแห่งใช้น้ำพุวิญญาณของสระรากฐานเพื่อขัดเกลาโอสถอายุวัฒนะรากฐาน…”
หลีจิ่นเหยากล่าวอีกครั้ง
“ท่านอาวุโส ท่านไม่เคยทราบถึงเรื่องนี้อย่างนั้นหรือ?”
“ไม่ทราบ ข้าไม่ได้อยู่ในโลกนี้นานแล้ว”
เซียนหงเฉินกล่าวตอบ
“บางทีพวกเขาอาจคิดว่านี่คือน้ำพุวิญญาณที่มีชีวิต นั่นจึงไม่เป็นไร”
หลังจรากไตร่ตรองนิ่งพินิจ เขาประสานมือเข้าหากันแน่น
“ข้าคิดว่าผู้คนในแดนเซียนกลางควรต้องทราบเรื่องนี้ อย่างไรก็ไม่เสียหาย แต่ข้าอยากขอให้แม่นางหลีอย่าได้กล่าวคำไร้สาระ”
“ข้าเข้าใจแล้ว”
ในความเป็นจริง ตามที่เซียนหงเฉินกล่าว น้ำพุวิญญาณที่นี่เป็นสายใยหล่อเลี้ยงชีวิต และสิ่งที่ใครบางคนกำลังทำอยู่ที่ต้นน้ำ เว้นแต่จะเหมือนกับไป๋ชิวหรานที่ดื่มพิษของเจียงหลานแล้วปัสสาวะใส่ต้นน้ำ ปกติแล้วมันจะไม่มีผลกระทบต่อปลายน้ำแต่อย่างใด
มันเป็นเรื่องของเกียรติเสียมากกว่า หากปฏิบัติต่อมันราวกับสมบัติ และน้ำพุวิญญาณที่ใช้สร้างโอสถและแร่ธาตุสำคัญ แท้จริงแล้วเป็นเพียงน้ำที่ถูกอาบแล้วทิ้งจากเหล่าเทพีและนางสวรรค์ หากกล่าวถึงห่าวถิงเซียวเช่นนี้ ทุกคนที่อยู่ในแดนสวรรค์คงไม่อาจกักเก็บใบหน้าของตนไว้ได้
หากเหล่าเซียนนิสัยดี พวกเขาจะคิดเห็นกับเรื่องนี้ว่า ‘ไม่เห็นก็ไม่เป็นไร’ เมื่อได้ยินเรื่องราว แต่เหล่าเซียนที่อาศัยอยู่ในแดนเซียนกลางล้วนเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง นี่คือสิ่งที่ทำลายใบหน้าของพวกเขาอย่างรุนแรง และคาดว่าเมื่อได้รับฟัง พวกเขาคงจะไม่รื่นรมย์นัก
พวกเขายืนรออยู่ที่นี่สักครู่ใหญ่ ในระหว่างนั้นขณะที่คนอื่น ๆ ไม่ได้สนใจ ไป๋ชิวหรานก็อดไม่ได้ที่จะตักน้ำจากสายธารมาเก็บเอาไว้…
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นจากบนภูเขา ตามด้วยเสียงของผู้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังกล่าวทักทายไป๋ชิวหราน
“ไม่ได้พบกันตั้งนาน ผู้อาวุโสไป๋”
ไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ ต่างผงกศีรษะขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น และพบว่าถนนบนภูเขารายล้อมไปด้วยสาวรับใช้หลายคน เทพีงดงามสวมชุดยาวปักลวดลายสีทอง พร้อมจี้มงกุฎทองคำบนศีรษะกำลังเดินทอดน่องลงมาด้วยร่างกายที่หอมตลบอบอวล ร่างกายของนางกึ่งเปลือยเล็กน้อยก่อนจะเดินลงจากภูเขาอย่างเชื่องช้า นั่นคืออีกาสามขา!
เนื่องจากนางเพิ่งอาบน้ำเสร็จ กายาจึงยังมีความชุ่มชื้นอยู่ นางมองไป๋ชิวหรานพร้อมยิ้มกว้าง
“เราไม่ได้พบกันนานว่าสามแสนปี แต่ผู้อาวุโสไป๋ยังดูหนุ่มแน่นเช่นเคย”
“ไม่ได้พบกันเสียนาน อีกาสามขา”
ชายหนุ่มจับมือของนางพร้อมยิ้มกว้าง จากนั้นเหลือบไปเห็นหยดน้ำสองหยดบนไหล่ของอีกาสามขา เขาจ้องมองมันอย่างหื่นกระหาย…