ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 304 สายตาที่ร้อนแรง
บทที่ 304 สายตาที่ร้อนแรง
บทที่ 304 สายตาที่ร้อนแรง
“ข้าไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าผู้อาวุโสไป๋ยังจดจำข้าและมารดาได้ อีกทั้งยังมาหาพวกเราถึงที่นี่ นั่นทำให้ข้าประทับใจยิ่งนัก”
อีกาสามขากล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“ข้าคิดว่าเมื่อท่านมาที่นี่ ท่านคงจะอยู่ในสวรรค์กระจ่างเขตอวี่ชิงเพื่อรอให้หอคอยจักรพรรดิเปิดออก… ยามนี้ ท่านกำลังมองหาสิ่งใดหรือ?”
นางสังเกตเห็นการจ้องมองที่จะทะลุร่างของตนไปของไป๋ชิวหราน เช่นนั้นจึงกล่าวถามอย่างสงสัย
“มีสิ่งใดผิดปกติกับข้าหรือไม่?”
“เอาล่ะ”
ชายหนุ่มตอบกลับ
“ข้าคิดว่าไหล่ของเจ้ามัน… ไม่สิ หยดน้ำที่เกาะอยู่นั้นขาวบริสุทธิ์เหลือล้น”
ใบหน้าของอีกาสามขาเผยความงุนงง นางส่ายศีรษะเล็กน้อย การกระทำนี้ทำให้ผ้าโพกศีรษะของนางสั่นวูบไหว หยดน้ำไหลไปตามร่องกระดูกไหปลาร้า
“โอ้ อนิจจา… ช่างน่าสงสาร”
ใบหน้าของไป๋ชิวหรานเผยความผิดหวัง พร้อมส่ายศีรษะ
“สงสาร?”
เขาถอนสายตากลับมาและเงยหน้าจ้องมองอีกาสามขา
อีกาสามขาไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด นางจึงเพิกเฉยต่อพฤติกรรมประหลาดของอีกฝ่าย พร้อมกับออกคำสั่งต่อสาวใช้
“เป็นเรื่องยากยิ่งนักที่จะได้พบกับผู้อาวุโสไป๋ เจ้าไปตระเตรียมงานเลี้ยงเสีย ผลไม้ตะวันที่อยู่ด้านหลังวังควรจะสุกแล้ว เลือกผลที่ดีที่สุดมาให้ข้า อีกอย่างข้าได้ยินว่ามีไข่นกหลวนสดใหม่ที่หอการค้าเซียนไห่ เจ้าไปซื้อมันกลับมาด้วยสักหน่อย”
“เจ้าค่ะ”
สาวใช้หลายคนเดินออกไป อีกาสามขาหันมายิ้มให้ไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ
“ทุกคนได้รับพรเป็นไข่นกหลวนซึ่งเป็นอาหารอันโอชะที่หาพบได้ยาก ตอนนี้แดนเซียนมีกฎห้ามบริโภคสัตว์ร้ายที่มีสติปัญญา แต่นกหลวนนั้นเกิดมาแตกต่าง และนกหลวนที่ไร้สติปัญญาหาพบได้ยากเย็นนัก”
ไป๋ชิวหรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง ชายหนุ่มอับอายเกินกว่าจะบอกอีกาสามขาว่าเขากินมันเข้าไปแล้วจริง ๆ
ชิงตานอิ๋งยังคงเกลียดอาจารย์ของเขาเพราะเรื่องนี้ หากปล่อยให้ไข่น้อยทราบถึงสถานการณ์ในแดนเซียน นางคงจะ…
ไม่ใช่ว่าไข่น้อยตัวนั้นไม่สามารถเอาชนะเซียนแห่งแดนสวรรค์ได้ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงแค่โมโหอย่างไร้ความสามารถในการโต้ตอบ
“มารดาของข้าออกไปรับอวิ๋นเซีย หลังจากนางเกษียณอายุ นางได้เรียนรู้วิธีการทอผ้าสวรรค์จากสาวทอผ้า อีกทั้งยังไปที่นั่นเสมอเพื่อที่จะสามารถทอผ้าสวย ๆ ให้กับเราทั้งสองคนได้”
อีกาสามขาเดินไปด้านหน้าขณะที่บอกกล่าว ไป๋ชิวหรานและพรรคพวกก็เดินตามไป นางเหลือบมองหลีจิ่นเหยาและถังรั่วเวยก่อนจะกล่าวถามอีกครั้ง
“โอ้ ว่าแต่สตรีงดงามทั้งสองนี้คือผู้ใด?”
“นี่คือสหายของข้า แม่นางจิ่นเหยา”
ไป๋ชิวหรานกล่าวแนะนำ
“แล้วนี่คือศิษย์โง่เขลาของข้า นามว่ารั่วเวย”
“ศิษย์ของท่านอย่างนั้นหรือ?”
อีกาสามขาเหลือบมองถังรั่วเวยพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เช่นนั้นนางคงจะเป็นศิษย์น้องของจักรพรรดิเซียนองค์แรก”
“ไม่ นางมาก่อนจึงเป็นศิษย์พี่”
ไป๋ชิวหรานกำลังกล่าวคำ ขณะนั้นดวงตาของเขาจ้องมองเท้าสีขาวของอีกาสามขา
อาจเป็นเพราะนางเพิ่งอาบน้ำเสร็จ อีกาสามขาจึงไม่สวมรองเท้าสวรรค์ที่มักจะชอบสวมใส่ ตอนนี้นางสวมเพียงรองเท้าสานซึ่งทำให้ดูสบายตายิ่งเมื่ออยู่กับชุดสีขาว แต่แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เหตุผลที่มันสามารถดึงดูดความสนใจของไป๋ชิวหรานได้
ทว่าสิ่งที่ชายหนุ่มเห็นคือหยดน้ำพิสุทธิ์ที่อยู่ใกล้กับข้อเท้าของนาง และสามารถเห็นคลื่นพลังในละอองน้ำที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณได้เพียงแค่มองผ่าน!
เท้าคู่งามนี้ดูดีและมีรอยเหี่ยวย่นเล็กน้อย เพราะแช่อยู่ในสระรากฐานเป็นเวลานาน
ไป๋ชิวหรานครุ่นคิดอย่างชื่นชม เขาอดไม่ได้ที่จะหันศีรษะกลับไปยังทิศทางของสระรากฐานบนภูเขาวิญญาณ จากนั้นหันกลับมามองเท้าของอีกาสามขา แล้วหันกลับไปมองภูเขาวิญญาณอีกครั้ง กระทำสลับเปลี่ยนไปมาเช่นนี้…
การกระทำของเขาโจ่งแจ้งเกินไป แน่นอนว่าไม่สามารถปกปิดมันจากอีกาสามขาได้ หลังจากที่ตระหนักถึงเรื่องนี้ได้ นางก็หยุดฝีเท้าพร้อมหันศีรษะไปหาไป๋ชิวหรานก่อนจะกล่าวถามอย่างฉะฉาน
“เหตุใดผู้อาวุโสไป๋ถึงเอาแต่จ้องมองข้า?”
นางกล่าวถาม
ชายหนุ่มตื่นตระหนก ก่อนจะกล่าวตอบด้วยรอยยิ้มฝืดเคือง
“เปล่า ไม่มีอะไร… ไม่มี”
“ข้าคิดว่าข้าก็งดงามไม่น้อย แต่ความงดงามของหลานเอ๋อก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า ท่านแต่งงานกับหลานเอ๋อนานแล้ว ไม่ได้สัมผัสนางหรือไร อีกอย่างท่านไม่ได้แตะต้องสตรีคนใดที่จักรพรรดิตะวันออกไท่อีมอบให้ เช่นนั้นข้าจึงไม่เคยมองว่าท่านเป็นคนมักมาก”
อีกาสามขาครุ่นคิด
“แต่ข้ากับท่านไม่ได้พบเจอกันนานกว่าสามแสนปีแล้ว เป็นเวลานานเพียงพอที่จะเปลี่ยนบุคลิกของแต่ละคน แม้ว่าข้าไม่ต้องการที่จะแต่งงานหรือมีความรัก แต่หากว่าเป็นท่าน ผู้อาวุโสไป๋… ข้าก็ไม่คิดเช่นกัน”
เมื่อได้ยินคำพูดของนาง ไป๋ชิวหรานยังไม่ได้กล่าวตอบกลับ ทว่าขณะนั้น หลีจิ่นเหยากล่าวแทรกขึ้น
“ไม่ใช่ ไม่ใช่สิ่งนั้น ท่านเทพีเข้าใจผิดแล้ว”
หลีจิ่นเหยาดึงอีกาสามขาไปข้าง ๆ พร้อมกระซิบที่ข้างหูและบอกกล่าวถึงความปรารถนาของไป๋ชิวหรานที่อยากจะได้ลงแช่ตัวในสระรากฐาน เมื่อได้รับฟัง อีกาสามขาก็เดินกลับมายิ้มให้ไป๋ชิวหรานพร้อมกล่าวว่า
“ปรากฏว่าทั้งหมดคือสิ่งที่ผู้อาวุโสไป๋ต้องการ ข้าล้วนเข้าใจผิดทั้งสิ้น”
“มะ… ไม่ใช่ ไม่ใช่”
ไป๋ชิวหรานโบกมือพร้อมกล่าวว่า
“ข้ากระทำเรื่องที่หยาบคายเกินไป แต่ไม่อาจอดทนไหว เช่นนั้นโปรดอภัยให้ข้าด้วย”
อีกาสามขาพาทุกคนกลับไปที่วังของนาง แต่หลังจากเดินมาสักพักนางชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อยและเดินเคียงข้างกับไป๋ชิวหรานพร้อมกับกล่าวกระซิบแผ่วเบา
“ยังมีสตรีมากมายอาบน้ำอยู่ที่สระ ข้าจึงไม่อาจปล่อยให้ท่านไปได้ หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อนั้นจะให้สาวใช้พาท่านไปที่สระแล้วกัน”
ไป๋ชิวหรานดีใจออกนอกหน้า
“ไม่เป็นไรอย่างนั้นหรือ? นี่คือสถานที่ที่พวกเจ้าอาบน้ำ ทว่าจะให้ข้าที่เป็นคนนอกเข้าไปด้านใน…”
“ไม่เป็นไร ในสมัยของเหล่าทวยเทพ เราทุกคนต่างขึ้นมาจากพื้นดินเพื่อจะเข้าไปอาบน้ำที่นั่น อีกอย่างเราไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าเพศตรงข้ามอาบน้ำที่นั่นหรือไม่”
อีกาสามขาไม่ได้กล่าวอะไร
“ยิ่งไปกว่านั้น น้ำในสระยังเป็นน้ำพุวิญญาณอีกด้วย”
“เช่นนั้นข้าขอขอบคุณท่านแล้ว”
ไป๋ชิวหรานยินดียิ่ง เขาโค้งตัวลง
“ไม่ต้องขอบคุณข้า”
อีกาสามขาเข้าใกล้เขาพร้อมเหลือบมองหลีจิ่นเหยาและกล่าวเสียงต่ำ
“ข้าไม่ได้ทราบด้วยตนเอง ผู้อาวุโสไป๋ก็ไม่กล้ากล่าวคำ แม่นางหลีผู้นั้นคือคนที่ขอร้องให้ข้าช่วยทำให้ท่านไปอาบน้ำที่นั่นได้ ท่านควรจะขอบคุณนางเสียมากกว่า”
“เข้าใจแล้ว”
ชายหนุ่มรู้สึกซาบซึ้งถึงการกระทำของหลีจิ่นเหยาที่มอบให้เขา
ท้ายที่สุด สระนั้นคือสถานที่อาบน้ำของเหล่าสตรี ด้วยสถานะของเขาในแดนเซียนแล้ว มันไม่ง่ายที่จะกล้าร้องขอ มีเพียงหลีจิ่นเหยาเท่านั้นที่กล้าใช้ใบหน้าของตนเองและขอร้องอีกาสามขา… เช่นนี้เขาจึงไม่ถูกมองว่าเป็นคนผิด
หลังจากที่พวกเขามาถึงวังแล้ว ทุกคนต่างได้รับการต้อนรับจากอีกาสามขาอย่างดี ไป๋ชิวหรานมอบของกำนัลที่เจียงหลานฝากมาให้ และยังฝากของให้กับเทพซีเหอด้วย
จากนั้น เขาทรุดกายนั่งลงบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารและเครื่องดื่ม หลังจากสามยามของคืนนั้นผ่านพ้น ไป๋ชิวหรานก็ขึ้นภูเขาวิญญาณไปพร้อมกับสาวใช้ของอีกาสามขาอย่างเงียบเชียบ
สาวใช้พาชายหนุ่มไปที่ริมสระวิญญาณบนภูเขาในยามราตรี คลื่นแสงวิจิตรงดงามราวกับชามหยกสาดส่องไปทั่วบริเวณ
รอบ ๆ สระมีวัชพืชเล็กน้อย ซึ่งมันถูกหล่อเลี้ยงด้วยคลื่นพลังของสระวิญญาณ อีกทั้งรอบข้างยังมีพืชวิญญาณบ้างประปราย มีหินงอกหินย้อยตามขอบสระ และภายในสระน้ำก็ใสสะอาด… ช่างเป็นทิวทัศน์ที่งดงามเกินกว่าจะจินตนาการถึง!
ในความมืดมิด ผิวน้ำเปล่งประกายเรืองแสงอ่อน และผิวน้ำมีชั้นไอน้ำปกคลุมไว้เล็กน้อย ไป๋ชิวหรานเหยียดมือออกไปสัมผัสด้วยความประหลาดใจ
“ที่นี่คือน้ำพุร้อนอย่างนั้นหรือ?”
“ถูกต้องแล้ว ที่นี่เป็นสถานที่ที่นายหญิงมาบ่อยครั้ง อุณหภูมิของมันจึงสูงมาก เพราะนายหญิงคือผู้ครอบครองพลังตะวัน การอาบน้ำที่นี่ทุกวันจึงทำให้สระน้ำแห่งนี้ไม่เคยเย็นลงเลยสักครั้ง”
สาวใช้โค้งคำนับขณะกล่าวตอบไป๋ชิวหราน
“หากท่านไม่มีสิ่งใดแล้ว สาวใช้ผู้นี้ขอตัวก่อน”
“ไม่เป็นไร เจ้ากลับไปได้แล้ว หลังจากแช่น้ำเสร็จสิ้น ข้าจะกลับเอง”
หลังจากสาวใช้จากไป ไป๋ชิวหรานปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกพร้อมกระโดดลงสระด้วยความใจร้อน!