ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 320 ให้ข้ามอบความบันเทิงแก่เจ้า
บทที่ 320 ให้ข้ามอบความบันเทิงแก่เจ้า
บทที่ 320 ให้ข้ามอบความบันเทิงแก่เจ้า
ไป๋ลี่ดึงไป๋ชิวรานในร่างจักรพรรดิภูตผีอย่างแผ่วเบา ตอนนี้จักรพรรดิเซียนทั้งสี่เผยใบหน้ามืดครึ้ม!
ท้ายที่สุดแล้ว มันคือการจัดการปัญหาภายในแดนเซียน ไม่ว่าอย่างไรจักรพรรดิเซียนองค์แรกและจักรพรรดิเซียนกลางจะต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมขั้นพื้นฐาน แต่ไป๋ชิวหรานที่เป็นจักรพรรดิภูตผีนั้นแตกต่าง เขาไม่ขึ้นอำนาจกับผู้ใด อีกทั้งสังสารวัฏแห่งการเกิดและตายยังเป็นอิสระจากแดนเซียนด้วย
ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ของตนต่อหน้าเหล่าเซียนพวกนี้ เขาสามารถทำทุกอย่างเพื่อล้อเลียนจักรพรรดิเซียนทั้งสี่ทิศได้อย่างสะดวกสบาย
ต่อจากนั้น เขาหันไปหาจักรพรรดิเซียนตะวันตกและจักรพรรดิเซียนใต้อีกครั้ง ก่อนจะกล่าวออกด้วยเสียงเจื่อนอารมณ์เล็กน้อย ซึ่งตอนนี้จักรพรรดิเซียนทั้งสี่ยังคงไม่หายจากอาการตื่นตระหนก
“จักรพรรดิองค์นี้เกลียดการกล่าวอ้อมค้อม เช่นนั้นข้าจึงอยากบอกความจริงว่าวันนี้จักรพรรดิองค์นี้มาเพื่อจับกุมวิญญาณ”
“จับกุมวิญญาณ?”
จักรพรรดิเซียนทั้งสี่มองหน้ากัน จากนั้นจักรพรรดิชิงก็เผยรอยยิ้มพร้อมกล่าวคำ
“แล้วจักรพรรดิภูตผีต้องการจับกุมผู้ใดหรือ?”
“แน่นอนว่าจักรพรรดิองค์นี้จะจับกุมวิญญาณของผู้ที่สมควรตาย”
ไป๋ชิวหรานเหลือบมอง
“เท่าที่ข้าเห็น มีผู้คนที่สมควรตายมากมายในสถานที่แห่งนี้”
“ข้าคิดว่าฝ่าบาทคงจะอยู่ผิดที่แล้ว”
จักรพรรดิชิงหัวเราะ ก่อนจะเอ่ยคำ
“พวกเราทุกคนคือเซียนที่ผ่านพ้นความยากลำบากมากมาย และยังฝ่าปราการภัยพิบัตินับไม่ถ้วนจนสามารถทะยานขึ้นได้ ทั้งยังมีความชอบธรรมไร้ขอบเขต พวกเราจะสมควรตายตกได้อย่างไร? นอกจากนี้ยังเป็นเซียนสวรรค์ไม่อาจตายตกได้ ดังนั้นฝ่าบาทจะจับกุมวิญญาณของพวกเราได้อย่างไรหรือ?”
“จักรพรรดิเซียนชิง ข้าแนะนำให้เจ้าถ่อมตัวเมื่อเผชิญหน้ากับจักรพรรดิภูตผี”
จักรพรรดิเซียนกลางกล่าวกับจักรพรรดิชิง
“สังสารวัฏหกวิถีอยู่ในยมโลก ทั้งหมดมีเหตุผล รวมถึงชะตากรรมของพวกมันเอง แม้แต่เซียนก็ไม่สามารถต่อต้านการเกิดและตายได้”
“กล่าวเช่นนั้นก็ไม่ถูกต้อง มีคำกล่าวว่าชะตากรรมจะถูกกำหนดตั้งแต่เราเกิด แต่พวกเราทั้งหมดคือเซียนที่มีอำนาจเหนือวิถีสวรรค์ไม่ใช่หรือ?”
จักรพรรดิชิงกล่าวอย่างเย้ยหยัน
“ข้าไม่มีความทะเยอทะยานมากเช่นนั้น เล่อเจิ้นเทียน ข้าคิดว่าเจ้าที่เป็นจักรพรรดิเซียนกลางนั้นไร้ซึ่งคุณธรรม และตำแหน่งของเจ้านั้นไม่คู่ควร”
“มนุษย์พิชิตสวรรค์ได้ คำนี้ไม่ผิด”
ไป๋ชิวหรานพยักหน้า
“แต่เพราะเจ้ากระทำความผิด ชะตากรรมของการเกิดและตายไม่ได้ถูกกำหนดโดยวิถีสวรรค์ แต่มันถูกกำหนดโดยยมโลกที่อยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิองค์นี้”
จักรพรรดิชิงระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
“แล้วหากว่าข้าสามารถพิชิตยมโลกของท่านได้ ข้าจะสามารถควบคุมสังสารวัฏหกวิถีได้หรือไม่?”
“หากสามารถ ก็เชิญลองดู”
ไป๋ชิวหรานตอบคำจักรพรรดิชิงด้วยสุ้มเสียงเย็นยะเยือก
“เอาล่ะ ทุกท่าน”
เวลานี้ไป๋ลี่ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะโดยไม่ได้กล่าวอะไรเนิ่นนานหรือกล่าวขัดจังหวะขึ้นมา เขามองจักรพรรดิชิงพร้อมเอ่ยคำ
“สหายเต๋าเนี่ยชิงยวิน เจ้ากล้าบอกข้าหรือไม่ว่าปฏิบัติต่อผู้คนในแดนเซียนตะวันออกด้วยทัศนคติเช่นนี้ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา?”
จักรพรรดิชิงไม่ตอบคำถาม
“หากไม่ยินยอมก็สังหาร ต่อให้ยินยอมก็สังหาร หากไม่ถวายเงินให้ก็สังหาร หากเห็นว่าสตรีตระกูลอื่นงดงามก็ฉุดรั้ง แล้วก็ยังสังหารครอบครัวเหล่านั้นทิ้งหมดสิ้น ที่สำคัญแดนเซียนตะวันออกมีเมล็ดพันธุ์ที่แข็งแกร่ง แต่เจ้ากลับกลบมันฝังดินจนไร้โอกาสเติบโต”
ไป๋ลี่จับจ้องเขา
“ข้าได้รับทราบเรื่องของเจ้าหมดสิ้น เจ้าอาจจะถูกเรียกขานว่าจักรพรรดิเซียน แต่พฤติกรรมของเจ้าไม่คู่ควรที่จะถูกเรียกขานว่าสหายเต๋า”
“แล้วพวกเจ้าทั้งสามล่ะ”
ไป๋ลี่หยิบสาส์นกองใหญ่ออกมาจากใต้โต๊ะ แล้วกระแทกมันลงบนโต๊ะอย่างแรง
เขาตบสาส์นก่อนจะมองจักรพรรดิเซียนทั้งทิศตะวันตก ทิศใต้ และทิศเหนือ
“พฤติกรรมของพวกเจ้าทั้งสามอาจจะดีกว่าเนี่ยชิงยวินเล็กน้อย”
“ฟังพวกข้าก่อน”
จักรพรรดิเฮยกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน
“เช่นนั้นจักรพรรดิเซียนองค์แรกคิดจะสังหารพวกเราอย่างนั้นหรือ?”
“แล้วอย่างไร?”
จักรพรรดิเซียนชิงยังคงเย้ยหยัน
“ผู้ควบคุมแดนเซียนตำแหน่งสูงส่ง แต่ความจริงกลับไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่สมัยโบราณ ข้าเพียงกล่าวความจริงเท่านั้น จักรพรรดิเซียนองค์แรก ท่านเตรียมพลังที่จะใช้ทำลายล้างพวกข้าแล้วหรือยัง?”
“ทำลาย? ไม่ จักรพรรดิเซียนอู่ฟางเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของข้า ไม่เหมาะสมที่จะใช้คำเช่น… ทำลายล้าง”
ขณะไป๋ลี่กำลังกล่าว เขาตบโต๊ะพร้อมคำราม
“วันนี้ข้าจะลงโทษเจ้า เจ้าเป็นจักรพรรดิเซียนหัวขโมยที่สร้างความวุ่นวาย เป็นอสูรร้ายนอกรีต!”
บรรยากาศภายในห้องประชุมเริ่มตึงเครียด ดวงตาของไป๋ลี่กวาดสายตามองจักรพรรดิเซียนทั้งสี่ทิศตรงหน้าอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดว่าชายทั้งสี่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไม่แยแสใด ๆ แววตาของพวกเขาไร้ซึ่งความหวาดกลัว ซ้ำยังดูขบขัน
“โอ้ สวรรค์”
จักรพรรดิเซียนตะวันตกกางมือพร้อมกล่าว
“ข้าเพิ่งบอกท่านไปว่าไม่มีงานเลี้ยงดี ๆ มาเนิ่นนานแล้ว นี่คือช่วงเวลาที่ดี แต่พวกเรากลับไม่เห็นงานเลี้ยงใด จักรพรรดิเซียนองค์แรก ตอนนี้ท่านตระเตรียมกระบี่แปดร้อยเล่ม และขวานอยู่นอกประตูอย่างนั้นหรือ?”
“หืม ดูเหมือนว่าวัยเด็กของจักรพรรดิเซียนชั่วหงจะเต็มไปด้วยความสนุกสนาน”
ไป๋ลี่เอื้อมมือไปคว้าขอบโต๊ะขนาดใหญ่ราคาแพงในห้องหารือแห่งนี้
“แต่น่าเสียดาย ข้าไม่ได้มาเพื่อนำอาหารมาให้แก่พวกเจ้า!”
จากนั้นเขาเปิดโต๊ะขนาดใหญ่นี้ขึ้นทันที
พลังเซียนพวยพุ่งออกมา และพลังเซียนสีขาวทำให้โต๊ะธรรมดานี้กลายเป็นความน่าสะพรึง มันพุ่งเข้าหาจักรพรรดิเซียนทั้งสี่ราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่!
ลำแสงสีขาววาบขึ้น จักรพรรดิตะวันตกดึงกระบี่ออกจากด้านหลัง ก่อนจะผ่าโต๊ะออกเป็นสี่ส่วน แต่หลังจากจัดการโต๊ะขนาดใหญ่นี้ ฝ่ามือของไป๋ลี่วูบไหวรวดเร็วราวกับเงา
จักรพรรดิเซียนตะวันตกสับฟันกระบี่ในมือ และยืนหยัดต่อต้านฝ่ามือของไป๋ลี่ พลังเซียนทั้งสองปะทะกันราวกับกระแสน้ำเชี่ยวกรากก่อนที่จะระเบิดรุนแรง ทั้งโรงแรมพังทลายลงในพริบตา กลายเป็นซากปรักหักพัง
“จักรพรรดิเซียนองค์แรก”
มีความตื่นตระหนกในแววตาของจักรพรรดิเซียนตะวันตก
“ชั่วหง จักรพรรดิเซียนตะวันตก ข้าจะแนะนำเจ้า!”
“ข้าไม่เห็นจดจำได้ว่าข้าได้รับตำแหน่ง จักรพรรดิเซียนตะวันตก”
ไป๋ลี่เพิ่มกำลังที่ฝ่ามือก่อนจะกล่าวว่า
“ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถใช้ ‘ไป๋’ เป็นแซ่ได้ มันคือข้อห้ามสำหรับจักรพรรดิเซียนอาวุโส ชั่วหงเจ้าไม่เข้าใจอย่างนั้นหรือ?”
ไป๋ลี่เร่งเร้าพลังเซียนและตัดสินเรื่องราวอย่างรวดเร็ว จักรพรรดิเซียนตะวันตกกระเด็นออกไปด้านหลังอย่างรุนแรง ร่างกายของเขาทุบบ้านเรือนพังไปนับไม่ถ้วน กระทั่งเกิดช่องว่างบนพื้นเป็นรอยไถยาวเหยียด
การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น และหลังจากที่จักรพรรดิเซียนตะวันตกลอยออกไป จักรพรรดิเซียนอีกสามคนก็ทะยานขึ้นสู่ยอดซากปรักหักพังที่ทลายลง จักรพรรดิเซียนชิงยืนนิ่ง จักรพรรดิชี่เผยเปลวเพลิงประหลาดในมือ ก่อนจะเร่งเร้ามันและปลดปล่อยไปทางทิศที่ไป๋ลี่ยืนอยู่ เสียงคำรามลั่นดังขึ้น จักรพรรดิเซียนเหนือกรีดร้องพร้อมทะยานเข้าหาไป๋ชิวหราน
จักรพรรดิเซียนทั้งสองใช้พลังของพวกเขาพร้อมกัน ทันใดนั้น เกิดห้วงนิมิตขึ้นบนท้องฟ้าและแผ่นดิน พื้นดินด้านล่างเริ่มแตกออกราวกับดินน้ำมันที่สูญเสียความชุ่มชื้น แสงสีแดงจาง ๆ เปล่งประกายออกมา เมฆบนท้องฟ้าเกิดเป็นผลึกน้ำแข็งร่วงหล่นโปรยปราย ทันทีที่ผลึกน้ำแข็งนี้สัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ มันกลายเป็นดอกไม้เหมันต์ขนาดใหญ่ทันที ทุกสิ่งที่พวกมันสัมผัสถูกแช่แข็งในเสี้ยวลมหายใจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพลังเหล่านี้แผ่กระจายออก พวกมันถูกจำกัดด้วยอาคมไร้ลักษณ์ในพริบตาเดียว!
ไป๋ลี่กระแทกฝ่ามือเข้ากับก้อนหินใหญ่ เขาหันทิศมันพุ่งเข้าใส่หมัดของจักรพรรดิเซียนชี่ ทันใดนั้นแสงสีทองและสีแดงก็ปะทะกันรุนแรง คลื่นพลังเหนือธรรมชาติของทั้งคู่ก่อให้เกิดระเบิดลูกใหญ่ พื้นดินสั่นสะเทือนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีเปลวไฟหนืดร้อนจัดอยู่ภายใต้!
สำหรับจักรพรรดิแดนเซียนเหนือที่วิ่งเข้าหาไป๋ชิวหราน มีลำแสงสีทองปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา จักรพรรดิเฮยถูกจับกุมโดยไม่ทันระวัง แสงสีทองนั้นปิดกั้นเอาไว้จนต้องถอยร่น
ลำแสงสีทองลอยอยู่ในอากาศ มันคือกระบี่ทองสัมฤทธิ์ และจักรพรรดิเซียนเฮยแตะแก้มของตนอย่างแผ่วเบา ยามนี้มันถูกฉีกออกเป็นบาดแผล และโลหิตแดงฉานหลั่งไหลออกจากเนื้อที่ถูกตัดขาด
ไป๋ลี่ขวางทางจักรพรรดิเซียนชี่ด้วยมือข้างหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือออกมา กระบี่ทองสัมฤทธิ์ตกลงไปอยู่ในมือของเขา และกระชับกระบี่นั้นไว้แน่น
“สหายเต๋า… จักรพรรดิภูตผีเป็นแขกจากแดนไกล เขาจะกระทำหยาบคายได้อย่างไร”
ไป๋ลี่ยิ้มและกล่าวต่อ
“อย่างไรเสีย ข้าผู้นี้จะเป็นคนให้ความบันเทิงแก่เจ้าเอง”