ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 322 พลังของขอบเขตซากปรักหักพังหวนคืน
บทที่ 322 พลังของขอบเขตซากปรักหักพังหวนคืน
บทที่ 322 พลังของขอบเขตซากปรักหักพังหวนคืน
ไป๋ลี่เพียงหนึ่ง ต่อสู้กับจักรพรรดิเซียนทั้งสามจากทิศตะวันตก ใต้ และเหนือ ทั้งหมดพร้อมใจกันเปิดเผยไพ่ตายของตนเอง พลังของจักรพรรดิเซียนทั้งห้าอัดแน่นรวมกันอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ แห่งนี้ ทุกการปะทะคือการระเบิดของพลังงานมหาศาลที่สามารถพังทลายภูเขา หรือตัดขาดแม่น้ำได้
พวกเขาไม่อาจออกไปจากสถานที่แห่งนี้เพื่อสร้างความเสียหายให้กับส่วนอื่น ๆ ได้ นั่นคือเหตุผลที่สถานที่แห่งนี้มีค่ายอาคมโปร่งใสครอบเอาไว้อย่างแน่นหนา
กล่าวอีกอย่างคือ ไป๋ชิวหรานมีหน้าที่ดูแลเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด
ดังนั้นจึงไม่เคลื่อนไหวกายไปที่ใด ประการแรก เขามีหน้าที่ดูแลค่ายอาคมเพื่อไม่ให้จักรพรรดิเซียนทั้งสี่ในเขตแดนป้องกันนี้ปลดปล่อยพลังไปทำลายพื้นที่ด้านนอกของยอดเรือนเซียนสวรรค์สงัด
ประการที่สอง เขากำลังเฝ้าระวังจักรพรรดิเซียนตะวันออกชิง เมื่อไป๋ลี่ต่อสู้กับจักรพรรดิเซียนทั้งสาม จักรพรรดิชิงคอยเฝ้ารับชมสถานการณ์โดยตลอด แม้จะไม่เคลื่อนไหว แต่เขาก็ควบรวมวิถีสวรรค์ไว้ในมือตลอดเวลา!
แม้ไป๋ลี่จะแข็งแกร่งมากจนสามารถต่อสู้แบบสามต่อหนึ่ง หรือสี่ต่อหนึ่งในขอบเขตพลังเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถต่อสู้กับวิถีสวรรค์ได้ในเวลานี้
จักรพรรดิตะวันออกไท่อีที่แข็งแกร่งมากเช่นนั้นจึงยังไม่กล้าบุกทะลวงเข้าสู่ขอบเขตวิถีสวรรค์ตามใจชอบ ดังที่ทราบ เขาขโมยพลังของวิถีสวรรค์ เช่นนั้นจึงแข็งแกร่งไร้เทียมทาน หากละทิ้งพลังเหนือธรรมชาติและอาวุธเวทแล้ว ในแง่ของความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว จักรพรรดิตะวันออกไท่อีแข็งแกร่งยิ่งกว่าไป๋ลี่
ไป่ชิวหรานพร้อมที่จะลงมือได้ทุกเมื่อ และเตรียมปิดกั้นใบมีดให้กับศิษย์ อย่างไรเสียวิถีสวรรค์ก็ไม่มีประโยชน์ใดสำหรับเขา และหากต้องถูกลดขั้นการฝึกฝน เขาก็อยู่ในขั้นกลั่นลมปราณเท่านั้น หรือหากมีสิ่งใดผิดพลาดจริง ๆ และต้องเริ่มฝึกฝนใหม่ทั้งหมด ไป๋ชิวหรานอาจจะรวดเร็วยิ่งกว่าไป๋ลี่และจักรพรรดิเซียนองค์อื่น ๆ
ใจกลางสนามรบ การปะทะกันของจักรพรรดิเซียนทั้งห้าบนน่านฟ้าได้มาถึงจุดแตกหัก จักรพรรดิตะวันตกกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง กระบี่ในมือของเขาสับฟันออกไป วาดปราณกระบี่ปลดปล่อยพลังรุนแรงออก มันแบ่งพลังเซียนที่ใหญ่โตและบริสุทธิ์ของไป๋ลี่ออกเป็นหลายแฉก
ไป๋ลี่ยกกระบี่ขึ้นเพื่อโจมตีอีกฝ่าย แม้จะมีประสบการณ์ในด้านกระบี่มากกว่าเล็กน้อย แต่จักรพรรดิตะวันตกก็ใช้ประโยชน์จากอาวุธที่แข็งแกร่งของตนเองสับฟันอาวุธในมือของจักรพรรดิซือเซียนอย่างรวดเร็วจนแตกหัก
ไป๋ลี่โยนอาวุธที่แตกหักทิ้งไปก่อนจะหลบปราณกระบี่ที่พุ่งเข้ามา จักรพรรดิตะวันตกใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้โจมตีจักรพรรดิซือเซียนอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ไป๋ลี่ต้องร่นถอยไปจนไม่อาจตั้งรับจักรพรรดิเซียนทั้งสามได้อีก
คลื่นพลังจากกระบี่ลุกโชติช่วง มันทุบพื้นดินและผ่าอากาศออกเป็นรอยแตก แต่เมื่อกระทบกับค่ายอาคมโปร่งแสงแล้ว ปราณกระบี่เหล่านั้นสะท้อนกลับในพื้นที่เล็ก ๆ ของจักรพรรดิเซียนเหล่านี้ มันทำให้การหลบหลีกของจักรพรรดิเซียนองค์แรกเช่นไป๋ลี่ยากลำบาก
จากระยะไกล จักรพรรดิชี่ จักรพรรดิเฮย และจักรพรรดิชิงต่างเริ่มควบแน่นพลัง ทั้งหมดกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวที่ทรงพลังที่สุดของตน
เปลวไฟในร่างกายของจักรพรรดิชี่ถูกบีบอัดจนกลายเป็นแก่นแท้ดวงดาวขนาดเล็กอยู่ในฝ่ามือ และจักรพรรดิเฮยก็ยังปลดปล่อยพลังเซียนทั้งหมดลงในผลึกน้ำแข็งสีน้ำเงินอ่อนภายในมือด้วยเช่นกัน
วิถีเต๋านั้นเรียบง่าย ดูเหมือนว่าทั้งสองจะเป็นผู้ฝึกตนขั้นสร้างรากฐานที่เพิ่งจะทะลวงผ่านมาได้ แต่ภายในกลับเข้าใจถึงวิถีเต๋าแห่งจักรพรรดิเซียนของสวรรค์และโลก การปลดปล่อยพลัง รวมไปถึงการปลดปล่อยความร้อน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของสสารที่เกิดจากอุณหภูมิที่แปรเปลี่ยน ทั้งหมดบรรจุอยู่ในสิ่งเล็ก ๆ ในฝ่ามือของจักรพรรดิชี่และจักรพรรดิเฮย
จักรพรรดิชิงที่อยู่อีกด้านยังคงควบแน่นใบมีดสามใบ ใบมีดรูปร่างคล้ายกับใบไผ่เปรียบได้กับอสรพิษร้ายที่กำลังจับจ้องจักรพรรดิเซียนองค์แรกอย่างเงียบเชียบ
ขณะที่ไป๋ลี่ถูกกระบี่ของจักรพรรดิตะวันตกชั่วหงต้อนจนเข้ามุม ทันใดนั้นชั่วหงก็เปิดฉากฟันกระบี่ไขว้แล้วถอยหลังกลับรวดเร็ว ก่อนที่จักรพรรดิชี่ที่อยู่ด้านหลังส่งเสียงคำรามดังก้อง
“ตอนนี้แหละ!”
ในเวลาเดียวกัน จักรพรรดิชี่โยนแก่นแท้ดวงดาวในมือออก และจักรพรรดิเฮยพร้อมจักรพรรดิชิงปลดปล่อยผลึกน้ำแข็ง และใบมีดในมือออกอย่างรวดเร็ว
หลังจากแก่นแท้ดวงดาวและผลึกน้ำแข็งถูกปลดปล่อยออกจากฝ่ามือ ไป๋ลี่เหลือบมองด้วยความสงสัย เขาเห็นโลกสองใบภายในสิ่งนั้น มันคือฝนเพลิง และพื้นดินยังปะทุไปด้วยลาวา มีภูเขาไฟระเบิดไร้สิ้นสุด พวกมันเหล่านี้ถูกผนึกไว้ในน้ำแข็งเย็นเยือก!
และในเวลาต่อมา โลกใบเล็กหลอมรวมเข้ากับแก่นแท้ดวงดาวขนาดเล็ก พร้อมด้วยผลึกน้ำแข็งที่พุ่งทะยานเข้าหาเขา!
ไป๋ลี่รีบก้าวถอยโดยเร็ว พยายามหลบหลีกเวทคาถาร้ายแรงทั้งสองนี้ ทว่าใบไผ่สีเขียวที่ทรงพลังหลบโจมตีในจุดบอดของเขา ไป๋ลี่จำเป็นต้องปิดกั้นการโจมตีของใบไผ่อย่างไม่เต็มใจนัก
เวลานี้มันสายเกินไปแล้วที่จะหลบเลี่ยง รอยยิ้มแห่งความผ่อนคลายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของไป๋ลี่
ทันใดนั้น เขาผ่อนคลายร่างกายและยกมือขึ้น อีกทั้งท่วงท่าประหลาดก็ถูกเผยออก มือประสานไว้ที่หน้าอกราวกับว่ากำลังโอบกอดบางสิ่งที่มีพลังทำลายล้างสูง
ในฝ่ามือปรากฏแสงสีทองเปล่งประกาย มันค่อย ๆ โคจรรอบร่างกายของเขาก่อนจะก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนไร้ลักษณ์ พลังเวทที่ทรงพลังของจักรพรรดิชี่และจักรพรรดิเฮยถูกดูดเข้ามาในกระแสน้ำวนอย่างไร้แรงต้าน
“ทักษะเหล่านี้ยอดเยี่ยมไม่น้อย”
ไป๋ลี่มองแก่นแท้ดวงดาวและกรวยน้ำแข็งภายในกระแสน้ำวนก่อนจะกล่าวชื่นชม
“แต่ในโลกใบนี้… ไม่ใช่เพียงพวกเจ้าที่มีไพ่ตาย เจ้าสามคนคิดจริง ๆ อย่างนั้นหรือว่าข้าหลับใหลตลอดเจ็ดหมื่นปีที่ผ่านมา?”
เขาประสานมือเข้าด้วยกัน ทำให้กระแสน้ำวนในมือดูดกลืนการเคลื่อนไหวที่ทรงพลังที่สุดของจักรพรรดิชี่และจักรพรรดิเฮยเอาไว้
นี่คือพลังเหนือธรรมชาติของขอบเขตซากปรักหักพังหวนคืน จิตวิญญาณของไป๋ลี่ถูกกักขังไว้บนกำแพงแห่งความตระหนักรู้ว่าเจ็ดหมื่นปี เขาไม่สามารถฝึกตน และไม่สามารถทะลวงผ่านขอบเขตซากปรักหักพังหวนคืนได้ เขาจึงคิดหาวิธีเพื่อชดเชยความขาดแคลนพลังในช่วงเวลานี้แทน
หลังจากดูดกลืนไพ่ตายของจักรพรรดิชี่และจักรพรรดิเฮยเสร็จสิ้น ฝ่ามือของไป๋ลี่ก็หยุดไปชั่วขณะ ก่อนจะยกขึ้นอีกครา เป้าหมายในคราวนี้คือจักรพรรดิเซียนทั้งสองคนที่ยืนอยู่บนพื้น
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย แววตาของจักรพรรดิชี่วูบไหวก่อนคำรามเสียงดัง
“ถอย!”
เขาถอยกลับและเริ่มหนีอย่างรวดเร็ว ในขณะที่จักรพรรดิชิงกับจักรพรรดิเฮยที่อยู่ด้านข้างได้เปิดมิติในห้วงกระแสความว่างเปล่าออกไปอย่างเงียบ ๆ ทั้งหมดยืนอยู่ที่ขอบเขตของค่ายอาคมโปร่งใส
ขณะนี้เหลือเพียงจักรพรรดิตะวันตกเท่านั้น เขารีบออกจากพื้นที่ให้ไกลที่สุด และไม่เคยคิดเลยว่าไป๋ลี่จะสามารถกำจัดพลังเวทของจักรพรรดิชี่และจักรพรรดิเฮยได้ง่ายดายเช่นนี้!
แก่นแท้ดวงดาวและผลึกน้ำแข็งปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของไป๋ลี่ แต่ในเวลานี้เป้าหมายของพวกมันคือจักรพรรดิเซียนทั้งสี่ทิศ
จักรพรรดิตะวันตกไม่มีทางเลือกนอกจากใช้อาวุธวิเศษในมือ เขายกกระบี่ขึ้นและพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำลายแก่นแท้ดวงดาวและผลึกน้ำแข็งตรงหน้า
ทันทีที่ปะทะ พลังเหนือธรรมชาติมหาศาลระเบิดออกกว้าง ก่อนจะทำลายพื้นที่ทั้งหมดอย่างร้ายแรง แต่ค่ายอาคมโปร่งใสยังคงปิดกั้นการระเบิดของพลังภายในได้อย่างยอดเยี่ยม
มิฉะนั้น การระเบิดคราวนี้น่าจะสามารถเขย่าแดนเซียนทั้งหมดได้ง่ายดาย แดนเซียนตะวันออกแห่งนี้อาจจะถึงคราวล่มสลายได้
ไม่กี่ลมหายใจต่อมา พลังรุนแรงในค่ายอาคมค่อย ๆ จางไป ทั้งหมดถูกปิดกั้นเอาไว้ด้วยอาคมแกร่งกล้าจนไม่อาจหลบหนีได้ พวกเขาต้องเปิดห้วงมิติแล้วพุ่งเข้าไปในห้วงกระแสแห่งความว่างเปล่าเท่านั้น
พื้นที่ทั้งหมดกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่มากมาย เหลือเพียงสถานที่ที่ไป๋ชิวหรานกับเล่อเจิ้นเทียนยืนอยู่ มันเป็นแผ่นดินเล็ก ๆ สำหรับฝ่าเท้าเท่านั้น พลังรุนแรงทั้งหมดถูกเขาถ่ายเทออกไปยังห้วงกระแสความว่างเปล่าจนเกิดเป็นเสาสองต้นสูงขึ้นจากพื้นดิน!
กลางอากาศ กระบี่ของจักรพรรดิตะวันตกร่วงหล่น และปักลงบนพื้นดินที่ไหม้เกรียมด้านล่าง แม้แต่จักรพรรดิเซียนที่ล้มลงและตายตกไปยังไม่เหลือร่างกายไว้ให้รับชม…
ที่ขอบเขตอีกด้าน จักรพรรดิชี่พยายามเจาะพื้นดินด้วยเนื้อหนังของร่างกายที่ถูกเผาไหม้ กงล้อด้านหลังศีรษะของเขาเปล่งประกายและเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว!
ร่างกายเซียนของเขาฟื้นตัวกลับคืนอย่างรวดเร็วก็จริง แต่เรี่ยวแรงและพลังในร่างกายกลับอ่อนแอยิ่ง
อีกด้านหนึ่ง จักรพรรดิเฮยพุ่งออกมาจากรอยแตกของมิติ นางล้มลงพร้อมเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่ง เผยให้เห็นทิวทัศน์ขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านชูชัน นางกอดหน้าอกของตนเองไว้แน่นพร้อมกับหายใจหอบหนัก
พลังของนางยังไม่ฟื้นคืนนัก แต่มันยังดีกว่าจักรพรรดิชี่เล็กน้อย
มีเพียงจักรพรรดิชิงเท่านั้นที่อยู่ด้านข้าง แม้จะได้รับผลกระทบ ทว่ากลับมีเพียงโลหิตที่มุมปาก อีกทั้งท่าทางยังคงสง่าเช่นเคย และดูเหมือนว่ายังเหลือพลังเอาไว้ต่อสู้
“เจ้าไม่สามารถเอาชนะข้าได้”
ไป๋ลี่ค่อย ๆ ทะยานวาบลงมาเบื้องบน พร้อมกล่าวคำด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“ข้าแบกรับยุคสมัยไว้บนบ่า หากพ่ายแพ้ให้กับพวกเจ้าที่คิดขัดขวางการสร้างแดนเซียน มรณสักขีนับไม่ถ้วนที่ตายตกในสนามรบคงไร้ความหมาย… เช่นนั้น ข้าจะไม่มีวันพ่ายแพ้ต่อพวกเจ้า!”