ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 336 ไข่ยักษ์สีชมพู
บทที่ 336 ไข่ยักษ์สีชมพู
บทที่ 336 ไข่ยักษ์สีชมพู
ไป๋ชิวหรานติดตามเซียนหงเฉินซึ่งวิ่งเข้าไปยังที่หลบภัยในป่าไผ่
ชายหนุ่มออกจากโลกนั้นไปเพียงคนเดียว นับตั้งแต่ที่เซียนหงเฉินรับผิดชอบในการเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงในเขตแดนจิตสำนึกของโลกนั้น
หลังจากคลี่คลายผนึกบนพื้นดิน เซียนหงเฉินได้นำทางไป๋ชิวหรานเข้าสู่โลก… โลกเสมือนนั้นแขวนอยู่บนแท่นหินในลานเล็ก ๆ รูปร่างของมันไม่ต่างจากไข่มุก ซึ่งขณะนี้กำลังเปล่งประกายลำแสงออกมาอย่างเข้มข้น
ก่อนที่ทั้งสองจะมายังโลกใบนี้ พวกเขาได้มองดูโลกผ่านค่ายอาคมป้องกันของโลกใบนี้
แน่นอนว่าภายในเขตแดนจิตสำนึกหลากสีสันได้มีอสูรบางตัวเริ่มปรากฏขึ้น แต่สิ่งที่ประหลาดที่สุดนั่นก็คือศูนย์กลางของเขตแดนจิตสำนึก มีไข่ยักษ์ลวดลายซับซ้อนสีชมพูอ่อนปรากฏขึ้นที่นั่นด้วย!
ไข่ยักษ์นี้ตั้งอยู่ที่เขตแดนจิตสำนึก มันดูดซับพลังของจิตสำนึกรอบข้างอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังพัฒนาการเติบโตได้ด้วยตนเอง พลังภายในไข่ยักษ์ใบนี้คงที่สม่ำเสมอ ราวกับว่ามันคือการหายใจของสิ่งมีชีวิต
“ไข่ใบนี้ปรากฏขึ้นเมื่อใด?” ไป๋ชิวหรานกล่าวถาม
“เมื่อวานขอรับ” เซียนหงเฉินกล่าวตอบ
“เมื่อคืนก่อน เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงในเขตแดนจิตสำนึกภายในโลกใบนี้ ข้ากำลังปฏิบัติภารกิจประจำวันอยู่ในบ้านก็สัมผัสได้ถึงสถานการณ์นี้ จึงรีบเร่งออกมารับชม และในเวลานั้นไข่ใบนี้ก็ถือกำเนิดขึ้นแล้ว แต่ว่าเมื่อวานมันไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่าตอนนี้”
“คงจะมีบางอย่างเกิดขึ้นในโลก เพราะการเปลี่ยนแปลงนี้นับว่ายิ่งใหญ่ไม่น้อย”
ไป๋ชิวหรานหันมองดูโลกอันกว้าง เขาเห็นแต่ฉากร้องเพลงและเต้นรำในประเทศต่าง ๆ และประเทศโดยรอบก็ยังคงมีความสงบสุขอยู่เช่นเคย…
“ศิษย์สังเกตการณ์ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และไม่พบว่ามีสิ่งแปลกประหลาดในโลกของเรา”
เซียนหงเฉินก้มศีรษะขณะกล่าวตอบ
ไป๋ชิวหรานจับจ้องครู่หนึ่งก่อนจะส่ายศีรษะขณะกล่าวว่า
“ไม่ เจ้าคงไม่ทันสังเกตเห็น…”
จากนั้น เขาได้ใช้พลังเหนือธรรมชาติเร่งเวลาของโลกใบนั้นให้เข้าสู่ช่วงกลางคืน จากนั้นชี้ไปยังสถานที่หนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น
“รับชม”
เซียนหงเฉินมองดูและพบว่าสถานที่ที่ไป๋ชิวหรานชี้ไปคือเมืองหลวงของจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในโลก
หลังพลบค่ำ ภายในห้องโถงแยกของพระราชวัง จักรพรรดิกำลังเพลิดเพลินกับเหล่าขุนนางใกล้ชิด
สถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย สาวงามกำลังขับร้องและเต้นรำ เหล่าสนมของจักรพรรดิ ภรรยาและบุตรหลานของเหล่าขุนนาง อีกทั้งยังมีเด็กชายและเด็กหญิงที่ถูกลักพาตัวมาด้วย!
ในช่วงเวลานั้น บรรยากาศทั้งหมดล้วนพิสมัยเกินกว่าจะมอง มันยิ่งกว่าบ่อสุราและป่าเนื้อเสียอีก!
ขณะที่พวกเขากำลังเพลิดเพลินกับความสุขสม ไป๋ชิวหรานและเซียนหงเฉินเห็นว่ามีคลื่นพลังชั่วร้ายแผ่ออกจากร่างกายของพวกเขาเหล่านั้น และมันถูกดูดซับเข้าไปในเขตแดนจิตสำนึก ทุกสิ่งถูกกลืนกินโดยไข่ยักษ์สีชมพูอ่อนใบนั้น
“นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมอสูรจึงถือกำเนิดขึ้น”
ไป๋ชิวหรานถอนหายใจพร้อมส่ายศีรษะเล็กน้อย
“ราชวงศ์อยู่ในจุดสูงสุด แต่คาดว่าคงจะเหลือเวลาอีกไม่มาก… การเห็นเพื่อนมนุษย์เป็นสิ่งฟุ่มเฟือย จิตสำนึกอสูรคงจะก่อเกิดจากตัวตนที่ขาดจิตสำนึกที่ดีของมนุษย์… เพลิดเพลินกันมากเกินไปแล้ว”
“ดูเหมือนว่าสำหรับมนุษย์แล้ว จะต้องเป็นการกระทำอย่างต่อเนื่องสะสมมายาวนาน นั่นจึงจะเพียงพอให้เกิดการตอบสนองในจิตสำนึกของพวกเขา”
เซียนหงเฉินหยิบพู่กันและกระดาษออกมาเพื่อจดบันทึก
“จับตาดูต่อไป” ไป๋ชิวหรานกล่าว
…
หลังจากนั้น เพื่อให้การสังเกตเป็นไปอย่างราบรื่น ไป๋ชิวหรานจึงเร่งเวลาของโลกใบนี้ให้เร็วขึ้น
เวลาในโลกใบนั้นผ่านไปสิบปี ในขณะที่ชายหนุ่มและคนอื่น ๆ อยู่ที่นี่ไม่ถึงหนึ่งเดือนเท่านั้น
“ในที่สุด ไข่ยักษ์ใบนั้นก็ใกล้ฟักเต็มที”
ไป๋ชิวหรานกับเซียนหงเฉินจับตามองไข่ยักษ์สีชมพูในเขตแดนจิตสำนึก ส่วนหลี่จิ่นเหยาและถังรั่วเวยก็จับจ้องด้วยความใคร่รู้เช่นกัน
“ถึงเวลาที่ราชวงศ์นี้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว”
สายตาของไป๋ชิวหรานจับจ้องโลกใบนั้น บางประเทศใกล้เคียงเริ่มเกิดความวุ่นวายแล้ว เพราะเมื่อประเทศใหญ่ที่สุดขาดความมั่นคง ประเทศเล็ก ๆ จึงเริ่มสับสนไปด้วย
แม้ราชวงศ์ยังคงใช้อำนาจกับกองกำลังทหารเพื่อปราบปรามและปกครอง แต่ชาวนาจำนวนมากกำลังก่อความวุ่นวายในประเทศ ในความคิดของไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ เห็นชัดว่าตระกูลที่ร่ำรวยต่าง ๆ เริ่บสมคบคิดกันอย่างลับ ๆ เพราะต้องการฉวยโอกาสจากสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะนี้พวกเขาจึงพยายามช่วงชิงอำนาจกันเอง
อย่างไรก็ตาม ราชสำนักขี้โกงกับจักรพรรดิผู้ขี้ขลาดยังไม่ทันสังเกตเห็นพฤติกรรมเหล่านั้น อีกไม่กี่วันจะเป็นวันคล้ายวันประสูติของจักรพรรดิแห่งจักรวรรดินี้ในวาระครบรอบสามสิบปี เมืองหลวงจึงตระเตรียมการเฉลิมฉลองไว้เสียใหญ่โต
สำหรับงานใหญ่ในคราวนี้ เจ้าหน้าที่การคลังได้นำรถขนเงินและทองออกมาจากสถานที่ต่าง ๆ โดยทั้งหมดคือคำสั่งจากจักรพรรดิที่ให้ส่งของมีค่าต่าง ๆ เข้าสู่เมืองหลวงของจักรวรรดิ ในระหว่างนี้ข้าราชบริพารทุกระดับก็ไม่ลืมที่จะเก็บเงินเข้ากระเป๋าส่วนตัว ผลลัพธ์คราวนี้คือประชาชนถูกเอาเปรียบและมีเรื่องร้องเรียนดังก้องไปทุกพื้นที่
ภายในงานใหญ่คราวนี้ จักรพรรดิและขุนนางคนโปรดก็ตระเตรียม ‘งาน’ ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อย่างลับ ๆ
ไป๋ชิวหรานหมุนเวลาให้เร็วขึ้น ภายในพริบตาก็มาถึงวันเกิดของจักรพรรดิแล้ว เมืองหลวงทั้งหมดเจริญรุ่งเรืองในวันนั้น อาณาบริเวณเต็มไปด้วยสีสันหลากหลาย อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความครื้นเครง ทว่าภายในหมู่บ้านน้อยใหญ่ที่อยู่ห่างออกไป ชาวนาบางคนตายตกเพราะความอดอยากเนื่องจากไร้ซึ่งอาหารลงท้อง…
ต้นไม้ใหญ่ในจักรวรรดินี้กลายเป็นโพรงกลวงโบ๋ ข้างในผุพังหมดสิ้นเสียแล้ว
เมื่อถึงตอนเย็น จักรพรรดิกับเหล่าขุนนางคนโปรดได้กระทำสิ่งที่พวกเขาคาดหวังและเปิดเผย ‘การแสดง’ ที่ชื่นชอบ สำหรับไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ ที่กำลังจับจ้องอย่างใกล้ชิดอยู่นั้น หลี่จิ่นเหยากับถังรั่วเวยเผยใบหน้าแดงก่ำและไม่อาจทนมองได้อีกต่อไป
แต่หลี่จิ่นเหยา แม่นางตัวน้อยนั้นเพียงยกมือปกปิดหน้าไว้เท่านั้น ทว่านิ้วเรียวยาวกลับแยกออกให้สามารถมองเห็น และดวงตาทั้งสองของนางยังเปล่งประกายราวกับได้รับชมเรื่องสนุก
และเมื่อถึงจุดสุดยอดของ ‘งานเลี้ยง’ ในครั้งนี้ เขตแดนของจิตสำนึกก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น!
ไข่ยักษ์สีชมพูดูเหมือนจะรับรู้ได้ถึงงานเลี้ยงที่ไร้สาระนี้ด้วยเช่นกัน จากนั้น ด้านบนของไข่ยักษ์จึงเกิดรอยปริแตก เสียงคมชัดดังขึ้นและไม่นานก็เกิดรอยแยกบนไข่ใบนั้น!
ช่องว่างที่ปรากฏมีควันสีชมพูลอยออกมาก่อนจะแผ่ขยายไปยังอสูรที่อยู่ใกล้เคียง อสูรเหล่านั้นกลับกลายเป็นฟุ้งซ่าน และจู่ ๆ ก็เกิดบ้าคลั่งขึ้นมา ร่างกายของพวกมันสั่นสะท้านราวกับไม่อาจควบคุม
ร่างกายของพวกมันบิดเบี้ยว รูปร่างเดิมเปลี่ยนแปลงไปจากหมอกและควันเหล่านั้น มันแปลงกลายเป็นบุรุษและสตรีงดงาม อสูรเหล่านี้ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะใด ๆ เมื่อถูกควันสีชมพูปกคลุม พวกมันก็เริ่มที่จะร่วมรักกับเพศตรงข้ามอย่างบ้าคลั่ง!
ในระหว่างการร่วมรัก ร่างกายของพวกมันก็ค่อย ๆ เหี่ยวแห้งไป พลังแก่นแท้ในร่างกายถูกพ่นออกมาเป็นลำแสงสีชมพู ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกดูดซับเข้าไปในรอยแยกของไข่ยักษ์สีชมพูใบนั้น
ไม่นานนักอสูรที่อยู่โดยรอบล้วนแห้งตายหมดสิ้น อสูรระดับต่ำเหล่านี้เกิดจากความไร้จิตสำนึกของมนุษย์ มันไร้ซึ่งพลังและแก่นแท้อันสำคัญ ดังนั้นมันจึงไม่อาจถือกำเนิดขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง
หลังจากดูดซับอสูรระดับต่ำทั้งหลายจนหมดสิ้น ไข่ยักษ์สีชมพูเริ่มสั่นสะเทือนเล็กน้อย ก่อนที่เขตแดนจิตสำนึกทั้งหมดจะเริ่มสั่นไหว
อสูรระดับต่ำในเขตแดนจิตสำนึกคล้ายกับกำลังสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง พวกมันกรีดร้องออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ จากนั้นสัญชาตญาณจึงเริ่มทำงาน ทั้งหมดเริ่มเคลื่อนตัวเข้าหาไข่ยักษ์อย่างพร้อมเพรียง
ในขณะที่ ‘งานเลี้ยง’ ภายในเมืองหลวงของจักรวรรดิแห่งโลก ขุนนางตัวอ้วนกับเหล่าทาสรับใช้ผอมแห้งกำลังหัวเราะและกระโดดโลดเต้นอยู่กลางพระราชวัง ทุกคนล้วนกอดรัดสาวน้อยอรชรที่สวมใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นในสระน้ำอย่างครื้นเครง
น้ำในสระใสสะอาดจนมองเห็นทุกสิ่ง ตอนนี้มันเต็มไปด้วยอัญมณี ทองคำ และเครื่องเงินวิจิตรตระการตา แสงไฟจึงไร้ซึ่งความจำเป็นในเวลานี้ เพราะเพียงแค่แสงสะท้อนระยิบระยับจากสมบัติเหล่านี้ก็สามารถทำให้พระราชวังเปล่งประกายสว่างไสวไปทั่วแล้ว
จักรพรรดิสวมใส่กางเกงสีทองตัวเดียวยืนอยู่บนสะพานเล็ก ๆ ด้านบนของสระน้ำ มือของเขาโอบกอดนางสนมเปลือยเปล่าไว้ข้างกาย มืออีกข้างถือสุราชั้นเลิศ ก่อนจะชี้ไปที่ขุนนางใกล้ชิดซึ่งกำลังว่ายน้ำอยู่ในสระเงินและทอง ทั้งหมดหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุข
เมื่อรับรู้ถึงสถานการณ์ที่ต่ำช้าในเขตแดนจิตสำนึก รอยร้าวที่สองจึงค่อย ๆ ปรากฏขึ้น เหนือเปลือกไข่ยักษ์สีชมพู…