ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 344 สามารถสร้างรากฐานได้หรือไม่
บทที่ 344 สามารถสร้างรากฐานได้หรือไม่?
บทที่ 344 สามารถสร้างรากฐานได้หรือไม่?
โลกแห่งนี้เป็นเรื่องของการกำหนดจิตสำนึก สสารเกิดก่อนแล้วจิตสำนึกจึงค่อย ๆ เกิดขึ้นตาม ความสัมพันธ์ระหว่างโลกและเขตแดนจิตสำนึกก็เป็นเช่นเดียวกัน
แต่ในห้วงมิติแห่งจิตสำนึกนี้แตกต่างออกไป เห็นได้ชัดว่าสติสัมปชัญญะสามารถกำหนดการเกิดของสสารได้ในมิติแห่งจิตสำนึกนี้
เมื่อเข้าสู่ดินแดนแห่งนี้ เห็นได้ชัดว่าถังรั่วเวยไม่ได้ระงับความคิดของตนเอง และสิ่งที่นางคิดฝันอยู่ตลอดเวลามีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นภายใต้จิตสำนึกของนาง!
นางมีหน้าอก และถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงความฝันระยะสั้น แต่ภายในขอบเขตของจิตสำนึกแห่งนี้ นางได้รับสิ่งที่ถวิลหามาตลอด
ดังนั้นไป๋ชิวหรานจึงคิดว่าหากถังรั่วเวยสามารถให้กำเนิดหน้าอกของตนเองได้สำเร็จ เขาจะสามารถติดตามผลที่ยอดเยี่ยมของเขตแดนจำนึกแห่งนี้ได้ อีกทั้งยังสามารถประสบความสำเร็จในการสร้างรากฐานอีกด้วย!
ไป๋ชิวหรานจึงปลดปล่อยจิตใจและเริ่มคิดถึงเรื่องนี้ด้วยกำลังทั้งหมด
อยากสร้างรากฐาน อยากสร้างรากฐาน อยากสร้างรากฐาน…
ไป๋ชิวหรานไม่ได้สังเกตว่าเมื่อเขาเริ่มคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้อยู่นั้น ระลอกคลื่นแสงก็ปรากฏในเขตแดนจิตสำนึกในบัดดล
…
ในเวลาเดียวกัน เหล่าเซียนที่คอยปกป้องอยู่ด้านนอกก็สังเกตเห็นว่าเขตแดนจิตสำนึกภายในเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง ซ้ำยังมีสัญญาณการล่มสลายอยู่ที่เขตแดนนั้น!
พลังเหนือธรรมชาติเหล่านั้นประกอบขึ้นเป็นอาณาจักรแห่งจิตสำนึก ดูเหมือนว่าจะรวบรวมจากที่ใดไม่ทราบ แต่มันกำลังพัฒนาและก่อตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทว่าพลังของเขตแดนจิตสำนึกนี้เบาบางเกินไป จุดกำเนิดจึงเพียงคล้ายหลุมดำที่ดูดกลืนเขตแดนจิตสำนึก และบังคับให้เขตแดนจิตสำนึกกลายเป็นบางสิ่ง… เช่นกระแสน้ำวน
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วเขตแดนจิตสำนึกก็ยังคงปั่นป่วน หลังจากเกิดเสียงดังสนั่น มันก็แตกออกเป็นสายน้ำแห่งจิตสำนึกนับไม่ถ้วนที่ระเบิดออกมา!
และการระเบิดของเขตแดนจิตสำนึกยังทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ในที่สุด แม้แต่มิติที่เคยมีอยู่ก็ยังพังทลายลงและจางหายไป
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ส่งผลให้เหล่าเซียนทั้งหมดเริ่มหวาดกลัว พวกเขาไม่รู้ว่าการที่จักรพรรดิภูตผีพาหญิงสาวทั้งสองเข้าไปด้านในนั้นเป็นการโยนแมลงเม่าเข้าสู่กองไฟหรือไม่
พวกเขาติดอยู่ที่ขอบของปราการป้องกัน เซียนเหล่านี้เริ่มใช้พลังเหนือธรรมชาติตรวจสอบสถานการณ์ภายในอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่ในมิติของการระเบิด จักรพรรดิภูตผียังมีชีวิตอยู่ และเขากำลังอุ้มหญิงสาวไว้ในมือข้างหนึ่ง ดูเหมือนว่าทั้งสามยังไม่บุบสลายแต่อย่างใด
เมื่อเห็นเช่นนี้ เหล่าเซียนทั้งหมดจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“องค์เหนือหัวจักรพรรดิภูตผี”
เมื่อเห็นไป๋ชิวหรานพาหลีจิ่นเหยาและถังรั่วเวยออกจากโลกใบนั้น เหล่าเซียนทั้งหมดจึงรีบถาม
“ท่านทำสิ่งใดในนั้นหรือ?”
ไป๋ชิวหรานกระแอมไอเบา ๆ เขาไม่สนใจแววตาเฉียบแหลมของหลีจิ่นเหยาและถังรั่วเวย ก่อนจะกล่าวตอบอย่างใจเย็น
“ไม่มีสิ่งใด ข้าเพียงทดสอบอะไรใหม่ ๆ ไม่ต้องตกใจ เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือหากจะเกิดระเบิดขึ้นระหว่างการทดลอง?”
เหล่าเซียนคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดระเบิดขึ้นได้จากการทดลอง แต่มันไม่ปกติที่จะระเบิดมิติทั้งหมดหลังจากทดลอง…
แน่นอนว่าพวกเขาไม่กล้ากล่าวคำใด ทำได้เพียงแค่กล่าวตอบรับสองสามคำ อย่างเช่น จักรพรรดิภูตผีควรจะดูแลร่างกายให้ดี
หลังจากพูดคุยกับเหล่าเซียนเสร็จสิ้น ไป๋ชิวหรานก็หันกลับไปมองโลกตรงหน้าพร้อมถอนหายใจ
“โลกใบนี้ใช้ทดลองต่อไปไม่ได้แล้ว”
เขตแดนจิตสำนึกทำให้มิติในโลกใบนั้นพังทลายลงสิ้น และพื้นที่ทั้งหมดกับเวลาภายในก็ปั่นป่วนด้วยความโกลาหล ต่อให้ใช้จิตสำนึกบุกรุกเข้าไปในเวลานี้ สุดท้ายมันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของความวุ่นวายที่เกิดขึ้น
ไป๋ชิวหรานปล่อยให้เหล่าเซียนคอยดูแลไม่ให้มีสิ่งมีชีวิตใดเกิดขึ้นในพื้นที่ทดลองนี้ พวกเขาจึงสามารถทำลายมันได้ทันทีหากต้องการ
“ไม่มีอะไรแล้ว รีบจัดการมันให้จบเถิด”
ไป๋ชิวหรานขอให้เหล่าเซียนร่วมมือกันทำลายโลกใบนี้ จากนั้นจึงสร้างโลกใบใหม่ขึ้นมา แล้วหันมองถังรั่วเวยกับหลีจิ่นเหยา
“ข้าไม่ทราบว่าใครเป็นคนต้นคิดเรื่องนี้”
ถังรั่วเวยรู้สึกหงุดหงิดที่ผู้เป็นอาจารย์ทำลายความฝันของตน
“ไม่ใช่ครั้งต่อไป”
ไป๋ชิวหรานกระแอมไอเล็กน้อยขณะมองหน้านาง และกล่าวเตือนว่า
“อย่าคิดไปเอง รากฐานของสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การเพ้อฝัน และเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะไปถึงฝั่งฝันด้วยความพิเศษของขอบเขตจิตสำนึก”
ถังรั่วเวยพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา ไม่รู้ว่าบุรุษผู้ใดสร้างความหวังมากล้นในจิตใจของนาง แต่ผลสุดท้ายกลับกลายเป็นชายหนุ่มตรงหน้าที่ทำลายเขตแดนจิตสำนึกทั้งหมดลง
แต่นางก็ตระหนักถึงความจริงได้ จึงหยุดบ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้
หลังจากโลกใบใหม่ที่มีความมั่นคงมากกว่าได้กำเนิดขึ้น ทั้งสามจึงเข้าสู่เขตแดนจิตสำนึกของโลกใบนั้นอีกครั้ง
คราวนี้หลีจิ่นเหยากับถังรั่วเวยกลั้นหายใจอย่างสัตย์ซื่อเพื่อทำงานอย่างยุติธรรม ในขณะที่ไป๋ชิวหรานควบคุมความคิดของตนเอง จากนั้นก็เริ่มใช้จิตสำนึกในการมองเห็นและรับรู้ถึงการมีอยู่ของอสูร
จิตสำนึกของอสูรที่เกิดจากความปรารถนาอันต่ำต้อยไม่อาจต้านทานจิตสำนึกของเขาได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ไป๋ชิวหรานจำเป็นต้องมีสมาธิเพื่อสร้างอสูรที่มีสติสัมปชัญญะระดับสูงจากความคิดของตน
และในคราวนี้ หลังจากปลดปล่อยความคิดแล้ว เขาเลือกที่จะควบแน่นความโลภของตนเองด้วย
ความโลภเป็นจุดอ่อนที่สุดของความปรารถนาทั้งหมด นอกเหนือจากการสร้างรากฐานแล้ว ไป๋ชิวหรานก็ไม่มีสิ่งใดที่จะวิ่งไล่ตามอีก ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ความมั่งคั่ง ทรัพย์สมบัติ หรือแม้แต่การเสพสม
แต่ความปรารถนานี้จะไม่สลายไป เพราะมีสิ่งต่าง ๆ ในโลกใบนี้ที่สามารถกระตุ้นความโลภของเขาได้เสมอ เช่น การก่อสร้างรากฐานเสมือนหรือทักษะการสร้างรากฐานที่ไม่เคยค้นพบมาก่อน
ดังนั้น ความโลภจึงเป็นมาตรการที่ปลอดภัยที่สุด ความโลภไม่มีวันสูญสลายและไม่ร้ายแรงจนเกินไป มันจะไม่ทำลายจิตสำนึกโดยตรงเหมือนครั้งที่เขาพยายามสร้างรากฐานก่อนหน้า
ขณะที่ไป๋ชิวหรานกำลังไตร่ตรอง เขาก็เข้าใจว่าเพราะภรรยาที่รักทั้งสอง ความปรารถนาในความรักของเขาตอนนี้จึงอยู่ในจุดอ่อนแอถึงขีดสุด แต่รู้สึกว่าอสูรที่เกิดจากความรักของเขาส่วนใหญ่แล้วดูเหมือนเจียงหลานและซูเซียงเสวี่ย พวกมันเป็นอสูรที่มีระดับขั้นใกล้เคียงกับสตรีทั้งสองคน!
รู้สึกแปลกประหลาดเล็กน้อยที่ต้องพรากจากภรรยาของตน
ไป๋ชิวหรานควบคุมความคิดและเริ่มจินตนาการถึงสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงอย่างสิ้นหวัง เช่น การกินโอสถที่จะสามารถช่วยให้สร้างรากฐานได้สำเร็จ หรือทักษะลับที่จะช่วยให้ผ่านพ้นโซ่ตรวนที่มีอยู่ได้
วิธีนี้ได้ผลดียิ่งนัก ในไม่ช้าไป๋ชิวหรานที่เต็มไปด้วยความโลภก็เริ่มจินตนาการถึงสิ่งเหล่านั้น และเริ่มคิดว่าจะค้นพบมันได้อย่างไร
เมื่อความโลภของเขาเพิ่มพูน กระแสน้ำวนขนาดใหญ่ได้ปรากฏต่อหน้าทั้งสามภายในเขตแดนจิตสำนึก!
ใจกลางของกระแสน้ำวน อาจารย์อสูรกำลังดูดซับความปรารถนาของไป๋ชิวหราน ขณะที่พลังแห่งจิตสำนึกก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็กลายเป็นนกอินทรีสามเศียรที่แข็งแกร่ง มันมีปีกสีขาวขนาดใหญ่ และมีขนสีทองอร่ามปกคลุมทั่วร่าง ร่างกายที่อยู่ตรงหน้านี้คืออสูรที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร!
หากกล่าวถึงความแข็งแกร่งของอสูรตนนี้ มันแข็งแกร่งยิ่งกว่าอสูรโลหิตแห่งความเกรี้ยวกราดหรืออสูรแห่งความเสพสมก่อนหน้านี้เสียอีก…
มันมองมาในทิศทางของไป๋ชิวหราน พร้อมกับอ้าปากทั้งสามออกเพื่อกรีดร้อง แต่ก่อนที่จะได้กรีดร้องออกมา สายตาทั้งสามคู่ของมันก็สบตาเข้ากับไป๋ชิวหราน
เมื่อสบตากันและกัน ไป๋ชิวหรานก็เริ่มเปิดฉากโจมตีเพื่อควบคุมจิตใจอสูรตนนี้โดยตรง!