ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 355 สามีภรรยาต่อสู้กันบนเตียง และข้าเป็นผู้โน้มน้าว
- Home
- ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี
- บทที่ 355 สามีภรรยาต่อสู้กันบนเตียง และข้าเป็นผู้โน้มน้าว
บทที่ 355 สามีภรรยาต่อสู้กันบนเตียง และข้าเป็นผู้โน้มน้าว
บทที่ 355 สามีภรรยาต่อสู้กันบนเตียง และข้าเป็นผู้โน้มน้าว
เมื่อไป๋ชิวหรานกลับมาถึงบ้าน เขาเห็นซูเซียงเสวี่ยนั่งหันหลังให้อยู่บนเก้าอี้ภายในห้อง
หลีจิ่นเหยา เจียงหลานและถังรั่วเวยก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน ทว่าอยู่ห่างออกไปสักหน่อย ทุกคนอยู่ที่ข้างลานกำลังเฝ้าดูบางสิ่ง ขณะที่สองคนแรกนั่งอยู่ข้าง ๆ ซูเซียงเสวี่ย เจียงหลานกำลังกล่าวบางอย่างด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว ขณะที่หลีจิ่นเหยากำลังรินน้ำชาอย่างสุภาพ ท่าทางของนางให้เกียรติซูเซียงเสวี่ยอย่างยิ่ง
ดูเหมือนว่ายามนี้ซูเซียงเสวี่ยกำลังขุ่นเคือง…
ร่างกายของไป๋ชิวหรานคล้ายกับกำลังหดเล็กลง เขาเห็นชัดเจนว่าซูเซียงเสวี่ยอารมณ์ไม่ดี!
แน่นอนว่าชายหนุ่มเข้าใจความรู้สึกของนาง ซูเซียงเสวี่ยพยายามอย่างยิ่งเพื่อช่วยเหลือเขา นางยินยอมเข้าสู่ความสันโดษเพื่อฝึกเคล็ดวิชาแยกจิต แต่หลังจากที่กลับออกมา… กลับเห็นหลีจิ่นเหยาและไป๋ชิวหรานพัฒนาความสัมพันธ์
มันคล้ายกับว่าภรรยาออกไปทำงานอย่างหนักเพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่เมื่อกลับมาบ้านกลับเห็นสามีโอบกอดสาววัยละอ่อนอยู่ข้าง ๆ และเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะกล่าวกับผู้เป็นภรรยาว่า ‘รู้จักกันไว้เสียสิ พวกเจ้าจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในอนาคต’ สถานการณ์มันก็คล้ายคลึงเรื่องสมมตินี้
หากภรรยาผู้นี้ฉีกใบหน้าสามีและภรรยาน้อยคนล่าสุดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย สิ่งนี้ไม่อาจนับว่าเป็นการกระทำที่มากเกินไป
แม้โลกมนุษย์ในเก้าทวีปสิบแผ่นดินจะนิยมการมีภรรยาหลายคน แต่สหายลัทธิเต๋าในโลกแห่งการฝึกตนนั้นควรมีภรรยาเพียงหนึ่งเดียว ไป๋ชิวหรานลอบคิดกับตนเอง และรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ครั้งนี้
นับตั้งแต่วันนั้นเขาก็ยังไม่ได้อยู่กับหลีจิ่นเหยาอีกจนกระทั่งวันนี้… ดูเหมือนว่าเขาจะยอมรับแล้วว่าตนเองเป็นคนขี้ขลาด และควรจะพยายามเกลี้ยกล่อมซูเซียงเสวี่ยแทน
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่ไป๋ชิวหรานจะเกลี้ยกล่อมเหล่าสตรีได้ หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ไม่อาจนึกออกได้ว่าควรจะทำสิ่งใดหรือกล่าวคำใด เขาจึงทำได้เพียงกัดฟันแล้วตรงเข้าไปกล่าวว่า
“ข้ากลับมาแล้ว”
“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน”
เจียงหลานและหลีจิ่นเหยากล่าวขึ้นพร้อมกัน ขณะที่ถังรั่วเวยถือถ้วยน้ำชานั่งยอง ๆ ราวกับกระรอกและยกมือทักทายเขา ส่วนซูเซียงเสวี่ยยังคงหันหลังและไม่คิดทักทาย
เมื่อเห็นเช่นนี้ เจียงหลานจึงขยิบตาให้ไป๋ชิวหราน และโบกมือให้เขามานั่งที่เก้าอี้ ชายหนุ่มเดินผ่านซูเซียงเสวี่ยก่อนจะนั่งลงตรงข้ามนางพร้อมเอ่ยออกมาว่า
“เซียงเสวี่ย ข้ากลับมาแล้ว”
“อืม”
ซูเซียงเสวี่ยหยิบถ้วยชาขึ้นมาและยกขึ้นจิบ ซึ่งมันคือสิ่งที่นางแสดงชัดว่าไม่แยแส อีกทั้งยังเย็นชาอย่างยิ่ง!
ในอดีต หากไป๋ชิวหรานกลับมา นางคือคนหนึ่งที่มีความสุขและแสนจะกระตือรือร้น
ทว่าคราวนี้ ไป๋ชิวหรานไม่ทราบว่าควรทำอย่างไร ทั้งสองเพียงแค่นั่งเงียบร่วมกันอยู่เช่นนั้น…
เขาไม่อาจอดทนต่อบรรยากาศเช่นนี้ได้ ทว่าทันใดนั้นในห้วงจิตสำนึก เขาก็ได้รับคำเตือนจากเจียงหลาน
“ชิวหราน รีบกล่าวเกลี้ยกล่อมเซียงเสวี่ยเร็วเข้าเถิด”
ไป๋ชิวหรานตอบกลับด้วยสัมผัสเทวะ
“ข้าไม่ทราบว่าควรกล่าวอย่างไร”
“กล่าวสิ่งใดก็ได้ ตราบใดที่นางสามารถตอบท่าน เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว”
เจียงหลานเร่งเร้า
ไป๋ชิวหรานครุ่นคิด ก่อนจะกล่าวถามซูเซียงเสวี่ย
“เซียงเสวี่ย… เจ้ารับประทานมื้อเย็นหรือยัง?”
“หึ…”
เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋ชิวหราน เจียงหลานถึงกับต้องเอามือตบหน้าผากเพราะทนไม่ไหว ถังรั่วเวยยังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะพร้อมกับพ่นน้ำชาออกมาจากปากอย่างไม่อาจอดกลั้น
ทว่าเมื่อเหลือบมองซูเซียงเสวี่ย ก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจนต้องรีบปิดปากแน่น พลางกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ ก่อนจะรีบทำความสะอาดชาที่ไหลเยิ้มอยู่บนใบหน้าและชุดของตน
“หากยังไม่กิน ข้าจะรอ”
ซูเซียงเสวี่ยเหลือบมองไป๋ชิวหรานด้วยแววตาว่างเปล่า ก่อนจะถอนหายใจ
“ไม่เป็นไร”
นางกล่าว
“ไปกินข้าวกันก่อน”
“ใช่แล้ว ควรจะไปกินข้าวกันก่อน”
หลีจิ่นเหยาลุกขึ้นทันใดก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปในครัว นางนำอาหารที่ตระเตรียมไว้และอุ่นมันด้วยพลังเวท จากนั้นซูเซียงเสวี่ยก็เริ่มเข้ามาช่วยเหลือ
ไป๋ชิวหรานจึงลอบถามเจียงหลานอย่างแผ่วเบา
“หลานเอ๋อ เซียงเสวี่ยเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ไม่เป็นไร… แต่น่าประหลาดที่ยังคงโกรธอยู่”
เจียงหลานจ้องมองเขาด้วยแววตาขุ่นเคือง
“ท่านไม่เห็นหรือไร? หึ…”
นางขมวดคิ้วด้วยความทุกข์ใจ และสีหน้าของนางคล้ายจะบ่งบอกเป็นนัยว่า ‘ไก่อ่อน ไม่ไหวเอาเสียเลย’
“ท่านบรรพชนกระบี่… ชิวหราน และศิษย์พี่หลานเอ๋อไม่ต้องกังวล”
ในช่วงเวลาเลวร้าย หลีจิ่นเหยานำจานมาวางบนโต๊ะ ก่อนจะกล่าวกับทั้งสองผ่านสัมผัสเทวะ และอีกอย่างนางเปลี่ยนคำเรียกขานไป๋ชิวหรานอย่างง่ายดาย
“เช่นนั้นฝากจิ่นเหยาดูแล”
เจียงหลานกับไป๋ชิวหรานชำเลืองมองกันและกัน ก่อนจะตอบกลับด้วยสัมผัสเทวะ
“จิ่นเหยา เจ้าจัดการเรื่องนี้ได้จริงหรือ? กล่าวตามตรง ข้าคิดว่าหากคิดแก้ปัญหา ท่อนไม้นี้ควรจะตระหนักถึงความผิดได้ด้วยตนเอง…”
“ไม่มีปัญหา ข้าจะสั่งสอนท่านบรรชนกระบี่ชิวหรานเองว่าต้องทำอย่างไร”
หลีจิ่นเหยาหรี่ตาลงข้างหนึ่งก่อนจะบอกกล่าวเป็นนัยกับทั้งสองว่าไม่มีสิ่งใดต้องห่วง
“ไม่ต้องกังวล จิ่นเหยาเตรียมการหมดสิ้นแล้ว”
…
เช้าวันรุ่งขึ้น เจียงหลานออกมาเดินเล่นด้านนอก และวิ่งเข้าไปหาซูเซียงเสวี่ยที่กำลังจะไปสำนักเหอฮวนเพื่อจัดการเรื่องราวต่าง ๆ
“สวัสดีตอนเช้าแม่นางหลาน”
ซูเซียงเสวี่ยทักทายก่อน น้ำเสียงยังคงอ่อนโยนและท่าทางก็ผ่อนคลาย อีกทั้งทุกสิ่งดูปกติอย่างยิ่ง
“อรุณสวัสดิ์ เซียงเสวี่ย”
เจียงหลานทักทายกลับ
“เจ้ากำลังจะไปทำงานหรือ?”
“เป็นเช่นนั้น”
ซูเซียงเสวี่ยพยักหน้า
“ข้าปรุงข้าวกับขนมวางไว้บนโต๊ะแล้ว รบกวนศิษย์พี่หลานบอกชิวหรานให้จัดการมันด้วย ข้ากำลังรีบ เช่นนั้นจึงขอตัวก่อน”
“ยอดเยี่ยม”
เจียงหลานมองซูเซียงเสวี่ยที่กำลังรีบออกไปอย่างสงสัย นางกล่าวพึมพำ
“หายโกรธแล้วจริง ๆ งั้นหรือ?”
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น จึงหยุดเดินเล่นและตรงกลับบ้านทันที นางเห็นหลีจิ่นเหยาผลักประตูออกมาจากห้องของไป๋ชิวหรานพอดี นางยืดเส้นยืดสายด้วย ใบหน้าเปี่ยมสุข
“จิ่นเหยา”
เจียงหลานเอ่ยทักทาย
“ตื่นแล้วหรือ อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์ ศิษย์พี่หลาน ยังตื่นเช้าเช่นเคย”
หลีจิ่นเหยายิ้มหวานพร้อมตอบกลับ
หลังจากอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลานาน นางทราบดีว่าเจียงหลานมีนิสัยชอบตื่นแต่เช้าและออกไปวิ่งตามถนน
“ข้าบังเอิญพบกับเซียงเสวี่ย”
เจียงหลานกล่าวกับนาง
การบิดขี้เกียจของหลีจิ่นเหยาหยุดชะงักเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะเผยรอยยิ้มและกล่าวอย่างผ่อนคลาย
“เป็นอย่างไรบ้าง ศิษย์พี่เซียงเสวี่ยกลับมาเป็นเช่นเดิมแล้วหรือไม่?”
“ใช่ เป็นเช่นนั้น”
เจียงหลานถามด้วยความสงสัย
“เจ้าทำอย่างไรหรือ?”
แน่นอนว่าในฐานะภรรยาที่แต่งงานแล้ว นางรู้จักนิสัยของสามีปากเหม็นดี และความฉลาดของเขาเปรียบได้กับขอนไม้… ไม่เลย เมื่อเทียบเขากับขอนไม้แล้ว ขอนไม้อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดขอนไม้ยังสามารถผลิบานได้ทุกสิบปี แต่สมองขี้เลื่อยของไป๋ชิวหรานยังคงเป็นเช่นเดิมแม้จะผ่านมากว่าสามพันปี…
มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะค้นพบวิธีที่จะทำให้ซูเซียงเสวี่ยมีความสุขได้
“ง่ายดายนัก”
หลีจิ่นเหยากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อย่างที่ว่ากันว่า สามีภรรยาทะเลาะกันเพราะเรื่องบนเตียง และข้าจึงปล่อยให้พวกเขาตกลงกันบนเตียงเท่านั้น”
“เข้าใจแล้ว”
เจียงหลานพยักหน้ารับ
“เรียบง่าย หยาบคาย ทว่ามีประสิทธิภาพ”
ความคิดเช่นนี้เป็นหลีจิ่นเหยาที่เกิดในสำนักอสูรสวรรค์คิดขึ้น …ส่วนเจียงหลานที่เกิดในยุคของทวยเทพยังคงไร้เดียงสาเกินกว่าจะคิดได้
“มันไม่ถูกต้องนัก”
เจียงหลานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรู้สึกตัว นางหันมองหลีจิ่นเหยาพร้อมถามว่า
“หากข้าเดาไม่ผิด เมื่อคืนเจ้าก็ค้างที่ห้องของไป๋ชิวหรานเช่นกัน แล้วเจ้าเข้าไปทำสิ่งใด?”
“ข้า? ข้าเป็นตัวละครที่ไม่อาจขาดแคลนในตำแหน่งนี้ได้”
หลีจิ่นเหยากล่าวอย่างเคร่งขรึม
“พวกเขาต้องต่อสู้กันบนเตียง และข้าเป็นคนริเริ่มให้ทุกสิ่งเกิดขึ้น”
“…”
Comments for chapter "บทที่ 355 สามีภรรยาต่อสู้กันบนเตียง และข้าเป็นผู้โน้มน้าว"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
puiphone
โอ้ว แซนด์วิช