ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 357 ก้มศีรษะลง ไม่เห็นพื้นดิน!
บทที่ 357 ก้มศีรษะลง ไม่เห็นพื้นดิน!
บทที่ 357 ก้มศีรษะลง ไม่เห็นพื้นดิน!
“ขจัดพลังที่กำลังจะเติบโตให้หมดสิ้น… จากนั้นแทนที่ด้วยวิวัฒนาการแห่งการก่อตัว”
“แปลงกายเป็นมนุษย์ ยึดครองขุนเขา…”
“ส่วนอาวุธ สมควรเป็นกระบี่… ข้าไม่อาจใช้หอกหรือกระบี่แทนได้จริง ๆ”
…
ขณะที่ยังคงปกป้องร่างกายของไป๋ชิวหรานอยู่นั้น เจียงหลานกับคนอื่น ๆ เฝ้ามองไป๋ชิวหรานพึมพำกับตนเอง อีกฝ่ายสวดภาวนา เดี๋ยวพยักหน้า เดี๋ยวส่ายศีรษะอย่างแปลกประหลาด
รูปร่างใหญ่โตเริ่มเปลี่ยนแปลงในขณะที่เขาสวดภาวนา มันค่อย ๆ เปล่งประกายออกเป็นแสงสว่าง คราวแรกหดตัวเป็นรูปทรงกลมที่ดูแข็งขึ้น จากนั้นก็ค่อย ๆ บิดเบี้ยวและกลายเป็นรูปร่างของมนุษย์!
“เอาล่ะ เสร็จสิ้น”
หลังไป๋ชิวหรานกล่าวจบ จิตสำนึกของอสูร ณ ใจกลางกระแสน้ำวนก็เผยกายออกมา แสงสว่างสาดส่องออกมาทั่วจักรวาล ในขณะนี้พื้นที่ทั้งหมดของจิตสำนึกที่เชื่อมโยงโลกนับไม่ถ้วนกำลังสั่นคลอนอย่างรุนแรง!
อสูรจิตสำนึกระดับสูงที่อยู่ในส่วนลึกของเขตแดนจิตสำนึกล้วนรับรู้ถึงภัยคุกคามยิ่งใหญ่จากแรงสั่นสะเทือนนี้ พวกมันเกือบจะยุติการต่อสู้กันเอง และต่างพุ่งตัวไปยังรอยแยกของกำแพงแห่งความตระหนักรู้ทันที ทั้งหมดวิ่งออกไปพร้อมกันจนลืมว่าต้องต่อสู้ มันต้องการยับยั้งภัยคุกคามนี้โดยสมบูรณ์ ทว่าระยะทางนั้นไกลเกินเอื้อม แม้ว่าจะทุ่มพละกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อเดินทาง แต่ก็ยังไกลเกินไป
ไม่มีใครคิดสนใจอสูรระดับสูงที่อยู่ในส่วนลึกของเขตแดนจิตสำนึก ไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ กำลังสนใจกับอสูรที่กำลังปรากฏกายที่แท้จริงตรงหน้าพวกเขา
“แข็งแกร่งนัก”
หลีจิ่นเหยากับถังรั่วเวยอดไม่ได้ที่จะร้องอุทาน
อสูรที่ก้าวออกมาจากม่านแสงเป็นอสูรร่างใหญ่กว่าไป๋ชิวหรานเล็กน้อย มันสูงราวหนึ่งจั้ง สวมชุดและหมวกเกราะเงิน ครึ่งบนของใบหน้าถูกปิดกั้นไว้ด้วยหมวกเกราะ ทั้งสองด้านของหมวกเกราะมีรูและสิ่งที่คล้ายคลึงกับปีกยื่นออกไปด้านหลัง
คลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่หลังศีรษะยังเผยอักขระลึกลับเปล่งประกาย ชุดเกราะที่สวมใส่อยู่มีลวดลายมังกรและพยัคฆ์แกะสลักเอาไว้ ทั้งหมดยิ่งทำให้ดูแข็งแกร่งและไม่ธรรมดา!
ในมือมีกระบี่ด้ามยาวที่ดูคล้ายดาบและหอก มันนั่งอยู่บนมังกรห้ากรงเล็บ มีหนวดเครา และยืนอยู่บนเมฆบิน ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ทรงพลัง
“ท่านอาจารย์จินตนาการถึงอสูรที่งดงามเช่นนี้ได้อย่างไร…”
ถังรั่วเวยลอบพึมพำ
“เมื่อพวกเราเข้ามา อสูรทรงพลังทั้งหมดที่ได้พบล้วนดูเหมือนสัตว์ประหลาดไม่ใช่หรือ?”
“ฮึ่ม เพราะโง่เขลา เจ้าคงไม่เข้าใจ”
ไป๋ชิวหรานชี้ใบหน้านางอย่างไม่พอใจพร้อมกล่าวว่า
“อสูรคือธรรมชาติที่แท้จริงของจิตใจมนุษย์ เห็นได้ชัดว่าอสูรของข้าหล่อเหลา นั่นเป็นเรื่องธรรมดายิ่งก็เพราะจิตใจของข้าสูงส่งอย่างไรล่ะ!”
แม้จะกล่าวเช่นนั้น แต่สตรีทั้งหมดกลับไม่คิดสนใจ ซูเซียงเสวี่ยมองอสูรตรงหน้าที่คล้ายคลึงกับไป๋ชิวหราน ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ข้าเข้าใจว่าที่อสูรมีรูปร่างเช่นนี้เพราะจิตใต้สำนึกของเจ้ามีพื้นฐานร่างกายที่สูงโปร่งและมีใบหน้าหล่อเหลา”
“กล่าวสั้น ๆ ว่าท่านบรรพชนกระบี่ชิวหรานมีความโลภเช่นนี้?”
หลีจิ่นเหยาพึมพำ
“หยุด!”
ดวงตาของไป๋ชิวหรานเบิกกว้าง
“อะไร เกิดจากความปรารถนางั้นหรือ? เชื่อหรือไม่ว่าหากนั่งรอข้าตรงนี้สักสามพันปี ข้าจะสร้างรากฐานให้เจ้ารับชม…”
หญิงสาวยังคงเพิกเฉยต่อเขา เจียงหลานมองอสูรจิตสำนึกตรงหน้าที่สูงกว่าหนึ่งจั้งแล้วพยักหน้า
“อย่างไรก็ตาม รูปร่างนี้สามารถเก็บบันทึกไว้เป็นเทพเจ้าได้โดยง่าย และยังเหมาะสมที่จะสร้างศรัทธา… เราต้องเรียนรู้มัน”
“เอ่อ… อย่างนั้นหรือ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเจียงหลาน ไป๋ชิวหรานก็กล่าวตอบ
“ความจริงแล้ว นี่คือรูปร่างในใจของจิตสำนึกอสูรของข้าเมื่อวิวัฒนาการสูงสุด รูปร่างในปัจจุบันของมันเป็นสิ่งชั่วคราว และอีกไม่ช้าจะกลับคืนร่างเดิม หากไม่เชื่อก็คอยดูสิ”
หญิงสาวมองไปยังทิศทางอสูรตรงหน้า และพบว่าจิตสำนึกอสูรที่ยิ่งใหญ่ตนนี้ค่อย ๆ กลายเป็นหมอกควันสีขาวสลายไป ในหมอกมีร่างอื่นที่คล้ายไป๋ชิวหรานอยู่ ทว่าทั้งหมดดูพร่ามัว เห็นเลือนรางว่าเป็นร่างมนุษย์สวมใส่ชุดสีขาวธรรมดา ทว่ากลับไม่อาจมองเห็นใบหน้าได้ชัดเจนนัก
ปราญช์อสูรตนนี้มีฝักกระบี่พาดอยู่บนหลัง ซึ่งมันควรจะเป็นกระบี่ที่คล้ายดาบและหอกก่อนหน้านี้ ส่วนมังกรทองที่เป็นพาหนะกลายเป็นมังกรน้อยขดตัวอยู่บนแขนข้างหนึ่ง ซึ่งมันดูคล้ายคลึงกับปลาไหลตัวจ้อย
“นี่คือรูปร่างต้นกำเนิดของมัน”
ไป๋ชิวหรานชี้ไปยังจิตสำนึกอสูรของตนเอง
“ข้าละทิ้งพลังยิ่งใหญ่ที่ได้รับมาในทันที พลังจิตสำนึกทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้พัฒนาศักยภาพของจิตสำนึกอสูรของข้า… ทว่าในแรกเริ่มมันล้วนอ่อนแอ ไม่อาจเทียบเทียมกับอสูรโลหิตได้ แต่ในอนาคตพลังของมันจะไร้ผู้ใดเทียบ และแน่นอน… พวกเจ้าควรกระทำเช่นเดียวกัน”
“ควรจะต้องเป็นเช่นนั้น”
เจียงหลานเหลือบมองอสูรตรงหน้าที่แสนจะธรรมดา ก่อนจะปรบมือ แล้วตะโกน
“เอาล่ะ ในเมื่อชิวหรานสร้างอสูรสำเร็จแล้ว ยังมีเวลาอีกมาก พวกเราควรจะเริ่มกันเสียที แล้วผู้ใดจะเริ่มก่อน?”
“ข้าแนะนำว่าใครก็ตามที่มีความรู้เกี่ยวกับอสูรมากที่สุดควรจะเริ่มก่อน”
ไป๋ชิวหรานกล่าวเสริม
“มันเกิดขึ้นเองจากการฝึกฝนของข้าที่ซึมซับพลังของจิตสำนึกไว้มากมาย และตอนนี้พลังแห่งจิตสำนึกในบริเวณใกล้เคียงก็ยังมีมากอยู่”
หญิงสาวทุกคนมองมาที่ถังรั่วเวย นางเงยหน้ามองพวกเขา ขณะนี้ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปที่นาง
“หืม?”
สตรีเหล็กผู้นี้ชี้ใบหน้าของตนด้วยความประหลาดใจ
“เหตุใดจึงคิดว่าข้าเป็นคนที่สามารถซึมซับพลังอสูรได้มากที่สุดเล่า?”
…
ในส่วนลึกของเขตแดนจิตสำนึก อสูรระดับสูงพุ่งเข้าหารอยแยกของกำแพงแห่งความตระหนักรู้ด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี ทว่าทันใดนั้น พวกมันก็รับรู้ได้ถึงคลื่นพลังงานที่ปั่นป่วนไม่น้อยไปกว่าตอนที่ก่อกำเนิด และมันยังมาจากทิศทางเดิม!
ยิ่งไปกว่านั้น มันยังไม่จบสิ้นอีกหรือ? อสูรสองตนถือกำเนิดในวันเดียวกัน? เขตแดนจิตสำนึกแห่งนี้ปล่อยให้อสูรจากที่อื่นเข้ามาปะปนหรือ?
แม้แต่อสูรระดับสูงที่เต็มไปด้วยความอาฆาต พยาบาท และความปรารถนาไร้สิ้นสุดก็ยังรู้สึกหดหู่ในจิตใจ พวกมันอดไม่ได้ที่จะตำหนิผู้ให้กำเนิดตนเอง แต่อย่างไรก็ไม่อาจทำอะไรได้มากกว่านี้ นอกจากเร่งความเร็วและตรงไปยังสถานที่แห่งนั้นให้เร็วที่สุด
…
“…”
หลังจากมองใบหน้าแดงก่ำของหญิงสาว ไป๋ชิวหรานก็กล่าวกับนางด้วยแววตาเย็นยะเยือก
“ฟังข้า สมมุติว่าเจ้ามีความใกล้ชิดกับเชื้อสายของอสูรมากที่สุด”
สตรีคนอื่นจับจ้องถังรั่วเวยด้วยแววตาซับซ้อน
“เอาล่ะ ข้าทราบแล้วว่าท่านหมายถึงสิ่งใด!”
ถังรั่วเวยไม่รู้จะทำอย่างไรนอกจากเอามือปิดใบหน้าและตะโกนออกมา
นางพุ่งตัวไปอยู่ด้านหลังของไป๋ชิวหรานพร้อมลืมตาขึ้น มองไปยังจุดศูนย์กลางของลำแสง และนางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกยินดีขึ้นมา
เนื่องจากภายในแสงสว่างเหล่านั้น ปรากฏสตรีงดงามทรงเสน่ห์ยืนอยู่ใจกลาง ร่างกายผอมเพรียวสวมชุดกระโปรงยาวสีเหลืองอร่าม มีหน้ากากสีทองปกปิดใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นเพียงใบหน้าเรียวยาวคล้ายเมล็ดแตงโมในครึ่งล่าง
แต่ทั้งหมดไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะที่สำคัญคือ! รอบอกของนางยิ่งใหญ่กว่าซูเซียงเสวี่ยถึงสองเท่า มันใหญ่กว่าสตรีผู้ภาคภูมิในบรรดาหญิงสาวทั้งหมด!
ช่างเป็นฝันดี! ถังรั่วเวยลอบยินดีในใจ สิ่งที่สำคัญสำหรับมนุษย์คือการไม่หลงลืมความฝัน!
ถังรั่วเวยจัดการกับร่างอสูรของตน และเริ่มสำรวจร่างกาย
ไม่เห็นพื้นดิน นางไม่เห็นพื้นดิน!
หยาดน้ำตาไหลออกมา สายธารใสรินไหลเป็นเส้นยาว อาบแก้มขาวเปรอะเปื้อนใบหน้าทรงเสน่ห์ของอสูร ถังรั่วเวยที่อยู่ภายในยิ่งตื่นเต้นมากจนน้ำตาไหลด้วยเช่นกัน
ในที่สุด… หลังจากมีชีวิตกว่าร้อยปี ในที่สุดนางก็สามารถทำฝันให้เป็นจริงได้!