ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 364 กับภรรยายังทุบตีได้ แล้วสตรีอื่นมีหรือจะรอดพ้น
- Home
- ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี
- บทที่ 364 กับภรรยายังทุบตีได้ แล้วสตรีอื่นมีหรือจะรอดพ้น
บทที่ 364 กับภรรยายังทุบตีได้ แล้วสตรีอื่นมีหรือจะรอดพ้น?
บทที่ 364 กับภรรยายังทุบตีได้ แล้วสตรีอื่นมีหรือจะรอดพ้น?
“แม่นาง โปรดหยุดก่อน”
หลังจากมีเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง หญิงผู้นั้นก็มองไป๋ลี่ด้วยความตื่นตระหนก
สตรีงดงามปล่อยมือที่ดึงใบหูของไป๋ลี่โดยไม่รู้ตัว และดึงเขาไปปกป้องไว้ด้านหลังอย่างระมัดระวัง
“ผู้ใด? ออกมา!”
“แม่นางไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก”
ไป๋ชิวหรานส่งสัญญาณให้หลีจิ่นเหยาคลายพลังเวท จากนั้นจึงพานางและถังรั่วเวยออกจากหลังพุ่มไม้ เขาส่งยิ้มให้กับมารดาของไป๋ลี่ในภพชาตินี้
“พวกเราไม่ได้มีเจตนาร้าย เรามาที่นี่เพื่อตามหาใครบางคน”
“ปกติแล้วคนชั่วร้ายก็มักจะกล่าวขึ้นต้นเช่นนี้”
มารดาของไป๋ลี่ตอบกลับอย่างเย็นชา
“แล้วพวกเจ้าคิดมองหาผู้ใด?”
เดิมทีนางคิดว่าไป๋ชิวหรานกับสตรีทั้งสองมาที่หมู่บ้านนี้เพื่อแก้แค้นบางสิ่ง คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านนี้เคยอยู่ลัทธิมารมาก่อน ทั้งหมดจึงตั้งชื่อปลอมขึ้นมาใหม่ เช่นนี้ศัตรูจึงไม่อาจถูกลบล้างและยังมีบางคนที่ออกตามหาพวกเขา
ทว่าสิ่งที่นางไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น สายตาของไป๋ชิวหรานมองบุตรชายที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของนาง
“ลี่ ออกมาพบข้า”
และไป๋ลี่ที่ถูกมารดาปกป้องก็ก้าวขาออกมา เขาโค้งคำนับต่อไป๋ชิวหราน
“ศิษย์ได้พบอาจารย์แล้ว”
มารดาของไป๋ลี่ดึงเขากลับไป แววตาของนางยิ่งแข็งกร้าวขึ้น
เมื่อมีคนมายุ่งกับบุตรชายของตน มารดาทุกคนล้วนแต่กังวล นางกล่าวถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ยิ่งรุนแรงกว่าเดิม
“พวกเจ้าเป็นใคร?”
“ก็อย่างที่เขากล่าวเมื่อครู่”
ไป๋ชิวหรานชี้ไปทางไป๋ลี่
“ข้าเป็นอาจารย์ของเขา”
“ไม่จริง!”
สตรีงดงามกล่าวหนักแน่น
“บุตรชายข้าไม่เคยออกจากหมู่บ้านตั้งแต่เกิดมา แล้วเขาจะกลายเป็นศิษย์ของเจ้าได้อย่างไร?”
“การไม่ได้ออกจากหมู่บ้าน ไม่ได้หมายความว่าจะรับเป็นศิษย์ไม่ได้…”
ชายหนุ่มไม่ได้กล่าวอะไรนัก เขาทำเพียงแต่มองไป๋ลี่
เมื่อไป๋ลี่เห็นเช่นนี้ เขาก็รับทราบพร้อมกับดึงเสื้อของมารดาเพื่อให้นางก้มลง จากนั้นเอ่ยกระซิบบางอย่างข้างหูนาง
สตรีงดงามยืนตัวตรงอีกครั้งก่อนจะมองไป๋ชิวหรานด้วยแววตาแปลกประหลาด
“ไม่เป็นไร”
นางกล่าว
“ข้าเชื่อว่าเจ้าคงไม่ได้มุ่งร้ายต่อชาวบ้านที่นี่ แต่อย่างไรข้าก็ไม่ยอมรับให้เจ้าเป็นอาจารย์ของบุตรชายข้า”
“เพราะเหตุใด?”
“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถสั่งสอนเขาได้!”
สตรีงดงามกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่ใช่ว่าข้าจะโอ้อวด แต่ในโลกนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเป็นอาจารย์ของบุตรชายข้าได้”
ไป๋ชิวหรานมองไป๋ลี่อีกครั้ง ไป๋ลี่พยักหน้าให้เขา และยกกำปั้นขึ้นมา
ไป๋ชิวหรานเข้าใจทันที จากนั้นจึงยื่นมือให้สตรีงดงามผู้นี้ก่อนจะกล่าวต่อ
“หากมั่นใจเช่นนั้น แม่นางกับข้า เรามาตัดสินกันสักสองกระบวนท่าดีหรือไม่?”
“แน่นอน ตราบใดที่เจ้าเต็มใจ ข้าก็ไม่คิดหวาดกลัวคำท้าทาย”
สตรีงดงามเพียงแค่รอคำพูดจากไป๋ชิวหราน เห็นได้ชัดว่านางมั่นใจในความแข็งแกร่งของตนเอง และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
ตามสถานการณ์ก่อนหน้าที่ไป๋ลี่คุยโอ้อวด ความแข็งแกร่งระดับสิบของขั้นกลั่นลมปราณภายในดินแดนแห่งนี้นับว่าแข็งแกร่งที่สุด ในราชสำนักมีเพียงสามคนเท่านั้น และสตรีงดงามตรงหน้าก็อยู่ห่างจากขั้นนั้นเพียงก้าวเดียว จึงนับว่านางเป็นหนึ่งในปรมาจารย์ชั้นเลิศของโลกนี้ด้วย!
“ยอดเยี่ยม เลือกวันที่แดดจ้าเช่นนี้ เริ่มที่นี่และเดี๋ยวนี้!”
ไป๋ชิวหรานประสานหมัดให้กับสตรีตรงหน้า และบอกให้หลีจิ่นเหยากับถังรั่วเวยถอยห่างออกไป ก่อนจะกล่าวว่า
“รบกวนแม่นางแล้ว”
“ให้ข้าเริ่มก่อนงั้นหรือ? เจ้าแน่ใจแล้วหรือ?”
สตรีงดงามมองชายหนุ่มตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าพร้อมขบขัน แม้แต่เทพเจ้าแห่งแผ่นดินทั้งสามคนในโลกใบนี้ยังไม่กล้าที่จะมอบโอกาสแรกให้นางในการต่อสู้ที่มีความเป็นและความตายเดิมพัน!
“เช่นนั้นข้าจะไม่สุภาพ”
“โปรดอย่าสุภาพกับข้า”
ไป๋ชิวหรานกล่าวอย่างจริงใจ
“มิฉะนั้น ท่านคงจะแก้ตัวในภายหลังโดยบอกกล่าวว่าข้าไร้ซึ่งคุณสมบัติที่จะสั่งสอนบุตรชายของท่าน”
การแสดงออกที่จริงใจบนใบหน้าของเขาทำให้สตรีงดงามผู้นี้ขุ่นเคือง เมื่อสิ้นเสียงของไป๋ชิวหราน สตรีงดงามจึงก้าวขาพร้อมกับพุ่งทะยานเข้าหาเขาในทันที
พลังปราณแก่นแท้ที่เดือดพล่านในร่างกายของนางถูกปลดปล่อย บนฝ่ามือยังมีพลังปราณแก่นแท้ระเบิดออกเป็นลำแสงสีเลือด มันเข้มข้นราวกับลูกพลัมเหี่ยวแห้งในฤดูหนาว
ตายซะ!
ฝ่ามือของนางอยู่ห่างจากใบหน้าของไป๋ชิวหรานเพียงสามนิ้ว ในระยะนี้ไม่มีผู้ใดในโลกที่จะสามารถต้านทานนางได้
สตรีงดงามยกมือขึ้นทุบตีชายโครงซ้ายของไป๋ชิวหรานเบา ๆ การทุบตีเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ใดพบเจอ แม้ไม่ถึงกับตายตก แต่จะต้องนอนราบบนเตียงอย่างน้อยครึ่งเดือน!
ทว่าสิ่งที่สตรีงดงามคาดไม่ถึงพลันเกิดขึ้น ขณะที่ฝ่ามือของนางกำลังจะสัมผัสร่างกายของไป๋ชิวหราน ทว่าเขากลับก้าวไปด้านหน้าและโอบหน้าอกของนางด้วยฝ่ามือหนาของตน
พลังปราณที่แท้จริงของนางทะลวงผ่านร่างกายของบุรุษผมขาวตรงหน้า เจาะทะลุแผ่นหลังของเขาและพุ่งลงพื้นดิน ทำให้เกิดรอยแตกที่ชัดเจนขึ้น
“เจ้า…”
ก่อนที่จะทันได้ตื่นตระหนก ชายหนุ่มก็ยกกำปั้นขึ้นสูง หมัดตรงไร้ความปรานีทุบตีดวงตาด้านขวาของนางอย่างโหดเหี้ยม
ชั่วขณะหนึ่ง โลกหมุนจนดับสนิท เสียงสุดท้ายในหูของสตรีผู้นั้นคือเสียงตะโกนของบุตรชายที่กำลังตื่นตระหนก
“ท่านแม่!”
…
เมื่อเห็นมารดาหมดสติไป ไป๋ลี่ก็ไม่คิดซุกซ่อนพลังเอาไว้ เขาระเบิดพลังปราณแก่นแท้ออกพร้อมพุ่งเข้าหา ก่อนที่มารดาจะล้มลงกับพื้น เขาสามารถคว้านางไว้ในอ้อมแขนได้อย่างทันท้วงที
หลังจากตรวจสอบมารดาและเห็นว่าไม่มีสิ่งใดน่าเป็นห่วง ไป๋ลี่จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะเหลือบมองไป๋ชิวหรานด้วยความขุ่นเคือง
“ท่านอาจารย์ มารดาของข้าเป็นสตรี…”
“ข้าไม่สนใจเพศของคู่ต่อสู้”
ไป๋ชิวหรานกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ถึงจะไม่สนใจ… ก็อย่าทุบตีใบหน้าได้หรือไม่?”
“แล้วมีปัญหาใด?”
ไป๋ชิวหรานถามอย่างสงสัย
“ตอนที่ข้ากับเซียงเสวี่ยพบกันครั้งแรก ข้ายิ่งตบหน้านางจน…”
ไป๋ลี่ถึงกับพูดไม่ออก ขณะที่หลีจิ่นเหยาสัมผัสใบหน้าของตนเองพร้อมกับมองไป๋ชิวหรานอย่างหวาดกลัว สุดท้ายก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
“ข้ามาในช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม ต้องขอบคุณศิษย์พี่หญิงเซียงเสวี่ยแล้ว”
นางประสานมือก่อนจะกล่าวพึมพำ
“ลืมมันไปซะ”
ถังรั่วเวยกล่าวปลอบโยนไป๋ลี่
“เขาไม่เคยออมมือเมื่อต้องทุบตีข้า”
“ลืมมันเสีย ข้าจะพานางกลับบ้าน”
ด้วยพลังการฝึกฝนของเขา ไป๋ลี่จึงสามารถพามารดาขึ้นหลังและเดินตรงเข้าหมู่บ้านได้
ไป๋ชิวหรานและทั้งหมดเดินตามไป๋ลี่ไป จนมาถึงลานบนจุดสูงสุดของหมู่บ้าน
ลานบ้านมีไม้ค้ำและอาวุธสำหรับฝึกฝน มีบ้านอยู่ขนาบทางซ้ายและขวา ด้านซ้ายเป็นห้องนั่งเล่น ด้านขวาเป็นคลังเก็บของ ห้องครัว ห้องเก็บฟืน นอกจากนี้ยังมีทางเดินจากในลานขึ้นไปบนยอดเขา ซึ่งเหมาะที่จะรับชมทิศทัศน์ระยะไกล
“นั่นคือบ้านของข้า”
ไป๋ลี่ชี้ไปที่ห้องเล็ก ๆ ทางซ้ายพร้อมกล่าว
“ปกติแล้วข้าจะอาศัยอยู่ที่นั่น ลานนั้นเป็นที่ที่ข้าใช้ฝึกฝน และเป็นที่ที่บิดาของข้าชอบขึ้นไปสูดอากาศและมองทิวทัศน์ เขาชื่นชอบการสูบทำให้ข้างบนนั้นเหม็นอยู่เสมอ”
“เจ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี”
ไป๋ชิวหรานกล่าวตอบ
“ดูจากสภาพแวดล้อมแล้ว ดูเหมือนว่าบ้านของเจ้าจะยอดเยี่ยมที่สุดในหมู่บ้าน”
“เพราะว่า…”
ไป๋ลี่ตอบกลับ
“อย่างไรแล้ว บิดาของข้าก็คือผู้นำหมู่บ้าน”
“โอ้ ข้ากระทำการหยาบช้าแล้ว”
หลีจิ่นเหยาโค้งคำนับให้กับเขา
“ท่านอาจารย์ ภรรยาที่สามของท่านอาจารย์ และศิษย์พี่หญิงโปรดรอข้าสักครู่”
ไป๋ลี่ดูแลมารดาที่หมดสติก่อนจะกล่าวว่า
“เดี๋ยวข้าจะส่งท่านแม่กลับห้องก่อน พวกเราจะได้พูดคุยกันโดยสะดวก”
หลังจากกล่าวจบ เขาจึงพาไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ ไปที่ห้องพัก จากนั้นค่อยพามารดาของตนเข้าไปในห้องที่ใหญ่ที่สุดในลาน
ชายหนุ่มรออยู่ตรงนั้นสักครู่ ในที่สุดไป๋ลี่ก็กลับมาพร้อมกับหม้อชาในมือ
เขารินน้ำชาให้กับไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ จากนั้นกระโดดขึ้นนั่งตรงข้ามกับชายหนุ่มแล้วกล่าวว่า
“ข้าเข้าใจถึงจุดประสงค์ของท่านอาจารย์ที่มาเยี่ยมข้าในวันนี้ คงจะเป็นเรื่องแผนการบางอย่าง แต่ให้ข้าบอกสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวกับโลกใบนี้เสียก่อน”