ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 365 จักรพรรดิเซียนองค์แรกผู้เสียสละตนเองเพื่อเลี้ยงดูพยัคฆ์
- Home
- ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี
- บทที่ 365 จักรพรรดิเซียนองค์แรกผู้เสียสละตนเองเพื่อเลี้ยงดูพยัคฆ์
บทที่ 365 จักรพรรดิเซียนองค์แรกผู้เสียสละตนเองเพื่อเลี้ยงดูพยัคฆ์
บทที่ 365 จักรพรรดิเซียนองค์แรกผู้เสียสละตนเองเพื่อเลี้ยงดูพยัคฆ์
จากคำอธิบายของไป๋ลี่ ไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ จึงรับรู้สถานการณ์ภายในโลกใบนี้เพิ่มเติม
ก่อนหน้านั้น ไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ ทำได้เพียงสังเกตสถานการณ์ทั่วไปของโลกจากภายนอก พวกเขารู้เพียงภูมิประเทศทั่วไปและสถานการณ์โดยรวมของหลาย ๆ ประเทศ ทว่าทั้งหมดไม่เคยทราบถึงเงื่อนไขภายในเฉพาะของประเทศนั้น ๆ
จากมุมมองของเหล่าทวยเทพ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นทุกสิ่ง…
แม้แต่สุานที่ถูกเรียกว่าอาณาจักรต้าเซีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไป๋ชิวหรานแสร้งทำตัวเป็นคนนอกเข้ามาค้นหาคนที่ต้องการพบ
ในแง่ของภูมิทัศน์และความแข็งแกร่งของเหล่ามวลมนุษย์ ปัจจุบันอาณาจักรต้าเซียนี้เป็นดินแดนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ในอดีต ต้าเซียตอนใต้เคยเป็นประเทศที่รวมเป็นหนึ่งเพื่อต่อสู้กับอาณาจักรต้าเซีย แต่หลายร้อยปีก่อนเกิดภัยพิบัติจากอสูรโลหิตแห่งความเกรี้ยวกราด ประเทศนั้นจึงพังพินาศ และกลุ่มชาติพันธุ์ที่เหลือก็แตกกระจายออกไป ปัจจุบันมีประเทศเล็ก ๆ นับร้อยที่กำลังต่อสู้กันทั้งวันคืน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแหล่งพลังงานชั้นดีสำหรับอสูรโลหิตแห่งความเกรี้ยวกราด!
อาณาจักรที่เกี่ยวข้องและใกล้ชิดกับต้าเซียมากที่สุดคือโปแลนด์ ซึ่งมักจะเกิดเรื่องโจรกรรมทางถนนเพื่อเก็บค่าผ่านทาง นอกจากนี้ ยังมีหมู่เกาะและอีกสองประเทศทางคาบสมุทรตะวันออกของต้าเซีย ซึ่งก็คืออาณาจักรยามากุจิ กับอาณาจักรชางลี่
อาจเป็นเพราะอิทธิพลของจิตวิญญาณไป๋ลี่ โครงสร้างทางภูมิทัศน์ของทวีปหลักในโลกนี้จึงแปรเปลี่ยน อาณาจักรยามากุจิคล้ายกับเก้าทวีปสิบแผ่นดินมาก มันเป็นเหมือนฝูซางของเก้าทวีปสิบแผ่นดิน ทว่ามีขอบเขตพื้นที่เล็กกว่า
อย่างไรก็ตาม ไม่มีแคว้นใดในเก้าทวีปสิบแผ่นดินคล้ายคลึงกับอาณาจักรชางลี่ ดินแดนแห่งนั้นถูกครอบครองและนำโดยเผ่าปีศาจ
ทั้งสามอาณาจักร ต้าเซีย ชางลี่ และยามากุจิ เป็นดินแดนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดมากที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์ของทั้งสามนั้นเหนียวแน่น เป็นเพราะวัฒนธรรมของทั้งสามมีความคล้ายคลึงกันมาก สามารถกล่าวได้ว่าพวกเขาสร้างวัฏจักรวัฒนธรรมตะวันออกที่แตกต่างจากวัฒนธรรมตะวันตกโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ต้าเซีย
ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรต้าเซีย ทั้งสองประเทศใกล้เคียงจึงมีเสถียรภาพหลังจากใช้เวลาต่อสู้นานกว่าหลายปี
แม้มีแม่น้ำและทะเลสาบขนาดใหญ่ขวางกั้น แต่ก็มักจะมีนักรบที่ข้ามน้ำข้ามทะเลจากยามากุจิหรือนักสู้ชั้นเลิศที่มาจากชางลี่เข้ามา
สำหรับอาณาจักรต้าเซีย ตอนนี้มีการประชุมจากทุกสำนักกระบี่เพื่อชิงตำแหน่ง ‘อันดับหนึ่งของโลก’ ราชสำนักยามากุจิกับชางชี่นับว่านี่คือการแข่งขันที่แสดงถึง ‘ความรุ่งโรจน์ของแผ่นดิน’
วันนี้การประชุมเกี่ยวกับกระบี่กลายเป็นงานใหญ่ที่ถูกจัดขึ้นโดยนักสู้จากสำนักทั้งสามมารวมกัน
“การประชุมกระบี่ครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในอีกสิบปี”
ไป๋ลี่โบกมือพร้อมกล่าวว่า
“ท่านอาจารย์ หากต้องการส่งต่อเรื่องความศรัทธาในการสร้างรากฐานและบูชาเซียน วิธีที่ดีที่สุดคือการหาวิธีให้ผู้ศรัทธาในสวรรค์ที่สร้างรากฐานได้รับชื่อเสียงที่ยอดเยี่ยมของโลกในการประชุมกระบี่ครั้งนี้”
“แต่ตอนนี้อาจารย์ของท่านยังไม่มีผู้ใดเชื่อถือแม้เพียงสักคน”
หลีจิ่นเหยาเหลือบมองไป๋ชิวหรานพร้อมถอนหายใจ
“เราจะไปหาผู้ศรัทธาจากที่ใด? สัตว์ประหลาดในความว่างเปล่า?”
“ท่านอาจารย์ไม่ต้องกังวลแล้ว”
ไป๋ลี่ยิ้มอย่างมั่นใจ
“หมู่บ้านของข้าเติบโตขึ้นมาก ซึ่งเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับผู้ศรัทธาในการเติบโตไม่ใช่หรือ? ข้าตระเตรียมแผนการเหล่านี้มานานกว่าสิบปีแล้ว”
“โอ้ แล้วผู้เข้าร่วมของเจ้าเป็นเด็กชายคนที่สองหรือห้าล่ะ? ในหมู่บ้านนี้มีเพียงเด็กน้อยเท่านั้น แต่เจ้ากลับบอกว่าพร้อมแล้วงั้นหรือ?”
ถังรั่วเวยคิดครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ
“บุตรชายของผู้นำหมู่บ้านเป็นเด็กที่โตที่สุดแล้ว เอ่อ…”
“ศิษย์พี่หญิงกล่าวไม่ถูกต้องนัก”
ไป๋ลี่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
“ข้าไม่ได้ต้องการใช้ศิษย์ของข้า หากการสร้างรากฐานได้ผลจริงดั่งเช่นที่ท่านอาจารย์กล่าว ข้าจะสั่งสอนแก่พวกเขาว่านี่คือความเมตตาใหญ่ยิ่งจากสวรรค์”
หลังจากหยุดชั่วขณะ เขาก็กล่าวเสริมต่อว่า
“ท่านอาจารย์ไม่ต้องกังวล ท่านเพียงทำตามที่ข้าบอกกล่าว และภายในสองเดือน เมื่อทั้งหมู่บ้านเต็มไปด้วยผู้ศรัทธาในการสร้างรากฐาน เหล่าอาวุโสของหมู่บ้านรวมทั้งบิดามารดาข้า ทั้งหมดล้วนถูกข้าตรวจสอบเรื่องราวในอดีตหมดสิ้นแล้ว”
“โอ้ นับว่าเจ้ามีความสามารถอย่างแท้จริงในการทำสิ่งนี้”
ไป๋ชิวหรานพยักหน้า เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ
“ไม่สิ มารดาของเจ้าบอกกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเจ้าไม่เคยออกจากหมู่บ้านเลยตลอดชีวิต แล้วไปทราบเรื่องเหล่านี้จากที่ใด?”
“ท่านอาจารย์ ท่านอาจไม่ทราบเพราะอยู่ในบ้านนานเกินไป ทุกหย่อมหญ้าต้องมีคนอย่าง ไป๋เสี่ยวเฉิงสักคนหรือหลายคน”
ไป๋ลี่ยกแขนพร้อมกล่าวต่อ
“และข้าก็เป็นสหายที่ยอดเยี่ยมในหมู่ของไป๋เสี่ยวเฉิง เขารู้รายละเอียดของหมู่บ้านนี้ทั้งหมด ทุกเดือนเขาจะมาที่หมู่บ้านเพื่อพักอยู่ใต้ต้นไม้เก่าตรงทางเข้าเพื่อเล่าเรื่องมากมาย และข้าได้รับข้อมูลต่าง ๆ ของโลกใบนี้จากเขา ซ้ำยังได้ทราบว่าบิดาของข้ามีสหายถึงสามคนในดินแดนต้าเซียเมื่อครั้งที่เขายังเป็นเด็ก…”
“บิดาของเจ้าจะตายตกด้วยความโกรธ”
ไป๋ชิวหรานส่ายศีรษะ
“อีกอย่าง แล้วเยว่เอ๋อร์ที่มารดาเจ้ากล่าวถึงคือผู้ใด?”
ไป๋ลี่ถึงกับเผยท่าทีตกใจ
“เอ่อ?”
ไป๋ชิวหรานรู้สึกหงุดหงิดกับเหล่านางสนมของเขาแทบคลั่งเมื่อต้องจัดการกับร่างที่เขาทิ้งเอาไว้
ชายหนุ่มยกนิ้วขึ้นพร้อมกล่าวถาม
“เจ้าได้พบอีกหนึ่งคนแล้วหรือ?”
“ยังไม่พบ”
ไป๋ลี่กล่าวอย่างหมดหนทาง
“มารดาของข้ารับนางมาเลี้ยง แล้วยังบอกอีกว่าอยากให้เยว่เอ๋อร์เป็นเจ้าสาวของข้า”
“โอ้”
ไป๋ชิวหรานพยักหน้า
“เช่นนั้นนางยินดีที่จะช่วยเจ้าซักผ้าเพื่อตอบแทนน้ำใจของมารดาเจ้าหรือ?”
“ไม่ เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะศิษย์น้อง”
ถังรั่วเวยบ่นพึมพำ
“ท่านอาจารย์ ตอนนี้ท่านกำลังจะกลายเป็นบิดาแล้ว เหตุใดถึงไร้เดียงสาเช่นนี้?”
เด็กสาวที่เต็มใจช่วยเขาซักผ้า แต่กลับบอกกล่าวว่าไม่ชื่นชอบ ในโลกใบนี้คงมีเพียงไป๋ชิวหรานเท่านั้นที่จะเชื่อถือคำพูดเหล่านั้น
“เป็นเช่นนั้นเสียได้ เฮ้อ ในฐานะอาจารย์ ข้าจะไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของเจ้า”
ไป๋ชิวหรานตบไหล่ไป๋ลี่เบา ๆ
“อย่าได้ลืม ในแดนเซียนเจ้ายังมีนางสนมเจ็ดสิบสองคนภายในวังทั้งสามกับลานทั้งหก ทั้งหมดโดดเดี่ยวมาหลายพันปีและกำลังรอให้เจ้ากลับไป พวกเขาเกือบจะขอให้ข้าทำให้ร่างกายเจ้าเป็นหุ่นเชิดมนุษย์โดยสมบูรณ์แบบเพื่อ… เอ่อ เอาล่ะ เมื่อถึงเวลาเจ้าจงไปจัดการมันด้วยตนเอง…”
เขาพูดออกมาพร้อมส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยใจ ส่วนไป๋ลี่ที่รับฟังถึงกับเผยความตื่นตระหนก
“เพียงเท่านั้น…”
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน จักรพรรดิเซียนองค์แรกกัดฟันพร้อมกล่าวต่อ
“เรื่องสำคัญก็คือข้าเสียสละตนเองเพื่อเลี้ยงพยัคฆ์… เยว่เอ๋อร์ดีต่อข้ามาก และข้าไม่อาจปล่อยนางไป”
“สิ่งที่เจ้ากล่าวออกจะคล้ายไปทางมิตรภาพเสียมากกว่า”
ไป๋ชิวหรานพยักหน้าพึงพอใจกับคุณธรรมเช่นนี้ของศิษย์ ก่อนที่จะส่ายศีรษะอีกครั้งแล้วกล่าวต่อ
“โอ้ แต่ดูเหมือนว่าหลังจากจักรพรรดิเซียนองค์แรกกลับสู่แดนเซียนได้ องค์จักรพรรดิก็คงไม่มีเวลาขึ้นนั่งบัลลังก์ในเร็ววันแน่นอน”
“ลืมมันไปเสีย ท่านหยุดกล่าวเรื่องเลวร้ายพวกนี้เสียทีเถิด”
ไป๋ลี่พยายามเบี่ยงประเด็น
“นับเวลารอคอยเถิด บิดาของข้ากำลังจะกลับมา ท่านอาจารย์ ท่านเลือกวันได้ดีนัก เพราะวันนี้ท่านทุบตีมารดาของข้าแล้ว เหตุใดจึงไม่ทำให้บิดากับมารดาของข้าเป็นผู้ศรัทธาในเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานเสียเลยล่ะ?”