ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 367 พบเจอเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน
บทที่ 367 พบเจอเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน
บทที่ 367 พบเจอเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน
ปัง ปัง!
กระบอกปืนทั้งสองหักเป็นสองท่อนก่อนจะตกสู่พื้นด้วยเสียงคมปลาบ
ลานบ้านเต็มไปด้วยหลุมบ่อขนาดเล็กใหญ่จากพลังปราณที่แท้จริง บิดาของไป๋ลี่และลิ่วเยวี่ยนตกลงสู่หลุมใหญ่ ก้นของเขาจ้ำเบ้าลงกับพื้น ใบหน้าแหงนมองท้องฟ้า จมูกมีเลือดไหลออกมา ขณะนี้ใบหน้านั้นดูเหมือนจะสับสนกับชีวิตตนเองแล้ว
ในฐานะนักรบที่เก่งกาจในการต่อสู้ ความสามารถของลิ่วเยวี่ยนจึงแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับผู้อื่นในดินแดนแห่งนี้ เขาสามารถใช้สภาพแวดล้อมและอาวุธทุกชนิดได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็น กระบี่ มีด ปืน อาวุธประหลาด ๆ หรือแม้แต่เครื่องครัว เครื่องมือทำสวน พู่กัน หรือเข็ม ต่าง ๆ ทั้งหมดนี้หล่อหลอมให้เขาเป็นนักรบที่ทรงพลังไร้ผู้ใดเทียบ!
ลิ่วเยวี่ยนผสานทักษะของตนเองและก่อตั้งโรงเรียนนักสู้ของตนเองขึ้นมา ซึ่งเขาตั้งชื่อสิ่งนี้ว่า ‘วิทยายุทธ์ร้อยแขนง’
อย่างไรก็ตาม ในบ้านตอนนี้เป็นสถานที่ของเขา สภาพแวดล้อม อาวุธต่าง ๆ ล้วนเป็นของเขาสิ้น และเขาคือปรมาจารย์ของวิทยายุทธ์ร้อยแขนง ทว่ากลับไม่สามารถเอาชนะบุรุษผมขาวที่ดูหล่อเหลาตรงหน้าได้!
เขาสามารถใช้ขวานสับฟืน ตะขอตกปลา หรือกระทะที่ใช้ทำอาหารในครัวเป็นอาวุธได้ ทว่ากลับไม่สามารถทำร้ายบุรุษตรงหน้าได้แม้แต่ปลายเส้นผม!
กลับเป็นไป๋ชิวหรานที่ทำให้เขาล้มลงพื้นด้วยการชกหมัดตรงเพียงสามครั้ง…
หมัดที่ตาซ้าย หมัดที่ตาขวา และกลางใบหน้า เช่นนี้จมูกจึงมีเลือดไหลอาบ
เดิมทีเขาต้องการล้างแค้นให้กับภรรยาสุดที่รัก ทว่าดูเหมือนจะไม่มีหนทางเสียแล้ว
“เป็นอย่างไร?”
ไป๋ชิวหรานปัดฝุ่นบนบ่าก่อนจะกล่าวกับลิ่วเยวี่ยนที่นอนกองอยู่บนพื้น
“ข้ามีคุณสมบัติที่จะเป็นอาจารย์ของบุตรชายเจ้าหรือยัง?”
ลิ่วเยวี่ยนไม่ตอบ
เขาลุกขึ้นพร้อมนั่งบนพื้นในหลุม ก่อนจะเงยหน้าถามว่า
“เจ้าหนุ่ม เหตุใดผลทักษะของเจ้าถึงแข็งแกร่งนัก?”
ใช่แล้ว! ตอนนี้แหละ!
แสงสว่างสาดส่องหัวใจของไป๋ชิวหราน เขาตื่นเต้นมาก แต่ต้องแสร้งทำเป็นใจเย็น
“นั่นเป็นเพราะข้าศรัทธาในเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน”
“เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน?”
ลิ่วเยวี่ยนสงสัย
“มันคือสิ่งใด?”
“เขาคือเทพอาวุโส…”
ไป๋ชิวหรานสะบัดเรื่องราวในตำนานที่ไป๋ลี่บอกกล่าวถึงความสมบูรณ์แบบของผู้เป็นบิดาออก หลังจากกล่าวจบ เขาก็ไพล่มือด้านหลังแล้วกล่าวด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
“นับตั้งแต่ข้าศรัทธาในเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน เอวของข้าจึงตั้งตรงตลอดเวลา ต้นขาแข็งแกร่ง เดินได้อย่างคล่องแคล่วแล้วยังเป็นอิสระ ต่อให้อยู่ในขั้นเทพเจ้าแห่งแผ่นดิน แม้มีเพียงมือเดียวข้าก็สามารถจัดการเขาได้ง่ายดาย”
“มันยอดเยี่ยมถึงเพียงนั้น…”
ลิ่วเยวี่ยนคล้ายกับสงสัย
เดิมทีเขาคงคิดเยาะเย้ยหากได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้ ในโลกใบนี้นอกจากลัทธิเต๋าและพุทธศาสนาแล้ว ไม่มีปรมาจารย์นักสู้ผู้ใดที่จะกระทำเรื่องเหล่านี้ได้
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของไป๋ชิวหรานนั้นยอดเยี่ยมมาก อีกทั้งศิลปะการต่อสู้ยังหลากหลาย ทั้งหมดล้วนมีท่วงท่าสง่างามและคล่องแคล่ว แม้แต่เทพเจ้าแห่งแผ่นดินของโลกใบนี้ยังไม่อาจเทียบเทียมได้
หากต่อสู้กันด้วยพลังที่แท้จริง ไป๋ชิวหรานอาจจะสังหารอาวุโสเหล่านั้นได้ในพริบตา
“ท่านพ่อ เหตุใดท่านถึงไม่ลองดูสักหน่อย”
ขณะเดียวกัน ไป๋ลี่ก็ยื่นผ้าให้กับบิดา ขณะเดียวกันเขาก็คิดช่วยเหลือไป๋ชิวหรานในการโน้มน้าว
“ลองอะไร? เจ้าคิดว่าเทพเจ้าตนนั้นจะยอมรับข้าจริงหรือ?”
ลิ่วเยวี่ยนตบศีรษะไป๋ลี่พร้อมกล่าวอย่างขุ่นเคือง
“ลุกไปจุดตะเกียง แล้วไปหาท่านปู่กับท่านย่าของเจ้าเพื่อต้มโอสถ ข้ากับแม่เจ้าต้องการโอสถรักษาอาการบาดเจ็บนี้”
“สหาย”
ในเวลานี้ ไป๋ชิวหรานกล่าวกับลิ่วเยวี่ยน
“ความจริงแล้ว ไป๋ลี่กล่าวมาถูกต้อง เจ้าสามารถลองดูได้”
“อะไร?”
“หากข้าเดาไม่ผิด เจ้าคงอยู่ในสภาพเช่นนี้มานานหลายปีแล้ว”
ไป๋ชิวหรานเผยรอยยิ้มให้ลิ่วเยวี่ยน
“เจ้าอาจสิ้นหวังที่จะทะลวงผ่าน แต่ความจริงแล้วหากถามข้า เจ้าเพียงต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อยเท่านั้น เพียงแค่ศรัทธาและบูชาต่อเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน ตราบใดที่มีจิตใจมุ่งมั่นมากพอ เมื่ออยู่ต่อหน้าพระองค์ แน่นอนว่าทุกชีวิตบนโลกล้วนเท่าเทียม”
“มีเมตตาถึงเพียงนั้น?”
ลิ่วเยวี่ยนถามอย่างสงสัย
“เจ้าไม่จำเป็นต้องสร้างเทวรูปอะไรทั้งสิ้น เพียงแค่นำธูปสามดอก บูชาสวรรค์และโลกภายในบ้านของเจ้า จากนั้นสวดภาวนาต่อเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานในใจก็เพียงพอแล้ว”
ไป๋ชิวหรานกล่าวแนะนำ
“อย่างไรก็ตาม เจ้าไม่จำเป็นต้องเสียเงิน หรือเข้าร่วมสำนักที่วุ่นวายใด ๆ สามารถลองได้ที่บ้านของเจ้า”
ลิ่วเยวี่ยนเหลือบมองไป๋ลี่ จากนั้นไป๋ชิวหรานจึงกล่าวกับไป๋ลี่
“เอาล่ะ ข้าจะลองดู เจ้าจงไปที่ร้านขายของแล้วซื้อธูปสามดอกกลับมาให้ข้า”
“ท่านพ่อ”
ไป๋ลี่กล่าวถามอย่างประหลาดใจ
“มีปัญหาใด?”
“อย่างที่สหายตัวน้อยกล่าว ข้าไม่จำเป็นต้องใช้เงิน แต่ข้าสามารถซื้อธูปได้ ซึ่งราคามันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายใด”
ลิ่วเยวี่ยนโค้งคำนับต่อไป๋ชิวหรานแล้วกล่าวว่า
“และในโลกใบนี้ ผู้ที่แข็งแกร่งล้วนแต่ควรค่าแก่การนับถือ หากท่านเอาชนะข้าได้ สิ่งที่ท่านกล่าวคำทั้งหมดย่อมสมเหตุสมผล”
…
ลิ่วเยวี่ยนปักธูปสามดอกในบ้านของเขา จากนั้นจึงกล่าวเชิญไป๋ชิวหราน หลีจิ่นเหยาและถังรั่วเวยเข้ามารับประทานอาหารภายในบ้าน
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จสิ้น ไป๋ชิวหรานและทั้งสามคนก็กล่าวอำลา พวกเขาเปิดสองห้องในโรงเตี๊ยมของหมู่บ้าน อย่างไรแล้วพวกเขาไม่ได้พักที่บ้านของลิ่วเยวี่ยนกับไป๋ลี่
และหลังจากทั้งหมดออกไปได้ไม่นาน ลิ่วเยวี่ยนกับเจี่ยเชียนโหรวก็ทาโอสถที่ได้รับ ลิ่วเอ๋อร์เป็นบุตรบุญธรรมทำหน้าที่ดูแลทั้งสอง จากนั้นทั้งสามีและภรรยาจึงเข้านอนด้วยสภาพอารมณ์ที่หดหู่เล็กน้อย
ความเจ็บปวดบนใบหน้าทำให้ลิ่วเยวี่ยนไม่แน่ใจว่าเขาสามารถหลับลงได้หรือไม่ เมื่อรู้สึกตัวขึ้น กลับพบว่าตนเองอยู่ในสถานที่แปลกประหลาด เขาไม่ได้นอนอยู่ในห้องนอนที่บ้าน!
ทุกทิศทางเต็มไปด้วยหมอกหนาทึบ มองไม่เห็นแม้กระทั่งมือของตนเอง หรือแม้แต่ถนนที่ยืนอยู่ยังไม่สามารถมองเห็นได้ชัด แต่ลิ่วเยวี่ยนยังรู้สึกได้ว่ากำลังยืนอยู่บนสถานที่ที่มั่นคง ขณะมองลงไปที่ฝ่าเท้า เขายังสวมใส่เสื้อผ้า และมีเพียงแค่เท้าที่เปลือยเปล่า
“ลิ่วเยวี่ยน…”
ทันใดนั้น ในส่วนลึกของม่านหมอกมีน้ำเสียงอ่อนโยนและคลุมเครือดังขึ้น มันสั่นสะเทือนคล้ายกับเสียงสั่นของโลหะ
“ลิ่วเยวี่ยน… เข้ามาพบเทพองค์นี้”
เสียงนั้นดูเหมือนจะเรียกหาเขา หลังจากนั้นลิ่วเยวี่ยนก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เสียงนั้นเรียกเขาเข้าไปในหมอกหนา
เขาอดไม่ได้ที่จะเดินตรงเข้าไปในหมอกหนาด้านหน้า
ไม่รู้ว่าเดินมานานเพียงใดกว่าที่ลิ่วเยวี่ยนจะหลุดพ้นจากหมอก ทันใดนั้นลำแสงสีทองเปล่งประกายก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
แสงสว่างที่ส่องประกายออกทำให้ผู้รับชมสิ่งนี้ผ่อนคลายราวกับแสงอาทิตย์ส่องสว่างยามเช้า ซึ่งทำให้จิตใจของผู้ที่ได้มองรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
แสงค่อย ๆ จางลง ลิ่วเยวี่ยนลืมตาและมองไปด้านหน้า เขารู้สึกว่าตนเองอยู่ที่ภูเขาเซียน…
ในพื้นที่โล่งของภูเขาเซียน มีโต๊ะหินสี่เหลี่ยม และเก้าอี้ทรงกลมขนาดเล็กสี่ตัว
ตรงข้ามกับลิ่วเยวี่ยน บนเก้าอี้ทรงกลมด้านข้างมีบุรุษผมขาว สวมชุดคลุมยาว ซึ่งมองเห็นไม่ชัดเจนนัก
เขามีย่ามใหญ่อยู่บนหลัง และบนไหล่ยังมีมังกรทองยืนบนก้อนเมฆ มันวิ่งเล่นไปทั่ว ดูน่ารักน่าชัง
“ลิ่วเยวี่ยน”
บุรุษผมขาวเผยรอยยิ้มให้เขา
“ข้าได้ยินคำสวดภาวนาของเจ้าแล้ว”
ลิ่วเยวี่ยนยกมือขึ้นอย่างประหลาดใจพร้อมกล่าวถาม
“ข้าขอถามนามของท่านได้หรือไม่?”
“ได้”
มองเห็นบุรุษในชุดขาวได้ไม่ชัดเจนนัก เขาปลดปล่อยเวทลึกลับในมือก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่าย
“ข้าคือเทพเจ้า… นามว่าเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน”