ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 368 เซียนคุ้มครองเบื้องบน ประทานชีวิตอันยืนยาว
บทที่ 368 เซียนคุ้มครองเบื้องบน ประทานชีวิตอันยืนยาว
บทที่ 368 เซียนคุ้มครองเบื้องบน ประทานชีวิตอันยืนยาว
“ท่านคือเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานหรือ?”
ลิ่วเยวี่ยนพึมพำออกมาด้วยความประหลาดใจ
“นี่ข้าฝันไปหรือไม่?”
เขาหยิกแขนตนเองอย่างแรง มันเจ็บปวดจริง ๆ อีกทั้งยังไม่ตื่นจากฝัน!
“เป็นความจริงที่ว่าเจ้ากำลังฝัน แต่เพราะเทพองค์นี้เข้ามาในฝัน และเจ้าจะไม่ตื่นขึ้นแม้ว่าจะเจ็บปวดเพียงใด”
“เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน” เขากล่าวกับลิ่วเยวี่ยนอย่างใจเย็น
“นั่งลง ข้าจะช่วยเหลือเจ้า”
หลังจากนั้น เขามองลิ่วเยวี่ยนอีกครั้ง อีกฝ่ายกำลังจะใช้หมัดชกใบหน้าของตนเอง เขาจึงกล่าวออกมา
“ความฝันนี้มีผลกระทบต่อความเป็นจริง หากไม่อยากจมปลักอยู่ในอดีตก็อย่าได้กระทำเรื่องวุ่นวาย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลิ่วเยวี่ยนจึงล้มเลิกหมัดของตนเองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะนั่งลงบนม้านั่งหินตรงหน้าเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน แล้วกล่าวถามต่อไป
“ข้าไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านจึงมาพบข้า ข้าไม่เชื่อว่าท่านไม่ทราบ ข้าเพียงแสดงความเคารพต่อหน้าบุตรชายและบุรุษผมขาว… ข้าเพียงแค่ทำตามสิ่งที่เขาบอกกล่าวเพราะข้าไม่อาจสู้กับเขาได้… และข้าไม่ใช่ผู้ที่ศรัทธาท่านอย่างแท้จริง”
“แน่นอนว่าข้าทราบ”
เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“หลังจากนี้เจ้าจะศรัทธาในข้า”
หลังกล่าวเช่นนั้น เขายื่นมือออกมาและกดเบา ๆ ลงบนศีรษะของลิ่วเยวี่ยน
…
เช้าวันรุ่งขึ้น ลิ่วเยวี่ยนตื่นขึ้นที่เตียงของตนเอง
ภรรยาสุดที่รักของเขายังคงหลับอยู่ นางเอาผ้าห่มคลุมศีรษะไว้เพื่อปกปิดดวงตาที่บวมช้ำ ลิ่วเยวี่ยนรู้สึกว่านางคงจะไม่อยากออกไปพบผู้คนภายนอกสักพักหนึ่ง
นางคงไม่อยากพบเจอผู้ใดทั้งสิ้น…
ลิ่วเยวี่ยนถอนหายใจพร้อมกับลุกขึ้นจากเตียง ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง…
เขาบิดไหล่ สัมผัสตันเถียนที่อยู่ในร่างกาย และพบว่าคฤหาสน์สีม่วงมีพลังปราณแก่นแท้ไหลเวียนอย่างหนาแน่นภายในเส้นลมปราณทั้งแปด มันก่อตัวเป็นพลังปราณแก่นแท้ยิ่งใหญ่และหลั่งไหลสู่ร่างกายไม่รู้จบ
สภาวะกลมกลืนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ? ข้าทะลวงผ่านแล้ว?
ลิ่วเยวี่ยนยืนขึ้นเดินตรงไปที่คันฉ่อง ก่อนจะถอดผ้าที่ปิดใบหน้าออกแล้วมองดูตนเองอย่างพิจารณา
ใบหน้าของเขาปราศจากบาดแผล ผิวขาวสดใสราวกับทารกเกิดใหม่ เขาสูดลมหายใจลึกอย่างตื่นเต้น
…
ลิ่วเยวี่ยนออกจากลานบ้านของตนเอง เขาสดใสราวกับพระอาทิตย์ในยามเช้า
เขาต้องการใช้เวลาเพื่อที่จะทดลองขอบเขตเทพเจ้าแห่งแผ่นดินที่สูงสุดบนโลกใบนี้ว่าเป็นอย่างไร
เมื่อออกจากบ้าน ลิ่วเยวี่ยนเห็นว่ามีคนหนึ่งตื่นเช้ายิ่งกว่าเขา อีกฝ่ายกำลัง ‘ดมกลิ่นไก่ย่างและเต้นรำ’ อยู่บนถนน
ชายผู้นี้คือขอทานในหมู่บ้าน แม้จะเป็นขอทานที่นี่ แต่เขายังเป็นสมาชิกของหมู่บ้านชิงสุ่ย ทุกคนในหมู่บ้านล้วนแต่เคยอยู่ในอาณาจักรต้าเซีย และพวกเขาทั้งหมดทราบเบื้องหลังของขอทานผู้นี้เป็นอย่างดี
ขอทานผู้นี้เคยอยู่ในอาณาจักรต้าเซียมาก่อน และเคยมีชื่อเสียงของวีรบุรษในแนวหน้า เขาเคยเป็นบุคคลที่มีแนวโน้มจะได้เป็นผู้นำกองทัพพันธมิตรด้วย!
แต่ต่อมาเขาเผชิญหน้ากับปัญหาบางอย่าง เขาหยุดอยู่ที่ขอบเขตความเป็นมนุษย์ขั้นที่หก คราวนั้นติดอยู่ในสภาวะตีบตันและหดหู่ยิ่ง เขาจึงมาขอทานอยู่ในหมู่บ้านชิงสุ่ย ซึ่งลิ่วเยวี่ยนและหลายคนในหมู่บ้านยินยอมให้เขาอาศัยอยู่ที่นี่
ทักษะการต่อสู้ของชายผู้นี้ได้รับสืบทอดมาจากฉีเหมิง หมัดของเขาน่าทึ่งยิ่งนัก แม้แต่ลิ่วเยวี่ยนกับเจี่ยเชียนโหรวยังเคยขอคำแนะนำจากเขา ตอนนี้ขอทานผู้นี้กำลังเผชิญหน้ากับดวงอาทิตย์ยามเช้า เขาฝึกฝนฝ่ามือ เมื่อปลดปล่อยปราณที่แท้จริงออก ภาพเสมือนของมังกรและพยัคฆ์ก็ปรากฏขึ้นจากฝ่ามืออย่างลึกลับและทรงพลังยิ่ง
“ขอทานผู้นี้กำลังฝึกฝนจริงหรือ?”
ลิ่วเยวี่ยนรู้สึกประหลาดใจ
นับตั้งแต่ขอทานผู้นี้เข้าสู่หมู่บ้านชิงสุ่ย ดูเหมือนว่าเขาจะสูญเสียจิตวิญญาณนักสู้หมดสิ้นแล้ว นับประสาอะไรจะให้ฝึกฝนการต่อสู้ เขาไม่คิดจะทำงานหาเลี้ยงตนเองด้วยซ้ำ เพียงแค่รับอาหารให้พ้นผ่านไปวัน ๆ เท่านั้น
ในบางครั้งขอทานผู้นี้ยังหลอกลวงขโมยขนมน้ำตาลจากเด็กในหมู่บ้านอย่างไร้ยางอายด้วย
หลังจากที่ล่าถอยมาอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ศิลปะการต่อสู้ของผู้คนส่วนใหญ่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีเพียงขอทานนี้เท่านั้นที่ไม่ยอมก้าวหน้า แต่กลับถอยหลังในทุกวัน ลิ่วเยวี่ยนคิดว่าปัจจุบันเขาสามารถต่อต้านคนผู้นี้ได้ในสิบกระบวนท่า แต่ขอทานผู้นี้อาจจะตายตกก่อนก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ขอทานที่เกียจคร้านกลับตื่นแต่เช้าตรู่ และฝึกฝนพลังหมัดอยู่ที่สันเขื่อนของหมู่บ้าน เมื่อเห็นว่าพลังของเขาออกท่วงท่าอย่างไรก็ดูเหมือนว่ามันจะพัฒนาขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก
สหายผู้นี้ทะลวงผ่านได้แล้วหรือ?
ลิ่วเยวี่ยนขยี้ตาและพบว่าเขาไม่ได้ฝันไป
เขายืนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่คิดปิดกั้นลมหายใจ เมื่อขอทานกำลังฝึกฝน อีกฝ่ายมองเห็นเขาในทันที ก่อนจะยกมือทักทายอย่างเกียจคร้าน
“โอ้ ผู้นำหมู่บ้าน วันนี้ท่านตื่นเช้าหรือ? ข้าได้ยินว่าเมื่อวานมีชายแข็งแกร่งทุบตีภรรยาของท่าน เป็นจริงหรือไม่?”
ลิ่วเยวี่ยนเลือกที่จะไม่ตอบ เขาเดินตรงเข้ามาหาขอทานพร้อมสอดส่องสายตาแปลกประหลาด
“เจ้าทะลวงผ่านด้วยเช่นกันหรือ?”
“ถูกต้องแล้ว ข้าอยู่ในขอบเขตความเป็นมนุษย์ขั้นเจ็ด”
ขอทานลูบศีรษะเบา ๆ
“ประหลาดมาก เมื่อวานมีบุรุษผมขาวซื้อไก่ย่างมาติดสินบนข้า และบอกกล่าวให้บูชาเทพเจ้านามว่า ‘เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน’ หลังจากที่ข้ากลับไปนอน เมื่อคืนฝันว่ามีชายชุดขาวไม่ทราบใบหน้ามาพบในความฝัน อีกทั้งยังสอนข้าออกหมัด เมื่อเช้าพอตื่นขึ้น ข้าพบว่าตนเองสามารถทะลวงผ่านสภาวะตีบตันได้แล้ว”
หลังจากหยุดชั่วคราว เขาเหมือนตระหนักได้ถึงบางอย่างก่อนจะกล่าวถามลิ่วเยวี่ยนอย่างประหลาดใจ
“เดี๋ยว เจ้าก็เพิ่งกล่าวว่า ‘ด้วย’ งั้นหรือ เช่นนั้นท่านผู้นำก็คง…”
“ถูกต้อง ข้าก็เช่นกัน”
ลิ่วเยวี่ยนยกมือขึ้น และทันใดพลังปราณแก่นแท้ก็ปรากฏบนร่างกายของเขา พลังแข็งแกร่งปกคลุมทั่วร่างกาย นี่คือคลื่นพลังของเทพเจ้าแห่งแผ่นดิน
“โอ้… คฤหาสน์สีม่วงนี้เป็นความจริงหรือ?”
ขอทานกล่าวด้วยความตกใจ
“เกรงว่าท่านจะเป็นเทพเจ้าแห่งแผ่นดินที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์หลายร้อยปี? ดูเหมือนคราวนี้หมู่บ้านของเรานับว่าจะต่อกรได้ยากแล้ว”
หลังจากคิดถึงบางสิ่ง เขาจึงกล่าวถามอีกครั้ง
“ว่าแต่ท่านทะลวงผ่านสภาวะตีบตันได้อย่างไร? เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านต่อสู้กับผู้ที่ทุบตีภรรยาอย่างสุดกำลังเมื่อวานนี้ แล้วจึงได้เรียนรู้บางสิ่งระหว่างการต่อสู้ จากนั้นจึงทะลวงผ่านได้?”
“ไม่ใช่”
ลิ่วเยวี่ยนรู้สึกอับอายเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขากล่าวตอบ
“เมื่อวาน… บุตรชายของข้าบอกกล่าวให้บูชาเทพเจ้านามว่า ‘เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน’ แล้วในตอนหลับใหล ข้าฝันว่าตนเองเข้าสู่ภูเขาเซียนและพบชายคนหนึ่งไม่ทราบใบหน้า ชายผู้นั้นยื่นมือมากดที่หน้าผากของเขา และเมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้าจึงพบว่าตนเองทะลวงผ่านสภาวะตีบตันได้แล้ว”
“เดี๋ยว… เช่นนั้น…”
ขอทานแตะคางเบา ๆ ก่อนจะกล่าวอย่างประหลาดใจ
“เช่นนั้นบุรุษผมขาวผู้นั้นไม่ได้หลอกลวงข้า โลกใบนี้มีเทพเจ้าคุ้มครองอยู่จริงหรือ?”
“ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น”
ลิ่วเยวี่ยนพยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้
“ไม่ว่าเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานจะเป็นทวยเทพหรือไม่ แต่ในโลกนี้ดูเหมือนมีบางสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการของเรา ในช่วงความโกลาหล เชียนโหรวกับข้าเคยต่อสู้กับสำนักอสูรโลหิตที่ออกอาละวาด และเห็นว่าร่างกายบางคนมีลักษณะที่ผิดมนุษย์ เดิมทีคิดว่ามันเกิดจากพลังชั่วร้ายของสำนักอสูรโลหิต แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่า… เทพเจ้าชั่วร้ายที่พวกเขาศรัทธาเหล่านั้นมีอยู่จริง”
“ข้าก็ได้ยินเรื่องนั้นเช่นกัน อดีตราชวงศ์ก่อนที่สิ้นพระชนม์ไป ภายในพระราชวังของเขาถูกกวาดล้างสังหารภายในคืนเดียว มีสัตว์ประหลาดต่อสู้กับหัตถ์ของพระเจ้าบนท้องฟ้าใจกลางของพระราชวัง ข้าคิดว่าทั้งหมดคงเป็นเพียงข่าวลือที่แพร่กระจายโดยผู้คนสติไม่ดี แต่ตอนนี้…”
ขอทานมองลิ่วเยวี่ยนด้วยแววตามั่นคงและแน่วแน่
“อย่างไรก็ตาม เราต้องถามใครสักคนที่ทราบเรื่องนี้”
ลิ่วเยวี่ยนกล่าวตอบ
“คนที่บอกกล่าวให้พวกเราบูชาเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานยังอยู่ในเมืองไม่ใช่หรือ? หากไปถามเขาน่าจะทราบ”