ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 419 พลังของบุตรสาว
บทที่ 419 พลังของบุตรสาว
บทที่ 419 พลังของบุตรสาว
ไป๋ชิวหรานอยู่ข้าง ๆ อ่างอาบน้ำที่มีไป๋ซวี่เซียงอยู่ข้างใน บิดาและบุตรสาวจ้องมองกันผ่านชั้นบาง ๆ ของน้ำ
แต่มันไม่ได้หมายความว่าไป๋ซวี่เซียงกำลังแช่ตัวอยู่ในอ่างน้ำอุ่น เป็นเพียงเงาสะท้อนของนางบนผิวน้ำเท่านั้น
“เจ้าทำได้อย่างไร?”
ไป๋ชิวหรานจ้องมองผิวน้ำ และทารกในเงาสะท้อนยื่นมือออกมา เมื่อเห็นเช่นนี้เขาจึงเหยียดมือจุ่มน้ำอุ่น
เมื่อปลายนิ้วสัมผัสผิวน้ำ ไป๋ชิวหรานรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังอันยากจะอธิบาย
มันคือกระบวนท่าบิดเบือนมิติ… และยังมีกระบวนท่าอื่น ๆ ที่เขาไม่เคยคิดสนใจ
จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปยังเงาสะท้อนบนผิวน้ำ ครั้นจับเข้ากับเงาของทารก เขารู้สึกได้ถึงพลังปราณจากมือของตนเอง
ไป๋ชิวหรานดึงฝ่ามือกลับพร้อมกับอุ้มร่างของไป๋ซวี่เซียงขึ้นจากน้ำอุ่นอย่างง่ายดาย
เด็กหญิงตัวน้อยเปลือยกายเผยรอยยิ้มมีความสุข นางดูเหมือนจะทราบว่าไป๋ชิวหรานคือผู้ใด หลังจากที่เขาอุ้มนางขึ้นมา นางจึงริเริ่มที่จะลูบคลำใบหน้าบิดา
เด็กหญิงผู้นี้ยังไม่ได้ชำระล้างร่างกายหลังจากคลอดออกมา เช่นนั้นจึงมีคราบเหนียวเหนอะหนะติดอยู่บนใบหน้าของไป๋ชิวหราน
“เจ้าตัวเล็กเกินไป แล้วยังไม่สนใจเรื่องความสะอาด…”
ไป๋ชิวหรานถอนหายใจ ความรู้สึกของการเป็นพ่อผุดขึ้นในใจของเขา
เมื่อเห็นว่าไป๋ซวี่เซียงยังคงไม่หยุดป่ายปัดมือน้อย ๆ เขาไม่ได้เรียกเซียนรับใช้ที่ทำหน้าที่จัดการชำระล้าง แต่อุ้มนางไว้ในมือข้างหนึ่งก่อนจะร่ายเวทเพื่อให้ความอบอุ่น จากนั้นจึงราดน้ำลงไปบนร่างกายน้อย ๆ เพื่อช่วยชะล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย
คราวนี้ไป๋ซวี่เซียงไม่ได้ใช้พลังเหนือธรรมชาติของตนเองแล้ว นางยอมให้ไป๋ชิวหรานจับแช่ในน้ำอุ่นและชำระล้างอย่างง่ายดาย ซูเซียงเสวี่ยนำผ้าเช็ดตัวมาให้และช่วยเช็ดตัวนางจนแห้ง ก่อนจะสวมใส่อาภรณ์เด็กอ่อนให้กับทารก
ในขณะทำเช่นนี้ หลีจิ่นเหยาและคนอื่น ๆ มาหยุดยืนอยู่ด้านหลังและเฝ้ามองอย่างตั้งใจ พวกเขาเห็นฉากที่ไป๋ชิวหรานดึงไป๋ซวี่เซียงออกจากเงาสะท้อนบนน้ำได้อย่างชัดเจน
เมื่อเห็นว่านางสวมเสื้อผ้าเสร็จสิ้นแล้ว ไป๋ชิวหรานจึงนำไปส่งให้บนเตียงของเจียงหลาน นางคลานไปมาบนร่างกายของมารดาอย่างสนุกสนาน จนหลีจิ่นเหยาอดไม่ได้ที่จะกล่าวถาม
“ความสามารถของเด็กน้อยผู้นี้คือสิ่งใด? สามารถเข้าสู่โลกคันฉ่องได้งั้นหรือ?”
ทันทีที่พูดจบ นางก็เห็นไป๋ซวี่เซียงซึ่งนอนอยู่บนเตียงพลิกตัวไปมาและหายลับไปจากสายตาทุกคน จากนั้นชั่วลมหายใจถัดมา คันฉ่องสีเงินของโต๊ะเครื่องแป้งในห้องคลอดก็ปรากฏภาพและเสียงของทารกดังออกมา
เสียงหัวเราะดังเคลื่อนไหวไปทั่วห้องอย่างต่อเนื่อง จากกระจก… ไปที่อ่างอาบน้ำ และไปจนถึงเครื่องประดับบนศีรษะของซูเซียงเสวี่ย
ไป๋ชิวหรานปลดปล่อยสัมผัสเทวะ และหลังจากค้นหาทุกที่แล้ว ในที่สุดเขาก็พบไป๋ซวี่เซียงอยู่ในเงามืดใต้เตียงของเจียงหลาน
“ดูเหมือนว่าความสามารถของซวี่เซียงจะซับซ้อนและทรงพลังกว่าที่พวกเราคิดมาก”
ถังรั่วเวยกล่าว
ไป๋ซวี่เซียงดิ้นไปมานานกว่าก้านธูป ในที่สุดนางก็เริ่มเหนื่อย จึงนอนลงข้างเจียงหลาน แต่จากนั้นไม่นานก็อ้าปากร้องไห้ไม่หยุดหย่อน
ไป๋ชิวหรานและเจียงหลานมีอายุอย่างยืนยาวก็จริง ทว่าทั้งคู่กลับเป็นพ่อแม่มือใหม่ และได้แต่พยายามปลอบโยนทารกน้อยด้วยความตื่นตระหนก แต่ไป๋ซวี่เซียงก็ไม่ยอมหยุดร้องไห้
ซูเซียงเสวี่ยออกมาด้านนอกพร้อมกับเชิญเซียนทำคลอดเข้ามาด้านใน
“คุณหนูหิวแล้ว ขอนมให้นางรับประทานหน่อย”
นอกจากเซียนทำคลอดแล้วก็ไม่มีบุคคลภายนอกอยู่ในห้องนั้น เจียงหลานเป็นสตรี ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องหลบเลี่ยงผู้ใด นางกอดไป๋ซวี่เซียงไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อผ้าแล้วเริ่มให้นมบุตรสาวที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก
หลังจากให้นมเสร็จสิ้นแล้ว ไป๋ซวี่เซียงก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว เจียงหลานวางนางลงด้านข้างอย่างระมัดระวัง และช่วยห่มผ้าให้กับเด็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจยาว
“ข้าควรจะบูชาพระโพธิสัตว์เสริมอกหรือไม่?”
นางมองหน้าอกของตนเองพร้อมกับบ่นพึมพำ
“ไม่จำเป็น”
แม้เซียนทำคลอดที่อยู่ข้าง ๆ จะไม่ทราบว่าพระโพธิสัตว์เสริมอกคือสิ่งใด แต่นางก็เห็นเจียงหลานมองลงมาที่หน้าอกของตนเอง และด้วยสัญชาตญาณในฐานะสตรีด้วยกันแล้ว นางจึงเข้าใจว่าเจียงหลานกำลังกังวลถึงสิ่งใดอยู่
“อีกไม่นานคุณหนูจะสามารถรับประทานอาหารเหลวได้ ตอนนี้นายหญิงเพียงแค่ต้องให้นมแม่ในช่วงสามสี่วันแรกเท่านั้น”
“หลานเอ๋อร์ ให้นางกับธิดาพักผ่อนกันเถิด” ไป๋ชิวหรานกุมมือเจียงหลานพร้อมกล่าวต่ออีกว่า “เรื่องทั้งหมดสบายใจได้แล้ว เช่นนั้นเจ้าควรนอนพัก”
“อืม…”
เจียงหลานนอนลงอย่างเชื่อฟัง ไป๋ชิวหรานช่วยห่มผ้าให้นางแล้วพาทุกคนออกจากห้อง
เหล่าสาวกและสหายที่เฝ้าหน้าประตูต่างส่งเสียงแสดงความยินดี ไป๋ชิวหรานกล่าวขอบคุณพวกเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม คนเหล่านี้ไม่ได้อยู่ที่นี่นานนัก เพื่อไม่เป็นการรบกวนไป๋ชิวหราน พวกเขาจึงรีบออกจากสำนักเหอฮวนโดยเร็ว
ไป๋ลี่ อาจารย์ และศิษย์ทั้งสามของเขารีบออกไปหลังจากมอบของขวัญแสดงความยินดีเสร็จสิ้น
…
สองสามวันต่อมา ไป๋ซวี่เซียงเริ่มซุกซนมากขึ้น
บ่อยครั้งเมื่อเจียงหลานพานางออกไปข้างนอก ครั้นละสายตาจากบุตรสาว อีกฝ่ายจะหนีไปอย่างไร้ร่องรอย บิดาเช่นไป๋ชิวหรานจึงต้องใช้สัมผัสเทวะของเขาเพื่อค้นหาตำแหน่งของไป๋ซวี่เซียง
และหลังจากนั้นไม่กี่วัน ด้วยความช่วยเหลือจากจื้อเซียน ไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ จึงสรุปความสามารถของทารกน้อยผู้นี้ได้คร่าว ๆ
ความสามารถของไป๋ซวี่เซียงสามารถสรุปได้ว่าเป็นกลุ่มพลังขนาดใหญ่สองอย่างคือ ‘เชื่อมโยง’ และ ‘เคลื่อนย้าย’
ทารกน้อยผู้นี้สามารถเชื่อมโยงสองสิ่งที่แตกต่างเข้าด้วยกัน ตั้งแต่เส้นขน เข็ม ใบไม้ หิน ไปจนถึงภูเขา มหาสมุทร แม่น้ำ หุบเขา หรือแม้แต่มิติอื่น นางก็สามารถเชื่อมโยงมันเข้าด้วยกันได้
ส่วนด้านเคลื่อนย้าย… ทารกน้อยผู้นี้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในทุกพื้นที่ภายในมิติของโลกปัจจุบันตราบเท่าที่นางต้องการ รวมไปถึงเงาสะท้อน เงา กระดาษ และสิ่งอื่น ๆ ที่ไร้ตัวตน อีกทั้งสาวน้อยผู้นี้ยังสามารถสร้างพื้นที่ขนาดเล็กแล้วย้ายร่างตนเองไปอยู่ในนั้นได้อย่างง่ายดาย
ไป๋ชิวหรานและจื้อเซียนคิดว่าอาจเป็นเพราะเมื่อทารกน้อยผู้นี้อยู่ในท้องของเจียงหลาน สติสัมปชัญญะของนางถูกเปิดใช้งาน และบุคลิกที่เต็มไปด้วยความสดใสร่าเริงทั้งยังอยากรู้อยากเห็นจึงก่อตัวขึ้นระหว่างที่อยู่ในครรภ์ เมื่อนางมีความปรารถนาที่อยากจะออกมารับชมสิ่งภายนอก นั่นจึงเป็นสาเหตุที่นางได้รับความสามารถศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้
แท้จริงแล้วเทพเจ้าแห่งมิตินั้นเป็นขั้นสูงสุด ยกเว้นเทพเจ้าที่ถูกสร้างขึ้นโดยสวรรค์ริษยาเช่นจักรพรรดิตะวันออกไท่อี เทพเจ้าที่เกิดจากการสร้างจึงไม่อาจให้กำเนิดบุตรเช่นนี้ได้
แต่บิดามารดาของทารกไป๋ซวี่เซียง คนหนึ่งคือเจียงหลานผู้เป็นเทพเจ้าสูงสุด และยังเป็นจักรพรรดิเซียนในขั้นซากปรักหักพังหวนคืน ส่วนบิดาคือไป๋ชิวหรานผู้ฝึกตนที่ไม่ธรรมดาในขั้นสร้างรากฐานเสมือน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบว่าความจริงแล้วการฝึกฝนนี้คือสิ่งใด
เมื่อเลือดเนื้อที่ทรงพลังของบิดามารดา ตลอดจนความแข็งแกร่งมหาศาลของมารดาอย่างเจียงหลาน ทั้งหมดนี้หลอมรวมกันเป็นแหล่งกำเนิดความสามารถของทารกผู้นี้
นอกเหนือจากความสามารถนี้แล้ว… หลังจากที่ทารกน้อยคลอดออกมา นางก็เรียนรู้เคล็ดวิชาแยกจิตโดยธรรมชาติ และสามารถสร้างอาจารย์อสูรของตนเองได้ด้วย!
ภาพเลือนรางคล้ายภาพหลอนที่เซียนทำคลอดมองเห็น แท้จริงแล้วคือร่างอาจารย์อสูรของทารกน้อยผู้นั้น
ปรากฏการณ์นี้อาจสืบเนื่องมาจากความจริงที่ว่าไป๋ชิวหรานและเจียงหลานสร้างอาจารย์อสูรไว้ก่อนที่พวกเขาจะตั้งครรภ์ ลักษณะทางพันธุกรรมของอาจารย์อสูรจึงดึงดูดความสนใจของเล่อเจิ้นเทียนและคนอื่น ๆ ด้วย
หากพันธุกรรมนี้สามาถส่งต่อได้จริง ย่อมทำให้เคล็ดวิชาแยกจิตและการถือกำเนิดอาจารย์อสูรนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายขึ้นในอนาคต