ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 458 จับได้แล้ว!
บทที่ 458 จับได้แล้ว!
บทที่ 458 จับได้แล้ว!
หลังจากเข้าสู่ฝั่งตรงข้ามของกำแพงตระหนักรู้ ร่างอาจารย์อสูรวิถีสวรรค์ก็ไม่ได้ออกจากป้อมปราการของเมืองเซียน มันตรงเข้าสู่ส่วนลึกของเขตแดนจิตสำนึก
ประการแรก หลังจากได้รับข่าว เล่อเจิ้นเทียนตระเตรียมกำลังพลอย่างรวดเร็วเพื่อเฝ้าระวังภายในป้อมปราการ และไม่ให้อาจารย์อสูรทั้งหมดปรากฏตัว
ประการที่สอง วิถีสวรรค์ต้องการจะลอบเข้าสู่ส่วนลึกของเขตแดนจิตสำนึกโดยการถูกค้นพบ
กำแพงแห่งความตระหนักรู้ดูเหมือนว่าจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่พยายามแทรกเข้ามา อีกด้านของกำแพง ความคิดของวิถีสวรรค์ถูกแยกออกมา
หากอาจารย์อสูรตายตกอยู่ในเขตแดนจิตสำนึก เจตจำนงสวรรค์จะไม่ได้รับข้อมูลใดเกี่ยวกับเขตแดนแห่งจิตสำนึกเลย ซึ่งเท่ากับว่าทุกสิ่งที่มันได้กระทำมาไร้ประยชน์ และมีความเสี่ยงที่จะทำให้อาจารย์อสูรค้นพบตำแหน่งของมันด้วย
ดังนั้นสิ่งที่อาจารย์อสูรของวิถีสวรรค์มาที่นี่คือต้องใช้ความสามารถในการแทรกแซงจิตวิญญาณเพื่อลอบเข้าสู่สถานที่เก็บข้อมูลในป้อมปราการเมืองเซียน และเริ่มดูดกลืนข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับจากเมืองเซียน แล้วค่อยพัฒนาอาจารย์อสูรในภายหลัง
เพื่อความปลอดภัย มันยังวางแผนที่จะกลับสู่อีกฝั่งของกำแพงแห่งความตระหนักรู้หลังจากดูดกลืนความคิดจนเสร็จสิ้น เมื่อส่งข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับสู่ร่างแท้จริงของวิถีสวรรค์แล้ว มันจึงค่อยทำลายร่างอาจารย์อสูรนี้ภายหลัง
มันรวดเร็วมาก หลังจากใช้ความสามารถในการรบกวนจิตใจของวิถีสวรรค์แล้ว ก็แทรกแซงสู่ส่วนลึกของการจัดเก็บข้อมูลของแดนเซียนได้สำเร็จ มันบันทึกข้อมูลทั้งหมดไว้ในหัวอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเสร็จสิ้นการจัดกองกำลังแล้ว จักรพรรดิเล่อเจิ้นเทียนก็ส่งคนปิดกั้นฐานข้อมูลที่ท่าเรือ ช่องว่างบนกำแพงแห่งความตระหนักรู้ และสถานที่อื่น ๆ ที่ร่างอาจารย์อสูรอาจจะไป ทำให้มันไม่สามารถเคลื่อนไหวไปที่ใดได้
แม้ว่าวิถีสวรรค์จะมีความสามารถในการสะกดจิตที่ทรงพลัง แต่นี่ก็ไม่ใช่ร่างที่แท้จริงของวิถีสวรรค์
มันมีความสามารถในการสะกดจิตก็จริง แต่ตอนนี้ก็ทำได้อย่างเบาบางด้วยพลังของอาจารย์อสูร ตราบใดที่การฝึกฝนจิตวิญญาณของอีกฝ่ายอยู่ในขั้นเซียนหรือเหนือเซียน พวกเขาจะสามารถต่อต้านการสะกดจิตนี้ได้
แดนเซียนผ่านการต่อสู้มาหลายต่อหลายครั้ง จึงทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเขาเพิ่มพูนมากขึ้น แต่อย่างไรแล้ว อูฐที่อ่อนแอมักจะตายง่ายกว่าม้า และจำนวนของเหล่าขั้นเหนือเซียนในแดนเซียนก็ไม่อาจประมาทได้
ตอนนี้เซียนอาวุโสทั้งหมดถูกเล่อเจิ้นเทียนเรียกตัวไปประจำการยังสถานที่ต่าง ๆ ที่คาดเดาว่าร่างอาจารย์อสูรของวิถีสวรรค์คิดจะไป
ตอนนี้มันสามารถใช้การสะกดจิตภายในเขตแดนจิตสำนึกแห่งนี้เพื่อหลบซ่อนตัวอยู่ภายในเหล่าเซียน มันแสร้งทำเป็นหนึ่งในนั้น และติดตามพวกเขาไปทุกหนแห่ง
มันเดินตามเหล่าเซียนไปจนถึงใจกลางป้อมปราการเซียน และเคลื่อนที่ไปยังทิศทางที่คล้ายกับหอเตือนภัย อย่างไรก็ตามเมื่อเดินผ่านห้องโถงใหญ่ ร่างอาจารย์อสูรวิถีสวรรค์ได้ยินน้ำเสียงคุ้นเคยอยู่ไม่ไกล
“ผู้ลักลอบเข้ามาไม่ใช่สิ่งที่น่าหวาดกลัว เป้าหมายหลักของเราในตอนนี้คือการทำงานค้นหาข่าวกรองของเขตแดนแห่งหกอสูรแห่งความปรารถนาและสิ่งที่จักรพรรดิเซียนซู่หัวสร้างขึ้นต้องถูกค้นพบโดยเร็วที่สุด และยิ่งไปกว่านั้น การเชื่อมต่อโลกใบนี้กับสังสารวัฏแห่งการกลับชาติมาเกิดก็ไม่อาจละทิ้งได้เช่นกัน”
เมื่อได้ยินเสียงนี้แล้ว อาจารย์อสูรวิถีสวรรค์ลอบมองไปยังทิศทางนั้น นางจึงเห็นว่าเป็นไป๋ชิวหราน มีเด็กหญิงตัวน้อยนั่งอยู่บนไหล่ของเขา ชายผู้นั้นยืนอยู่ที่ประตูห้องโถงและพูดคุยกับใครบางคน ส่วนคนที่ยืนอยู่ด้านข้างของเขาคือจักรพรรดิเซียนคนปัจจุบัน เล่อเจิ้นเทียน
วิถีสวรรค์จอมอิจฉา? เหตุใดจึงอยู่ที่นี่?
เมื่ออาจารย์อสูรวิถีสวรรค์มองเห็นไป๋ชิวหราน มันก้มศีรษะลงต่ำอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันขณะที่มันกำลังเลิกลั่ก สายตาของไป๋ชิวหรานเหลือบมองมัน พร้อมกวาดสายตาไปทั่วคณะเซียนที่มันลักลอบแฝงตัว
“ท่านอาจารย์ มีสิ่งใดหรือ?”
เมื่อเขาเห็นไป๋ชิวหรานหันมองเหล่าเซียนด้านนอก เล่อเจิ้นเทียนก็กล่าวถามอย่างสงสัย
“ไม่… ไม่มีอะไรหรอก ข้าคงจะตาฝาดไป”
ไป๋ชิวหรานอุ้มบุตรสาวเอาไว้ก่อนจะหันมองออกไปอีกครั้ง
“ข้าเพียงรู้สึกว่ามีบุคคลน่ารำคาญกำลังลอบมองข้าเท่านั้น”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเลิกสนใจตนแล้ว อาจารย์อสูรพลันถอนหายใจด้วยความโล่งออย่างไม่ทันระวังตัว
“ถ้าเช่นนั้นการป้องกันที่ฝั่งด้านข้างของตาข่ายปิดกั้นเขตแดนจิตสำนึก ข้าจะปลดมันออก”
เล่อเจิ้นเทียนกล่าวกับไป๋ชิวหราน
“กองเรือขนส่งจากยมโลกมาถึงแล้ว หากมัวแต่ติดพันอยู่กับสิ่งเหล่านั้น มันจะเสียเวลาในการเชื่อมโยงสังสารวัฏ ดังนั้นจึงจะขอร้องให้ท่านอาจารย์ช่วยจัดการบุคคลลึกลับที่ลอบเข้ามาภายในแทน”
“อืม”
ไป๋ชิวหรานตอบกลับ
“ตอนนี้เจ้าไปทำเรื่องของเจ้าให้เสร็จสิ้นเสีย ส่วนเรื่องคนที่ลอบเข้าสู่สายธารแห่งความว่างเปล่า ข้าจะตรวจสอบอาจารย์อสูรทั้งหมดทีละตัว ไม่นานคงพบ”
“เช่นนั้นรบกวนท่านอาจารย์แล้ว!”
อาจารย์อสูรวิถีสวรรค์ลอบตึงเครียดยิ่งในใจ สัมผัสของสวรรค์ริษยานั้นหาตัวจับได้ยาก และสถานที่แห่งนี้คือเขตแดนจิตสำนึกอาจารย์อสูรของเขา หากเผชิญหน้ากันตรง ๆ เขาย่อมทราบตัวตนด้านใน… แต่จากที่ฟังเมื่อครู่ ดูเหมือนว่าตาข่ายปิดกั้นเขตแดนจะถูกปลดออก เอาล่ะ นั่นคือโอกาสหลบหนี!
อาจารย์อสูรวิถีสวรรค์ลอบฟังการสนทนาทั้งหมด พร้อมกับหล่าเซียนที่เดินตามอย่างเงียบ ๆ
หลังจากพ้นสายตาของไป๋ชิวหรานและเล่อเจิ้นเทียนแล้ว มันปลดปล่อยคลื่นสะกดจิตในทันที!
ก่อนจะลอบเดินออกจากกลุ่มเซียนไปอย่างเงียบงัน และพุ่งตรงเข้าสู่เมืองเซียนที่อยู่ใกล้กับกำแพงแห่งความตระหนักรู้ เพื่อทำการซุ่มดูเหตุการณ์โดยรอบอย่างระมัดระวัง
ไม่กี่วันต่อมา ผู้เฝ้าประตูที่อยู่ใกล้กับกำแพงแห่งความตระหนักรู้ทำตามที่เล่อเจิ้นเทียนและไป๋ชิวหรานพูดคุยก่อนหน้า เขาปลดตาข่ายปิดกั้น และคลายการป้องกันกำแพงเมืองอาจารย์อสูร ก่อนจะเริ่มเปิดใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อสังเกตสถานการณ์ภายในเขตแดนของอาจารย์อสูรด้านในต่อไป
อย่างไรก็ตาม อาจารย์อสูรของวิถีสวรรค์ยังคงไม่เคลื่อนไหวทันที การถูกไป๋ชิวหรานหลอกหลอนซ้ำซากยิ่งทำให้มันระแวงมากขึ้น
ในคราวแรกมันออกจากที่หลบซ่อน และค้นหาที่อยู่ปัจจุบันของไป๋ชิวหราน …แต่เมื่อรู้ว่าไป๋ชิวหรานยังอยู่ในป้อมปราการเซียนด้านข้างเขตแดนอาจารย์อสูร และกำลังวุ่นวายอยู่กับการดูแลการก่อสร้างสังสารวัฏแห่งการกลับชาติมาเกิด วัตถุเวทมากมายเดินทางจากยมโลกมาถึงเมืองเซียนแห่งนี้แล้ว ประตูกำแพงเปิดออก ตอนนั้นเอง มันจึงรีบใช้คลื่นสะกดจิตไปตลอดทางจนสามารถกลับสู่ห้วงความว่างเปล่าอีกฝั่งของกำแพงแห่งความตระหนักรู้ได้โดยไร้อุปสรรคใด
เมื่อกลับมาที่นี่ มันสัมผัสร่างกายของตนเองได้อีกครั้ง และการเชื่อมโยงระหว่างร่างหลักกับอาจารย์อสูรก็ถูกสร้างขึ้นในทันที ซึ่งจากนี้ไป… มันพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนเพื่อพัฒนาความคิด และจิตสำนึกไปพร้อม ๆ กัน
แต่ขณะนั้น จู่ ๆ มีฝ่ามือหนักกดทับไหล่ของร่างอาจารย์อสูรวิถีสวรรค์ในฉับพลัน!
“จะไปไหนงั้นหรือ? วิถีสวรรค์”
อาจารย์อสูรวิถีสวรรค์หันกลับมาอย่างรวดเร็ว มันเหวี่ยงฝ่ามือออกปลดปล่อยพลังออกมา ความแข็งแกร่งที่น่าอัศจรรย์นี้นับว่าน่าประทับใจ หลังจากมันกลับสู่เขตแดนของตนเอง มันย่อมฟื้นคืนพละกำลังดั้งเดิมด้วย ต่อให้เป็นเซียนก็เกรงว่ายังไม่อาจหลบหนีฝ่ามืออันตรายนี้ได้
ทว่าคนที่จับไหล่ของมันชักมือออกไปอย่างรวดเร็ว วิถีสวรรค์ทั้งหมดในฝ่ามือถูกทำลายอย่างเงียบเชียบ และยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น ตอนนี้ผู้มาใหม่ยังบีบข้อมือของมันเอาไว้อย่างมั่นคงด้วยพละกำลังมหาศาลไร้ซึ่งหนทางขัดขืน
“โอ้! เป็นเจ้านี่เองที่ลักลอบเข้ามา”
ไป๋ชิวหรานคว้าร่างอาจารย์อสูรของวิถีสวรรค์พร้อมกับเผยรอยยิ้มเย็นเยียบ