ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 460 ผนึกความคิด โซ่ตรวนผนึกความคิดนิรันดร์
บทที่ 460 ผนึกความคิด โซ่ตรวนผนึกความคิดนิรันดร์
บทที่ 460 ผนึกความคิด โซ่ตรวนผนึกความคิดนิรันดร์
การร่ายเวทของไป๋ชิวหรานสิ้นสุดลงแล้ว และคาถาต่อเนื่องของจักรพรรดิเซียนซู่หัวถูกประทับลงอย่างเงียบงันในจิตใจของไป๋ชิวหรานที่เชื่อมโยงกับเจตจำนงของวิถีสวรรค์
เกิดการโจมตีอย่างหนักในความคิด วิถีสวรรค์ไม่คิดยอมแพ้ แต่ความคิดของไป๋ชิวหรานก็ต่อสู้อย่างไม่ยินยอมด้วยเช่นกัน
มันต่อต้านไม่จบไม่สิ้น การที่ไป๋ชิวหรานมีชีวิตอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องดี แต่หากต้องการกำจัดไป๋ชิวหรานก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน
ในแง่ความแข็งแกร่งของจิตสัมผัสเทวะ ไป๋ชิวหรานด้อยกว่ามันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่สิ่งอื่น ๆ ล้วนเท่าเทียม
โซ่ตรวนความคิดบุกทะลวงเข้าสู่จิตสำนึก และเวลานี้วิถีสวรรค์ถึงกับสิ้นหวังที่จะต่อต้านผนึกตรงหน้า เวลานี้มันเริ่มตรึงความคิดของตนเองเอาไว้ในลมหายใจสุดท้าย แต่แล้วก็ไม่สำเร็จ ความคิดของมันบิดเบี้ยวและถูกโซ่ตรวนพันธนาการโดยสมบูรณ์!
โซ่ตรวนผนึกนี้มีเงื่อนไขสามประการ…
ประการแรก… ผู้ถูกผนึกจะต้องรับผิดชอบปกป้องและพัฒนาสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรเซียน!
ประการที่สอง… ผู้ถูกผนึกต้องไม่สละชีวิตของผู้ใดเพื่อแลกกับพลัง!
ประการที่สาม… เมื่อมีอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาและความก้าวหน้าของสรรพสัตว์ในทุกอาณาจักร ผู้ถูกผนึกจะต้องออกมากำจัดสิ่งเหล่านั้น ห้ามนิ่งเฉยหรือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดเบื้องหลัง!
เงื่อนไขทั้งสามถูกผนึกเอาไว้ในจิตสำนึกส่วนลึกที่สุดของไป๋ชิวหรานและวิถีสวรรค์ ในขณะเดียวกัน พลังที่เชื่อมโยงระหว่างความคิดของทั้งสองก็สูญสลายไป ไป๋ชิวหรานกลับมาครอบครองความคิดของตนเองทั้งจิตวิญญาณและร่างกาย ส่วนความคิดของวิถีสวรรค์ก็หวนกลับคืนเช่นเดียวกัน และบางส่วนยังไปตกอยู่กับร่างอาจารย์อสูรวิถีสวรรค์ของตัวมันอีกด้วย
“เอาล่ะวิถีสวรรค์ ถึงเวลาที่เจ้าต้องร่วมมือปกป้องโลกใบนี้แล้ว”
ไป๋ชิวหรานลูบหน้าผาก ใช้มืออีกข้างชี้ไปที่อาจารย์อสูรของวิถีสวรรค์
“เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจึงควรสงบศึกกัน! และข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าเฉกเช่นสหายร่วมกลุ่ม”
…
ฝั่งตรงข้ามของกำแพงแห่งความตระหนักรู้ ภายในป้อมปราการเมืองเซียน เล่อเจิ้นเทียนเห็นไป๋ชิวหรานกับอาจารย์อสูรสตรีผมขาวตรงเข้ามาหาเขา
“ท่านอาจารย์ จับได้แล้วหรือ!?”
เมื่อเห็นอาจารย์อสูรตนนี้ จักรพรรดิเซียนรู้สึกสดชื่นขึ้นมา พร้อมกล่าวถามว่า
“อืม! จับได้แล้ว นางคืออาจารย์อสูรของวิถีสวรรค์”
ไป๋ชิวหรานพยักหน้า
“ข้าจะรับนางให้มาทำงานมาร่วมกับพวกเรา”
“ท่านอาจารย์?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เล่อเจิ้นเทียนถึงกับเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ เขาเอื้อมมือออกไปดึงร่างไป๋ชิวหรานให้ออกมาด้านข้างพร้อมกล่าวกระซิบ
“นี่… ให้เจตจำนงแห่งวิถีสวรรค์มาร่วมปักหลักกับเรา… มันจะดีหรือขอรับ อย่างไรแล้วความคิดของไอ้บัดซบนั่นไม่ใช่ว่าดีนัก”
“ไม่เป็นไร…”
ไป๋ชิวหรานตอบกลับ
“ข้าใช้คาถาที่ศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าทิ้งเอาไว้ ตอนนี้จึงไร้ปัญหา”
“อะไรกัน?”
เล่อเจิ้นเทียนเผยสีหน้ามีความสุข แต่ก็ยังลอบสงสัย
“ท่านอาจารย์ทำเรื่องนี้ได้อย่างไร? หากต้องการใช้คาถานั้น ต้องใช้ความเข้าใจจิตสำนึกของอีกฝ่ายเพื่อให้บรรลุผล หากใช้กับอาจารย์อสูรย่อมทำได้ แต่เจตจำนงของวิถีสวรรค์นั้นเชื่อมโยงกับจักรวาลไร้ขอบเขต ไร้สิ้นสุด มันยากเย็นเกินไปแล้วท่านอาจารย์…”
“เป็นเพราะบุตรสาวที่ยอดเยี่ยมของข้า!”
ไป๋ชิวหรานเชิดหน้าขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ
“นายหญิงซวี่เซียง… โอ้! ข้าเข้าใจแล้ว”
เล่อเจิ้นเทียนเป็นคนฉลาด เขาเข้าใจเรื่องราวอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะกล่าวถามอีกครั้ง
“แต่ท่านอาจารย์… ท่านใช้เวทกับมันไม่ได้มิใช่หรือ?”
“ไม่เป็นไร… ข้าอยากทำเช่นนี้มานานแล้ว”
ไป๋ชิวหรานกล่าวอย่างผ่อนคลาย
“โซ่ตรวนผนึกความคิดนี้… มันเป็นกุญแจมือที่เหมาะสมที่สุดสำหรับข้า! มั่นใจได้ว่าในอนาคตทั้งความคิดและความต้องการของข้าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และพลังของข้าไม่ควรถูกใช้ในทางที่ผิด เพราะมันไม่อาจมีผู้ใดต่อต้านได้”
“ท่านอาจารย์…”
เล่อเจิ้นเทียนถึงกับถอนหายใจ
“ความชอบธรรมของท่าน…”
“ทั้งหมดเป็นความผิดเจ้า!!”
ไป๋ชิวหรานหันกลับมา
“เมื่อเห็นว่าลูกศิษย์และศิษย์หลานต่างทำงานหนักเพื่อเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลก ในฐานะอาจารย์ ข้าไม่อาจด้อยกว่าผู้ใดได้ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม… ไม่ต้องกังวลไป ผนึกจิตสำนึกนี้คือความคิดของข้าเอง และข้าก็ยังเป็นตัวเองเช่นเคยไม่เปลี่ยนแปลง”
“ทราบแล้ว”
หลังจากกล่าวคำลากับเล่อเจิ้นเทียนและส่งอาจารย์อสูรวิถีสวรรค์ให้กับเขาแล้ว ไป๋ชิวหรานก็ไปที่ฝั่งตรงข้ามของกำแพงตระหนักรู้เพื่อพบกับไป๋ซวี่เซียงในจัตุรัสใกล้กับทางเดิน
คราวนี้เด็กหญิงตัวน้อยเหน็ดเหนื่อยจนหอบหนัก นางกลับมาทิ้งตัวลงในอ้อมแขนของบิดาแล้วผล็อยหลับไปในทันที
ไป๋ชิวหรานรู้สึกประหม่าเล็กน้อยขณะถูกบุตรสาวกอด แต่หลังจากไตร่ตรองทุกสิ่งแล้ว เขาก็รู้สึกว่าบุตรีของเขานั้นคือโซ่ตรวนผูกมัดจิตใจเช่นกัน ความรู้สึกภาคภูมิใจผุดขึ้นมาในอก ระคนความรู้สึกอันยากจะอธิบาย แต่กลับมีความสุขยิ่ง
ขณะอุ้มไป๋ซวี่เซียง เขาเรียกวารีสารทกระจ่างฟ้าออกมาแล้วมุ่งหน้าไปตามสายธารแห่งความว่างเปล่า จนมาถึงสวรรค์กระจ่างข้ามเมฆาภายในแดนเซียนกลาง
เป็นเพราะเจตจำนงของวิถีสวรรค์ งานภายในแดนเซียนที่ต้องค้นหา การสอดแนมสถานการณ์ในส่วนลึกของเขตแดนอาจารย์อสูรจึงกลายเป็นเรื่องง่าย
หลังจากศึกษาผลการทดลองของจักรพรรดิเซียนซู่หัวแล้ว เจตจำนงแห่งวิถีสวรรค์จึงประสบความสำเร็จที่จะเชื่อมโยงกับตาข่ายจิตสำนึกอีกด้านหนึ่งผ่านวิถีสวรรค์ของตัวมันเอง เพื่อให้เจตจำนงของมันที่มีวิถีสวรรค์อยู่ภายในสร้างเส้นใยเชื่อมโยงกับเขตแดนที่ตามหา หลังจากนี้มันจะท่องเที่ยวไปในเขตแดนจิตสำนึกได้อย่างอิสระ
ในไม่ช้า… มันจะกลายเป็นอาจารย์อสูรผู้มีวิถีสวรรค์อย่างแน่นอน แต่ไป๋ชิวหรานก็ไม่คิดกังวล เพราะเวลานี้วิถีสวรรค์มีจุดอ่อนร้ายแรง และโซ่ตรวนผนึกความคิดของเขายังประทับอยู่บนความคิดของวิถีสวรรค์อย่างแน่นหนา
ด้วยวิธีการนี้ เจตจำนงแห่งวิถีสวรรค์ไม่เพียงแต่จะเร่งความเร็วของการเชื่อมโยงสังสารวัฏแห่งการกลับชาติมาเกิดภายในยมโลก แต่ยังช่วยฟื้นคืนสถานะของอาจารย์อสูรอีกห้าตัวที่เหลืออยู่ภายในส่วนลึกของเขตแดนอสูรด้วย
ไม่มีใครพบเห็นท่านผู้ทรงเกียรติเจี้ยนอวี้อีกเลย มันตายตกไปอย่างเงียบงัน ในกลุ่มหกอสูรแห่งความปรารถนา จึงเหลืออาจารย์อสูรแห่งความปรารถนาเพียงห้าตนเท่านั้น ท่านผู้ทรงเกียรติทิงอวี้ ท่านผู้ทรงเกียรติเซียงอวี้ ท่านผู้ทรงเกียรติเว่ยอวี้ ท่านผู้ทรงเกียรติชู่อวี้ และท่านผู้ทรงเกียรติอี้อวี้ พวกมันจำศีลอยู่นานโดยไม่ทราบอะไรเลย
พวกมันคิดออกค้นหาผู้ทรงเกียรติเจี้ยนอวี้ แต่เมื่อใดที่ส่งอสูรออกไป ทั้งหมดก็จะถูกปิดกั้นโดยสิ่งที่ผู้ทรงเกียรติเจี้ยนอวี้ตระเตรียมเอาไว้ก่อนตาย
อย่างไรแล้ว… กระดาษไม่อาจหยุดยั้งเปลวไฟ พลังที่จางหายไปของผู้ทรงเกียรติเจี้ยนอวี้ และความจริงที่มันไม่ปรากฏตัวออกมาเป็นเวลานาน ทำให้ทำให้อีกห้าตัวรู้สึกสงสัย และต้องการทราบถึงสถานการณ์ของเจี้ยนอวี้
พวกมันจึงส่งกองกำลังข่าวกรองออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อเข้าสู่อาณาจักรของเจี้ยนอวี้ ในคราวแรก อสูรระดับต่ำทั้งหมดถูกจัดการโดยอสูรที่เจี้ยนอวี้เตรียมไว้ทันที อย่างไรก็ตาม… เวลานี้อาจารย์อสูรผู้ปกครองอาณาจักรตายตกไปแล้ว ในที่สุดพวกมันก็สามารถบุกเข้าสู่ส่วนลึกของเขตแดนได้ และนำข่าวที่น่าตื่นตระหนกกลับมาสู่ห้าอสูรแห่งความปรารถนา
เรื่องของเจี้ยนอวี้เป็นที่สงสัยยิ่งนัก… มันตายตกอย่างกระทันหัน ทุกสิ่งภายในอาณาจักรของมันว่างเปล่า ส่วนลึกที่เจี้ยนอวี้ชอบพำนักอาศัยก็ยังว่างเปล่าเช่นกัน
หลังจากทราบข่าวนี้ ห้าอสูรแห่งความปรารถนาที่เหลือพลันเดือดพล่านในทันที