ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 461 ประโยชน์ของการไม่เติบโตช้า
บทที่ 461 ประโยชน์ของการไม่เติบโตช้า
บทที่ 461 ประโยชน์ของการไม่เติบโตช้า
แม้ว่าท่านผู้ทรงเกียรติเจี้ยนอวี้จะตายตกไปแล้ว แต่ก็ไม่มีผู้ใดทราบว่าตายตกอยู่ที่ใด ทั้งพลังและแนวคิดหายไปหมดสิ้น อีกทั้งหลังจากตายตกไปแล้วมันยังทิ้งเขตแดนกว้างใหญ่ไว้เบื้องหลัง
ในบรรดาหกอสูรแห่งความปรารถนาแล้ว เดิมทีเจี้ยนอวี้เป็นผู้เดียวที่สามารถต่อกรกับเหล่าอาจารย์อสูรอีกห้าตนได้ อีกทั้งอาณาเขตของมันก็ยังกว้างกว่าอาจารย์อสูรอีกห้าตนด้วย
ในดินแดนอันกว้างใหญ่นี้ มีทรัพยากรที่อุดมสมบุรณ์ และโลกวัตถุมากมายไร้สิ้นสุด ตลอดจนเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตมากมายนับไม่ถ้วน วิญญาณและความคิดของเผ่าพันธุ์เหล่านี้คือสมบัติที่ไม่มีวันหมดสิ้น ใครก็สามารถใช้ชีวิตไปอย่างรื่นรมย์กับทรัพยากรจำนวนมากนี้ได้อย่างเพลิดเพลินภายในเขตแดนนั้น
ใครก็ตามที่สามารถยึดครองดินแดนที่เจี้ยนอวี้ทิ้งไว้ จะกลายเป็นผู้ชนะที่หัวเราะดังที่สุดในหมู่อาจารย์อสูร และเป็นผู้ปกครองเพียงผู้เดียวของฝั่งเขตแดนจิตสำนึกแห่งนี้!
แม้ว่ามันจะกินพื้นที่กว่าหนึ่งในสาม …แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ก่อความละโมบในจิตใจของหกอสูรแห่งความปรารถนา…ที่มีกันห้าตน พวกมันทุกตนย่อมต้องการเป็นผู้นำสูงสุดแห่งแผ่นดิน
หลังจากทราบข่าวแล้ว กลุ่มหกอสูรแห่งความปรารถนา… ที่มีอาจารย์อสูรห้าตน เริ่มปลุกระดมกองทัพอสูรทันที ภายใต้การบังคับบัญชาของพวกมัน ทั้งหมดเข้ายึดครองป้องกันเขตแดนของเจี้ยนอวี้อย่างกระหาย
สำหรับการเคลื่อนไหวดังกล่าว ท่านผู้ทรงเกียรติเซียงอวี้คืออาจารย์อสูรที่อ่อนแอที่สุด มันใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้
เดิมทีมันอยู่ติดกับอาณาเขตของท่านผู้ทรงเกียรติเจี้ยนอวี้ และมันมักจะถูกกดขี่ข่มเหงเสมอมา หากท่านผู้ทรงเกียรติเจี้ยนอวี้พบเจอกับท่านผู้ทรงเกียรติเซียงอวี้ อีกฝ่ายมักจะสร้างปัญหาเสมอ มันจึงไม่กล้าที่จะปรากฏตัวภายในเขตแดนของเจี้ยนอวี้ และเพราะสิ่งนี้ทำให้ผู้ทรงเกียรติเซียงอวี้ไม่สามารถขยายอาณาเขตของตนเองต่อไปได้
เมื่อวันเวลาผ่านไป ผู้ทรงเกียรติเซียงอวี้อาจกลายเป็นผู้ปกครองเขตแดนจิตสำนึกอสูรคนต่อไปที่ได้กลืนกินเผ่าพันธุ์เดียวกัน!
แต่ตอนนี้เจี้ยนอวี้ตายตกไปแล้ว หลังจากมันทราบข่าว ผู้ทรงเกียรติเซียงอวี้ที่มีอาณาเขตอยู่ติดกับอาณาเขตของเจี้ยนอวี้ก็ส่งกองกำลังของตนเองออกไปทันที
อาณาเขตของเจี้ยนอวี้ว่างเปล่า ดังนั้นกองทัพของเซียงอวี้จึงกวาดล้างเหล่าอสูรที่ถือกำเนิดขึ้นใหม่อย่างง่ายดาย แล้วยังผนวกกำลังหนึ่งในสี่ของอาณาจักรเจี้ยนอวี้ ทั้งหมดนี้ถูกจัดการอย่างรวดเร็ว เช่นนี้เซียงอวี้จึงสามารถขยายอาณาเขตของมันได้เพียงไม่กี่อึดใจ
แม้อาจารย์อสูรแห่งความปรารถนาที่เหลือไม่คิดยินยอม ก่อนจะพยายามบุกโจมตีเซียงอวี้และบังคับให้คืนอาณาเขตเหล่านั้นมา แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากควบรวมอาณาเขตทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้ว ความแข็งแกร่งของเซียงอวี้ก็เพิ่มพูนขึ้นมาก มันสามารถปิดกั้น ป้องกันการโจมตีทั้งหมดของอีกฝ่ายได้ง่ายดาย
เมื่อเห็นเช่นนี้ อาจารย์อสูรอีกสี่ตนไม่คิดเป็นพันธมิตรกันอีกต่อไป ฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นลงทันที หลังจากนั้นพวกมันทั้งหมดส่งกองทัพของตนเองเข้าสู่อาณาเขตของฝ่ายตรงข้ามอย่างบ้าคลั่ง เกิดเป็นสงครามขนาดใหญ่ขึ้นอีกครั้ง
เพราะการตายของเจี้ยนอวี้ จึงเกิดการต่อสู้เพื่อตัดสินว่าผู้ใดในกลุ่มหกอสูรแห่งความปรารถนาจะได้ขึ้นเป็นผู้นำเพียงหนึ่งเดียวภายในเขตแดนจิตสำนึก… อาจารย์อสูรทั้งห้าที่เหลือทุ่มพละกำลังทั้งหมดเพื่อต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งผู้นำ
หลังจากทราบข่าวแล้ว เล่อเจิ้นเทียนไม่ได้เคลื่อนไหวในทันที
หลังจากกลืนกินเจี้ยนอวี้และกองทัพของเขา อาจารย์อสูรระดับสูงจะสามารถมีพัฒนาการเข้าสู่ขั้นเซียน ทั้งหมดและอยู่ในสภาวะหลับใหล ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าพวกเขาจะสามารถเข้าแทรกแซงสงครามของเหล่าอสูรได้ แต่พวกเขาทั้งหมดไม่อาจสังหารหกอสูรแห่งความปรารถนาได้โดยสมบูรณ์
ดังนั้น พวกเขาจึงจำศีลและฝึกฝนอย่างเงียบ ๆ ภายในป้อมปราการเมืองเซียน ในขณะที่ขยายเขตแดนออกไปอย่างลับ ๆ ทั่วจักรวาล และนำเขตแดนเหล่านั้นมาไว้ภายใต้การปกครองของตนเอง
อัตราการขยายดินแดนของเล่อเจิ้นเทียนเชื่องช้ามาก ทุกครั้งที่มันส่งกองทัพออกไปจะต้องสร่างตาข่ายปิดล้อมก่อน จากนั้นจึงค่อยใช้อาจารย์อสูรของตนเองเพื่อสังหารเหล่าอาจารย์อสูรภายในพื้นที่เพื่อป้องกันให้แน่ใจว่าจะไม่มีอาจารย์อสูรตนใดสามารถเล็ดลอดออกไปได้
หลังจากกวาดล้างอสูรภายในหมดสิ้นแล้ว ก็ต้องสร้างตาข่ายปิดล้อมเพื่อสร้างเมืองและโรงงานเซียน หากมีสิ่งมีชีวิตอยู่ภายในดินแดนแห่งนี้ ก็จะต้องเชื่อมโยงโลกใบนี้เข้ากับสังสารวัฏแห่งการกลับชาติมาเกิดของยมโลก เช่นนี้การควบคุมสถานการณ์จึงจะเสร็จสิ้น
อาณาเขตขยายอย่างเป็นขั้นตอนยุบยับ… จนหลังจากผ่านไปหลายทศวรรษ อาณาจักรเซียนภายในกำแพงแห่งความตระหนักรู้ก็แผ่ขยายอำนาจไปได้เพียงสิบโลกเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันเวลาผ่านไป ผลกระทบของการกลืนกินเจี้ยนอวี้เข้าไปของเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น อาจารย์อสูรระดับสูงตนนี้แปรเปลี่ยนเป็นอาจารย์อสูรระดับเดียวกับท่านผู้ทรงเกียรติเจี้ยนอวี้ ภายในอาณาเขตของพวกมัน… ระดับพลังของร่างอาจารย์อสูรของกองทัพเซียนที่เชื่อมโยงกับอาณาเขตของเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานก็เพิ่มพูนความแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน และบางส่วนเกือบจะมีพลังต่อสู้ทางกายภาพเหนือกว่าร่างหลักแล้ว!
อีกด้านหนึ่ง ร่างอาจารย์อสูรวิถีสวรรค์ที่เข้าสู่สภาวะตื่นรู้มานานหลายปีก็อาศัยเจตจำนงของสวรรค์ที่เชื่อมต่อกับเขตแดนจิตสำนึกได้อย่างง่ายดาย มันนำกองทัพอสูรออกไปต่อสู้ในทุกซอกทุกมุมของเขตแดนจิตสำนึก ช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา มันก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงเป็นอาจารย์อสูรระดับสูงเช่นเดียวกัน
เวลานี้การขยายขอบเขตอำนาจของเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานและเหล่าพวกพ้องก็เพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีแรงศรัทธาจากผู้คน
จึงรู้สึกได้ว่าปรมาจารย์ของเขตแดนจิตสำนึกแห่งนี้ใกล้จะตื่นขึ้นเต็มที…
…
ในทางกลับกัน ไป๋ชิวหรานเองก็อาศัยอยู่อย่างสันโดษในเก้ามหาทวีปสิบแผ่นดิน ในฐานะของร่างหลักเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน เขาคือปรมาจารย์เซียนอสูร
เป็นเพราะเกรงว่าบุตรสาวจะเสียนิสัย พวกเขาจึงยังไม่พาไป๋ซวี่เซียงกลับบ้านเพื่อสั่งสอนด้วยตนเอง แต่พวกเขาเลือกที่จะให้นางไปอยู่สถานที่แห่งนั้นราวกับว่าเป็นโรงเรียนประจำทุก ๆ สองฤดูกาล ไป๋ซวี่เซียงจะถูกส่งไปอยู่กับนักบวชชิงหมิง เทพีซีเหอเพื่อคอยสั่งสอน และฝึกฝนให้นางเป็นการส่วนตัว
และในฤดูร้อนและฤดูหนาวของทุกปี ไป๋ชิวหรานจะเดินทางสู่แดนเซียนเพื่อรับบุตรสาวกลับมาพักผ่อนที่บ้าน นางจะได้ใกล้ชิดกับบิดามารดา
ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะมารดาของนาง อัตราการเติบโตของไป๋ซวี่เซียงจึงช้าลง เช่นเดียวกับปราณแก่นแท้ในร่างกายของไป๋ชิวหราน และแผ่นเหล็กที่หน้าอกของถังรั่วเวย
อย่างไรก็ตาม… พวกเขาไม่คิดนิ่งเฉย ในฐานะบิดามารดา ไป๋ชิวหรานและเจียงหลานบันทึกข้อมูลร่างกายของเด็กหญิงตัวน้อยอย่างใกล้ชิด พบว่านางยังคงเจริญเติบโตอยู่ …แต่เติบโตช้ามาก
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายพันปีกว่าที่ไป๋ซวี่เซียงจะกลายเป็นสาวสะพรั่ง
ไป๋ชิวหรานและทุกคนต่างรู้สึกมีความสุขมากกับเรื่องเหล่านี้ เพราะนั่นหมายความว่าบุตรสาวตัวน้อยจะมีเวลาใช้ชีวิตกับพวกเขาได้มากขึ้น ไป๋ชิวหรานไม่ใช่บิดาที่รักบุตรสาวจนคิดครอบครองราวกับชายวิปริต หากวันหนึ่งในอนาคต ไป๋ซวี่เซียงเติบโตพอที่จะแต่งงาน และได้พบกับบุรุษที่รักนางอย่างแท้จริง ในฐานะบิดา ไป๋ชิวหรานย่อมไม่หยุดยั้งนาง
แต่ยังเหลือเวลาอีกพันปี!
หากชายผู้นั้นคิดเข้ามาทำร้ายไป๋ซวี่เซียง แน่นอนว่าไป๋ชิวหรานจะทุบตีเขาให้กลายเป็นเศษซากเนื้ออย่างไม่ลังเล!!