ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 463 อาจารย์อสูรที่เร็วที่สุด คืออาจารย์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุด
- Home
- ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี
- บทที่ 463 อาจารย์อสูรที่เร็วที่สุด คืออาจารย์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุด
บทที่ 463 อาจารย์อสูรที่เร็วที่สุด คืออาจารย์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุด
บทที่ 463 อาจารย์อสูรที่เร็วที่สุด คืออาจารย์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุด
ในส่วนลึกของดินแดนท่านผู้ทรงเกียรติเจี้ยนอวี้ รูปปั้นอสูรแห่งความปรารถนาอีกห้าตนที่เหลือได้ดึงกองกำลังในดินแดนของตัวเองทั้งหมดออกมา เพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดเพียงหนึ่งเดียวในดินแดนของอาจารย์อสูร การต่อสู้อันดุเดือดจะเกิดขึ้นในดินแดนของท่านผู้ทรงเกียรติเจี้ยนอวี้
การสังหารระหว่างอาจารย์อสูรและอาจารย์อสูรเช่นนี้ ถึงแม้จะไม่มีการหลั่งโลหิต แต่มันน่าเศร้ายิ่งกว่าสมรภูมินองเลือด ทุกหนแห่งคือพลังแนวคิดและความคิดที่กระจัดกระจายหลังจากความตายของอาจารย์อสูร อาจารย์อสูรที่โดนอิจฉาก็จะถูกฆ่า ไม่มีเวลามากลืนกิน ‘อาหาร’ ชูกำลังชุดใหญ่เหล่านี้
สงครามเข้าสู่ขั้นตึงเครียดถึงขีดสุด ไม่เพียงแค่อาจารย์อสูรที่อยู่ใต้อาณัติเท่านั้น แม้กระทั่งรูปปั้นหกอสูรแห่งความปรารถนาที่เหลือแค่ห้าตนก็ล้วนเข้าสู่สมรภูมิด้วยตัวเองเพื่อเริ่มต่อสู้
อาจารย์อสูรโหดเหี้ยมจำนวนมากมีขนาดไม่ด้อยไปกว่าท่านผู้ทรงเกียรติเจี้ยนอวี้ ส่งผลให้ความผันผวนของการต่อสู้ในดินแดนนี้ถึงขั้นตัดแบ่งดินแดนเดิมของท่านผู้ทรงเกียรติเจี้ยนอวี้ไปได้
ร่างขนาดใหญ่ของท่านผู้ทรงเกียรติเซียงอวี้เต็มไปด้วยโพรงขาดรุ่งริ่งเหมือนเศษผ้า มีบาดแผลขนาดใหญ่ทุกหนแห่ง กลิ่นคาวเลือดกระจายฟุ้ง ท่านผู้ทรงเกียรติชู่อวี้หักแขนขาเรียวนับไม่ถ้วน ร่างของท่านผู้ทรงเกียรติทิงอวี้เป็นเซ็นเซอร์เหมือนกับเรดาร์ที่สร้างแทนกระดูกได้รับความเสียหาย เขี้ยวในปากขนาดใหญ่ของท่านผู้ทรงเกียรติเว่ยอวี้ก็ไม่สมบูรณ์เช่นกัน
ในแง่ของรูปลักษณ์ มีเพียงท่านผู้ทรงเกียรติอี้อวี้เท่านั้นที่ดูดีกว่าเล็กน้อย แต่มันเป็นร่างวิญญาณโปร่งแสงที่ปกคลุมไปด้วยริ้วคล้ายหนวด ซึ่งตอนนี้… ร่างของมันกำลังสั่นไหว
แต่อาจารย์อสูรเหล่านี้ไม่พูดไม่จา หลังจากสงบศึกเพื่อพักสักครู่ พวกเขาจะฟื้นคืนสภาพดังผู้เป็นอมตะทันที และเข้าต่อสู้อีกครั้ง
เพราะพวกมันล้วนเข้าใจว่าสงครามในวันนี้ อาจารย์อสูรที่ยืนหยัดเป็นตนสุดท้ายจะเป็นสิ่งมีชีวิตสูงสุดผู้ควบคุมทุกสิ่งในดินแดนแห่งความตระหนักรู้นี้
แต่ในตอนนี้… ที่สุดขอบของสมรภูมิพลันมีเสียงตะโกนอันเกรี้ยวกราดดังขึ้น!
นี่ไม่ใช่คลื่นแห่งความตระหนักรู้ที่ใช้สื่อสารระหว่างกัน มันคือคลื่นเสียงที่ใช้สื่อสารกันในหมู่สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในโลกวัตถุเท่านั้น
“กองกำลังทั้งหมดบุก!”
สิ้นเสียงคำรามนี้ เสี้ยวลมหายใจต่อมา เสียงกรีดร้องของการเข่นฆ่าก็ดังขึ้นที่สุดขอบสมรภูมิ กองเรือขนาดใหญ่แทรกมาเข่นฆ่าล่าอสูรจนไปถึงตำแหน่งที่รูปปั้นหกอสูรแห่งความปรารถนาอีกห้าตนที่เหลืออยู่
ในสงครามรุนแรงครั้งก่อน พวกอาจารย์อสูรได้รับบาดเจ็บสาหัสพอตัว แล้วจะมาหยุดกองเรือแข็งแกร่งอันเปี่ยมด้วยขวัญกำลังใจอันสูงส่ง ทั้งยังลงมือฆ่าอย่างง่ายดายได้อย่างไร กองเรือเหมือนต้นไผ่ปลายแหลม ไม่ช้าก็เข้าใกล้อาจารย์อสูรทั้งห้า!!
เมื่อเห็นโครงสร้างเรืออันคุ้นเคย ประกอบกับธงที่ปลิวไสว พร้อมกับเหล่าเซียนที่ยืนอยู่ อาจารย์อสูรล้วนตื่นตระหนก!
“แดนเซียนหรือ?! ทำไมพวกเซียนถึงอยู่ที่นี่?!”
“ทำไมเจ้าถึงพูดเช่นนั้น? มันก็ชัดอยู่แล้ว ว่าเป็นเพราะพวกเราเริ่มสงครามครั้งนี้ยังไงล่ะ!”
จักรพรรดิเซียนที่ยืนอยู่บนหัวเรือธงหัวเราะใส่อีกฝ่ายแล้วกล่าวว่า
“ท่านผู้ทรงเกียรติเจี้ยนอวี้ถูกคนของฝั่งพวกข้าสังหารเองแหละ!”
“ว่าไงนะ?”
หัวใจของอาจารย์อสูรทั้งห้าเย็นเยือก แต่เล่อเจิ้นเทียนไม่สนใจ เพียงโบกมือเพื่อสั่งให้กองทัพทั้งหมดฆ่าอีกฝ่าย
ตัวเขาเองถือกระบี่จักรพรรดิเช่นกัน ปรี่เข้าหาท่านผู้ทรงเกียรติเซียงอวี้ที่อยู่ใกล้ที่สุด!!
ระหว่างทาง… ร่างสวมชุดเกราะสีทองปรากฏขึ้นจากด้านหลังของเขาช้า ๆ จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่ดูเหมือนอาจารย์อสูร คือเจ้าเครื่องมือช่างหมายเลขสองที่ถูกตั้งชื่อโดยไป๋ชิวหรานว่า ‘จักรพรรดิมหาอำนาจในตำนาน’
เนื่องจากการบูรณะของเขาในดินแดนเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน เจ้าเครื่องมือช่างหมายเลขสองจึงได้รับพลังความคิดจากท่านผู้ทรงเกียรติเจี้ยนอวี้เป็นจำนวนมาก ตอนนี้จึงแทบจะเรียกได้ว่ามันอยู่ตรงธรณีประตูของสุดยอดอาจารย์อสูร มันถือขวานสีทองเล่มใหญ่เอาไว้ในมือทั้งสองข้าง ทันทีที่ปรากฏตัว ร่างก็ทะยานออกไปนับครั้งไม่ถ้วน ขวานยักษ์ในมือทั้งสองข้างฟาดฟันเข้าใส่ท่านผู้ทรงเกียรติเซียงอวี้ผู้เต็มไปด้วยโพรงอย่างบ้าคลั่ง
“พรวด!”
ร่างของท่านผู้ทรงเกียรติเซียงอวี้พ่นลำแสงออกมานับไม่ถ้วน! และขับไล่เจ้าเครื่องมือช่างหมายเลขสอง ความตระหนักรู้ของมันผันผวนอย่างรุนแรง ทั้งยังตะโกนออกมาว่า
“เจ้าแมลงคิดจะใช้กลอุบายเล็กน้อยแบบนี้มาฆ่าข้าอย่างนั้นหรือ! เจ้าแมลงวัตถุชั้นต่ำ อย่าคิดว่าเชี่ยวชาญร่างชีวิตแห่งความตระหนักรู้แล้วจะสามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้เชียว!”
แต่เสี้ยวลมหายใจต่อมา ด้านหลังเจ้าเครื่องมือช่างหมายเลขสองที่พุ่งออกไป ร่างของเล่อเจิ้นเทียนปรากฏขึ้นกะทันหันราวกับเงา เขาผลักมันออกไปด้วยฝ่ามือข้างหนึ่ง พลังเซียนไร้ขีดจำกัดกลายเป็นแสงสว่างสีทอง เพียงแค่หนึ่งฝ่ามือ เขาทำลายร่างกายครึ่งหนึ่งในช่องว่างของการสลับพลังงาน!
“ร่างจำแลงอาจารย์อสูรของข้ายังด้อยกว่าเจ้านัก”
เล่อเจิ้นเทียนยกกระบี่ขึ้น
“แต่ถ้าเป็นร่างหลักล่ะ?!”
เขาฟาดฟันกระบี่ออกไปจนท่านผู้ทรงเกียรติเซียงอวี้กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด! ร่างขนาดใหญ่กลิ้งเหมือนกับลูกบอล รีบหาที่ซ่อนทุกแห่งหน แต่ร่างของมันใหญ่และปูดโปนเกินไป ไม่ว่ามันจะหลบมากแค่ไหน ประกายกระบี่ของเล่อเจิ้นเทียนยังคงจ้วงฟันร่างของมันได้อย่างแม่นยำ และเฉือนส่วนต่าง ๆ ตามร่างกายออกมาได้!
ส่วนเรือรบในสายธารแห่งความว่างเปล่าจากแดนเซียนนับไม่ถ้วนก็ขยับปืนใหญ่พลังเซียนและค่ายกลสังหารที่บรรทุกอยู่บนเรือ เล็งไปที่สุดยอดอาจารย์อสูรที่เหลือ ผ่านไปสักพักปืนใหญ่ยิงออกไป!
พลังเซียนหลากสีสันนับไม่ถ้วนกระหน่ำใส่ร่างขนาดใหญ่ของอาจารย์อสูร ทำให้เกิดการระเบิดหลายครั้ง แรงระเบิดทำให้เกิดเสียงกรีดร้องครั้งแล้วครั้งเล่า!
“มาต่อสู้กับศัตรูกันก่อนดีกว่า!”
ร่างของท่านผู้ทรงเกียรติชู่อวี้บิดเบี้ยวอย่างต่อเนื่อง เพียงพริบตาแขนขาเรียวแปลกประหลาดนับไม่ถ้วนถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยความเร็วสูงอีกครั้ง แขนขาของมันยื่นออกไป เพียงพริบตามันทะยานเข้าหาเรือแห่งความว่างเปล่าที่อยู่ไกลโพ้น คว้าเรือรบแห่งความว่างเปล่าจำนวนมาก กระแทกเข้าใส่กองเรือ เรือรบจำนวนมากเกิดเปลวเพลิงลุกโชน จนเกิดเป็นแรงระเบิดในดินแดนแห่งความตระหนักรู้… เหมือนดอกไม้ไฟเจิดจ้า
“ข้าจะเป็นคู่ต่อสู้ให้เจ้าเอง! อาจารย์อสูร!”
หลีจิ่นเหยาและซูเซียงเสวี่ยพุ่งออกจากกองเรือพร้อมกัน! และตกลงใกล้กับแขนของท่านผู้ทรงเกียรติชู่อวี้ มารน้อยถือกระบี่ทั้งสองเล่มเอาไว้ กระบี่ถุกควงแนวตั้งและแนวนอนเชือดเฉือนแขนขาของท่านผู้ทรงเกียรติชู่อวี้! ส่วนซูเซียงเสวี่ยปลดปล่อยร่างอาจารย์อสูรออกมา และร่างอาจารย์อสูรนั้นกลายเป็นมังกรทะยานในนภากระหน่ำสายฟ้าฟาด โจมตีใส่ร่างของท่านผู้ทรงเกียรติชู่อวี้
ร่างของนางโอบกอดพิณปีศาจเอาไว้เช่นกัน มันเต็มไปด้วยสายคลื่นเสียงที่ถูกปล่อยออกมาปะทะร่างของอีกฝ่ายซ้ำอีก!
ทว่าถึงแม้พวกเขาทั้งสองจะมีพรสวรรค์ทัดเทียมกัน แต่หลังจากฝึกฝนมามากมาย แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหนึ่งในหกอสูรแห่งความปรารถนา ผู้มีพลังแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิเซียนก็นับว่ายังไม่เพียงพอ
“อ่อนแอ! อ่อนแอ!”
ท่านผู้ทรงเกียรติชู่อวี้เริ่มโจมตีทั้งสอง ร่างกายฟื้นฟูด้วยความเร็วสูงมากอีกครั้ง ไม่ช้าแขนขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง คว้าเข้าที่หลีจิ่นเหยาและซูเซียงเสวี่ยในสภาพที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
“สวะสองคนพยายามจะกำจัดข้าอย่างนั้นหรือ… หืม?!”
เช่นเดียวกับแขนขานับไม่ถ้วนที่ยื่นเข้าหาซูเซียงเสวี่ยและหลีจิ่นเหยา ด้านหลังซูเซียงเสวี่ยพลันปรากฏภาพมายาโอ่อ่า เป็นเทพธิดางามงดสวมหน้ากากสีทองหรูหรา ถือกรวยแห่งความอุดมสมบูรณ์และตาชั่งในมือแต่ละข้าง
ตอนนี้เทพธิดาถวายกรวยแห่งความอุดมสมบูรณ์ในมือ แรงดูดอันน่าสะพรึงปรากฏขึ้น แขนขานับไม่ถ้วนของท่านผู้ทรงเกียรติชู่อวี้พลันถูกดูดเข้าไปในกรวยแห่งความอุดมสมบูรณ์อย่างควบคุมไม่ได้ จากนั้นทุกอย่างก็บิดเบี้ยวด้วยพลังอันน่าประหลาด
“พวกเดียวกันหรือ?”
ท่านผู้ทรงเกียรติชู่อวี้มองสุดยอดอาจารย์อสูรผู้ไม่ได้ด้อยไปกว่าตัวเองด้วยความประหลาดใจ
“ไม่ ไม่ใช่ เจ้าพวกแมลงชั้นต่ำ มีพลังของพวกข้าอยู่ในมือได้อย่างไร?!”
ราวกับมองเห็นบางสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ มันแผดเสียงคำรามออกมา ยื่นแขนขาจำนวนมากเข้าโจมตีทั้งสอง แต่ด้านหลังหลีจิ่นเหยามีภาพมายาโอ่อ่าที่ทัดเทียมกันปรากฏขึ้นมา เทพธิดางดงามละเอียดอ่อนในชุดแดง ในมือเต็มไปด้วยเส้นด้ายสีแดง นางใช้เส้นด้ายสีแดงของตัวเองพันธนาการแขนขาและร่างกายที่ปูดโปนของอีกฝ่ายเอาไว้
สองต่อหนึ่ง ทำให้ท่านผู้ทรงเกียรติชู่อวี้ไม่สามารถเป็นอิสระได้ แม้จะรู้สึกไม่เต็มใจ แต่มันยังส่งคลื่นความตระหนักรู้ออกไปที่ด้านหลัง
“ท่านผู้ทรงเกียรติอี้อวี้ ท่านผู้ทรงเกียรติเว่ยอวี้ ท่านผู้ทรงเกียรติทิงอวี้ ช่วยข้าด้วย!”
ถึงอย่างนั้นไม่มีคลื่นความตระหนักรู้ที่คล้ายกันตอบรับมัน ท่านผู้ทรงเกียรติชู่อวี้บังเกิดความสงสัย ด้านหลังของมันแยกออกกลายเป็นดวงตา มองไปที่ด้านหลัง
ในดินแดนแห่งความตระหนักรู้ที่อยู่ด้านหลังคือความว่างเปล่า แต่เมื่อเข้าใกล้ความว่างเปล่านอกดินแดนแห่งความตระหนักรู้ กลับพบอาจารย์อสูรท่านผู้ทรงเกียรติอี้อวี้ ท่านผู้ทรงเกียรติทิงอวี้และท่านผู้ทรงเกียรติเว่ยอวี้ พวกมันกำลังลอบเข้าไปยังความว่างเปล่า หมายจะหลบหนีออกจากสมรภูมิ!
“ไอ้พวกสารเลว!”
ท่านผู้ทรงเกียรติชู่อวี้จ้องตาเขม็ง และแผดเสียงคำรามออกมา
“ทรยศข้าได้อย่างไร!”