ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 496 แสดงละคร
บทที่ 496 แสดงละคร
บทที่ 496 แสดงละคร
หลังจากเห็นเหตุการณ์เหล่านั้น ไป๋ชิวหรานและถังรั่วเวยรีบเข้าไปหาผู้หลบหนีทันที
“พี่น้องเอ๋ย ข้ามาช่วยแล้ว!”
ขณะที่วิ่ง เขาก็ตะโกนใส่หุ่นกลผู้พิทักษ์ด้วยเสียงไร้ชีวิต
เมื่อได้ยินเสียงของไป๋ชิวหราน เหล่าผู้หลบหนีต่างตื่นตระหนก พร้อมหันศีรษะไปอย่างรวดเร็ว! แต่ทั้งหมดก็เห็นว่าสหายของตนบางคนกำลังเดินตามหลังหุ่นกลทั้งสองตัวนั้น
แถมหุ่นกลผู้พิทักษ์ทั้งสองเลือกที่จะเมินเฉยต่อผู้หลบหนีที่อยู่ด้านหลังเสียด้วย
“แด่มหาเทพหุ่นกล!”
ขณะออกวิ่ง ไป๋ชิวหรานหยิบขวานบินอักขระยันต์ที่ติดอยู่ตรงเอวออกมา ก่อนจะขว้างมันออกไปทางผู้หลบหนี!
“หากไร้ศรัทธา ก็ไปลงนรกเสีย!”
ภายในคฤหาสน์สีม่วงของขั้นผสานร่างเปล่ง พลังปราณที่แท้จริงไร้สิ้นสุดเปล่งประกายและไหลไปรวมกันอยู่ในแขนของหุ่นกล มันเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลเพื่อส่งไปยังขวานบิน ทำให้ขวานสว่างวาบ และหมุนราวกับพายุกรรโชก ก่อนจะพุ่งทะยานเข้าหาผู้หลบหนีอย่างบ้าคลั่ง!
ไป๋ชิวหรานเล็งไปที่มนุษย์หมาป่าสีขาวซึ่งเป็นสัตว์ร้ายตัวแรกที่วิ่งออกมาจากกลุ่มสัตว์ร้ายที่เสื่อมสภาพมานานหลายทศวรรษ เมื่อหมาป่าตนนั้นเห็นว่าขวานบินพุ่งมาทางตน มันถึงกับประหลาดใจ ก่อนจะรีบยกหวานที่มีอักขระยันต์ขึ้นป้องกันอย่างรวดเร็ว! และยังรีบหดศีรษะอยู่ภายใต้ด้ามขวานนั้น!
ขวานที่ไป๋ชิวหรานขว้างไปกระแทกขวานของอีกฝ่ายเกิดเสียงดังสนั่น!! แต่จากนั้น… มันก็กลับสะท้อนออกไปยังหุ่นกลผู้พิทักษ์ในระยะไกล พร้อมกับตัดขาดแขนยักษ์ยุทธภัณฑ์ออกในการตัดขาดเพียงครั้งเดียว!
ตูม!
“…”
เกิดเสียงดังลั่น ส่วนประกอบอาวุธทรงพลังที่สุดของหุ่นกลผู้พิทักษ์ร่วงหล่นสู่พื้น หุ่นกลผู้พิทักษ์มองกองกำลังเสริมที่เพิ่งมาถึงอย่างไร้ถ้อยคำจะกล่าว ในขณะที่ผู้หลบหนีต่างมองศัตรูด้วยความสับสน …สรุปแล้วนี่คือกองกำลังเสริมของฝ่ายใดกันแน่ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจ?
“แค่ก แค่ก” ไป๋ชิวหรานไอเบา ๆ ก่อนจะกล่าวเสียงเข้ม “ข้าผิดไปแล้ว!”
“ไสหัวไปซะ!”
ถังรั่วเวยซึ่งโผล่มาจากด้านหลังจับเขาพร้อมกับดันให้หลีกทาง จากนั้นยกแขนยักษ์ยุทธภันธ์หันไปทางกลุ่มของผู้หลบหนี!
อักขระยันต์ก่อตัวเป็นวงแหวนเรืองแสงล้อมรอบปากกระบอกยุทธภัณฑ์ ก่อนลำแสงอันทรงพลังทะยานออกมาระเบิดใส่อีกฝ่าย!
เป้าหมายของถังรั่วเวยยังคงเป็นมนุษย์หมาป่าสีขาวในหลุ่มผู้หลบหนี และหมาป่าสีขาวมองยังลำแสงที่คิดโจมตีเขา อย่างไรก็ตาม เขายังคงยกขวานในมือขึ้นและเดินตรงเข้าไปหาอีกฝ่าย พร้อมเงื้อแขนขึ้นฟันลำแสงที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่คิดเกรงกลัว!
พึ่บ!
อาวุธระดับเดียวกันปะทะกัน ลำแสงของยุทธภัณฑ์ถูกผ่าแยกออกเป็นสองส่วนด้วยขวานบินในมือของมนุษย์หมาป่า จากนั้นลำแสงจากยุทธภัณฑ์ก็ถูกปลดปล่อยไปทางด้านซ้ายทีขวาที พุ่งผ่านผู้หลบหนีที่อยู่ด้านหลัง… และกลายเป็นลำแสงโจมตีหุ่นกลผู้พิทักษ์รอบ ๆ ทันที
หุ่นกลผู้พิทักษ์ทั้งสองไม่สามารถหลบหนีได้ทั จึงถูกลำแสงพุ่งเข้าใส่อย่างจัง! ลำแสงของยุทธภัณฑ์ยักษ์นั้นสร้างรูโหว่ขนาดใหญ่บนหน้าอกของพวกมัน และละลายไหลลงสู่วิญญาณภายใน จุดจื่อฝูด้านในถูกทำลายโดยสมบูรณ์!
“หวา! เผลอผิดพลาดอีกแล้ว!”
ไป๋ชิวหรานผลักถังรั่วเวยออกไป และขณะเดียวกันก็ดึงขวานด้านหลังเอวของนางออกมา
“ดูข้านี่!”
“อย่า!”
ผู้คุมเรือนจำเซินลาต๋าที่หนึ่งซึ่งเป็นหุ่นกลเก่าแก่รีบหยุดเขาทันที
“หมายเลขหนึ่งศูนย์สาม หมายเลขหนึ่งศูนย์สี่ ข้าขอสั่งให้เจ้าห้ามยิงศัตรูในระยะเกินกว่าสามจั้ง!”
“เข้าใจแล้วขอรับ! ท่านผู้คุมเรือนจำ!”
ไป๋ชิวหรานถือขวานไว้ในมือ ก่อนจะพุ่งเข้าหาผู้หลบหนีพร้อมส่งเสียงคำรามลั่น กลไกด้านหลังปลดปล่อยพลังงานจนเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว!!
“ถึงระยะสามจั้งแล้ว!”
ไป๋ชิวหรานคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด ก่อนจะยกขวานขึ้น!
“เจ้าพวกนักโทษ! ลงนรกซะ!”
เขาขว้างอาวุธในมือออกไปอย่างรุนแรงด้วยมือทั้งสองข้าง แต่นักโทษที่เขาเล็งเอาไว้เพียงแค่สะบัดขวานในมือเบา ๆ
ขวานของไป๋ชิวหรานที่พุ่งโจมตีก็เบี่ยงออกไปอีกทางและกระแทกร่างกายของหุ่นกลอาวุโสทันที ศีรษะของมันถูกผ่าครึ่งโดยไม่ทันตั้งตัว!
หุ่นกลอาวุโสที่เคยนั่งอยู่ภายในเรือนจำเซินลาต๋าที่หนึ่งไม่ทันปฏิกริยาตอบโต้ ขณะที่มันใกล้จะตายก็จับจ้องขวานตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่า ขณะลำแสงบนหน้าอกค่อย ๆ ริบหรี่ลงจนดับสูญไป…
โครม!
ร่างกายแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ของหุ่นกลผู้พิทักษ์ล้มลง
“นี่เจ้า!”
ถังรั่วเวยหันหน้ามองหุ่นกลตนนั้นพร้อมตำหนิไป๋ชิวหรานด้วยความขุ่นเคือง
“ดูผลของการกระทำเจ้า! ไอ้กบฏ! วันนี้ข้าจะล้างแค้นให้กับท่านผู้คุม!”
“เดี๋ยว! หมายเลขหนึ่งศูนย์สี่ เราคือสหายร่วมกลุ่มที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกัน เจ้าคิดจะทำอะไร?!”
“หุบปากเสีย ข้ากับเจ้าสิ้นสัมพันธ์กันตั้งแต่วันนี้!”
ขณะที่ถังรั่วเวยกำลังดุด่าด้วยความเกรี้ยวกราด นางยกปืนใหญ่ขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายเป็นไป๋ชิวหราน
“พลังสูงสุด! พลังวายุวารี!”
เวลานี้ คฤหาสน์สีม่วงของถังรั่วเวยโคจรอย่างเดือดพล่าน พลังปราณที่แท้จริงไหลเวียนควบรวมสูงสุดจากร่างกายทั้งหมดมุ่งไปยังแขนขวา และกลายเป็นพลังงานเข้าสู่กระบอกยุทธภัณฑ์ยักษ์ ลำแสงเจิดจ้าเปล่งประกายออกจากปากกระบอก ก่อนจะสำแดงฤทธ์เป็นห่าฝนพลังจำนวนมากพุ่งเข้าหาไป๋ชิวหราน!!
“เจ้าคนสารเลว!”
ไป๋ชิวหรานกระทืบเท้า ก่อนจะหยิบขวานบินขว้างออกจากเอวทั้งสองด้าม แล้วเปิดโหมดพลังงานสูงสุดเพื่อเผชิญหน้ากับห่ากระสุนพลังที่กำลังพุ่งเข้ามา! เขาสะบัดแขนไปมาก่อนจะขว้างขวานเจิดจ้าในมือออกไป! พลังโจมตีของห่ากระสุนที่พุ่งเข้ามาทั้งหมดถูกสกัดไว้ได้อย่างง่ายดาย
หลังจากลำแสงพลังงานผ่านไปแล้ว มันก็ยังผ่านผู้หลบหนีที่อยู่ด้านหลังอีกด้วย จนพุ่งเข้าใส่เหล่ากองกำลังหุ่นกลป้องกันที่อยู่ฝั่งตรงข้าม!!
สิ้นเสียงระเบิด แท่นวิญญาณของหุ่นกลผู้พิทักษ์เหล่านั้นถูกลำแสงพลังงานทำลายทันที!
ไม่ต่างอะไรจากถูกสังหาร!
จนตอนนี้ หุ่นกลผู้พิทักษ์ที่เหลือคือหุ่นทั้งสองตัวที่กำลังต่อสู้กันเอง อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ไป๋ชิวหรานสกัดกั้นการโจมตีได้แล้วก็คำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด!
ผ่านไปครู่หนึ่ง… หลังจากที่หุ่นกลขนาดใหญ่ทั้งสองกำลังปะทะกัน และทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกนับไม่ถ้วนในลาน สุดท้ายทั้งสองก็หายตัวไป
ผู้หลบหนีทั้งหมดมองหน้ากัน มนุษย์หมาป่าที่ฟื้นคืนสติก่อนจึงหันหลังแล้วตะโกนลั่น!
“วิ่ง!”
สิ้นเสียงนั้น ผู้หลบหนีคนอื่น ๆ ก็ตามเขาไป ผู้หลบหนีที่ชาญฉลาดเหล่านั้นรวมตัวขึ้นสู่เรือเหาะขนาดกลางที่จอดอยู่ในลาน จากนั้นผู้หลบหนีที่เชี่ยวชาญการขับยานก็เริ่มเปิดการควบคุมทั้งหมด!
เมื่อเรือเหาะยกตัวขึ้น อักขระยันต์บนตัวยานสว่างวาบทีละดวง ก่อนที่รอยแยกของมิติอวกาศขนาดใหญ่จะเปิดออกที่ด้านหน้า
จากนั้น ใบพัดของเรือก็พ่นพลังงานออกมา ก่อนจะกลายเป็นลำแสงเพื่อเร่งความเร็ว ก่อนที่มันจะพุ่งทะยานออกไปในพริบตา! หายเข้าไปในรอยแตกอวกาศตรงหน้า…
“นี่… ไม่มีความสมจริงแม้แต่น้อย!”
ไป๋ชิวหรานบ่นศิษย์ของเขาหลังจากเรือทะยานออกไปแล้ว ในขณะที่เขาและถังรั่วเวยเดินออกมาจากซากปรักหักพัง
“นั่นก็เพราะทักษะการแสดงของอาจารย์ไม่ใช่หรือ?” ถังรั่วเวยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวตอบว่า “แต่ประเด็นหลักไม่ได้อยู่ที่ความสมจริงนี่ ตอนนี้สิ่งที่เราต้องการสำเร็จแล้ว!”
“เฮ้อ… ข้าควรจะล่อเหล่าสัตว์ร้ายให้มาทำลายบันทึกในห้องควบคุมหลักด้วย!”
ไป๋ชิวหรานถอนหายใจ
“ได้แต่หวังว่ามหาเทพหุ่นกลจะไม่เคลือบแคลงการกระทำของเรา…”