ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 516 ตบหรือต่อย ให้เจ้าเลือก!
บทที่ 516 ตบหรือต่อย ให้เจ้าเลือก!
บทที่ 516 ตบหรือต่อย ให้เจ้าเลือก!
หลังจากนั้นไม่นาน ไป๋ชิวหรานยืนขึ้นพร้อมปล่อยมืออย่างสาแก่ใจ แล้วเดินออกไปด้านข้าง
ถังรั่วเวยนั่งอยู่บนพื้น มือประคองก้นตนเองเอาไว้ น้ำตาแห่งความอัปยศอดสูหยาดรินอยู่ที่หางตา ใบหน้าแดงเล็กน้อยด้วยความโกรธ
ไป๋ชิวหรานไม่เพียงแต่จะเป็นพวกต่อต้านมาตาธิปไตยเท่านั้น แต่ยังยึดมั่นในอำนาจและไม่ยอมแพ้คนรุ่นเยาว์ เวลานี้ถังรั่วเวยคือบรรพบุรุษแห่งเก้าทวีปมหาสิบแผ่นดิน แต่ไป๋ชิวหรานก็คิดจะใช้กำลังเพื่อเอาชนะนางด้วยการตีก้นเสมอ! และเขาไม่เคยคิดว่าวิธีการนี้เป็นเรื่องที่ผิดด้วย!
“ข้าก็แค่เตือนท่านอาจารย์”
ถังรั่วเวยกดเก็บความขุ่นเคืองไว้พร้อมลุกขึ้นยืนและบ่นพึมพำ
“อีกอย่างข้าเป็นสาวแล้ว โตมากแล้วด้วย ถึงท่านจะอยากทุบตีข้า แต่ท่านสามารถเลือกสถานที่อื่นในการตีไม่ได้หรือไร?”
“อ้อ เรื่องนั้น…”
ไป๋ชิวหรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“เช่นนั้นเปลี่ยนเป็นเตะหรือต่อยแทน”
“หรืออย่างอื่น!”
ถังรั่วเวยยกมือขึ้นพร้อมกล่าว
“ตบหรือเตะอะไรอีก? ข้าต้องการให้เปลี่ยนสถานที่! เช่นอาจารย์ในสำนักใช้ไม้ตีฝ่ามือ…”
“เจ้าเป็นเด็กรึ?”
ไป๋ชิวหรานเหลือบมองนางด้วยหางตา
“เช่นเดียวกับซวี่เซียง เมื่อเทพีซีเหอลงโทษนาง นางก็ถูกตีที่ฝ่ามือ”
ถังรั่วเวยพึมพำครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า
“ท่านก็ทราบแล้วว่าข้าไม่ใช่เด็ก แล้วเหตุใดยังทุบตีข้าอีก?”
“ไร้สาระ เจ้าไม่ควรถูกเฆี่ยนตีเช่นเด็กน้อยงั้นหรือ? โลกนี้มันไม่ง่ายดายเช่นนั้น”
ไป๋ชิวหรานตอบกลับโดยไม่หันหน้ามอง
“ข้าคืออาจารย์ของเจ้า และข้าเชื่อในความเท่าเทียมระหว่างชายหญิง ในอนาคตหากข้าต้องการทุบตีเจ้าอีก ข้าจะถามเจ้าก่อนว่าต้องการถูกตีก้นหรือว่าจะกินหมัด!”
ถังรั่วเวยไม่รู้จะตอบอย่างไร นางรู้สึกพูดไม่ออกอยู่สักครู่หนึ่ง
“เอาล่ะ มานี่ ข้ายังต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าอยู่”
ไป๋ชิวหรานกล่าวกับถังรั่วเวย
“สำหรับมหาเทพหุ่นกลตัวนั้น มันล้มเหลวที่จะสังหารข้าในเวลานี้ แน่นอนว่ามันย่อมคิดหลบหนี”
“จะหนีรึ?”
ถังรั่วเวยกล่าวอย่างประหลาดใจ
“ราชสำนักมหาเทพหุ่นกลนั้นมีรากฐานใหญ่โต มันจะละทิ้งงั้นหรือ?”
“สำหรับวัฏจักรชีวิตของมัน มหาเทพหุ่นกลไม่ต่างอะไรกับหางจิ้งจก แม้ว่ามหาเทพหุ่นกลจะยิ่งใหญ่กว่าหางจิ้งจก แต่ในอีกมุมหนึ่งมหาเทพหุ่นกลเป็นเพียงเครื่องจักร ตราบใดที่มันยังอยู่ มันสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ไม่ช้าก็เร็ว เมื่อถึงเวลานั้นราชสำนักมหาเทพหุ่นกลจะถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง”
ไป๋ชิวหรานหันศีรษะกลับมาพร้อมกำหมัดแน่น
“และแผนการของข้าจะสำเร็จได้ด้วยการสังหารมหาเทพหุ่นกลเท่านั้น ราชสำนักมหาเทพหุ่นกลไม่สำคัญเลยตราบใดที่เราสังหารมหาเทพหุ่นกลได้ แล้วหลังจากนั้นราชสำนักมหาเทพหุ่นกลจะตกอยู่ในมือของแดนเซียน”
…
ฝั่งตรงข้ามของเขตแดนจิตสำนึกของแดนเซียนที่ห่างไกล เล่อเจิ้นเทียนอ่านจดหมายในมือพร้อมกับวางมันลงแผ่วเบา
ณ ที่แห่งนั้น เหล่าเซียนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ ทั้งหมดก้มศีรษะรอรับคำสั่ง
“หลังจากต้องเผชิญกับภัยพิบัติมากมาย พวกเจ้าทำงานกันหนักมากแล้ว”
เล่อเจิ้นเทียนกล่าวชมเชยพวกเขา
“ข้าขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งสำหรับสหายของพวกเจ้าอีกสองคนที่ไม่ได้กลับมา”
“ฝ่าบาทอย่าได้คิดมาก”
เหล่าเซียนทั้งหมดก้มศีรษะ
“พวกเราทั้งหมดคือหน่วยข่าวกรองลับแห่งแดนเซียน และเป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องสละชีวิตเพื่อแดนเซียน”
“อืม”
เล่อเจิ้นเทียนพยักหน้ารับ และสั่งให้เจ้าหน้าที่ข้าง ๆ เตรียมรางวัลให้กับหน่วยข่าวกรองพวกนี้ ก่อนจะปล่อยให้พวกเขากลับไป เขายังกล่าวอีกว่า
“ดูเหมือนว่าการฝึกฝนของข้าจะต้องเลื่อนออกไปสักหน่อย… เอาล่ะ คำสั่งของข้าคือตระเตรียมกองเรือรบ เตรียมชุดเกราะให้กับข้า”
“ฝ่าบาท”
เจ้าหน้าที่ด้านข้างรีบกล่าวท้วง
“มีอะไร…”
“ฝ่าบาทต้องการพิชิตสิ่งนั้นด้วยตนเอง”
เล่อเจิ้นเทียนยิ้มพร้อมกล่าว
“เจ้าไม่เห็นหรือ? อีกฝ่ายเป็นสิ่งประดิษฐ์ของศิษย์พี่ใหญ่ที่กลายเป็นปีศาจร้าย อัจฉริยะในตำนานผู้เก่งกาจ หากข้าไม่ออกไปจัดการกับพวกมัน ข้าจะเอาหน้าไปวางไว้ที่ใด”
เจ้าหน้าที่ปิดปากของเขา และกล่าวว่ามันไม่เป็นไรเลยหากจักรพรรดิเซียนคิดจะพิชิตสิ่งนั้น แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาทะลวงผ่านขอบเขตบ่อยเกินไป
“เอาล่ะ ไปเตรียมชุดเกราะให้ข้า ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจของข้า”
เล่อเจิ้นเทียนโบกมือพร้อมกล่าวคำ
“จากข้อมูลที่ท่านอาจารย์ส่งมา ราชสำนักมหาเทพหุ่นกลคือศัตรูของแดนเซียนอย่างไม่ต้องสงสัย ในเวลานี้เราสมควรสังหารพวกมันซะ! แทนที่จะมากังวลเรื่องของข้า เจ้าควรจะไปจัดการเรื่องภรรยาเจ้าให้เรียบร้อย เพราะเจ้าแต่งงานแล้ว และถูกสายลับหุ่นกลยึดครองร่างกาย และเจ้าผิดนัดกับภรรยาตนเอง ควรจะไปคิดหาวิธีเกลี้ยกล่อมนางให้ดีเสีย”
ทันทีที่คำสั่งของจักรพรรดิเซียนถูกถ่ายทอด กองเรือแห่งแดนเซียนกลางถูกเรียกระดมพลทันที กองเรือนำโดยเล่อเจิ้นเทียนเคลื่อนที่ผ่านรอยแตกของกำแพงแห่งความตระหนักรู้มาถึงเขตแดนจิตสำนึกอาจารย์อสูร และเดินทางต่อไปยังป้อมปราการหลักของแดนเซียน ตลอดทางในที่สุดกองเรือขนาดใหญ่ก็มาถึงแนวหน้าของแดนเซียนที่กำลังต่อสู้กับหุ่นเชิดหุ่นกล!
ในเวลาเดียวกัน แดนเซียนก็ส่งกองกำลังและแม่ทัพออกไป มหาเทพหุ่นกลก็ส่งกองทัพกลุ่มใหญ่เข้าร่วมกับแนวหน้า เวลานี้ราชสำนักมหาเทพหุ่นกลกำลังปราบปรามอาจารย์อสูรของเหล่าเซียนอย่างต่อเนื่องภายในแนวป้องกันของมันเอง
เมื่อเผชิญหน้ากับการข่มเหงรุนแรงของแดนเซียน มหาเทพหุ่นกลที่เคยประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ด้วยน้ำมือของไป๋ชิวหรานจึงไม่คิดที่จะถอยกลับ มันต้องการต่อสู้จนถึงที่สุด!
เมื่อเล่อเจิ้นเทียนมาถึงแนวหน้า เขาเข้ารับตำแหน่งผู้นำโดยธรรมชาติ ชุดเครื่องแบบทหาร ชุดเกราะสีเงินและเสื้อคลุมจักรพรรดิ ครั้นเดินทางเข้าสู่ศูนย์บัญชาการของป้อมปราการ แม่ทัพเซียนก็รีบทำความเคารพเขาในทันที
“ฝ่าบาท จัดแนวทัพเสร็จสิ้นแล้ว!”
แม่ทัพเซียนกล่าวถาม
“แล้วเมื่อใดเราจึงจะเปิดการโจมตีราชสำนักหุ่นกล?”
“ไม่ต้องรีบ …รอให้ท่านอาจารย์ส่งสัญญาณก่อน!”
เล่อเจิ้นเทียนยกมือขึ้น ก่อนจะชี้ไปยังพิกัดบนความว่างเปล่า
“คาดกันว่าหลังจากที่เรามาถึงแนวหน้า ท่านบรรพชนกระบี่จะทำลายการสื่อสารทางไกลของราชสำนักมหาเทพหุ่นกล จากนั้นจะเข้าโจมตีเมืองหลวงของราชสำนักมหาเทพหุ่นกลโดยตรง ความสามารถของบรรพชนกระบี่นั้นต่อให้กองทัพสองถึงสามก็ไม่อาจต่อต้านได้ ในเวลานั้นไม่ว่าจะมีทหารยืนอยู่ในสนามรบกี่คน พวกเราจะเคลื่อนทัพเพื่อเข้าสู่แนวป้องกันทันที ตราบใดที่เขาเรียกระดมพล เราจึงต้องพร้อมตลอดเวลา!”
“แม้ความแข็งแกร่งของกองกำลังเซียนจะไม่ดีเท่าเมื่อก่อน แต่พวกเราก็อยู่ในช่วงฟื้นฟู และเราเพิ่งผ่านพ้นสงครามกับเหล่าปีศาจ จึงไม่ควรประมาท!”
จักรพรรดิเซียนกล่าวกับแม่ทัพเซียนภายในศูนย์บัญชาการอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“สหาย การต่อสู้ครั้งนี้ยากเย็นนัก แต่ก็เป็นความยากลำบากที่เราต้องเผชิญร่วมกัน! มันเกี่ยวข้องกับอนาคตของแดนเซียน ตราบใดที่เราสามารถเอาชนะมหาเทพหุ่นกลได้ เมื่อถึงเวลาเราจะมีราชสำนักมหาเทพหุ่นกลในมือ และพวกเราเหล่าเซียนทั้งหมดจะเข้าสู่ยุคแห่งความรุ่งโรจน์! สหายเทั้งหลาย! ช่วยนำพาสิ่งเหล่านั้นให้เข้าสู่มือของพวกเรา เราจึงจะได้เป็นผู้ครอบครองโลกที่แท้จริง! แดนเซียนจะคงอยู่ตลอดกาล!”
“แดนเซียนจะคงอยู่ตลอดกาล!”
เหล่าแม่ทัพเซียนภายในศูนย์บัญชาการชูแขนขึ้นพร้อมตะโกนด้วยความพร้อมเพรียง