ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 521 ไล่ล่า
บทที่ 521 ไล่ล่า
บทที่ 521 ไล่ล่า
ในขณะที่ราชสำนักหุ่นกลอยู่ท่ามกลางทะเลเพลิง ณ ที่ใดที่หนึ่งภายในสายธารแห่งความว่างเปล่า ค่ายกลขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายอากาศกำลังลอยขึ้นจากสายน้ำอย่างเชื่องช้า
หลังจากออกจากสายธารแห่งความว่างเปล่าแล้วค่ายกลก็คล่อย ๆ สลายไป เผยให้เห็นเงาขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของปราการกั้น
หุ่นกลจักรพรรดิสีเงินสิบแขน ร่างกายใหญ่โตเทียบเท่าดาวเคราะห์ ยืนอยู่บนพื้นผิวสายธารแห่งความว่างเปล่าโดยที่ยังถือมหานครไว้บนฝ่ามือ
สรวงสวรรค์เขตหลบภัยที่หลบซ่อนอยู่ภายในอาณาเขตของมหาเทพหุ่นกลใช้โอกาสนี้เพื่อปรากฏอย่างเงียบ ๆ
“สามหมื่นปี… ยาวนานกว่าสามหมื่นปี” หุ่นกลลืมตาขึ้น แสงสีฟ้าในแววตาเปล่งประกาย แต่ไม่มีการแสดงอารมณ์ใดผ่านแววตาคู่นั้น “ในที่สุดเราก็กลับสู่ห้วงแห่งความว่างเปล่านี้ได้!”
มหานครบนฝ่ามือมีพลเมืองจากเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันไปนับไม่ถ้วนโผล่ศีรษะออกมารับชม พวกเขามองโลกวัตถุต่าง ๆ หลากสีสันบนสายธารแห่งความว่างเปล่า ด้วยสีหน้าความอยากรู้อยากเห็น
หุ่นกลจักรพรรดิมองดูทิวทัศน์ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ กางฝ่ามือออก มันค้นหาโลกวัตถุใกล้เคียง และวางเมืองบนฝ่ามือไว้บนโลกวัตถุนั้น
“พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่”
หงหลิงกล่าวขณะควบคุมหุ่นกลจักรพรรดิ
“ตามข้อตกลงของเรากับชายผู้นั้น ข้าจะออกไปช่วยเขาตามล่ามหาเทพหุ่นกล!”
เรื่องนี้อยู่ในเงื่อนไขข้อตกลง แม้ว่าคนอื่นในสรวงสวรรค์รู้สึกว่ามันไม่สมควร แต่พวกเขาก็ไม่คิดขัดขวางหุ่นกลจักรพรรดิในการจัดการกับมหาเทพหุ่นกล
แม้จะฟังดูน่าเกลียด แต่ความจริงมีชาวต่างดาวมาถามถึงตำแหน่งของราชสำนักหุ่นกล แต่ไม่ว่าจะเป็นมหาเทพหุ่นกลหรือโลกเซียน ก็เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ลี้ภัยอย่างพวกเขาจะปรากฏตัวออกไปต่อต้านสิ่งเหล่านั้น
เวลานี้ภายในอาณาจักรเซียนและราชสำนักหุ่นกลกำลังทำสงคราม หากนครสรวงสวรรค์ในฟองอากาศไม่คิดที่จะเข้าช่วยเหลือ หลังจากที่โลกเซียนเอาชนะมหาเทพหุ่นกลได้ ผลลัพธ์ที่รอชาวสรวงสวรรค์อยู่คือการถูกเหล่าเซียนขับไล่ออกจากความว่างเปล่านี้ และกลายเป็นผู้พเนจร และยังมีอีกหลายคนที่จะไม่สามารถกลับสู่บ้านเกิดของตนได้อีกต่อไป
ไป๋ชิวหรานกล่าวกับพวกเขาเองว่า ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่านครสรวงสวรรค์ในฟองอากาศจะได้อาศัยอยู่ในโลกวัตถุใกล้เคียงักน แต่ท้ายที่สุดแล้วนี่เป็นเรื่องระหว่างอารยธรรมทั้งสอง ไป๋ชิวหรานไม่ใช่ผู้ปกครองโลกเซียน และตัวเขาเองก็ไม่มีใบหน้าจะไปเทียบเทียมอารยธรรมของโลกเซียนได้
ไม่มีความเห็นอกเห็นใจระหว่างอารยธรรม หากนครสรวงสวรรค์ในฟองอากาศไม่เลือกที่จะยืนหยัดในเวลานี้ ในฐานะผู้ปกครองโลกเซียน เล่อเจิ้นเทียนย่อมไม่คิดใช้วิธีที่ดีจัดการกับกลุ่มนครสรวงสวรรค์ในฟองอากาศหลังสงครามแน่นอน
ความมั่งคั่งทั้งหมดภายในราชสำนักหุ่นกลนั้น กระจุกตัวอยู่ในมือของมหาเทพหุ่นกลทั้งสิ้น หากเอาชนะมันได้จะได้รับทุกสิ่ง ทว่ามีเพียงหุ่นกลจักรพรรดิเก่าแก่อยู่ในมือเท่านั้น หากจะนำมันไปแลกเปลี่ยนกับโลกเซียน นับว่าไร้มูลค่านัก
และตราบใดที่วิธีจัดการของเล่อเจิ้นเทียนไม่ได้ขัดขวางวิวัฒนาการและการพัฒนาโดยรวมของสิ่งมีชีวิตทางวัตถุ ไป๋ชิวหรานก็ไม่คิดสนใจเรื่องนี้ ..ท้ายที่สุดแล้วเขาคือคนของโลกเซียน และก็ย่อมให้ความสำคัญกับโลกเซียนเป็นอันดับแรก
ด้วยเหตุนี้ ไป๋ชิวหรานและหงหลิงทำข้อตกลงร่วมกัน ในขณะที่ไป๋ชิวหรานและถังรั่วเวยกำลังบุกโจมตีราชสำนักหุ่นกล ชาวนครสรวงสวรรค์ในฟองอากาศก็ต้องออกค้นหามหาเทพหุ่นกลที่หลบหนีด้วย!
นี่คือราคาที่ต้องจ่ายหากต้องการเอาชนะสงคราม โลกเซียนนั้นนอกเหนือจากการยึดเอาสิ่งของภายในราชสำนักหุ่นกลแล้ว ยังมอบห้วงแห่งความว่างเปล่าในกับนครสรวงสวรรค์ในฟองอากาศปกครอง และแม้แต่โลกเซียนก็ยังจะทิ้งโครงสร้างพื้นฐานที่อำนวยความสะดวกบางอย่างเอาไว้ เพื่อให้นครสรวงสวรรค์ในฟองอากาศสามารถฟื้นฟูความรุ่งโรจน์ได้อีกครั้ง
เพื่อให้เล่อเจิ้นเทียนบรรลุข้อตกลงร่วมกับหงหลิง ไป๋ชิวหรานถึงกับเลื่อนเวลาการบุกโจมตีออกไป และทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสารด้วยตนเองผ่านแนวป้องกันของหุ่นกล
“ท่านผู้นำ”
เมื่อเห็นว่าจิตสำนึกของหงหลิงกำลังควบคุมหุ่นกลจักรพรรดิให้ออกไป อาวุโสระดับสูงคนอื่นภายในนครสรวงสวรรค์ในฟองอากาศรีบกล่าวถาม
“ท่านต้องการให้เราส่งยานนาวาติดตามไปด้วยหรือไม่?”
“ไม่ พวกเราไม่ได้มียานนาวามาก และความว่างเปล่านี้ไม่ปลอดภัย ยกเว้นหุ่นกลที่อยู่กับพวกเจ้า มันจะคอยปกป้องเมืองและผู้คนของเรา”
หงหลิงออกคำสั่ง
“หากมหาเทพหุ่นกลกำลังหลบหนี เพื่อความคล่องตัว มันย่อมไม่เอาหุ่นกลติดตามไปแน่นอน อีกทั้งมันทราบว่าด้วยพลังการต่อสู้ของบุรุษต่างเผ่าพันธุ์ผู้นั้น มันจึงต้องใช้กองกำลังทั้งหมดเพื่อรั้งเขาไว้ สุดท้ายแล้วแม้จะไร้ประโยชน์ แต่หุ่นกลจักรพรรดิที่ข้าควบคุมย่อมรับมือกับมันได้ …แม้จะเก่าไปสักหน่อยก็เถิด”
หลังกล่าวจบ หงหลิงควบคุมหุ่นกลจักรพรรดิของตนออกจากเมืองยักษ์ และเดินทางไปตามสายธารแห่งความว่างเปล่า ตรงสู่ทิศทางนอกอาณาเขตของราชสำนักหุ่นกล
อาณาเขตของราชสำนักหุ่นกลนั้นเหมือนกับค่ายอาคมของมหาเทพหุ่นกล มันเป็นวงกลมภายใต้กฏเกณฑ์ที่สมบูรณ์แบบ
สายธารแห่งความว่างเปล่าไหลแหวกเป็นสองทางผ่านกำแพงแห่งความตระหนักรู้ และผ่านใจกลางของราชสำนักหุ่นกล ในอีกด้านหนึ่งของอาณาเขตมหาเทพหุ่นกลถูกล้อมรอบด้วยเขตแดนจิตสำนึก และอีกด้านหนึ่งอยู่ภายในส่วนลึกของความว่างเปล่าที่ห่างไกล และตำแหน่งของศูนย์กลางมหาเทพหุ่นกลก็อยู่ตรงกลางของอาณาเขตแห่งนี้
เป็นเพราะลักษณะความพิเศษของห้วงแห่งความว่างเปล่า …จึงมีหนทางให้มหาเทพหุ่นกลหลบหนีไม่มากนัก
กำแพงแห่งความตระหนักรู้ในเวลานี้คือสนามรบของหุ่นกลและกองทัพโลกเซียน เป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะหนีไปยังสถานที่แห่งนั้น และหากมันต้องการออกจากอาณาเขตภายนอก มันก็เหลือเพียงสองทางเลือก
ประการแรก.. คือการเดินไปตามสายธารแห่งความว่างเปล่า ซึ่งเป็นวิธีการทั่วไปมักนิยมใช้ในเหล่าอารยธรรมขั้นสูงที่พัฒนภูมปัญญายานนาวาเหาะได้แล้ว แม้ว่าสายธารแห่งความว่างเปล่าจะเต็มไปด้วยคลื่นพลังรุนแรงและปั่นป่วน แต่อย่างไรก็ยังสามารถเดินทางได้โดยอยู่เหนือผิวน้ำสักหน่อย ยานนาวาจะสามารถเปลี่ยนแม่น้ำแห่งนี้ให้กลายเป็นรางเชื่อมและเดินทางไปมาระหว่างโลกได้อย่างง่ายดาย
และอีกวิธีหนึ่ง… คือละทิ้งเส้นทางสายธารแห่งความว่างเปล่า ไม่ต้องสนใจเส้นทางนี้ และเลือกเส้นทางสักทางมุ่งหน้าสู่ส่วนลึกของความว่างเปล่า อย่างไรก็ตามหากเป็นวิธีนี้แล้ว มันจะเต็มไปด้วยความเสี่ยงมากมาย!
ไม่ใช่ทุกอารยธรรมที่จะมีความสามารถในการพัฒนาแหล่งพลังงานที่สามารถนำทางได้โดยไม่ต้องหยุดพักภายในห้วงแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขตนี้ สำหรับอารยธรรมที่เพิ่งก้าวออกจากโลกไม่นาน โดยปกติแล้วพวกมันสามารถใช้ยานนาวาบินไปมาระหว่างโลกวัตถุของตนเองเท่านั้น
ไม่มีอะไรอยู่ในความว่างเปล่า และยิ่งห่างไกลจากสายธารแห่งความว่างเปล่า ระยะห่างระหว่างโลกวัตถุจะยิ่งไกลออกไป หากออกไปไกลเกิน ยานนาวาจะไร้ซึ่งเสบียง และผลสุดท้ายคือตายตกอยู่ภายในส่วนลึกของความว่างเปล่านี้ ไม่ต่างอะไรจากขยะอวกาศ หรือหากโชคร้ายสักหน่อย ก็จะได้พบเจอกับพายุพลังงานที่มักจะปรากฏขึ้นภายในห้วงความว่างเปล่าบ่อยครั้ง
แม้แต่ในอารยธรรมขั้นสูงเช่นโลกเซียนหรือราชสำนักหุ่นกล มีเพียงบุคคลทรงพลังที่อยู่ในระดับจักรพรรดิเซียน หรือมหาเทพหุ่นกลจักรพรรดิเท่านั้นที่สามารถมุ่งหน้าออกสำรวจความว่างเปล่าไร้ขอบเขตตามลำพัง และเมื่อคิดออกสำรวจ พวกเขาก็ต้องแบกรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นด้วยตนเอง
ระหว่างการขยายตัวครั้งใหญ่ของโลกเซียน จักรพรรดิเซียนหลายคนตายตกเพราะต้องเผชิญหน้ากับพายุพลังภายในความว่างเปล่าขณะออกสำรวจโลกภายนอก
หากต้องการข้ามผ่านความว่างเปล่าโดยไม่ต้องการใช้สายธารแห่งความว่างเปล่า คนผู้นั้นจะต้องมีความสามารถในการเปลี่ยนห้วงแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขตนี้ให้เป็นพลังงาน ซึ่งในดินแดนของจักรพรรดิเซียน จุดจื่อฝูในร่างกายที่สมบูรณ์แล้วจะมีชิ้นส่วนของจักรพรรดิเซียนปกคลุมเอาไว้เพื่อปกป้องอวัยวะบอบบางภายในของจุดจื่อฝู ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่จะดึงพลังงานออกมาใช้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้พลังงานจากข้างในจุดจื่อฝู
หุ่นกลจักรพรรดิของมหาเทพหุ่นกลใช้พลังแห่งอักขระยันต์แปลง เพื่อพลังงานภายในความว่างเปล่าให้กลายเป็นพลังงานเข้าสู่ร่างกาย ทั้งหมดนี้ล้วนแต่พัฒนาโดยจักรพรรดิเซียนซู่หัว
อย่างไรก็ตาม เพียงเหตุผลนี้ไม่ได้หมายความว่ามันจะสามารถวิ่งไปมาภายในความว่างเปล่าได้อย่างรวดเร็วเช่นการใช้สายธารแห่งความว่างเปล่า
ประการแรก …ความเร็วในการล่องเรือภายในสายธารแห่งความว่างเปล่านั้นรวดเร็วกว่าการคิดทะลวงเข้าส่วนลึกของห้วงความว่างเปล่า อีกทั้งไม่ต้องกังวลถึงวิกฤตขาดแคลนพลังงาน เพราะสายธารแห่งความว่างเปล่าคือแหล่งพลังงานไร้สิ้นสุด สุดท้ายแล้ววิธีนี้ย่อมดีกว่าการแปลงพลังในความว่างเปล่ากลับมาสู่ร่างกาย
ดังนั้นหากมหาเทพหุ่นกลเลือกที่จะหลบหนีเข้าสู่ส่วนลึกในห้วงแห่งความว่างเปล่า เพราะหากไปทางสายธาร สุดท้ายเขาจะถูกจิตสัมผัสเทวะของไป๋ชิวหรานตรวจสอบ ต่อให้เขาวิ่งออกไปแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ไป๋ชิวหรานก็สามารถติดตามได้ทัน และลากคอเขากลับมาได้อย่างง่ายดาย!