ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 524 ท่านประเมินพลังของข้าต่ำเกินไป
บทที่ 524 ท่านประเมินพลังของข้าต่ำเกินไป
บทที่ 524 ท่านประเมินพลังของข้าต่ำเกินไป
พลังงานมหาศาลปะทุขึ้นกลางดาวเคราะห์ดวงนี้ ลำแสงขนาดใหญ่และเล็กปรากฏขึ้นจากระยะไกล ราวกับมีดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้นมาอีกมากมายในจักรวาลแห่งนี้
หุ่นกลจี่เกอตัวสุดท้ายที่แข็งแกร่งที่สุดในราชสำนักหุ่นกล เป็นเพียงหุ่นกลรูปร่างคล้ายมนุษย์เรียบง่ายกว่าหุ่นกลตัวอื่น ๆ มาก
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของมันทรงพลังอย่างยิ่ง! เพราะงหุ่นกลขุนนางอาวุโสนั้นคือหุ่นกลชนิดแรกที่มหาเทพหุ่นกลสร้างขึ้น ก่อนจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เขาจึงต้องใช้หุ่นกลขุนนางอาวุโสนี้ในการออกสำรวจเส้นทางแห่งความว่างเปล่าในคราวแรก ก่อนจะสร้างพันธมิตรร่วมกับเผ่าพันธุ์อื่น ๆ
หุ่นกลนี้ไม่มีโครงสร้างใด ๆ ที่เป็นยุทธภัณฑ์ตระการตา พลังกำลังการโจมตีของมันเป็นเพียงปราณกระบี่ที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าเซียนผู้ไร้เทียมทาน
อย่างไรก็ตาม เจตจำนงที่คาบคุมร่างของมันอยู่มาจากสิ่งมีชีวิตที่สืบทอดมรดกทั้งหมดของจักรพรรดิเซียนซู่หัว …และเป็นร่างกายที่ถือกำเนิดขึ้นจากน้ำมือของอัจฉริยะอันดับต้น ๆ ของโลกเซียน
รูปแบบค่ายอาคมและคาถาซับซ้อนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของหุ่นกลขุนนางอาวุโส! ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานอันทรงอานุภาพ! ม่านลวงตาแปลกประหลาดปรากฏขึ้น จนเพียงแค่มองดูไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ไม่ว่าคาถาจะซับซ้อนเพียงใด แต่ดูเหมือนว่าหุ่นกลขุนนางตนนี้จะสามารถใช้มันได้เพียงแค่ดีดนิ้ว! และไม่ว่าหุ่นกลจักรพรรดิจะปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังเพียงใด หุ่นกลขุนนางก็สามารถแก้ไขสิ่งเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย
เสื้อคลุมของมันถูกพายุพัดปลิวไปด้านหลังจนมสยายออกกลายเป็นม่านหมอกสีดำปกคลุมจักรวาลทั้งหมด! ภายใต้เสื้อคลุมมีดวงดาราสุกสาวมากมายอันเต็มไปด้วยพลังลึกลับ ซึ่งดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนส่งเสียงหวีดหวิว ก่อนจะพุ่งโจมตีหุ่นกลจักรพรรดิ!
เมื่อหงหลิงควบคุมหุ่นกลจักรพรรดิให้พุ่งเข้าหามัน! ระยะห่างระหว่างทั้งสองกลับห่างไกลออกไปอย่างไร้ขอบเขตด้วยพลังอันลึกลับบางอย่าง เมื่อหุ่นกลจักรพรรดิต้องการจะหลบเลี่ยง แรงโน้มถ่วงก็แปรปรวนอย่างไม่สามารถอธิบายได้ จนทำให้เท้าของหุ่นกลจักรพรรดิต้องช้าลง จนถึงขั้นถูกตรึงไว้กับที่!
หุ่นกลขุนนางอาวุโสนี้ดึงดาวเคราะห์ใกล้เคียงเข้ามา และควบคุมพุ่งเข้าชนหุ่นกลจักรพรรดิที่กำลังดิ้นรนจากการถูกตรึง!
จิตสำนึกของหงหลิงยังคงอ่อนแอกว่ามหาเทพหุ่นกล ภายใต้การโจมตีอันทรงพลังของหุ่นกลขุนนางอาวุโส หุ่นกลจักรพรรดิก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และเริ่มโซซัดโซเซไปทางซ้ายทีและขวาทีอย่างทุลักทุเล!
“เจ้าประเมินตนเองสูงเกินไป แล้วก็ยังประเมินหุ่นกลขุนนางอาวุโสข้าต่ำเกินไปด้วย”
หุ่นกลขุนนางอาวุโสเหยียดมือออก ในฝ่ามือปรากฏกขระยันต์ขึ้นทีละตัว ก่อนจะก่อเกิดเป็นหลุมดำขนาดเล็กที่พร้อมจะดูดทุกสรรพสิ่งเข้าสู่ด้านในอย่างบ้าคลั่ง!
“เจ้าไม่มีทางอดทนได้ เมื่อบรรพชนกระบี่มาถึง เจ้าก็คงถูกข้าบดขยี้สิ้นแล้ว!”
มันขว้างหลุมดำในมือเข้าใส่หุ่นกลจักรพรรดิที่กำลังบาดเจ็บสาหัส และทันทีที่หลุมดำหลุดออกจากฝ่ามือของหุ่นกลขุนนางอาวุโส มันก็ขยายตัวออกอย่างบ้าคลั่งกลืนกินทุกสรรพสิ่งโดยไม่ละเว้น เกิดแรงโน้มถ่วงรุนแรง และทั้งสองไม่ได้ต่อสู้กันอย่างเงียบสงบ ปฏิกริยาลูกโซ่จากการต่อสู้ทำให้กระแสน้ำ เปลือกโลก และการไหวเวียนของอากาศภายในอารยธรรมบนดาวนั้นเปลี่ยนแปลง เกิดเป็นภัยธรรมชาติที่รุนแรง ทั้งอุทกภัย แผ่นดินไหว และวาตภัย
แต่มหาเทพหุ่นกลในเวลานี้ไม่สนใจสิ่งมีชีวิตด้านล่างแม้แต่น้อย ในสายตาของมหาเทพหุ่นกลแล้ว การเวียนว่ายตายเกิดเป็นเรื่องธรรมดาของสิ่งมีชีวิต สามารถเกิดใหม่ได้ ตราบเท่าที่วิญญาณไม่ถูกทำลาย การทำลายชีวิตของสิ่งเหล่านี้จึงไม่เป็นที่สนใจนัก
ดังนั้นเวลานี้มหาเทพหุ่นกลจึงไร้แรงกดดันใด ๆ
หลุมดำพุ่งทะยานออกมา ก่อนจะขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกลืนกินหุ่นกลจักรพรรดิเข้าไป ดาวเคราะห์ที่โชคร้ายสองสามดวงที่อยู่ใกล้เคียงกำลังจะถูกกลืนกิน แต่ในขณะนั้นเอง …ก็มีฝ่ามือยื่นออกมาจากใจกลางหลุมดำ!?
“ก่อนที่จะมาถึง ข้าได้ยินว่าเจ้าบอกว่า ข้าประเมินหุ่นกลขุนนางอาวุโสเจ้าต่ำเกินไป”
เขาเหยียดฝ่ามือออกไปสะกิดไหล่มัน จากนั้นเหยียดฝ่ามืออีกข้างดันขึ้นด้วยมือทั้งสอง ไปบีบหลุมดำที่ยังไม่ได้ขยายตัวอย่างเต็มที่
“ข้าคิดว่าเจ้าคงจะประเมินพลังของข้าต่ำเกินไป และคิดว่าข้าจะใช้เวลานานกว่าจะมาถึงที่นี่?”
ไป๋ชิวหรานโผล่ออกจากรอยแยกของหลุมดำที่พร้อมดูดกลืนทุกสิ่ง พร้อมกับจ้องมองหุ่นกลขุนนางอาวุโส!!
หุ่นกลขุนนางอาวุโสตอบสนองอย่างรวดเร็ว ทันทีที่มันเห็นไป๋ชิวหรานปรากฏตัว มันก็โยนกล่องหยกในมือออกพร้อมร่ายคาถา อักขระยันต์ที่ตระเตรียมไว้ล่วงหน้าปรากฏขึ้น และโคจรรอบกล่องหยก ในพริบตานี้ รูม่านตาของไป๋ชิวหรานหดตัวลง และจับจ้องไปยังพลังแห่งยันต์ที่ลอยอยู่รอบกล่องหยกอย่างชัดเจน
นั่นคืออักขระยันต์เคลื่อนย้าย…
ดังนั้นเขาจึงเกิดความคิดใหม่ และยังรวดเร็วกว่าพลังตรงหน้า…
“หยุดเวลา!”
การหยุดเวลานี้ซับซ้อนมาก และมันใช้งานยากยิ่ง หากผู้ฝึกตนธรรมดาใช้ อาจจะต้องถูกวิถีสวรรค์โต้กลับ ดังนั้นไป๋ชิวหรานจึงไม่ได้เผยแพร่คาถาศักดิ์สิทธิ์นี้ออกไป เพราะสุดท้ายแล้ว มันต้องวิเคราะห์และใช้เวทย์อย่างระมัดระวัง เพื่อดึงพลังแห่งวิถีสวรรค์ออกมาเพื่อควบคุมธรรมชาติ เวลานี้จึงมีเพียงเจียงหลาน และไป๋ซวี่เซียงเท่านั้นที่ใช้มันได้!
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวิชาศักดิ์สิทธิ์นี้จะซับซ้อนและเต็มไปด้วยอันตราย แต่หากเชี่ยวชาญเต็มที่แล้วจะสามารถใช้มันได้รวดเร็วกว่าคาถาอื่น ๆ เช่นเดียวกับตอนนี้ ไป๋ชิวหรานเพียงแค่นึกคิด ทันทีที่เขาเคลื่อนไหว เวลาของโลกทั้งใบก็หยุดลงตามความต้องการของเขา!
ภายในโลกใบเล็กนี้ ทุกสิ่งหยุดลง! ไป๋ชิวหรานมองเห็นความประหลาดใจบนใบหน้าของหุ่นกลจักรพรรดิ และเห็นความตื่นตระหนกและหวาดกลัวออกมาออกมาจากหุ่นกลขุนนางอาวุโส
เขาเหาะตรงไปหยุดยืนด้านข้างของหุ่นกลขุนนางอาวุโส ก่อนจะกระชากกล่องหยกออกจากวงโคจรอักขระยันต์เคลื่อนย้าย จากนั้นจึงถีบหุ่นกลขุนนางอาวุโสออกไป! แล้วค่อยกลับมายืนตำแหน่งเดิม
ตูม!
เมื่อเวลากลับสู่สภาวะปกติแล้ว เรี่ยวแรงที่ไป๋ชิวหรานถีบหุ่นกลขุนนางอาวุโสจึงแสดงพลังของมัน จนเกิดเป็นคลื่นขนาดใหญ่กระแทกร่างของหุ่นกลขุนนางอาวุโส …มันกระเด็นออกไปด้านนอกสุดของดาวเคราะห์ ร่างถูกทุบเป็นรูขนาดใหญ่ เวลานี้ มันอยู่ใจกลางจักรวาลซึ่งมองเห็นจากระยะไกล
เขากำจัดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่หลุมดำนำมาสู่ดาวเคราะห์ดวงนั้นอย่างราบรื่น และในเวลานี้ ยังช่วยให้เพลิงที่กำลังลุกท่วมโลกใบนั้นดับลงอย่างง่ายดาย ไป๋ชิวหรานยกกล่องหยกในมือขึ้นมาพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ข้าควรจะกล่าวอะไรหรือไม่? นี่เราเจอกันครั้งแรกเชียว มหาเทพหุ่นกล ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเจ้า… จะสง่างามเช่นนี้?”
“นี่ไม่ใช่ร่างกายข้า บรรพชนกระบี่”
เสียงของมหาเทพหุ่นกลดังออกจากกล่องหยกราวกับยอมรับความพ่ายแพ้
“ข้าแพ้แล้ว… เจ้าแข็งแกร่งเกินไปที่จะถูกข้าประมาณการได้ แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ข้าจะตายตกโดยง่าย เจตจำนงของข้าแผ่ขยายไปทั่วราชสำนักหุ่นกล ไม่มีใครรู้ว่าตัวตนของข้าอยู่ที่ใด นอกจากตัวข้าเอง ตราบใดที่เจตจำนงของข้ายังอยู่ ข้าย่อมไม่มีวันหายไป”
หลังจากหยุดชั่วขณะ มันจึงกล่าวต่อ
“ความจริง ขณะที่เจ้ากำลังจับกุมข้าไว้นี้ ก็มีหุ่นกลคุ้มกันฐานทัพย่อยของข้าอยู่เช่นกัน และพวกมันกำลังออกเดินทางสู่ฐานลับต่าง ๆ”