ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 526 เจ้าหนุ่ม สนใจฝึกทำอาหารกับข้าหรือไม่
บทที่ 526 เจ้าหนุ่ม สนใจฝึกทำอาหารกับข้าหรือไม่?
บทที่ 526 เจ้าหนุ่ม สนใจฝึกทำอาหารกับข้าหรือไม่?
เมื่อตระหนักถึงการถือกำเนิดใหม่ของมหาเทพหุ่นกล ไป๋ชิวหรานเข้าสู่เขตแดนจิตสำนึกอย่างใจเย็น เขาได้พบสถานที่เงียบสงบก่อนจะเริ่มสลักโซ่ตรวนพันธนาการของจักรพรรดิเซียนซู่หัวบนจิตสำนึกที่ถือกำเนิดใหม่นี้
ไป๋ชิวหรานดำเนินการอย่างรวดเร็ว และไม่ได้ผนึกความคิดซับซ้อนใดลงไป มหาเทพหุ่นกลที่ถือกำเนิดใหม่คราวนี้มีเพียงหนึ่งเดียวที่ต้องยึดมั่นคือฟังคำสั่งทั้งหมดของโลกเซียนและเขา
เขาในที่นี้คือไป๋ชิวหราน ส่วนโลกเซียนโดยธรรมชาติแล้วย่อมเป็นผู้ปกครองของโลกเซียนแน่นอน ตามลักษณะของโซ่ตรวนพันธนาการแล้ว จักรพรรดิเซียนซู่หัวนี้คือบุคคลที่ไป๋ชิวหรานคิดว่าสามารถเป็นตัวแทนของโลกเซียนได้
หลังจากร่ายมนตร์เสร็จสิ้น ไป๋ชิวหรานและถังรั่วเวยก็เข้าใกล้แนวหน้าของโลกเซียนแล้ว เป็นเวลากว่าหนึ่งปีที่จิตสำนึกของมหาเทพหุ่นกลค่อย ๆ เติบโตขึ้นสู่ความคิดที่เป็นของตนเองได้ มันตระหนักรู้ถึงเจตจำนงของตนเองที่ขยายออกไปกว้างใหญ่ไพศาล ศูนย์กลางคือราชสำนักหุ่นกล
ความเร็วของมันดูน่าอัศจรรย์นัก แต่สำหรับมนุษย์แล้วทารกเพิ่งจะเรียนรู้วิธีคลานเท่านั้น
มันยากสำหรับมหาเทพหุ่นกลองค์ใหม่ที่จะควบคุมกองกำลังทหารขนาดใหญ่ที่เหลือเพียงไม่กี่แห่งได้ในปัจจุบัน แต่อย่างไรก้ตาม ความคิดของมันก็ยังเชื่อมเอาไว้ หากเป็นการควบคุมจากเจตจำนงก็ยังสามารถทำได้อยู่
ดังนั้นภายใต้คำแนะนำของไป๋ชิวหรานและเล่อเจิ้นเทียน จิตสำนึกใหม่ของมหาเทพหุ่นกลจึงเริ่มออกคำสั่งต่อกองกำลังทั้งหมดภายในดินแดนราชสำนักหุ่นกลเดิมให้เริ่มเคลื่อนไหว พวกมันถอนตัวออกจากดินแดนพร้อมกับมุ่งหน้าสู่เขตแดนการปกครองของโลกเซียนภายในเขตแดนจิตสำนึก ก่อนจะมอบสถานที่ว่างเปล่าเดิมขนาดใหญ่ให้กับชาวนครสรวงสวรรค์ในฟองอากาศจัดการ
…
ภายใต้คำสั่งของมหาเทพหุ่นกล เหล่าสิ่งมีชีวิตกายสีฟ้าอาศัยอยู่ในโลกวัตถุขนาดใหญ่และมีอารยธรรมของตน พวกเขาไม่เคยทราบถึงความคืบหน้าของสถานการณ์ แต่จู่ ๆ วันหนึ่งก็ได้ยินข้อความแปลกประหลาดทางของมหาเทพหุ่นกลวันนี้
ข้อความค่อนข้างยาว และความยาวนั้นไม่สอดคล้องกับนิสัยเดิมของมหาเทพหุ่นกลที่เคยเป็นมาตลอด
เนื้อหาของการแถลงการณ์ส่วนใหญ่คือการขอโทษอย่างจริงใจต่อสิ่งมีชีวิตทางวัตถุจำนวนมากที่ถูกมหาเทพหุ่นกลกักขัง ก่อนจะประกาศว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มหาเทพหุ่นกลจะออกไปจากโลกนี้ และสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาภายในนครสรวงสวรรค์ในฟองอากาศจะเป็นอิสระ และจะเป็นผู้ปกครองโลกทั้งใบอย่างแท้จริง
หลังจากออกแถลงการณ์นี้แลว้ สิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญบางอย่างของหุ่นกลก็เสร็จสิ้นการเปลี่ยนแปลง ก่อนที่มันจะค่อยทะยานขึ้นสู่อากาศด้วยเปลวไฟยาวเป็นเส้น ก่อนจะเดินทางผ่านรอยแยกของท้องฟ้าบนโลกใบนี้ไป
เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น ชาวอารยธรรมหลันผีไม่ได้รู้สึกถึงความสุขที่ได้รับอิสระภาพเลย …พวกเขาทั้งหมดอยู่ในความตื่นตระหนกสุดพรรณา!
แม้ว่ามหาเทพหุ่นกลจะกล่าวขอโทษพวกเขาและอ้างว่าทั้งหมดคือความผิดของตน แต่ความจริงแล้วในปัจจุบัน พวกเขาทั้งหมดถูกทอดทิ้งโดยเทพเจ้าที่ตนนับถือ… จึงนับว่าถูกทอดทิ้งอย่างสมบูรณ์!
และข้อเท็จจริงนี้ทำให้ชาวอารยธรรมหลันผีหลายคนมองว่าทั้งหมดคือความผิดพลาดของพวกเขาเอง และบางคนก็เริ่มกล่าวถ้อยคำไร้เหตุผล
หลังจากที่ยานนาวาของนครสรวงสวรรค์ลงจอดภายในโลกของเผ่าอารยธรรมหลันผี เมืองหุ่นกลของเผ่าอารยธรรมหลันผีทั้งหมดที่เห็นต่างตื่นตกใจ
ชาวอารยธรรมหลันผีนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันที่ลานกว้าง พวกเขาไม่กิน ดื่ม หรือทำสิ่งใด ทั้งหมดเอาแต่เงยหน้ามองท้องฟ้าด้วยความสับสน พร้อมกับครุ่นคิดบางสิ่ง
บางครั้งจะมีเผ่าอารยธรรมหลันผีบางคนตะโกนคำรามบ้าคลั่ง ก่อนจะวิ่งไปที่ขอบของลานกว้าง กระโดดออกไปนอกรั้ว เมื่อมีคนเริ่มกระทำ… จึงมีผู้คนอีกมากมายเริ่มเลียนแบบด้วยการวิ่งตาม
ด้านล่างของเมือง เผ่าอารยธรรมหลันผีรวมตัวกันกลายเป็นสายน้ำอยู่บนถนน ร่างของชาวอารยธรรมหลันผีที่ร่วงหล่นลงมาตายกองเกลื่อนอยู่บนพื้นดิน
ผู้นำคนใหม่รีบเร่งที่จะแก้ไขวิกฤตของโลกใบนี้!
เมื่อพวกเขามาถึงลานกว้างที่ชาวอารยธรรมหลันผีใช้รวมตัวกัน บุคคลที่เป็นผู้นำคนใหม่ที่ไป๋ชิวหรานและถังรั่วเวยเคยพบมาก่อน เขาคือชายชราผิวสีฟ้าซึ่งเป็นผู้คุมขังภายในเรือนจำเซินลาต๋าที่หนึ่ง
เขาเดินตรงไปที่ลานกว้างจุดสูงสุดของเมืองหลวง สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยชาวอารยธรรมหลันผีที่เผยสีรหน้าว่างเปล่า แววตาไร้ความรู้สึกใด ทั้งหมดกำลังสับสนถึงอนาคตที่จะมาถึง และสูญสิ้นความหวังในการมีชีวิต
ชายชราแอบโศกเศร้าเล็กน้อย แต่เขาก็พยายามรวบรวมสติแล้วเผชิญหน้ากับสหายร่วมเผ่าพันธุ์ก่อนจะกล่าวถาม
“สหายร่วมเผ่าพันธุ์ข้า ในที่สุดวันนี้พวกเราก็ได้รับอิสระเสียที เหตุใดพวกเจ้าจึงแสดงออกเช่นนั้น?”
ไม่มีใครตอบคำถามของเขา และชาวอารยธรรมหลันผีสองสามคนที่ไม่ได้สับสนเหลือบมองเขาด้วยแววตาว่างเปล่า ก่อนจะค่อย ๆ เบือนหน้าหนีแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าเช่นเคย
ชายชราชาวอารยธรรมหลันผีไม่คิดท้อถอย เขาเดินตรงไปท่ามกลางคนเหล่านั้นพร้อมกล่าวถามทีละคนด้วยความอดทน
ในที่สุดชายหนุ่มอารยธรรมหลันผีคนหนึ่งก็ตอบคำถามของเขา
“ท่านผู้เฒ่า พวกเรามองไม่เห็นอนาคตข้างหน้า”
ชายหนุ่มกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไร้พลังและสิ้นหวังนัก
“มหาเทพหุ่นกลกำหนดชีวิตของพวกเราเนิ่นนานแล้ว ให้พวกเรากิน สวมเสื้อผ้า เดิน นั่ง นอน และคอยอวยพรให้พวกเราเติบโตอย่างแข็งแรง สิ่งต่าง ๆ ล้วนได้รับจากพรสวรรค์ของมหาเทพหุ่นกล และเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของพวกเราคือการเป็นผู้รับใช้มหาเทพหุ่นกลผ่านพิธีบรรลุ เวลานี้มหาเทพหุ่นกลจากไปแล้ว ผู้ใดจะเลี้ยงดูเรา? ผู้ใดจะมอบเสื้อผ้า? แล้วเมื่อเราเติบใหญ่ขึ้น เราจะภักดีต่อใคร?”
“เป็นคำถามที่ดี… แน่นอน พวกเราจะทำอาหารกินเอง ทอเสื้อผ้าใส่เอง และเมื่อพวกเราเติบโต เราก็จะภักดีต่อตนเอง ต่ออารยธรรมของเรา เผ่าพันธุ์ของพวกเรา!”
ชายชราผิวสีฟ้ามองชายหนุ่มที่กำลังสับสนพร้อมเอื้อมมือไปตบไหล่เขา
“เริ่มจากตอนนี้เลย… เจ้าหนุ่ม ข้าคิดว่าเจ้ามีคุณสมบัติที่ดี ทำไมเจ้าไม่ลองมาฝึกทำอาหารกับข้าดูล่ะ?”
…
มหาเทพหุ่นกลทั้งหมดถอนตัวไปยังเขตแดนจิตสำนึก ภายในโลกเซียนจึงเต็มไปด้วยพวกมันมากมาย
นี่คือข้อตกลงที่เล่อเจิ้นเทียนตกลงกับไป๋ชิวหราน และผู้นำนครสรวงสวรรค์ในฟองอากาศหงหลิง ซึ่งสำหรับโลกเซียนแล้วด้วยข้อตกลงนี้ถือว่าเป็นผลกำไรมหาศาล
ภายในความว่างเปล่าอันไกลโพ้น ขนาดของเขตแดนต่าง ๆ ไม่ได้มีความหมายมากนัก บางครั้งก็มีจำกัด บางครั้งโลกวัตถุนับไม่ถ้วนก็ทับซ้อนกัน แต่ในบางครั้งก็มีโลกกว้างใหญ่นับไม่ถ้วนดำรงอยู่
กำลังคนในปัจจุบันของโลกเซียนนั้นห่างไกลจากคำว่าเพียงพอ ดินแดนที่ขาดการปกครองเป็นเพียงแหล่งน้ำที่แห้งขอด ต้นไม้ไร้ราก และไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงว่าจะมีราชสำนักหุ่นกลอีกแห่ง ในเวลานี้… หากมีราชสำนักหุ่นกลขึ้นมาอีกครั้ง ความสามารถในการควบคุมของโลกเซียนจะลดลงถึงจุดต่ำสุดอย่างแน่นอน!
ดังนั้นแทนที่จะบังคับให้รวมดินแดนกว้างใหญ่ในอดีตของราชสำนักหุ่นกลเข้ากับดินแดนแห่งโลกเซียน จะเป็นการดีกว่าหากมอบมันให้กับนครสรวงสวรรค์ในฟองอากาศเป็นการตอบแทน…
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของนครสรวงสวรรค์ มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมดินแดนเดิมของราชสำนักหุ่นกลทั้งหมดได้โดยสมบูรณ์ หลังจากหุ่นกลถอนตัวออกไป มันทิ้งหุ่นกลทารกยักษ์มากมายที่กำลังเฝ้ารออาหารเอาไว้
แม้ว่าไป๋ชิวหรานและนครสรวงสวรรค์จะทำข้อตกลงกันว่าสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานจะถูกทิ้งไว้ เพื่อไม่ให้เหล่าทารกยักษ์เหล่านี้อดตาย แต่หากจะทำให้ดินแดนแห่งนี้กลับมารุ่งเรืองเช่นเดิม เกรงว่าจะต้องใช้เวลานับหมื่นปีสำหรับชาวนครสรวงสวรรค์
อย่างน้อยในอนาคตอีกนับหมื่นปี นครสรวงสวรรค์จะอยู่ในสภาวะอ่อนแอ โลกเซียนจึงจะควบคุมเขตแดนจิตสำนึก โดยมีอาจารย์อสูรมาช่วยป้องกันแนวปราการโดยรอบ อีกทั้งชาวนครสรวงสวรรค์จะสามารถช่วยให้เป็นเกราะต้านทานให้กับโลกเซียนได้
ดังนั้นในอนาคตอันใกล้ สถานการณ์โดยรอบของโลกเซียนจึงมีความมั่นคงอย่างยิ่ง และในที่สุด… ก็จะสามารถเข้าสู่ความรุ่งโรจน์!