ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 528 อ่า ข้ากำลังจะตาย
บทที่ 528 อ่า ข้ากำลังจะตาย
บทที่ 528 อ่า ข้ากำลังจะตาย
หลังจากพูดคุยกับจื้อเซียนสักครู่หนึ่ง ทุกสิ่งก็เป็นไปด้วยดี ไป๋ชิวหรานจึงวางสายก่อนจะบิดเอวอย่างเกียจคร้านแล้วเดินออกจากบ้าน
นับตั้งแต่การต่อสู้อันดุเดือดภายในราชสำนักหุ่นกล ไป๋ชิวหรานก็กลับมาอยู่บ้านกว่าหลายร้อยปีแล้ว
ในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา ในมุมหนึ่งเขาทำงานหนักอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อกลั่นลมปราณที่แท้จริง โดยพยายามออกแบบคฤหาสน์สีม่วงประดิษฐ์เพื่อรองรับปฐมวิญญาณประดิษฐ์ด้วย
แต่ในอีกมุมหนึ่ง เนื่องจากมหาเทพหุ่นกลองค์ใหม่ยังห่างไกลจากความเป็นผู้ใหญ่นัก และยังพยายามดูดซับย่อยสิ่งที่มหาเทพหุ่นกลองค์เก่าทิ้งเอาไว้ ทุกสิ่งล้วนยิ่งใหญ่ และจนถึงตอนนี้ช่างฝีมือเซียนของห้องทดลองเซียนยังไม่สามารถออกแบบสิ่งใดได้
ยิ่งไปกว่านั้น ไป๋ชิวหรานก็ฝึกฝนตนเองเช่นกัน เขาไม่ต้องหาที่หลบภัยใดเลย และเข้าสู่สมาธินานกว่าร้อยปี ชนิดที่ไม่คิดจะออกมาจนกว่าจะเกิดริดสีดวงทวาร
ดังนั้นชายหนุ่มจึงใช้ชีวิตอย่างเรียบเรื่อยในทุกวัน หากไม่ขลุกอยู่แต่ในห้องก็ใช้เวลากับภรรยาแล้ว เขายังนอนขี้เกียจเป็นอัมพาตเมื่ออยู่ที่บ้าน ราวกับเป็นถังรั่วเวยคนที่สอง
ในวันที่สอง… ไป๋ชิวหรานตื่นแต่เช้า
แม้ว่าเมื่อคืนจะทำงานอย่างหนักทั้งคืน แต่ตอนนี้เขาแทบไม่ได้ออกกำลังกายเลย ดังนั้นเขาจึงนอนบิดอยู่บนเตียง เนิ่นนานกว่าจะลุกได้
หลังจากที่ปลุกแม่นางน้อยข้างกาย ทั้งครอบครัวอาบน้ำก่อนจะไปรวมตัวกันที่ลานบ้าน จากนั้นจึงออกเดินทางสู่แดนเซียน
ก่อนอื่นพวกเขาเข้าสู่อาณาจักรเซียนกลางเพื่อไปรับไป๋ซวี่เซียงที่ศึกษาอยู่กับเทพีอีกาสามขา จากนั้นค่อยเดินทางสู่อาณาจักรเซียนทิศเหนือร่วมกัน
ก่อนหน้านี้ ไป๋ชิวหรานและครอบครัวของเขาไม่เคยเข้าสู่อาณาจักรเซียนทางเหนือ และอาณาจักรเซียนทั้งห้า แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วทุกพื้นที่ล้วนแต่มีกลิ่นอายแห่งเซียน แต่สุดท้ายแล้วสถานที่แต่ละแห่งก็มีลักษณะเฉพาะของตนเอง
อาณาจักรเซียนตะวันออกอยู่ใกล้กับโลกมนุษย์มากที่สุด อาณาจักรเซียนกลางมีสวรรค์สามสิบหกชั้นเป็นสถานที่ที่เหล่าเซียนประทับใจและชื่นชอบที่สุด อาณาจักรเซียนใต้นั้นเปรียบเสมือนสนามรบ บรรยากาศและประเพณีต่าง ๆ ล้วนป่าเถื่อน ส่วนผู้ฝึกตนในอาณาจักรเซียนตะวันตกนั้นเก่งกาจด้านการใช้อาวุธ และการค้าอาวุธก็ได้รับการพัฒนามากด้วยเช่นกัน
สำหรับอาณาจักรเซียนเหนือ เนื่องจากอดีตจักรพรรดิเซียนเหนือชอบแม่น้ำและหิมะ มันจึงมีระบบน้ำที่ดี และอุณหภูมิก็ต่ำตลอดทั้งปี และยังมีสัตว์เทพเจ้ามากมายที่เกิดมาพร้อมกับพลังเหนือธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิไม่อาจทำร้ายผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรเซียนเหนือได้ หิมะตรงหน้าทำให้อาณาจักรเซียนเหนืองดงามเป็นอันดับหนึ่งในแดนเซียนทั้งห้า การท่องเที่ยวในสถานที่แห่งนี้ได้รับการพัฒนาอย่างยิ่ง มีเซียนมากมายเข้าพักในทุกโรงเตี๊ยม อีกทั้งยังมีบ่อน้ำพุร้อนวิญญาณที่ถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษ ช่วยเหลือเรื่องระดับการฝึกฝนได้ด้วย
และเนื่องจากจักรพรรดิเซียนคนก่อนกำลังถูกทรมานอยู่ในปรโลก นางเคยเป็นผู้ที่รักความงาม และดูแลร่างกายตนเองอยู่เสมอ ครั้งหนึ่งจึงเคยสร้างคาถาเยาว์วัยขึ้นในอาณาจักรเซียนเหนือ ดังนั้นภายในดินแดนแห่งนี้ส่วนมากจึงเต็มไปด้วยบุรุษผู้สง่าและสตรีงดงาม
บุรุษสง่างามและสตรีงดงามนี้หมายถึง ผู้ชายที่หล่อเหลาและหญิงสาวใบหน้างามงด แต่อย่างไรก็ตามในอาณาจักรเซียนใต้ยังมีชายชราจำนวนมากที่มีใบหน้าหล่อเหลาสองสามคน พวกเขาเหล่านั้นถืออาวุธสังหารครบมือก่อนจะกล่าวทักทายสมาชิกร่วมเผ่าพันธุ์อย่างจริงใจเมื่อเริ่มต่อสู้กัน
ไป๋ลี่ตระเตรียมทุกสิ่งแล้วก่อนที่ไป๋ชิวหรานจะมาถึง ชายผู้นี้หยุดยั้งการฝึกฝนจนกระทั่งเขาเมื่อเข้าสู่ขั้นสูงสุดของอาณาจักรสมุทร ก่อนที่เขาจะทะลวงผ่านขึ้นไป นอกจากนี้ด้วยความสามารถของจักรพรรดิเซียนองค์แรกแล้ว การกลับชาติมาเกิดคราวนี้การฝึกฝนของเขาย่อมแข็งแกร่งขึ้นมาก พลังในการต่อสู้จึงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ดังนั้นในไม่ช้าเขาจึงสร้างรากฐานได้ในอาณาจักรเซียนทิศเหนือ และเริ่มมีชื่อเสียงในสวรรค์ทั้งเก้าชั้นของทิศเหนือ
ทันทีที่ครอบครัวของไป๋ชิวหรานลงจากเรือเหาะ สมาชิกของคณะภาพยนต์ของไป๋ลี่ก็ออกมาต้อนรับพวกเขาทุกคน และพาไปยังโรงเตี๊ยมที่มีน้ำพุร้อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาณาจักรเซียนทิศเหนือ
เมื่อพวกเขามาถึง กระเป๋าเดินทางทั้งหมดถูกจัดเก็บ ในที่สุดไป๋ชิวหรานและทุกคนก็ได้พบกับไป๋ลี่ที่เติบโตขึ้นแล้ว
“ท่านอาจารย์ ช่วยข้าด้วย!”
ครั้งแรกที่เขาเห็นไป๋ชิวหราน ไป๋ลี่ไม่สนใจภรรยาของตนเอง และคณะละคร เขาเหยียดมือออกไปโอบต้นขาของไป๋ชิวหรานพร้อมคุกเข่าลงบนพื้น
“ออกไป อย่ามารัดขาข้าเช่นนี้!”
ไป๋ชิวหรานออกแรงเตะไป๋ลี่พุ่งทะยานลอยไปในอากาศ! จากนั้นเขาก็ถอยกลับพร้อมนั่งลงในเก้าอี้อย่างรวดเร็ว และแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เวลานี้เจียงหลานกระซิบกับบุตรสาวที่นางอุ้มเอาไว้
“ซวี่เซียง ระวังให้ดี บุคคลที่ท่านพ่อเจ้าเพิ่งขับไล่ไปเมื่อครู่นี้คือพี่ชายที่สองของเจ้า… เขาเจ้าชู้นัก อย่าได้อยู่ใกล้เขาเชียว”
“ท่านอาจารย์!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไป๋ลี่ทุบหน้าอกพร้อมกระทืบเท้า
“ดูเหมือนท่านจะมองข้าในแง่ร้ายเกินไป!”
“เจ้ามักจะมีวิธีเมื่อเจ้าต้องการทำการค้า”
เจียงหลานขยิบตา
“และเวลานี้ข้ากำลังสั่งสอนบุตรสาว… กล่าวตามตรงข้าไม่รังเกียจเจ้า และข้าก็ไม่รังเกียจชิวหรานหากเขาจะมีภรรยามากกว่านี้ แต่ซวี่เซียงเป็นบุตรสาวของข้า และในฐานะที่ข้าเป็นมารดาจึงไม่อาจอดทนได้”
การกระทำของเจียงหลานยังเป็นการเตือนไป๋ชิวหรานด้วย เวลานี้ใบหน้าของบุรุษผมขาวเผยความน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าวิญญาณอสูรร้าย และเขาเหมาะสมยิ่งกับนามของจักรพรรดิภูตผี ภายใต้สายตาที่น่าเกรงขามเขาเดินตรงเข้าหาไป๋ลี่พร้อมกับวางมือบนไหล่อีกฝ่าย
“หากข้าทราบว่ามีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นในอนาคต เจ้าจะได้กลับชาติมาเกิดอีกครั้ง เข้าใจหรือไม่?”
“ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจแล้ว ข้าทราบว่าควรทำเช่นไร ข้าไม่อยากตายอีกแล้ว!”
ศีรษะของไป๋ลี่สั่นราวกับผีเข้า เขารีบกล่าวทันที
“ท่านอาจารย์ ข้าไม่มีแม้แต่หลักประกันสำหรับชีวิตตนเอง แล้วเหตุใดข้าจึงต้องกระทำเช่นนั้น?”
ไป๋ชิวหรานยืดตัวตรงพร้อมกับมองไปรอบ ๆ เขาพบเจอสตรีมากมายซึ่งนั่งอยู่รอบ นอกจากลู่เยว่เอ๋อร์ที่เคยพบ ยังมีอีกสองสามคนที่เขาทราบแล้ว บางคนมีเสน่ห์ บางคนน่ารัก บางคนอวบ บางคนผอม แต่ละคนมีความโดดเด่นของตนเอง
เขากล่าวคำออกไปเพื่ออธิบายทุกสิ่ง ไป๋ลี่รู้สึกอับอายเล็กน้อยแต่มันคือความจำเป็น
หลังจากเงียบไปเนิ่นนาน ไป๋ลี่จึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“ท่านอาจารย์ ท่านต้องช่วยข้าแล้ว ท่านคือผู้เดียวในโลกใบนี้ที่จะช่วยเหลือข้าได้”
“มันขึ้นอยู่กับว่าเจ้าสมควรได้รับความช่วยเหลือหรือไม่!”
ไป๋ชิวหรานชี้หน้าของไป๋ลี่พร้อมกล่าวอย่างขุ่นเคือง
เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ ลู่เยว่เอ๋อร์ที่เคยพบกับไป๋ชิวหรานไม่สะทกสะท้านใด แต่ภรรยาคนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะเริ่มคาดเดาตัวตนของไป๋ชิวหราน
เหนือสิ่งอื่นใด มีจักรพรรดิเซียนเคยมาที่อาณาจักรเซียนเหนือก่อนหน้านี้ และจักรพรรดิเซียนผู้นั้นก็ปฏิบัติกับสามีของพวกนางด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยความนอบน้อม
หลังจากสั่งสอนบทเรียนให้กับไป๋ลี่แล้ว ไป๋ชิวหรานเอามือไพล่หลังพร้อมคิดหาวิธีการแก้ปัญหา
แต่เขาเป็นคนโง่เขลาในเรื่องความรัก โดยปกติแล้วเขาเพียงแค่รอให้เจียงหลานและภรรยาคนอื่นร้องขอ เขาจึงค่อยตอบสนองให้ดีที่สุด ดังนั้นหลังจากไตร่ตรองอยู่นานไป๋ชิวหรานก็กล่าวถึงอย่างลังเล
“แล้วตอนนี้เจ้าแข็งแกร่งเพียงใดแล้ว? เหตุใดจึงไม่อาจเอาชนะพวกนางได้?”
“เอ๋…”
ไป๋ลี่ปิดใบหน้าของตนเองเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะเอนหลังล้มลงอย่างสิ้นหวัง
“ข้ากำลังจะตายแล้ว!”
“หากเจ้าต้องการหลีกเลี่ยงหายนะ ความจริงแล้วข้าก็พอจะมีแผนอยู่บ้าง…”
ในเวลานี้ซูเซียงเสวี่ยในชุดคลุมสีขาวกล่าวขึ้น ดูเหมือนว่าท้องของนางเริ่มป่องออกมาเล็กน้อย