ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 531 ความเสียใจของพลังปราณแก่นแท้เก้าในสิบ
บทที่ 531 ความเสียใจของพลังปราณแก่นแท้เก้าในสิบ
บทที่ 531 ความเสียใจของพลังปราณแก่นแท้เก้าในสิบ
ไป๋ชิวหรานไม่ได้ปฏิเสธทั้งสอง
มหาเทพหุ่นกลองค์ใหม่และวิถีสวรรค์กลายเป็นพรรคพวกของโลกแห่งเซียนแล้ว จึงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะกีดกั้นพวกเขา ตรงกันข้าม… ทั้งสองกลับเป็นช่างฝีมือที่เก่งกาจยิ่งกว่าช่างฝีมือทั้งหมด และพวกเขาก็มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแผนการนี้ ยิ่งกว่านั้น หากทั้งสองคนนี้เข้าร่วม บางทีทั้งสองอาจได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากเทคนิคของไป๋ชิวหราน
เพราะมีสองคนนี้มาร่วมทีม ความคืบหน้าของแผนการก็รวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับการสร้างโลกนั้น วิถีสวรรค์เป็นผู้เชี่ยวชาญในห้วงแห่งความว่างเปล่าแห่งนี้ ส่วนความเข้าใจหุ่นกลนั้น โดยปกติแล้วย่อมไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเท่ากับมหาเทพหุ่นกลองค์ใหม่ที่ได้รับมรดกทั้งหมดจากมหาเทพหุ่นกลองค์เก่า
เมื่อโรงหล่อสวรรค์สามารถทนต่อพลังงานระดับทำลายล้างดาวเคราะห์ ไป๋ชิวหรานก็บดขยี้วัสดุทั้งหมดที่ใช้ในการสร้างอย่างทุลักทุเล
เขาใช้โลหะสัดส่วนสมบูรณ์ในการสร้างราชสำนักหุ่นกลเป็นวัสดุตั้งต้น จากนั้นวิถีสวรรค์ก็มีหน้าที่รับผิดชอบในการสร้างดาวเคราะห์ใหม่ จากนั้นมหาเทพหุ่นกลองค์ใหม่ก็มีหน้าที่รับผิดชอบในการออกแบบวัสดุเพื่อทำให้พลังแห่งยันต์โคจรอย่างราบรื่น ก่อนที่ไป๋ชิวหรานจะนำวัสดุเหล่านั้นเข้าสู่ดาวเคราะห์ใหม่อีกรอบพร้อมกับให้วัสดุ ก่อนที่วิถีสวรรค์จะทำลายดาวเคราะห์นั้นด้วยการระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้วัสดุถูกหลอมด้วยการระเบิดจนแข็งแกร่ง
นี่เป็นงานที่แสนอันตรายและน่าเบื่อ ขนาดโลหะยังอ่อนล้า แม้แต่คนที่แข็งแกร่งทางกายซึ่งสามารถอดทนต่อการระเบิดของจักรวาลได้ หลังจากถูกกระทำซ้ำไปซ้ำมา ในไม่ช้าพวกเขาจะไม่อาจต้านทานแรงระเบิดจักรวาลได้
มีเพียงชายอย่างไป๋ชิวหรานที่มีร่างกายแข็งแกร่งพอจะทำได้ไหว เพราะเขาฝึกฝนวิชาหลอมร่างกาย บรรพชนกระบี่จึงเป็นเพียงคนเดียวที่ยังยืนอยู่
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ทำให้ไป๋ชิวหรานรู้สึกประทับใจไม่น้อย พลังงานที่เกิดขึ้นเมื่อดาวเคราะห์ถูกทำลายนั้นช่างน่าสะพรึงกลัว! มันเต็มไปด้วยความหนาแน่นยิ่งกว่าพายุในสายธารแห่งความว่างเปล่า และในระหว่างกระบวนการปรับแต่งวัสดุ ร่างกายของไป๋ชิวหรานได้รับผลกระทบจากพลังงานนั้นด้วยเช่นกัน และจุดจื่อฝูในร่างกายของเขาก็ถูกบีบอัดอย่างต่อเนื่องจนเกิดปฏิกริยาก่อตัวของปราณแก่นแท้ในร่างกาย
สิ่งนี้ทำให้อัตราส่วนของพลังปราณแก่นแท้ของเขาที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมานาน… ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอีกครั้ง!
ผ่านไปนานหลายปี ไป๋ชิวหรานค่อย ๆ หลอมวัสดุเพื่อสร้างโรงหลอมอย่างช้า ๆ และช่างฝีมือก็เริ่มเตรียมการทดสอบสมรรถภาพของโรงหลอมนี้
ช่วงเวลานี้ไป๋ชิวหรานจึงมีเวลาว่างที่ไม่ได้มีมานานแสนนาน…
อย่างไรก็ตาม ชายผู้นี้ยังคงนำวัสดุเข้าสู่ดาวเคราะห์ใหม่ที่สร้างขึ้นโดยวิถีสวรรค์อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยใช้เหตุผลว่า “หุ่นกลจะถูกนำมาใช้ในอนาคต หากสามารถรักษาการสึกหรอบนเตาหลอมได้เล็กน้อย มันก็จะประหยัดขึ้นเล็กน้อย” ด้วยเหตุผลนี้เขาจึงทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พร้อมทั้งบีบอัดพลังปราณแก่นแท้ในร่างกายไปพร้อมกัน
วันที่ดีก็ยังต้องถึงจุดจบ! แต่อย่างไรแล้วมันก็ยังเป็นความโชคดี การบีบอัดพลังปราณที่แท้จริงในร่างกายของไป๋ชิวหรานทำให้เขาได้ฝึกฝนร่างกายภาพ ช่วยให้ความแข็งแกร่งของเขาสามารถเอาชนะความเร็วของพลังปราณแก่นแท้ควบแน่นได้ เมื่อพลังปราณแก่นแท้ในร่างกายเพิ่มขึ้นถึงเก้าในสิบ เวลานี้แม้แต่การระเบิดของโลกก็ไม่อาจสร้างความเจ็บปวดให้กับเขาอีกต่อไป
“เอ่อ… ข้าเกรงว่าข้าจะช่วยพวกเจ้าไม่ได้แล้ว แม้ข้าจะต้องการก็ตาม!”
เจตจำนงของวิถีสวรรค์กล่าวอย่างตรงไปตรงมา …จากนั้นหันมองไป๋ชิวหรานอย่างขุ่นเคือง
“ข้าสร้างสัตว์ประหลาดเช่นเจ้าขึ้นมาได้อย่างไร?”
“ตอนนั้นข้าไม่ควรเชื่อความชั่วร้ายของชายผู้นั้นเลย ข้าไปลอกเลียนวิชาหลอมสร้างกายของท่านอาจารย์ออกมา”
ไป๋ชิวหรานนึกถึงสหายที่ร่วมฝึกฝนสิ่งนี้กับเขาและรู้สึกเสียใจขึ้นมา
“ข้าทำถูกต้องแล้วที่สังหารเขา”
“ไม่เช่นนั้นตอนนี้เจ้าคงจะไม่รอดชีวิต”
วิถีสวรรค์กล่าวเสียงเบา
“ในช่วงชีวิตของเจ้า เกิดวิกฤตมากมายแต่กลับสามารถเอาชนะได้สำเร็จโดยอาศัยความแข็งแกร่งของทักษะนี้”
ไป๋ชิวหรานเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้นอย่างมีความหวัง
“อะไร? วิถีสวรรค์ เจ้าทราบหรือไม่ว่าที่ใดในความว่างเปล่ามีความอันตรายและน่าสะพรึงยิ่งกว่าการระเบิดของแกนดาวเคราะห์?”
“ในความรู้ที่ข้ามี เกรงว่ามันจะไม่เคยปรากฏ”
วิถีสวรรค์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวตอบ
“หากอยากจะทำจริง ๆ มันก็คงจะมีหนทางเดียวคือให้ข้านำสวรรค์และปฐพีเชื่อมต่อกัน จากนั้นค่อยระเบิดออกพร้อมกับตัวเจ้า”
“ดี”
ไป๋ชิวหรานถกแขนเสื้อขึ้น แสร้งทำเป็นเขียนเส้นแปลกประหลาดสามเส้นบนหลังมือ ก่อนจะกล่าวกับวิถีสวรรค์ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ถูกสังหารโดยวิถีสวรรค์!”
“ไอ้บัดซบ!”
วิถีสวรรค์สาปแช่งอย่างขุ่นเคืองก่อนจะเงียบลง
วิธีการควบแน่นพลังปรานแก่นแท้ถูกละทิ้งความสนใจไปอีกครั้ง เวลานี้ไป๋ชิวหรานกลับสู่โรงหลอมพร้อมกับวัสดุชุดสุดท้ายที่จะควบแน่นเป็นโลหะผสมของโลก เวลานี้อวี้เหริ่นหานทักทายเขาด้วยใบหน้าสดใส
“บรรพชนกระบี่ พวกเราทำสำเร็จแล้ว!”
ช่างฝีมือเซียนผู้ยิ่งใหญ่แห่งโรงหลอมเหล็กสวรรค์อดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้าง
“วันนี้โลหะผสมของโลกชิ้นแรกถูกหล่อขึ้นสำเร็จในเตาหลอมของเรา!”
“อืม! ดีแล้ว! เช่นนั้นคราวหน้าข้าคงไม่ต้องทำแล้ว”
ไป๋ชิวหรานโบกมืออย่างรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
“อ่า… ท่านบรรพชนกระบี่เกิดสิ่งใดขึ้นงั้นหรือขอรับ?”
เมื่อเห็นว่าไป๋ชิวหรานผิดแปลกไป อวี้เหริ่นหานอดไม่ได้ที่จะกล่าวถาม
“ท่านไม่เคยมีส่วนร่วมในการระเบิดโลกมาก่อนเลยงั้นหรือ?”
“ไม่มีอะไรมากหรอก ข้าเพียงเหนื่อย”
ไป๋ชิวหรานยืดเอวพร้อมถอนหายใจยาว
“บางทีข้าอาจจะแก่เกินกว่าจะยอมรับความจริง”
อวี้เหริ่นหานกล่าวไม่ออกเมื่อได้ยิน แม้เขาจะไม่ทราบอายุที่แท้จริงของบรรพชนกระบี่ แต่เขาก็เคยได้ยินว่าอายุที่แท้จริงของบรรพชนกระบี่ผู้นี้ยังเด็กมากสำหรับผู้เป็นเซียน
ไม่ต้องกล่าวถึงตัวเขาเอง แม้ว่าเขาจะอยู่ในอาณาจักรเซียนกลาง แต่เขาอาจจะแก่กว่าบรรพชนกระบี่ผู้นี้ย่อมได้
“อย่างไรแล้วหากมันสำเร็จก็ย่อมเป็นข่าวดี…”
ไป๋ชิวหรานยิ้มและกล่าวให้กำลังใจ
“ไม่ว่ากรณีใด นี่คือความยิ่งใหญ่และพัฒนาไปอีกขั้นสำหรับอารยธรรมในโลกแห่งเซียนทั้งหมด”
“ขอรับ”
อวี้เหริ่นหานดีใจยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดนั้น
ด้วยโรงหลอมใหม่นี้ เหล่าเซียนจึงได้เริ่มทำงานกันอย่างเป็นทางการ พวกเขาเริ่มการหลอมหุ่นกลจักรพรรดิ มหาเทพหุ่นกลดึง ‘ปฐมวิญญาณ’ ออกมาจากห้วงแห่งจิตสำนึก จากนั้นช่างฝีมือเซียน ช่างฝีมือภูตผี วิถีสวรรค์ และคนอื่น ๆ ก็เริ่มสร้าง “คฤหาสน์สีม่วงประดิษฐ์ ซึ่งมันจะเป็นสถานที่อยู่อาศัยของวิถีกำเนิด
หลังจากหลายปีผ่านพ้น พวกเขาพบเจอเรื่องลำบากและความพ่ายแพ้มากมาย ในที่สุดคฤหาสน์สีม่วงประดิษฐ์ก็สำเร็จ หลังจากหยุดทำงานชั่วคราวไป๋ชิวหรานมอบความคิดของเขาเกี่ยวกับหุ่นกลจักรพรรดิอีกครั้ง ช่างฝีมือที่ยอดเยี่ยมภายในโลกใบนี้ร่วมกันคิดค้นกระบวนการทุกสิ่งเพื่อให้งานบรรลุเป้าหมายโดยเร็ว
ในที่สุด หลังจากผ่านไปหลายปี การออกแบบก็สมบูรณ์เสียที!
จากการออบแบบนี้ โรงงานหลอมยังคงทำงานต่อเนื่อง และหลังจากผ่านไปไม่รู้กี่ปี เทพเจ้าร่างยักษ์ก็ปรากฏตัวขึ้นภายในสายธารแห่งความว่างเปล่า
เทพเจ้าร่างยักษ์นี้เกือบจะเทียบเท่ากับปีศาจแห่งความปรารถนาที่เติบโตจนถึงขีดสุด แต่มันแตกต่างจากร่างของอาจารย์อสูรที่พยายามพองตัว นี่คือร่างเทพเจ้ายักษ์อย่างแท้จริง แสดงถึงความสามารถในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งของมัน
อาจารย์อสูรคือสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา และจิตสำนึกของพวกมันยิ่งใหญ่ไร้สิ้นสุด อีกทั้งยังไม่ต้องมีรากฐานใดรองรับ แต่เทพเจ้าขนาดยักษ์นี้เป็นสิ่งก่อสร้างทางวัตถุที่เกิดขึ้นจากการระเบิดดาวเคราะห์ซ้ำไปซ้ำมาเพื่อนำมาเป็นพลังในการหลอมมัน และเกือบจะถือได้ว่าเป็นสุดยอดของการก่อสร้างก็ว่าได้
ใบหน้าของมันเผยความสง่างามน่าเกรงข้าม มันถูกสร้างขึ้นโดยมีเซียนเป็นต้นแบบ และมีดวงตาแห่งเทพบนหน้าผาก ซึ่งฝังอาวุธทรงพลังที่สุดภายในนั้น แต่ร่างกายยังคงคล้ายคลึงกับมนุษย์ มีสองขา สองแขน และยืนตัวตรง นอกจากนี้มันยังมีอาวุธวิเศษหลายชิ้นเพื่อให้การต่อสู้มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ระยะประชิดหรือระยะไกล มันก็สามารถเล่นได้ทุกแนว
อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่รูปร่างสีทองแวววาวของมหาเทพหุ่นกลที่ไป๋ชิวหรานร้องขอ การเคลือบหุ่นกลนี้ใช้สีเงินและดำเรียบง่าย ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะเป็นการออกแบบของช่างฝีมือภูตผี…