ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 543 ไม่ยอมเข้าร่วม
บทที่ 543 ไม่ยอมเข้าร่วม
บทที่ 543 ไม่ยอมเข้าร่วม
เขตแดนราชสำนักหุ่นกลเก่าในเวลานี้เป็นเขตแดนด้านนอกของชาวนครสรวงสวรรค์
เรือขนส่งขนาดใหญ่นับไม่ถ้วนแล่นไปมาในสายธารแห่งความว่างเปล่าตามตำแหน่งที่มหาเทพหุ่นกลองค์ก่อนทิ้งเอาไว้ พวกมันจะมุ่งหน้าสู่โลกวัตถุอันรุ่งโรจน์ของเผ่าพันธุ์ที่ถูกปกครองโดยมหาเทพหุ่นกล และย้ายอารยธรรมเหล่านั้นไปยังสถานที่ปลอดภัย
อาณาเขตที่หลงเหลือไว้ของมหาเทพหุ่นกลนั้นกว้างใหญ่ไพศาล แม้จะได้รับการช่วยเหลือนับไม่ถ้วนจากโลกแห่งเซียน แต่ความแข็งแกร่งปัจจุบันของชาวนครสรวงสวรรค์ก็ยังไม่สามารถควบคุมโลกวัตถุที่อยู่ห่างไกลออกไปได้
เมื่อมหาเทพหุ่นกลสูญสิ้นลง สำหรับโลกวัตถุที่ชาวนครสรวงสวรรค์ไม่อาจควบคุมได้ พวกเขาทำได้เพียงขับเรือออกไปที่โลกวัตถุเหล่านี้เพื่อประกาศข่าวให้ทีละโลกวัตถุ และนำโลกเหล่านั้นมาเข้าร่วมกับอารยธรรมแห่งนครสรวงสวรรค์แทน
อย่างไรก็ตาม เพราะขาดความแข็งแกร่ง โลกวัตถุที่อยู่ห่างไกลเหล่านั้นจึงไม่อาจถูกชาวนครสรวงสวรรค์ควบคุมได้ทั้งหมด บางโลกวัตถุจึงไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติ และเนื่องจากความห่างไกล ระดับการล้างสมองและควบคุมโลกวัตถุเหล่านั้นของมหาเทพหุ่นกลจึงไม่อาจดีเทียบเท่าโลกวัตถุที่อยู่ใกล้กว่า หลายร้อยปีผ่านไป โลกวัตถุเหล่านั้นก็พัฒนาเป็นการปกครองอิสระ โดยได้รับปัจจัยพื้นฐานจากร่องรอยที่ถูกมหาเทพหุ่นกลองค์ก่อนทิ้งไว้
พวกเขาบางคนเพิกเฉยต่อกฤษฎีกาที่ของระบอบนครสรวงสวรรค์ และบางกลุ่มถึงกับประกาศเอกราช พวกเขาไม่คิดสนใจกฎของนครสรวงสวรรค์แม้แต่น้อย
สำหรับโลกวัตถุเหล่านี้ แม้ว่านครสรวงสวรรค์จะต้องการจัดการกับพวกมัน แต่สิ่งเหล่านั้นกลับมีความแข็งแกร่งมากเกินพอ ดังนั้นเวลานี้ เมื่อได้ยินคำเตือนที่ถูกส่งมาจากชาวนครสรวงสวรรค์ หลายโลกวัตถุคิดว่าอารยธรรมของนครสรวงสวรรค์หลอกให้พวกเขาเข้าร่วมเพื่อจะควบคุมตน
ดังนั้นในกลุ่มชาติพันธุ์ของโลกวัตถุเหล่านี้จึงส่งกองกำลังออกมาต่อต้านเรือขนส่งที่มาจากเผ่านครสรวงสวรรค์ ทำให้เรือขนส่งเหล่านั้นถูกยิงจนพังทลาย และเจ้าหน้าที่ที่ถูกส่งมาจากนครสรวงสวรรค์ก็ถูกจับเป็นเชลยสงครามด้วยเช่นกัน
ท้ายที่สุด หงหลิงต้องขับเคลื่อนหุ่นกลจักรพรรดิออกไปในบริเวณใกล้เคียง เพื่อจัดการกับเสถียรภาพของโลกวัตถุเหล่านั้น จึงทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะโจมตีเรือขนส่งของนครสรวงสวรรค์อีก แต่ก็ยังมีอีกหลายโลกวัตถุที่ยังไม่ยอมรับฟังคำสั่งเช่นเคย
“ไม่เป็นไรหากพวกเขาไม่รับฟัง” จักรพรรดิเซียนเล่อเจิ้นเทียนกล่าวกับพวกเขาว่า “ก็ให้พวกเขาอยู่ที่นั่น และให้เพลิดเพลินกับความอิสระเหล่านั้นเสียก่อน”
“ท่านเล่อเจิ้นเทียน” หงหลิงขมวดคิ้วพร้อมกล่าวว่า “ไม่ว่าท่านจะกล่าวอย่างไรกับคนเหล่านั้น แต่พวกเขาก็ยังเป็นคนของเรา”
“แต่พวกเขาไม่คิดว่าเป็นคนของเจ้า” เล่อเจิ้นเทียนกล่าว “ข้าขอแนะนำเจ้าสักอย่าง ทำในสิ่งที่ควรทำเสีย! หากพวกเขาไม่ยอมออกจากพื้นที่ หลังจากนั้นเราก็ควรจะทำในสิ่งที่ต้องทำ! หากไม่ทำก็ปล่อยพวกเขาไป”
หงหลิงถามต่อ “ท่านขอให้ข้าละทิ้งคนของตนเอง แล้วหากท่านเล่อเจิ้นเทียนพบเจอสถานการณ์เช่นนี้ ท่านจะทำเช่นข้าหรือไม่?”
“ไม่! หากข้าพบเจอเรื่องเช่นเจ้า ข้าจะปล่อยให้เหล่าเซียนที่อยู่ภายใต้อำนาจของข้าไปลากคอผู้นำโลกวัตถุที่ไม่เชื่อฟังเหล่านั้นเข้าสู่อาณาจักรเซียนกลาง”
เล่อเจิ้นเทียนหัวเราะอย่างขบขัน
“อย่างไรก็ตาม ระบอบของนครสรวงสวรรค์ยังไร้ซึ่งความแข็งแกร่งในเวลานี้ มันสำคัญมากเพราะเป็นสิ่งที่จะตัดสินว่าพวกเขาจะเชื่อฟังเจ้าหรือไม่ เจ้าควรจะให้ความสำคัญในการปกป้องผู้คนที่แท้จริงของเผ่าพันธุ์เป็นอันดับแรก… ในการกระทำดื้อรั้นของเจ้าเวลานี้ นอกจากจะสูญเสียคนของตนเองไปแล้วยังไม่อาจควบคุมโลกวัตถุใบอื่นได้อีกด้วย”
ในขณะที่พูดคุยกับเล่อเจิ้นเทียน หงหลิงก็ประชุมกันในความคิดอย่างต่อเนื่อง หลังจากผ่านพ้นการสนทนาที่ยาวนาน ทั้งหมดถึงก็กับถอนหายใจ
“ความจริงนั้นโหดร้าย แม้ข้าจะไม่อยากยอมรับ แต่สิ่งที่ท่านกล่าวนั้นคือวิธีที่ดีที่สุดในเวลานี้ เช่นนั้นนครสรวงสวรรค์จะพยายามให้เต็มกำลัง”
หลังจากการสื่อสารจบลง หงหลิงเริ่มออกคำสั่งให้เคลื่อนย้ายเรือขนส่งทั้งหมดของนครสรวงสวรรค์ออกสู่โลกวัตถุภายนอกเพื่อแจ้งข่าวและเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง
บางโลกวัตถุที่เห็นชาวนครสรวงสวรรค์มาอย่างเคร่งขรึมและจริงใจ พวกเขาเลือกที่จะอพยพตนและอารยธรรมทั้งหมดขึ้นเรือหลังจากหารือเสร็จสิ้น แต่บางเผ่าพันธุ์ก็ยังปฏิเสธคำขอและแยกตัวออกไปอยู่อย่างอิสระ
แน่นอนว่ามีสิ่งมหัศจรรย์มากมายในโลกวัตถุแห่งความว่างเปล่า และยังมีเผ่าพันธุ์ที่มีสติสัมปชัญญะของตนเองหลายโลกวัตถุปฏิเสธคำกล่าวของนครสรวงสวรรค์อย่างรุนแรง และบางเผ่าพันธุ์ถึงกับส่งกองกำลังออกมาเพื่อทำลายกลุ่มที่เข้ามาแจ้งข่าวนี้
ในที่สุดเผ่าพันธุ์ดื้อรั้นเหล่านั้นก็ยังอยู่ในโลกวัตถุใบเดิม และนครสรวงสวรรค์ไม่มีทางเลือก นอกจากนำพาเผ่าพันธุ์ที่ยินดีติดตามกลับสู่พื้นที่ส่วนกลางและตั้งถิ่นฐานในโลกวัตถุที่เหมาะสมต่อไป
จากนั้นไม่กี่เดือนผ่านพ้น ก่อนที่ทุกคนจะรู้ตัว ภัยพิบัติทางธรรมชาติสีดำก็เริ่มแผ่ขยายเผ่าพันธุ์ทางตอนใต้ของสายธารแห่งความว่างเปล่า
…
ในโลกวัตถุชายแดนของนครสรวงสวรรค์กลุ่มสาม… ณ ดินแดนของเผ่าเขาโค้ง
เผ่าเขาโค้งเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่ต่อต้านการการย้ายถิ่นฐานรุนแรงที่สุดในคราวนี้ ผู้คนในเผ่าล้วนมีผิวสีแดงทั่วร่างกาย พวกเขาถือกำเนิดมาพร้อมกับร่างกายที่แข็งแกร่ง กล้ามเนื้อกำยำ นิสัยดุดันก้าวร้าวรุนแรง ทั้งชายและหญิงต่างมีเขาหนึ่งคู่บนศีรษะซึ่งเป็นที่มาของชื่อเผ่า
ก่อนที่โลกวัตถุชายแดนของพวกเขาจะถูกยกองทัพของมหาเทพหุ่นกลโจมตี พวกเขาก็ปฏิบัติตามหลักการของผู้แข็งแกร่ง แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับคำสั่งสอนของมหาเทพหุ่นกลเพื่อที่จะหลุดพ้นจากถิ่นทุรกันดารอันแห้งแล้ง อายุขัยของเผ่าเขาโค้งนั้นยาวนาน และอาวุโสรุ่นก่อนของพวกเขาถูกสังหารโดยไป๋ชิวหราน
ในเวลานี้ นครสรวงสวรรค์ไม่สามารถควบคุมสถานที่ห่างไกลเช่นนี้ได้ ดังนั้นเพื่อความอยู่รอด ผู้เฒ่าแห่งเผ่าเขาโค้งจึงนำอาวุธที่มหาเทพหุ่นกลองค์ก่อนทิ้งเอาไว้ และใช้วิธีฝึกฝนดั้งเดิมของเผ่าเขาโค้งจัดการกับพวกเขา คนรุ่นหลังที่กำเนิดขึ้นพยายามฝึกฝนวิถีปีศาจ แต่สุดท้ายก็ตายตกไป พวกเขาจึงคัดเลือกนักรบรุ่นใหม่แห่งเผ่าเขาโค้งอีกครั้ง และเวลานี้เผ่าเขาโค้งฟื้นฟูตนเองจนสามารถก่อสร้างสงครามได้แล้ว
และคราวนี้ ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขายิ่งแข็งแกร่งขึ้น ในอดีตกลุ่มชนเผ่านี้เพียงใช้แค่ขวานหินและค้อนเท่านั้น แต่เวลานี้อาวุธที่อยู่ในมือของพวกเขาถูกแทนที่ด้วยหุ่นหุ่นกล ดาบอักขระ และปืนกลยักษ์ ความแข็งแกร่งในการต่อสู้เพิ่มมากขึ้น และพลังทำลายล้างก็เพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า
เมื่อชาวนครสรวงสวรรค์พยายามอพยพเผ่าพันธุ์อื่น เผ่าเขาโค้งก็เริ่มต่อต้านอย่างรุนแรง! พวกเขาวางกองกำลังเพื่อจัดการกับเรือขนส่งของชาวนครสรวงสวรรค์ รวมถึงจับผู้บริสุทธิ์มากมายเป็นเชลยสงครามและทุบตีทูตจากนครสรวงสวรรค์อย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะถีบหัวส่งกลับไป
ไม่กี่เดือนหลังจากนครสรวงสวรรค์หยุดเคลื่อนไหว โลกวัตถุทั้งใบของพวกมันจึงสงบสุข ทำให้ผู้คนในเผ่าเขาโค้งรู้สึกผ่อนคลาย โดยคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นการสมรู้ร่วมคิดของเผ่านครสรวงสวรรค์ที่ต้องการหลอกลวงให้พวกเขาทรยศต่อมหาเทพหุ่นกลเท่านั้น