ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 544 ความเย่อหยิ่งที่โง่เขลา
บทที่ 544 ความเย่อหยิ่งที่โง่เขลา
บทที่ 544 ความเย่อหยิ่งที่โง่เขลา
เป็นเพราะพวกเขาชื่นชอบการทำสงคราม และระดับอารยธรรมยังอยู่ในยุคของอาวุธทำมือ ชนเผ่าเขาโค้งทั่วโลกวัตถุจึงมีไม่มากนัก ดังนั้นหลังจากมหาเทพหุุ่นกลถือกำเนิดก็กวาดล้างเผ่าเขาโค้ง และรวบรวมพวกเขาให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยพลังเหนือธรรมชาติ เผ่าพันธุ์เหล่านี้ได้รับการฝึกฝนจนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาก่อนจะได้รับพลังที่จักรพรรดิเซียนซู่หัวมอบให้ก่อนจะตายตกไป
หลังจากมหาเทพหุุ่นกลสูญสิ้นไป เผ่าเขาโค้งจึงคัดเลือกผู้นำของตนเองอีกครั้ง และเริ่มเข่นฆ่าเผ่าพันธุ์อื่น ประชากรบนโลกวัตถุใบนี้จึงน้อยลง ก่อนที่พวกมันจะยึดครองโลกวัตถุให้สามารถรองรับเผ่าพันธุ์ของตนเองได้เต็มที่
เวลานี้ภายในเมืองเขาโค้ง ผู้นำอาวุโสกำลังจัดงานเลี้ยงร่วมกันกับคนใกล้ชิดของตระกูล
โถงกลไกที่แต่เดิมใช้ฟังบรรยายศาสตร์หุ่นกลถูกปล่อยทิ้งร้าง เวลานี้โต๊ะและเก้าอี้ถูกตระเตรียมไว้อย่างยิ่งใหญ่ ผนังที่เคยมีแผ่นแสงแสดงผลขนาดใหญ่แขวนอยู่ถูกยกออกมา แทนที่ด้วยเขาโค้งขนาดใหญ่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเผ่าพันธุ์
ชาวเขาโค้งคิดว่าห้องโถงมหาเทพหุุ่นกลนี้มีบรรยากาศที่ไม่ดีนัก ดังนั้นพวกมันจึงรื้อโลหะทั้งหมดของห้องโถงออก ก่อนจะปูพื้นด้วยอิฐและดิน จากนั้นสร้างเตาเผาขนาดใหญ่ขึ้นที่กำแพง
เวลานี้เตาติดไฟแล้ว เนื้อชิ้นใหญ่โรยเครื่องเทศก็ถูกหมุนเชื่องช้าอยู่บนเตา น้ำมันหยดอย่างต่อเนื่อง มันส่งเสียงฉ่าทันทีเมื่อสัมผัสกับถ่านด้านล่าง
สมาชิกในตระกูลและอาวุโสแห่งเผ่าเขาโค้งนั่งรายล้อมโต๊ะยาว เพลิดเพลินกับเนื้อแสนอร่อยและเครื่องดื่มรสเลิศ
“อ่า ผู้ส่งสารนครสรวงสวรรค์บอกกล่าวกับเราว่า ภัยพิบัติกำลังจะมาเยือน”
ผู้นำแห่งเผ่าเขาโค้งวางถ้วยในมือลง ก่อนจะเช็ดปากแล้วกล่าวกับทุกคนด้วยรอยยิ้ม
“ผ่านมาเกือบปีแล้ว ยังไม่เห็นว่าจะมีเรื่องสำคัญใดเกิดขึ้น มีแค่เมียใครสักคนคลอดลูก… นั่นแหละที่เรียกว่าสำคัญ”
ทุกคนส่งเสียงหัวเราะชอบใจ
“เท่าที่ข้าเห็น คนจากนครสรวงสวรรค์เพียงแค่ต้องการหลอกลวงให้เราเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลางเพื่อที่พวกมันจะควบคุมเราได้ พอเราออกจากที่นี่ เราก็ต้องเข้าสู่กองทัพของพวกเขาบังคับให้ปฏิบัติตามกฎแห่งนครสรวงสวรรค์ ทางนั้นใช้กฎงี่เง่าเพื่อควบคุมพวกเรา”
คนหนึ่งในเผ่าเขาโค้งที่ดูคล้ายจะฉลาดกล่าวเสียงดัง
“ฮ่าฮ่า! เป็นโชคดีแล้วที่ข้ามองเห็นแผนการของพวกมัน! ไอ้พวกงี่เง่าจากนครสรวงสวรรค์คงต้องขุ่นเคืองไม่น้อย พวกนี้ไม่เพียงแต่ไร้ความแข็งแกร่ง แต่ยังไร้ความสามารถจะควบคุมผู้อื่น อย่างไรแล้วมันเหล่านั้นไม่ใช่มหาเทพหุุ่นกล!”
ทันทีที่กล่าวคำนี้จบ ทุกคนต่างปรบมือให้กับเขา แต่ผู้นำแห่งเผ่าเขาโค้งคล้ายไม่พอใจ
ชายผู้นี้หลงตัวเองเสียจริง ทั้งที่ข้าคือผู้นำเผ่า ในวันพรุ่งนี้ข้าจะต้องหาเรื่องไปทุบตีชายผู้นี้ให้ได้!
ขณะที่กำลังคิดอยู่ในใจ แต่ใบหน้ายังคงรื่นเริง เขายกถ้วยขึ้นเพื่อกระตุ้นบรรยากาศ และรวบรวมความสนใจของทุกคนมาที่ตนอย่างใจเย็น
อย่างไรก็ตาม เวลานี้เมื่อทุกคนกำลังมีความสุข เสียงระเบิดก็ดังขึ้นจากระยะไกล! ห้องโถงนี้สั่นสะเทือนทันที!
ถ้วยที่เผ่าเขาโค้งถือเอาไว้แข็งค้างอยู่ในอากาศ พวกเขาสบตากันในเสี้ยวลมหายใจ จากนั้น ผู้นำเผ่ากระแทกถ้วยลงบนโต๊ะพร้อมออกไปอย่างเร่งรีบ!
“เกิดอะไรขึ้น?”
ผู้นำเผ่าเขาโค้งพุ่งเข้าหาผู้คุ้มกันที่กำลังลาดตระเวนในเวลากลางคืน
“เคารพท่านผู้นำ”
ทหารคุ้มกันกล่าวทักทายด้วยมารยาทของชนเผ่าเขาโค้ง ก่อนจะชี้ไปยังประตูที่อยู่ไกลออกไป
“ดูเหมือนจะมีอุกกาบาตทางบริเวณนั้นขอรับ”
“อุกกาบาต?”
ผู้นำแห่งเผ่าเขาโค้งมองตามทิศทาง มีภูเขาอยู่ทางนั้น และมันเป็นสถานที่ล่าสัตว์ บนภูเขามีสัตว์มากมาย เป็นแหล่งเนื้อชั้นเลิศสำหรับพวกเขา อีกทั้งยังมีสัตว์ร้ายอยู่ที่หน้าผาของเทือกเขา มันดุร้ายทั้งยังได้รับตำแหน่งคู่ต่อสู้ที่ดีที่สุดแห่งชนเผ่าเขาโค้ง
ฝนอุกกาบาตเป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติในสายตาของชนเผ่าเขาโค้ง ในสมัยโบราณ อุตกาบาตจะหล่นจากท้องฟ้าบ้างไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่มีอุตกาบาตร่วงหล่นเป็นเวลานานแล้ว
“เป็นไปได้หรือไม่ว่าวัตถุเวทตรวจจับบนท้องฟ้าของมหาเทพหุุ่นกลนั้นเก่าเกินไป?”
พวกพ้องด้านหลังกล่าวกระซิบ
“พวกเจ้าดูแคลนอุปกรณ์แห่งมหาเทพหุุ่นกลมากเกินไปแล้ว!”
ผู้นำเผ่าเขาโค้งสาปแช่งด้วยความโกรธ
“มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน มิใช่กล่าวคำโง่เขลาตลอดเวลา!”
เขานึกถึงคำเตือนจากชาวนครสรวงสวรรค์ก่อนจะรู้สึกกังวลใจ
“ไป นำกองกำลังติดตามข้า เราจะไปตรวจสอบสถานการณ์ที่นั่น”
“ทราบแล้ว”
…
หนึ่งชั่วยามถัดมา วัตถุเคลื่อนย้ายของชนเผ่าเขาโค้งหยุดลงที่เนินเขา นักรบแห่งเผ่าเขาโค้งกลุ่มหนึ่งสวมชุดเกราะและถืออาวุธครบมือ พวกเขาทั้งหมดถูกนำโดยผู้นำแห่งชนเผ่าเขาโค้ง
“ส่วนเจ้ารออยู่ที่นี่”
ผู้นำแห่งเผ่าเขาโค้งออกคำสั่งแก่พลขับวัตถุเคลื่อนย้าย จากนั้นกระชับขวานต่อสู้ในมือพร้อมปลดปล่อยพลังแห่งยันต์เข้าสู่ใบมีด แล้วคำรามเสียงดัง
“คนที่เหลือตามข้ามา! เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วเข้าสู่ภูเขาด้านใน!”
เผ่าเขาโค้งวิ่งขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็วและคล่องแคล่ว
แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจในเวลานี้คือ เสียงร้องของสัตว์ต่าง ๆ ที่มักจะได้ยินอยู่เสมอกลับเงียบหาย และไม่มีสัตว์โผล่ออกมาแม้สักตัว หรือกระทั่งสัตว์ร้ายที่มักจะโผล่ขึ้นจากดินเพื่อโจมตีก็ไร้วี่แวว
ยอดเขาสูงตระง่านแต่เดิมถูกบางสิ่งกระแทกจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ ก่อเกิดควันสีเขียวจาง ๆ พวยพุ่งออกมา
ผู้นำพากองกำลังเคลื่อนไปตามทางลาดของกำแพงและเข้าสู่หลุมลึกเก้าฉื่อ พวกเขาปิดปากพร้อมบีบจมูกไว้แน่น เมื่อสิ่งนั้นปรากฏต่อสายตา…
“นั่นมัน…”
นักรบแห่งเผ่าเขาโค้งกล่าวคำอย่างระมัดระวัง
“ไข่?”
บนพื้นดินมีวัตถุทรงรีสูงสามฉื่อตั้งอยู่ เป็นไข่ของสิ่งมีชีวิตบางอย่าง เปลือกไข่เป็นสีดำ มีตุ่มนูนจำนวนมากบนเปลือก และดูเหมือนมีเส้นสีน้ำเงินเปล่งประกายรายล้อม อีกทั้งยังมีการกะพริบส่งสัญญาณว่ามันมีชีวิต
ผู้นำเผ่าเขาโค้งใช้ขวานรูดผ่านเปลือกไข่ ใบมีดขวานคมปลาบเสียดสีกับเปลือกไข่จนเกิดการเสียดทานรุนแรง ประกายไฟสว่างวาบขึ้น
ผู้นำดึงขวานกลับมาและสำรวจโดยรอบว่าทุกสิ่งยังคงเดิม ไร้ซึ่งอันตรายใด
“ข้าไม่ทราบว่ามันคือสิ่งใด”
ผู้นำของเผ่าครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะออกคำสั่ง
“เจ้าสองคนมานี่ ยกสิ่งนี้กลับไปที่เมืองแล้วค่อยให้อาวุโส…”
ขณะที่กำลังกล่าว นักรบแห่งเผ่าเขาโค้งพลันกรีดร้องออกมาในทันที
“ท่านผู้นำ!”
เขาชี้ไปที่ไข่ยักษ์ตรงหน้าพร้อมตะโกนว่า
“มันกำลังขยับ!”