ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 570 ฝ่าบาท โปรดกินศพนี้เถิด!
บทที่ 570 ฝ่าบาท โปรดกินศพนี้เถิด!
บทที่ 570 ฝ่าบาท โปรดกินศพนี้เถิด!
นางพญาแมลงตัวใหม่นี้ยังตัวเล็กกว่าแมลงที่ถังรั่วเวยควบคุม และมีลักษณะบนร่างกายที่ดูน้อยกว่ามาก ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่ได้ผ่านการวิวัฒนาการ
มันเข้ามาใกล้กับนางพญาแมลงที่ถังรั่วเวยควบคุม แมลงทั้งสองตัวบินอยู่ในความว่างเปล่าตรงข้ามกัน จากนั้นนางพญาแมลงก็สั่นสะเทือนอวัยวะพิเศษ เพื่อส่งคลื่นพลังไร้ลักษณ์ที่อยู่ด้านหลังปีกที่น่าอัศจรรย์ออกมา
ความผันผวนนี้เบาบางจนคนทั่วไปไม่อาจสัมผัสได้ แต่สัมผัสแมลงที่ควบคุมโดยถังรั่วเวยนั้นชัดเจน และคลื่นพลังไร้ลักษณ์ที่ปลดปล่อยออกมาทำให้นางรับรู้ได้ว่านางพญาแมลงของตนกำลังโกรธจัด
หลังจากคลื่นพลังไร้ลักษณ์แผ่ขยายออกไป แมลงโดยรอบก็เริ่มกระสับกระส่าย
“นี่ ขอข้าดูตำราสักหน่อย”
ร่างกายของถังรั่วเวยก้มลงหยิบตำราเล่มหนาออกจากความว่างเปล่า นางพลิกมันไปมาแล้วเงยหน้าขึ้นกล่าวต่อ
“นี่คือการยั่วยุเพื่อสร้างสงคราม ข้าควรตอบอย่างไร… ‘ก็มาสิ!’ รึ?”
ความคิดของนางพญาแมลงอ่อนแอมาก แม้ว่าพวกเขาจะใช้จิตเพื่อควบคุมร่างกายของมัน แต่ความสามารถในความคิดอันทรงพลังของนางพญาแมลงยังอ่อนแอ อีกทั้งถังรั่วเวยยังไม่ค่อยเข้าใจภาษาของแมลงเหล่านี้นัก
อย่างไรก็ตาม วิธีการสื่อสารของแมลงเหล่านี้ซับซ้อนมาก ยิ่งสำหรับต่างเผ่าพันธุ์ แม้แต่การสั่นสะเทือนเพียงชั่วครู่ยังสามารถสื่อได้ถึงสองความหมาย และมันแตกต่างกันโดยสมบูรณ์
แม้ถังรั่วเวยจะมีตำราบันทึกภาษาดั้งเดิมส่วนใหญ่ของแมลงเอาไว้ แต่นางก็ไม่สามารถเรียนรู้มันได้ในเวลาอันสั้น จึงไม่อาจทำให้นางควบคุมนางพญาแมลงได้โดยสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตาม มหาเทพหุ่นกลก็คำนึงถึงสถานการณ์เช่นนี้ด้วย มันจึงใช้ภาษาแมลงทั้งหมดที่โลกแห่งเซียนทราบบันทึกไว้ภายในวัตถุเวทที่ผลิตขึ้นเรียบร้อยแล้ว
ถังรั่วเวยทำตามคู่มือการใช้งาน ก่อนจะเริ่มจัดการกับร่างนางพญาแมลง เหยียดแขนขาก่อนจะแตะปุ่มบนหลังอย่างแม่นยำ
วัตถุเวทปลดปล่อยพลังงานออกไป จากนั้นค่อย ๆ ปล่อยคลื่นพลังไร้ลักษณ์ใหม่ที่แม่นยำกว่าเดิมเพื่อตอบสนองต่อนางพญาแมลงฝ่ายตรงข้าม
เมื่อเห็นวิธีการโต้ตอบที่ไร้มารยาทเช่นนี้ นางพญาอีกฝ่ายถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ มันคล้ายกับสงสัยและเริ่มสับสน แต่แมลงตัวอื่น ๆ ที่ได้รับทราบถึงคลื่นพลังไร้ลักษณ์นี้กลับตื่นเต้นยินดี
การประลองระหว่างนางพญาแมลง นี่คือข้อบังคับที่สลักไว้ในสัญชาตญาณของแมลงทั้งหมด แม้แต่นางพญาก็ไม่อาจฝ่าฝืนได้ นางพญาแมลงจะต้องถูกท้าทายโดยนางพญาแมลงของกลุ่มอื่น ๆ และไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตอบรับอย่างกล้าหาญ มิฉะนั้นแมลงทั้งหมดจะรุมกัดกินมัน!
นางพญาแมลงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบสนองการยั่วยุของถังรั่วเวยในทันที จากนั้นแมลงที่อยู่รอบข้างพลันพุ่งเข้ามาล้อมรอบทั้งสองจนเต็มห้วงแห่งความว่างเปล่าในบริเวณใกล้เคียง พวกมันใช้ร่างกายของตนกำหนดขอบเขตพื้นที่การประลอง
นางพญาทั้งสองเริ่มเผชิญหน้ากันและเคลื่อนไหวเชื่องช้า นางพญาจดจ้องหน้าและมีสมาธิอยู่กับการต่อสู้ กล้ามเนื้อของมันเกร็งขึ้นจนถังรั่วเวยสัมผัสได้ถึงพลังงานในร่างกายที่กำลังเพิ่มพูนต่อเนื่อง อักขระยันต์บนร่างกายสว่างวาบ และอวัยวะภายในกำลังดูดซับพลังงานผันผวนในอากาศอย่างต่อเนื่อง
ถังรั่วเวยเห็นว่าอีกฝ่ายคล้ายกับประหม่า ดังนั้นนางจึงจัดการกับร่างนางพญาแมลงด้วยแสร้งทำเป็นสับสนและบินเป็นวงกลม
หลังจากแมลงทั้งสองเผชิญหน้ากันชั่วขณะ นางพญาที่ถือกำเนิดขึ้นใหม่ไม่อาจหยุดยั้งมือได้… มันเริ่มเปิดฉากโจมตีก่อน!
นางพญาแมลงกางปีกออกอย่างไร้สุ้มเสียงใด ใต้ปีกมีโพรงนับไม่ถ้วนเปิดเผยสู่สายตา ….รัศมีของพลังงานล้นทะลัก มีเดือยเป็นแถวล้อมรอบด้วยพลังงานหลากสีสัน และพุ่งทะยานเข้าหาร่างของถังรั่วเวยอย่างรวดเร็ว!
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังมากล้นนี้ ถังรั่วเวยคิดครู่หนึ่งก่อนจะย่อตัวลงแล้วใช้เกราะโลหะปิดกั้นการโจมตีคราวนี้
เกิดเสียงดัง เคร๊ง เคร๊ง เคร๊ง และอักขระยันต์บนชุดเกราะดูดซับพลังงานของร่างกายนางพญา แมลงสร้างชั้นปราการที่ไม่อาจทำลายได้บนร่างกายอย่างรวดเร็ว มันปิดกั้นการโจมตีของนางพญาตัวใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม จากนั้นถังรั่วเวยก็คิดต่อไป ชุดเกราะโลหะของนางพญาติดตั้งป้อมปืนไว้มากมาย ปากยุทธภัณฑ์เหล่านั้นหันเล็งไปยังนางพญาฝ่ายตรงข้าม
ปัง ปัง…
เสียงปืนใหญ่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระสุนนับไม่ถ้วนก่อตัวเป็นห่ากระสุนพุ่งทะยานเข้าหานางพญาฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ในระยะการยิง ป้อมยุทธภัณฑ์เหล่านี้ถูกติดตั้งโดยมหาเทพหุ่นกล แท้จริงแล้วมันคือยุทธภัณฑ์ของหุ่นกลซึ่งอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยม ทั้งกระสุน และพลังอำนาจ ทั้งหมดทรงพลังยิ่งกว่าพลังของนางพญาแมลงตัวใหม่หลายเท่า!
และที่สำคัญ ป้อมยุทธภัณฑ์นี้มีแหล่งพลังงานขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่ ดังนั้นจึงไม่ต้องให้ถังรั่วเวยอัดพลังเข้าไปในกระสุน พวกมันสามารถยิงได้ต่อเนื่องจนกว่าพลังงานภายในจะหมด
ถังรั่วเวยมุ่งเป้าไปที่ตำแหน่งของนางพญาแมลง และปลดปล่อยพลังการยิงสูงสุดต่อเนื่องกว่าหนึ่งถ้วยชา จนกระทั่งพลังงานของปฐมวิญญาณประดิษฐ์ขนาดเล็กในป้อมปืนหมดลง มันจึงเข้าสู่ช่วงเกินขีดจำกัด
การที่นางใช้ปฐมวิญญาณประดิษฐ์เช่นนี้ทำให้ไป๋ชิวหรานรู้สึกเป็นทุกข์นัก ในรอยแตกของมิติที่ทั้งสองหลบซ่อนตัว ไป๋ชิวหรานอดไม่ได้ที่จะเคาะศีรษะลูกศิษย์ผู้นี้สักที
“ใช้ของให้เป็นประโยชน์หน่อย! หากเจ้าใช้ปฐมวิญญาณประดิษฐ์เช่นนี้ มันจะไม่อาจใช้โจมตีต่อไปได้! อย่าได้เสียของ!”
“ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อรักษาของนี่?”
ถังรั่วเวยบ่นพึมพำ
“ดูท่าทางขี้เหนียวของท่านเสียสิ! หึ! คนตระหนี่เช่นนี้ คงจะนอนกอดปฐมวิญญาณประดิษฐ์ไปจนตาย!”
ไป๋ชิวหรานจ้องมองนางอย่างดุเดือด หญิงสาวหดคอลงอย่างตื่นตระหนกพร้อมยกมือขึ้นปัดป้อง
“เอาล่ะ เรารีบจัดการสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดีกว่า”
ไป๋ชิวหรานกล่าวอย่างขุ่นเคือง
“อย่าลืมว่าข้ามีแผนสำหรับอนาคต”
“ข้าทราบแล้ว ทราบดี”
ถังรั่วเวยโบกมืออย่างหงุดหงิด จากนั้นหันกลับไปจัดการกับร่างนางพญาแมลงอย่างระมัดระวัง
บนชุดเกราะของนางพญาแมลง ปากยุทธภัณฑ์ยังคงปลดปล่อยควันสีเขียว ถังรั่วเวยควบคุมมันให้ยกขาหน้าทั้งสองขึ้น ปลายขาคือใบมีดคมปลาบที่ปลดปล่อยพลังงานรุนแรง
มันเหวี่ยงใบมีดตัดผ่านควันสีเขียวจนกระจัดกระจาย ศพของนางพญาแมลงนอนอยู่ในอากาศ แทบจะไร้ซึ่งร่างกายแล้ว ทั้งหมดถูกควันสีเขียวกัดกินจนแทบจะแห้งกรัง
ชัยชนะถูกตัดสินแล้ว แมลงที่อยู่โดยรอบคืบคลานเข้ามาพร้อมกับคุกเข่าลงบนพื้นเมื่อเผชิญหน้ากับนางหญาแมลงของถังรั่วเวย ทั้งองครักษ์และแมลงระดับสูงทั้งหมดต่างส่งคลื่นพลังไร้ลักษณ์ที่บ่งบอกว่ายอมศิโรราบต่อนาง
จากนั้นพวกมันก็ส่งคลื่นพลังไร้ลักษณ์อีกระลอกออกมา
ตามแนวปฏิบัติของแมลง ชะตากรรมของผู้แพ้จะต้องถูกกลืนกินโดยผู้ชนะ และจะได้รับการวิวัฒนาการไปสู่ขั้นที่สูงขึ้น ในสนามรบของแมลงห้วงแห่งความว่างเปล่าจะไม่มีวันปล่อยให้ซากศพอันมีคุณค่านี้สูญเปล่าโดยไร้ประโยชน์
ดังนั้นคลื่นพลังไร้ลักษณ์ที่ถูกส่งมาจากเหล่าแมลงพวกนั้น หากแปลให้ดีแล้วความหมายของมันคือ…
“ฝ่าบาท… โปรดกินศพนี้เถิด”