ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 575 ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
บทที่ 575 ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
บทที่ 575 ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
แน่นอนว่ามันหมายถึงหุ่นกลเซียนยักษ์ที่ไป๋ชิวหรานควบคุม และกลิ่นอายนั้นเป็นของไป๋ชิวหรานที่ปลดปล่อยออกมา
“กลิ่นอายเช่นนี้ ไม่ผิดแน่”
ยักษาสีครามยินดีและกล่าวคำ
“แม้ข้าจะไม่ทราบว่าเหตุใดเจ้าจึงไม่ได้ถือกำเนิดในมหาสมุทรแห่งความว่างเปล่านี้ แต่ไม่มีผู้ใดเหมือนเจ้าในเผ่าพันธุ์ของเรา ผู้ที่มีกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์นี้ย่อมเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับเราแน่นอน เอาล่ะ พี่น้องเอ๋ย เจ้าเกิดที่ใด? เป็นใคร? ใครคือผู้นำของเจ้า?”
เมื่อเห็นยักษาสีครามก้าวเข้าหาอย่างตื่นเต้น หุ่นกลถอยหลังเล็กน้อยก่อนจะผลักมันออกไปแล้วถามกลับ
“เจ้าดีใจอะไรนัก? แค่เผ่าพันธุ์เดียวกันมันสำคัญมากนักหรือ?”
“แน่นอนว่ามันสำคัญมาก”
ยักษาสีครามตัวนั้นกล่าวอย่างตื่นเต้น
“นานมากแล้วที่ไม่ได้พบเจอกับเผ่าพันธุ์เดียวกัน การปรากฏตัวของเจ้าย่อมทำให้ผู้เฒ่าของเรามีความสุขแน่นอน!”
มันเริ่มอธิบายให้ไป๋ชิวหรานที่กำลังควบคุมหุ่นกลเซียนเนรมิตรับฟัง หลังจากรับฟังเสร็จสิ้น ไป๋ชิวหรานจึงตระหนักได้ว่าเผ่าพันธุ์นี้มีสิบสามตัวในเผ่าพันธุ์ รวมถึงผู้เฒ่าของมันด้วย
แต่อย่างไรก็นับว่าเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวมาก ตามที่ยักษาสีครามกล่าว มันอยู่ในจุดที่ต่ำสุดของเผ่าพันธุ์ ซึ่งหมายความว่าตัวอื่น ๆ ในเผ่าล้วนแข็งแกร่งกว่าทั้งสิ้น
“เพราะข้าอายุน้อยที่สุด และถือกำเนิดขึ้นหลังจากพบเจอหายนะ”
ยักษาสีครามตัวนั้นกล่าว
“อ่า… ความจริงแล้ว แม้เผ่าพันธุ์ของเราจะมีจำนวนไม่มากนัก แต่ก็ไม่ควรจะมาถึงจุดนี้ได้ ทั้งหมดเกิดจากราชาจอมละโมบทั้งสิ้น”
“ราชาจอมละโมบ?”
“ไม่รู้สิ เขาคือผู้เฒ่าคนก่อนหน้า และเวลานี้ผู้เฒ่าคนปัจจุบันคือน้องชายของเขา”
ดูเหมือนยักษาสีครามจะเลิกสนใจแมลงไปแล้ว มันกำลังเล่าเรื่องราวให้ไป๋ชิวหรานฟัง
“เจ้าคงไม่ทราบ แม้ว่าในความว่างเปล่านี้จะกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุด และสามารถเลี้ยงดูสิ่งมีชีวิตเช่นพวกเราได้ แต่อย่างไรต้นกำเนิดของมันก็อยู่ที่ต้นสายของสายธารแห่งความว่างเปล่า มีสายธารแห่งความว่างเปล่าสองสายไหลลงสู่มหาสมุทรแห่งนี้ ซึ่งเป็นจุดบรรจบของสายธาร มันคือแหล่งกำเนิดและสิ้นสุดของพลังงานทั้งหมดในห้วงความว่างเปล่า”
“เข้าใจแล้ว”
ไป๋ชิวหรานอุทาน
“ข้าเกิดมาโดยไม่ทราบต้นกำเนิด และเดินไปตามสายธารสายนี้จนมาถึงสถานที่แห่งนี้ ข้าไม่ทราบจริง ๆ ว่าสายธารนี้ถูกเรียกขานอย่างไร”
“อาจจะผิดหากกล่าวว่ามันคือต้นกำเนิด มันคือสิ่งที่มีอยู่แล้ว ซึ่งพลังงานไร้สิ้นสุดถูกสร้างขึ้น และเราก็ไม่เคยทราบว่าพลังงานเหล่านี้มาจากที่ใด”
ยักษาสีครามกล่าวต่อ
“ตลอดประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์ นับตั้งแต่ถือกำเนิด พวกเราท่องไปในมหาสมุทรแห่งความว่างเปล่าและหากินกับโลกวัตถุรอบด้าน เจ้าน่าจะเห็นว่ามีสิ่งที่เต็มไปด้วยสติปัญญาภายในโลกวัตถุใบนั้น แต่เพราะพวกเรามากด้วยอำนาจ สิ่งมีชีวิตบนโลกวัตถุเหล่านั้นจึงมีเครื่องสังเวยให้กับพวกเรา และบูชาให้เราเป็นเทพเจ้าประจำโลกวัตถุของพวกเขา”
“แต่กลับไม่เลี้ยงดูพวกเขาเอาไว้?”
ไป๋ชิวหรานกล่าวถาม
“เจ้าเต็มใจที่จะละทิ้งสิ่งมีชีวิตน้อย ๆ ที่บูชาตนงั้นหรือ?”
“ผู้มองเห็นความเมตตาย่อมมีเมตตา ผู้มองเห็นปัญญาย่อมมีปัญญา”
ยักษาสีครามหัวเราะ
“ไม่ว่าจะเป็นโลกวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตเล็กน้อยที่อาศัยอยู่ภายในนั้น ล้วนแต่เป็นอาหารสำหรับพวกเราทั้งสิ้น สิ่งเหล่านั้นเปรียบกับน้ำจิ้มของอาหารที่พวกเขารับประทาน เจ้าจะร้องขอความเมตตาให้กับน้ำจิ้มเหล่านั้นและปล่อยไปงั้นหรือ? ไม่เป็นไรหรอก แต่บางคนในเผ่าพันธุ์ของเราชื่นชอบที่จะกินอาหารเหล่านั้น และมันก็ไม่ใช่นิสัยที่ดี”
ไป๋ชิวหรานเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวถามต่อ
“อ่า… เจ้ายังไม่เล่าเรื่องของราชาจอมละโมบเลย”
“อ้อ! จริงด้วย!”
ยักษาสีครามครุ่นคิดก่อนจะกล่าวคำอย่างละอายใจ
“ข้าลืมเสียสนิท! เอาล่ะ นับตั้งแต่วิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์ เราก็ไม่ถูกคุกคามจากห้วงแห่งความว่างเปล่า ทุกสิ่งในความว่างเปล่าแห่งนี้จึงกลายเป็นอาหารและของเล่นของพวกเรา ดังนั้นชีวิตของเราจึงนับว่าสะดวกสบายนัก อายุขัยยาวนานไร้ขีดจำกัด พวกเราจึงไม่ขยันที่จะสืบพันธุ์ และเวลานั้นเรามีกันอยู่ประมาณหนึ่งร้อยตัว แต่วันหนึ่งราชาจอมละโมบก็ปรากฏตัวขึ้น”
“นับตั้งแต่เกิด มันถือว่าตนเป็นอัจฉริยะ เติบโตอย่างรวดเร็วก้าวหน้าทุกคนในรุ่นเดียวกัน และวันที่มันเติบโตเต็มที่ ไม่มีอาวุโสคนใดเปรียบเทียบกับมันได้ ต่อมามันจึงกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์และตั้งตนเองเป็นราชา”
“แต่ความทะเยอทะยานของมันไร้สิ้นสุดพอ ๆ กับพรสวรรค์ที่มันมี มันคิดว่าการที่เราพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ในเวลานี้ไร้ค่า จากนั้นมันจึงเริ่มออกเดินทางทั่วความว่างเปล่าและสร้างอำนาจให้กับเผ่าพันธุ์ของพวกเรา”
“คราวแรก ทุกคนคิดว่าสิ่งที่มันกล่าวออกล้วนไร้สาระ ท้ายที่สุดเราจะไปแสดงอำนาจต่ออาหารของตนเพื่ออะไร? แต่มันนำพาพวกเรามาสู่สายธารแห่งความว่างเปล่า และค้นพบอารยธรรมมากมายที่สามารถคุกคามเราได้… ราชาจอมละโมบจึงนำเราบุกเข้าทำลายพวกเขา ทุกสิ่งอยู่ในการตัดสินใจของมันหมดสิ้น และชื่อเสียงของเผ่าพันธุ์จึงโด่งดังในแถบนี้ และในวันนี้มันค้นพบแหล่งกำเนิดของห้วงแห่งความว่างเปล่าแล้ว”
“เมื่อเผชิญหน้ากับสายธารแห่งความว่างเปล่าที่มากด้วยพลังงานไร้สิ้นสุด ความทะเยอทะยานของมันกลับสั่นคลอน ราชาจอมละโมบใช้พลังของเผ่าพันธุ์เพื่อกลืนกินสถานที่แห่งนี้ มันต้องการจะครอบครองทุกสิ่งตลอดกาล”
“อย่างไรก็ตาม… ในที่สุดสายธารแห่งความว่างเปล่าก็สั่งสอนบทเรียนแก่พวกเรา พลังงานไร้สิ้นสุดพรากเอาชีวิตคนในเผ่าไปจนหมดสิ้น และราชาจอมละโมบก็ยังบาดเจ็บสาหัสจากความพยายามคราวนั้น ไม่นานเขาก็หายตัวไปในต้นน้ำของสายธารแห่งความว่างเปล่า เราทุกคนคิดว่าเขาตายตกไปแล้ว คนอื่น ๆ จึงกลับไปที่สายธารแห่งความว่างเปล่าและอยู่อาศัยกันตามเดิม ส่วนราชาของกลุ่มในปัจจุบันก็เป็นน้องชายของจอมละโมบผู้นั้น อย่างไรแล้ว… เจ้ามาจากสายธารแห่งความว่างเปล่า? บิดามารดาของเจ้าคือจอมละโมบหรือไม่?”
ยักษาสีครามกล่าวถามไป๋ชิวหราน
“ข้าก็ไม่ทราบได้ นับตั้งแต่ข้าเกิดมา ข้าก็อาศัยอยู่ที่ต้นน้ำแห่งนั้น และเดินทางตามริมน้ำมาเรื่อยเปื่อย ข้าไม่เคยพบเจอเผ่าพันธุ์เดียวกันเลยในตลอดเส้นทาง”
ไป๋ชิวหรานควบคุมหุ่นกลเซียนเนรมิตก่อนจะตอบกลับ
“เช่นนั้น ดูเหมือนว่าบิดามารดาคงจะตายตกไปแล้วเพราะอ่อนล้าหลังจากตั้งท้องเจ้า แม้ว่าจะไม่ใช่จอมละโมบ แต่ก็คงเป็นสมาชิกของเผ่าที่เหลือรอดจากหายนะคราวนั้น”
ยักษาสีครามเหลือบมองแมลงที่ซ่อนตัวอยู่ในฝ่ามือของหุ่นกลเซียนเนรมิต จากนั้นจึงผลักฝ่ามือของไป๋ชิวหรานออก
“ดูจากที่เจ้าตัวเตี้ยแล้ว คงเป็นเพราะโลกวัตถุที่อยู่ในต้นน้ำคงจะขาดแคลนอาหาร ร่างกายของเจ้าจึงแคระแกร็นเช่นนี้ เจ้าคงจะเหน็ดเหนื่อยมามาก เอาล่ะ ข้าไม่ต้องการโลกวัตถุใบนี้แล้ว เจ้าสามารถกินมันได้ กินให้มากจะได้โตเร็ว ๆ ในโลกวัตถุใบนั้นมีแมลงมากมายที่เป็นน้ำจิ้มปรุงรสชั้นดี ลองชิมดูสิ!”
ยักษาสีครามตัวนี้กระตือรือร้นในการต้อนรับมาก ดังนั้นไป๋ชิวหรานจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากควบคุมให้หุ่นกลเซียนเนรมิตอ้าปากออกพร้อมกลืนโลกวัตถุในคำเดียว
“อร่อยหรือไม่?”
เมื่อเห็นว่าไป๋ชิวหรานกลืนกินโลกวัตถุใบนั้นแล้ว ยักษาสีครามจึงกล่าวถามอย่างคาดหวัง
“อืม… ลื่น ๆ แต่ก็มันดี”
ไป๋ชิวหรานพยักหน้ารับ แต่ความจริงเขาช่วยเหลือโลกวัตถุใบนั้นเอาไว้ มันเข้าสู่ท้องของหุ่นกลเซียนยักษ์ และในเวลานี้เขาส่งถังรั่วเวยไปที่โลกวัตถุใบนั้น ให้นางจัดการกับแมลงยักษ์ และช่วยเหลือชาวพื้นเมืองทั้งหมดเอาไว้
“คราวหน้าข้าจะพาไปกินของอร่อยอีก!”
ยักษาสีครามตบไหล่ของไป๋ชิวหราน
“ตอนนี้มากับข้าก่อน เราต้องไปพบผู้เฒ่าของเผ่าพันธุ์ แม้ว่าพวกเราจะเป็นอิสระ แต่เราก็ต้องการให้ทุกคนทราบว่ามีสหายร่วมเผ่าพันธุ์อยู่ตรงนี้”