ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 586 ยี่สิบรอบ
บทที่ 586 ยี่สิบรอบ?
บทที่ 586 ยี่สิบรอบ?
ณ ต้นน้ำของแม่น้ำแห่งความว่างเปล่า ภายในแดนเซียนกลาง
เล่อเจิ้นเทียนวางจดหมายในมือ พร้อมสีหน้าอันเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
“ชิงซ่ง”
เขามองเจ้าหน้าที่เซียนด้านหลังก่อนจะกล่าวถาม
“ตอนนี้ท่านอาจารย์อยู่ที่ใด?”
“บรรพชนกระบี่… อ่า ไม่ใช่สิ เวลานี้จักรพรรดิภูตผีกลับสู่ยมโลกเพื่อดูแลและจัดการกับวิญญาณของยักษา”
เจ้าหน้าที่เซียนชิงซ่งกล่าวตอบ
“แล้วตัวอย่างที่ท่านอาจารย์ส่งมาล่ะ?”
“ข้าส่งพวกมันไปที่ห้องทดลองหมดสิ้นแล้ว อีกไม่ช้าคงจะทราบผลลัพธ์”
“อืม ดีมาก”
เล่อเจิ้นเทียนเงยหน้ามองท้องฟ้า เขาครุ่นคิดบางอย่างก่อนจะออกคำสั่ง
“เอาปากกาหมึกมาให้ข้า ข้าต้องการเขียนจดหมายถึงใครบางคน”
…
ภายในยมโลก ไป๋ชิวหรานอยู่ในชุดคลุมจักรพรรดิภูตผี เฝ้ามองซาหลงที่กำลังเผยสีหน้ามึนงง ขณะถูกส่งมายังสังสารวัฏหกวิถี
“ยังมีสิ่งมีชีวิตทรงพลังอีกสิบสองตัวอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำแห่งความว่างเปล่า”
ด้านข้างของถังรั่วเวย เจียงหลานเผยสีหน้าเคร่งขรึมอยู่ภายใต้ชุดจักรพรรดินี และซูเซียงเสวี่ยกับหลีจิ่นเหยากำลังเก็บเกี่ยวสิ่งที่ถูกเก็บกลับมาจากห้วงมหาสมุทรแห่งความว่างเปล่า
“เจ้าพวกนั้นกำลังเดินอยู่บนแม่น้ำแห่งความว่างเปล่า และพวกมันสามารถหยิบโลกวัตถุทั้งใบเพียงคีบนิ้ว ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกินความจริง ในหมู่พวกมัน ผู้เฒ่าแห่งเผ่าพันธุ์… ท่านอาจารย์ยังกล่าวว่าแม้แต่เขาก็ไม่ทราบว่าตนเองจะสามารถเอาชนะได้หรือไม่”
“แข็งแกร่งถึงเพียงนั้น?”
สีหน้าของหลีจิ่นเหยาเต็มไปด้วยความใคร่รู้
“นับว่าผายลม… แล้วที่เขาเคยยิงใส่ข้าถึงยี่สิบครั้ง?”
“จิ่นเหยา อย่ากล่าวคำเช่นนี้”
เจียงหลานอดไม่ได้ที่จะตำหนิ
“ชิวหรานคงจะไม่มั่นใจ แต่ข้าเชื่อว่าเขาสามารถเอาชนะผู้เฒ่าของเผ่าพันธุ์นั้นได้แน่ ผู้เฒ่าอาจจะพยายามซุกซ่อนพละกำลังที่แท้จริง แต่หากเขาไม่ได้ซุกซ่อนไว้ล่ะ? อย่างไรก็ตาม หลังจากคิดให้ดีแล้ว เราไม่มีทางจัดการกับยักษาที่เหลือทั้งหมด… เรื่องนี้ยากจะจัดการอย่างแท้จริงแล้ว”
“ข้าเชื่อว่าชิวหรานทำได้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยพบเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน อันตรายกว่านี้มากเขายังสามารถฝ่าฟันมาได้ การจะมาถึงวันนี้เส้นทางมิใช่โรยด้วยกลีบกุหลาบ”
ซูเซียงเสวี่ยกล่าวให้กำลังใจทุกคน
“ทุกคนควรจะเชื่อใจเขา”
“ข้าไม่เคยกล่าวว่าไม่เชื่อใจเขา ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องอื่นเลย สุดท้ายแล้วความหวังในชัยชนะคราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับเขาทั้งสิ้น”
เจียงหลานกล่าว
“ข้าเพียงคิดว่า… สถานการณ์เช่นนี้ กลุ่มของเราคงจะไม่ชักช้า ชิวหรานมักทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีเสมอ เขาจะโจมตียักษาเหล่านั้นทีละตัว นี่นับว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ยอดเยี่ยมแล้ว”
“ท่านอาจารย์”
ถังรั่วเวยบ่น
“แดนเซียนไม่อาจต่อกรงั้นหรือ?”
“ไม่ได้เลยหรือ?”
เจียงหลานเงียบไปชั่วขณะ
“มันสมเหตุสมผลแล้ว ตอนนี้ไป๋ลี่ยังไม่อาจฟื้นคืนขั้นการฝึกฝนของเขาได้ ซู่หัวก็ไม่ต่างกัน เจิ้นเทียนยังไม่อาจทะลวงผ่าน โม่เฉิน… อ่า โม่เฉินกำลังมีสัมพันธ์กับใครบางคน ส่วนคนอื่น ๆ นอกจากนี้ข้าคิดว่าไม่มีผู้ใดสามารถเป็นคู่ต่อสู้ตัวต่อตัวกับยักษาเหล่านั้นได้ ต่อให้ศัตรูจะมีมากหรือน้อย แต่ข้าไม่คิดว่าพวกมันจะสามารถเอาชนะชิวหรานได้”
“ยังมีความหวังอยู่ แม้ตอนนี้พวกเราไม่อาจต่อสู้ แต่เราก็ยังมีสิ่งได้เปรียบกว่าพวกมัน นั่นก็คือการเพิ่มความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว”
ไป๋ชิวหรานมาหยุดยืนด้านข้าง
“หลังจากเผชิญหน้ากับมหาสมุทรแห่งความว่างเปล่า เวลานี้ข้าสร้างขอบเขตธาราสุญตาให้กับหลานเอ๋อร์แล้ว ข้าจะส่งมันให้กับเจ้าก่อน แล้วจากนั้นค่อยส่งให้ไป๋ลี่ เจิ้นเทียน และคนอื่น ๆ เซียนทุกคนภายในแดนเซียนจะต้องเก็บตัวฝึกฝนอย่างเงียบ ๆ พยายามยกระดับความแข็งแกร่งของพวกเราให้เร็วที่สุด ทั้งหมดต้องเสร็จสิ้นก่อนที่เหล่ายักษาพวกนั้นจะบุกโจมตี”
“ผ่านมากว่าสองพันปีแล้ว ข้าคิดว่านอกเหนือจากอัจฉริยะไร้ผู้ใดเทียบ ผู้ที่จะเข้าสู่ขอบเขตธาราสุญตาได้คงมีไม่มากนัก”
หลีจิ่นเหยากล่าว
“เวลานี้ข้าอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิเซียน แต่เวลานี้ข้าต้องกระโดดจากขอบเขตจักรพรรดิเซียนสู่ขอบเขตธาราสุญตา ต่อให้ใช้เวลากว่าสองพันปี ข้าก็ไม่มั่นใจนัก”
พรสวรรค์ของหลีจิ่นเหยานับว่าเป็นอัจฉริยะ แต่ในด้านการฝึกฝน มีเพียงจักรพรรดิสือเซียนเท่านั้นที่เทียบเทียมนางได้ หากนางกล่าวว่าไม่มั่นใจ ผู้อื่นจึงยิ่งมีโอกาสน้อยลง
แม้ใครบางคนจะก้าวข้ามขีดกำจัดด้วยการใช้ความอุตสาหะอย่างยิ่งยวด ร่างอสูรและร่างเซียนได้รับการฝึกฝนเข้าสู่ขอบเขตธาราสุญตาในขั้นตอนเดียว แต่สุดท้ายแล้วพลังการต่อสู้ของผู้ฝึกตนขอบเขตธาราสุญตาก็ยังไม่ชัดเจนนักในความคิดของไป๋ชิวหราน
ผู้ฝึกตนขอบเขตธาราสุญตาอาจเอาชนะทั่วอิ้นปี่ที่อยู่ในระดับต่ำที่สุดได้ หรืออาจจะด้อยกว่ายักษาเหล่านั้นอยู่มาก
ท้ายที่สุดแล้ว… ไม่ว่าความรู้ในทางทฤษฎีจะยอดเยี่ยมเพียงใด แต่ผู้ฝึกตนที่สูงกว่าขอบเขตเซียนจะต้องใช้เวลาควบแน่นพลังปราณ ฝึกฝนร่างกาย และวางรากฐานให้มั่นคง
“ท้ายที่สุด อาวุโสชิวหรานไม่ได้อยู่ในขอบเขตเซียน เขาจะทราบได้อย่างไรว่าการฝึกฝนของเหล่าเซียนต้องทุกข์ทรมานเพียงใด”
ถังรั่วเวยกอดอก นางจับมือหลีจิ่นเหยากับซูเซียงเสวี่ยไว้แล้วกล่าวกระซิบ
“เขาทราบเพียงว่าเขาสามารถทะลวงผ่านขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นที่สามได้ด้วยการใช้เม็ดยา… อ๊า!”
หญิงสาวกรีดร้องเสียงหลง ไป๋ชิวหรานบีบลำคอของนางและยกขึ้นสูง จากนั้นค่อยเอื้อมมือไปลูบศีรษะแม่นางน้อยก่อนกล่าวคำอ่อนโยนเพื่อปลอบใจ
“อย่าได้ท้อใจเลย ข้าบอกเมื่อใดกันว่าเจ้าไม่มีเวลา ข้าจะซื้อเวลาให้เจ้า โอ้ เจิ้นเทียนส่งจดหมายถึงข้า…”
ในเวลานี้ จู่ ๆ ก็มีจดหมายจากจักรพรรดิเซียนถึงจักรพรรดิภูตผี ไป๋ชิวหรานเปิดมันอ่านก่อนจะเผาจดหมายด้วยรอยยิ้ม
“อ่า… ดูเหมือนว่าพวกเราจะเดินไปในทิศทางเดียวกัน”
“หมายความว่าอย่างไร? เจิ้นเทียนกล่าวอะไรหรือ?”
เจียงหลานกล่าวถาม
“เจ้ายังจดจำได้ก่อนจะเกิดใหม่ ว่าเจ้าใช้เวทแห่งเวลาเพื่อเปลี่ยนกระแสเวลาของโลกแห่งเซียนและโลกภายนอกหรือไม่?”
ไป๋ชิวหรานยิ้มและพูดต่อ
“ตอนนี้เจิ้นเทียนขอให้ข้าช่วยปรับเวทมนต์ชุดนั้น และนอกจากแดนเซียนแล้ว เขายังอยากให้มันเปลี่ยนกระแสเวลาของโรงหลอมสวรรค์ด้วย สถานที่สำคัญหลายแห่ง ทั้งศูนย์กลางของทวยเทพ กำแพงเวลาใหม่จะถูกสร้างขึ้นเพื่อซื้อเวลาให้กับพวกเรา ณ เวลานั้นไม่เพียงแต่จะเพิ่มผู้ฝึกตนขอบเขตธาราสุญตา แต่หุ่นจักรกลยักษ์ก็จะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตัว หากเวลานั้นมาถึง เผ่ายักษาคงไม่อาจเอาชนะพวกเรา”
“หากมีการร่ายเวทแห่งกาลเวลา ข้าจะพยายามบุกทะลวงเข้าสู่ขอบเขตธาราสุญตา…”
เจียงหลานครุ่นคิด
“อย่างไรแล้วข้าก็ไม่มั่นใจนัก พรสวรรค์ในการฝึกฝนของข้าไม่ได้ดีนัก”
ในฐานะผู้ฝึกตนคนแรกของประวัติศาสตร์ที่สามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตซากปรักหักพัง ใครเล่าจะเทียบเท่านาง?
เมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดินี เหล่าภูตผีโดยรอบเผยสีหน้าบิดเบี้ยว
แน่นอนว่าพวกเขาลอบคิดในใจไม่กล้ากล่าวคำ
“พี่หญิงหลานถ่อมตัวอีกแล้ว”
หลีจิ่นเหยายิ้ม
“ไม่ต้องกล่าวเรื่องอื่น สุดท้ายท่านคือจักรพรรดินี แม้จะเป็นการสร้างอนาคตเพื่อคนรุ่นหลัง แตข้าเชื่อว่าท่านย่อมสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตธาราสุญตาได้”
“นั่นสินะ สุดท้ายแล้วเราย่อมต้องทำงานหนักทุกคน ข้าก็มีบางสิ่งต้องการทดสอบ หากข้ามุ่งมั่นฝึกฝน ข้าจะสามารถไปถึงขั้นก่อสร้างรากฐานที่แท้จริงได้หรือไม่”
ไป๋ชิวหรานโยนถังรั่วเวยลงพื้นก่อนจะกล่าวตำหนิ
“เจ้าก็เช่นกัน ฝึกฝนให้มาก การฝึกฝนของเจ้าแข็งแกร่งได้เพียงครึ่งของฝีปาก และเจ้าไม่ต้องกังวลว่าอาจารย์ผู้นี้จะเอาชนะยักษาเหล่านั้นได้หรือไม่!”