ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 587 ต้นกำเนิดของห้วงแห่งความว่างเปล่า
บทที่ 587 ต้นกำเนิดของห้วงแห่งความว่างเปล่า
บทที่ 587 ต้นกำเนิดของห้วงแห่งความว่างเปล่า
จากแผนของเล่อเจิ้นเทียน แดนเซียนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อจัดการกับยักษาที่ได้ค้นพบ
เนื่องจากไป๋ชิวหรานถ่ายทอดวิธีการเร่งห้วงแห่งเวลา แม้จะมีคนไม่มากที่ได้รับการฝึกฝน …นอกจากจักรพรรดิสือเซียนไป๋ลี่ ก็ยังมีอีกไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จในการฝึกฝนพลังเหนือธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับเวลา
ภายใต้คำสั่งของเล่อเจิ้นเทียน ปรมาจารย์ทั้งหมดปลดปล่อยพลังเหนือธรรมชาติแห่งกาลเวลาสู่สถานที่สำคัญหลายแห่งในโลกแห่งเซียน
ทั้งหมดเปลี่ยนแปลงอัตราการไกลของเวลาเหล่านี้ และด้วยคำแนะนำจากไป๋ชิวหราน พวกเขาแทบจะเร่งอัตราการไหลของเวลากว่าหมื่นต่อหนึ่ง เมื่อเทียบกับโลกภายนอก… จึงได้ผลลัพธ์ว่า หลังจากหนึ่งปีในโลกภายนอกผ่านไป ภายในก็ล่วงเลยไปกว่าหมื่นปีแล้ว
ในโลกที่เวลาเปลี่ยนกระแสพลัง ผู้เป็นอมตะภายในโลกแห่งเซียนสามารถมีสมาธิจดจ่อกับการฝึกฝน และพยายามบุกละทวงให้เข้าสู่ขอบเขตที่สูงขึ้นก่อนที่ยักษาจะมาถึง ส่วนเตาหลอมสวรรค์สำหรับการสร้างหุ่นกลเซียนจะถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง พวกเขาจึงพยายามจะสร้างหุ่นกลตัวใหม่เพิ่ม
นอกจากโลกแห่งเซียนแล้ว ไป๋ชิวหรานกลับสู่ยมโลกและปรับอัตราการไกลของเวลาเช่นเดียวกัน ปัจจุบันเป็นเจียงหลานที่อยู่ภายในยมโลกเพียงคนเดียว แม้การดำรงอยู่ของจักรพรรดิภูตผีจะไม่ปรากฏ แต่ไป๋ชิวหรานก็ยังคิดทุกอย่างโดยรอบคอบ เขาสร้างอาวุธระดับสูงไว้ภายใต้โลกใต้ภิภพ มันคืออาจารย์จิตสำนึกสูงสุดของสิ่งมีชีวิตภายในยมโลก สิ่งนี้มีไว้เพื่อคอยดูแลสังสารวัฏแห่งการเกิดและตาย
พลังการต่อสู้ของอาจารย์อสูรตนนี้ไม่อาจเทียบเท่ายักษาได้ แต่อย่างไรแล้วมันถือกำเนิดขึ้นจากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดภายในยมโลก เช่นนั้นความแข็งแกร่งของมันก็ยังนับว่าไม่อาจประมาทได้
หลังจากปรับเปลี่ยนกระแสแห่งเวลาโดยสมบูรณ์แล้ว เล่อเจิ้นเทียนเริ่มส่งสิ่งมีชีวิตที่ต้องการฝึกฝนเพื่อยกระดับให้เข้าสู่ภายในอย่างรวดเร็ว
อาจารย์ของเขา พี่ใหญ่อาวุโส ภรรยาของอาจารย์ และอีกมากมาย ตลอดจนช่างฝีมือแห่งแดนเซียนกลางและแดนเซียนใต้ รวมถึงตัวเขาเองก็มอบมายงานต่าง ๆ ให้กับผู้รับผิดชอบ ก่อนจะเข้าสู่พระราชวังจักรพรรดิเพื่อฝึกฝน
ในช่วงเวลานี้ ผู้ที่ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนจะอาสาออกจากแดนเซียนมุ่งหน้าสู่ต้นน้ำของสายธารแห่งความว่างเปล่าภายในโลกแห่งเซียน โดยหวังว่าจะค้นพบต้นกำเนิดของความว่างเปล่าและร่องรอยของยักษาในสถานที่แห่งนั้น
…
“ก่อนที่จะออกมา ข้าได้ตกลงกับเจิ้นเทียนแล้ว”
ภายในห้วงความว่างเปล่า ไป๋ชิวหรานเคลื่อนที่ไปด้านหน้าด้วยกระบี่ของตน ในขณะเดียวกันก็มีหัวกระโหลกห้อยอยู่ที่เอวเช่นเคย
ถังรั่วเวยยืนอยู่ด้านหลังกล่าวกับเขาว่า “ที่ที่พวกเราจะไป ข้าจะวางวงแหวนเวทที่สร้างโดยหุ่นกล มันจะทำลายตนเองเพื่อพบเจอสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งกว่าขอบเขตจักรพรรดิเซียน ในเวลานั้นตราบใดที่เราเฝ้าระวัง หากสัญญาณไฟขาดหายไป เราจะทราบได้ทันทีว่าเหล่ายักษาบุกมาแล้ว”
เขายกมือขึ้นก่อนจะขว้างบางสิ่งลงไปด้านข้างของสายธารแห่งความว่างเปล่า และทันใดนั้นมีสิ่งแหลมคมแยกตัวออกจากชิ้นโลหะและยึดเหนี่ยวร่างของมันเอาไว้กับที่
อักขระแห่งยันต์สว่างวาบขึ้นเกิดระลอกคลื่นไร้ลักษณ์กระเพื่อมออก โลหะชิ้นนี้เชื่อมต่อกับราชสำนักหุ่นกลภายในแดนเซียน และเริ่มทำงานทันที
“ท่านอาจารย์ สิ่งนี้สามารถเชื่อถือได้จริงหรือ?”
ถังรั่วเวยกล่าวถามขณะสายตาจับจ้อง
“ความว่างเปล่านี้ไร้สิ้นสุด และไม่ใช่เพียงพวกเราเท่านั้นที่อาศัยอยู่ นอกจากบรรดายักษา ยังมีผู้แข็งแกร่งเหนือจักรพรรดิเซียน แล้วหากเป็นอารยธรรมขั้นสูงอื่นจากต้นน้ำแห่งความว่างเปล่าล่ะ? มันจะไม่เกิดความเข้าใจผิดงั้นหรือ?”
“มันก็เหมือนกันนั่นแหละสาวน้อย”
ไป๋ชิวหรานไม่ตอบ แต่เป็นจื้อเซียนที่กล่าวขึ้น
“เจ้าคิดจริงหรือว่านอกจากเหล่ายักษาแล้ว อารยธรรมอื่น ๆ เป็นคนดีหรือ? อย่างไรแล้วเราต้องระมัดระวัง และเราไม่มีทางเลือกอื่น ท้ายที่สุดความเป็นมิตรระหว่างเรากับยักษานับว่าสูญสิ้น! หากไม่ใช่เฒ่าไป๋ที่นำพาเจ้ากลับมา ข้าเกรงว่าเจ้าคงจะถูกหมกไว้ในที่ใดสักแห่งแถวนั้น”
“ที่เขากล่าวถูกต้องแล้ว”
ไป๋ชิวหรานมองถังรั่วเวย
“นอกจากนี้ ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการอุทิศตนเพื่อฝึกฝนและยืนกรานจะออกมาอยู่กับข้า ดังนั้นเจ้าควรเชื่อฟังข้าและอย่าได้พูดพล่ามนัก ภารกิจของเราเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของโลกแห่งเซียน… เอามือเจ้าออกไป!”
ชายผมขาวขึ้นเสียง และหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังดึงมือกลับอย่างไม่เต็มใจ ใบหน้าเผยความขุ่นเคืองเล็กน้อย
“เชิงชู้สาวงั้นหรือ?”
จื้อเซียนพึมพำ
“หรือว่าข้าจะเข้ามาขัดจังหวะคนเหล่านี้?”
แต่จู่ ๆ เขาก็นึกเปลี่ยนใจ
“ไม่ถูกต้อง สุดท้ายแล้วเรื่องความยุ่งเหยิงทางสัมพันธ์ของเฒ่าไป๋มันไม่เกี่ยวกับข้า ข้าเพียงต้องการตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของตน ส่วนสัมพันธ์ของเขากับศิษย์ ข้าจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วกัน”
หลังจากที่จื้อเซียนคิดออก หัวใจของเขาเผยความยินดีและอารมณ์ก็มั่นคงขึ้น เขาแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นถังรั่วเวยที่กำลังเม้มปากแน่นและกลอกตาไปมาอย่างไม่พอใจ
ความเร็วของไป๋ชิวหรานรวดเร็วยิ่ง แดนเซียนตั้งอยู่กลางสายธารแห่งความว่างเปล่า เขาพาถังรั่วเวยและจื้อเซียนขึ้นไปตลอดเส้นทางพร้อมทิ้งตัวเตือนภัยเอาไว้ตลอดทาง จนไม่นานก็มาถึงจุดสิ้นสุดของสายธารแห่งความว่างเปล่า
ระหว่างทาง พวกเขาไม่พบอารยธรรมชั้นสูงใดเช่นเดียวกับแดนเซียน ราชสำนักหุ่นกล หรืออารยธรรมที่สาบสูญภายในเขตแดนจิตสำนึก
พวกเขาเพียงพบอารยธรรมเพียงไม่กี่สถานที่ พวกมันทำลายโลกของตนเองและแตกสลายภายในความว่างเปล่า
ไป๋ชิวหรานชี้ให้เห็นอารยธรรมที่เป็นมิตรถึงสองแห่ง และบอกกล่าวกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องราวของยักษา ก่อนจะให้พวกเขาย้ายไปอยู่ในสถานที่แห่งอื่น เพราะสถานที่แห่งนี้ไกลกว่าการปกครองของโลกแห่งเซียน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพึ่งพาตนเองหากยืนยันจะอยู่ในโลกใบนี้ต่อ
พวกเขาสามารถหลบหนีไปยังดินแดนทางใต้ และจะรอดพ้นจากการต่อสู้ระหว่างแดนเซียนกับยักษาได้
หลังจากบอกลาอารยธรรมเหล่านี้ เวลานี้พวกเขาทั้งสามยืนอยู่ปลายสายของสายธารแห่งความว่างเปล่า มีภาพน่าเหลือเชื่อปรากฏอย่างอัศจรรย์ ลำแสงเชื่อมต่อภายในกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ส่องสว่างไร้ที่เปรียบไปตลอดเส้นทาง
“นั่นคือต้นกำเนิดของความว่างเปล่างั้นหรือ?”
จื้อเซียนสัมผัสได้ถึงพลังงานพลุ่งพล่านจากสถานที่แห่งนั้น เขากล่าวคำอย่างตื่นตระหนก
กระแสน้ำวนขนาดใหญ่สว่างไสวอยู่ภายในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุด ทุกครั้งที่มันโคจร พลังงานไร้สิ้นสุดทะลักออกจากมัน
พลังงานเหล่านี้ก่อตัวเป็นพายุและสายน้ำเชี่ยวกราก เมื่อมันปะทุออก มันจะสร้างคลื่นพลังงานมหาศาลออกเป็นวงกว้างครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะค่อย ๆ จางหายไปในห้วงแห่งความว่างเปล่า
พื้นที่ส่วนใหญ่เหล่านี้ถูกทำลายลงครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังมีหลายสิ่งที่พยายามดิ้นรนให้รอดพ้นจากพลังยิ่งใหญ่นี้ พวกมันดูดซับพลังงานจากกระแสน้ำวนเหล่านี้ก่อตัวขึ้นเป็นโลกวัตถุใบใหม่ จากนั้นถึงใช้ระลอกคลื่นซัดตนเองออกไปอยู่ในระยะไกล
นอกจากนี้ พลังงานไร้สิ้นสุดยังผลักสิ่งต่าง ๆ สู่จุดสิ้นสุดของสายธารแห่งความว่างเปล่า… พลังเหล่านี้ก่อให้เกิดเป็นจุดลำแสงเล็ก ๆ มากมายภายในความว่างเปล่า ทั้งนี้ยังมีกระแสน้ำไหลลงสู่แม่น้ำจนกลายเป็นแหล่งกำเนิดของสายธารแห่งความว่างเปล่าอีกด้วย