ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 627 ขอให้สุขภาพแข็งแรง!
บทที่ 627 ขอให้สุขภาพแข็งแรง!
บทที่ 627 ขอให้สุขภาพแข็งแรง!
ไป๋โม่เสวี่ยเผยสีหน้าลังเลอยู่นาน …แต่ในที่สุดเขาก็ตอบตกลง
เขาพาหลินฉีเยว่กลับไปยังบ้านที่เขาอาศัยอยู่กับหลี่ลี่และไป๋ซวี่เซียง
เวลานี้ไม่มีใครอยู่ในบ้าน ไป๋โม่เสวี่ยให้หลินฉีเยว่รอที่หน้าประตูสักครู่ ก่อนจะรีบเข้าไปหยิบการบ้านใส่กระเป๋าแล้วไปที่บ้านของศิษย์พี่หญิง
ระหว่างทาง หลินฉีเยว่แวะย่านการค้าใกล้เคียง ก่อนจะซื้ออาหาร ขนม และน้ำชามากมายจากหอการค้าขนาดใหญ่
ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ แต่ไป๋โม่เสวี่ยเห็นว่าหลินฉีเยว่ซื้อสุรากลับไปจำนวนมากอีกด้วย
เขารู้สึกกังวลเล็กน้อยขณะเดินตามหลินฉีเยว่ไปที่ตึกสองชั้นซึ่งถูกเรียกว่าบ้านของหลินฉีเยว่
หากกล่าวตามตรงแล้ว นับว่าบ้านของนางก็กว้างขวางไม่น้อย
ภายในบ้านนี้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่คล้ายกับว่านางจะอยู่คนเดียว และไป๋โม่เสวี่ยไม่ได้พูดถึงบิดามารดาของนาง ในโลกใบนี้ นักเรียนของสำนักจันทราศักดิ์สิทธิ์จะได้รับเงินสนับสนุนมากมายจากราชสำนัก แน่นอนว่าสำหรับหลินฉีเยว่แล้ว นางได้รับเงินจำนวนมากเพราะอยู่ในระดับอัจฉริยะผู้โดดเด่นและใกล้จะจบการศึกษา ดังนั้นแม้ว่าฐานะเดิมของครอบครัวจะไม่ดีนัก แต่นางก็จะสามารถมีชีวิตที่ดีและร่ำรวยด้วยตนเองได้
หลังจากมาถึงบ้านของหลินฉีเยว่แล้ว หลินฉีเยว่ก็ไม่ได้ทำอะไร ทั้งสองช่วยกันนั่งทำการบ้านภายในโถงนั่งเล่นจนเสร็จ ก่อนจะนั่งเล่นเกมกระดานด้วยกันสักพัก จากนั้นหลินฉีเยว่จึงอาสาแสดงฝีมือการทำอาหารให้ไป๋โม่เสวี่ยได้ลองชิม
นางใช้วัตถุดิบสดใหม่จากหอการค้าเมื่อครู่ หลังจากตระเตรียมอาหารดี ๆ แล้ว นางก็นำสุราที่ซื้อมาด้วยวางตั้งบนโต๊ะ
“โม่เสวี่ย”
หลินฉีเยว่กล่าวเสียงหวาน
“เจ้าดื่มหรือไม่?”
“ไม่ ข้าไม่ดื่ม”
ไป๋โม่เสวี่ยโบกมือครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะกล่าวเสริม
“ศิษย์พี่หญิง การทำเช่นนี้นับว่าฝ่าฝืนกฎของสำนัก และกฎหมายบ้านเมืองยังไม่ยอมรับว่าพวกเราคือผู้ใหญ่”
ด้วยการนับอายุแบบปีศาจ เขายังไม่บรรลุนิติภาวะจริง ๆ
ไป๋โม่เสวี่ยลอบคิดในใจ
“โอ้ สังคมกำหนดไว้แต่ไม่อาจห้ามได้ แล้วหากคนรุ่นเยาว์ไม่ปฏิบัติตนเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ แล้วเราจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้อย่างไร?”
หลินฉีเยว่เผยความคิดของเด็กเอาแต่ใจและดื้อรั้นโดยสมบูรณ์ออกมา
“ยิ่งไปกว่านั้น เราทุกคนต่างเป็นผู้ฝึกตนขั้นกลั่นลมปราณ เป็นผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ที่จะสร้างอนาคตสดใสในภายภาคหน้า เช่นนี้จะเปรียบเทียบเรากับเด็กทั่วไปได้อย่างไร? เอาล่ะ โม่เสวี่ย เจ้าไม่อยากลิ้มรสของสิ่งนี้หรือ?”
หลินฉีเยว่พยายามเกลี้ยกล่อม
ไป๋โม่เสวี่ยลอบกล่าวในใจ… เพื่อแข่งขันกับพี่สาว ข้าได้ลิ้มลองสุราทั้งหมดในโลกเซียนแล้ว แต่เวลานี้เขาเพียงแสร้งทำเป็นเพิกเฉยและยืนกรานที่จะปฏิเสธเท่านั้น
“โม่เสวี่ย”
ในที่สุดหลินฉีเยว่จึงกล่าวคำด้วยท่าทีสมเพชตนเอง
“เป็นเพราะเจ้ารังเกียจข้าหรือ?”
“ไม่ใช่…”
ไป๋โม่เสวี่ยเพียงทำเป็นลังเล ก่อนจะกล่าวตอบ
“เช่นนั้นเราควรดื่มเพื่อฆ่าเวลา… ไม่ต้องดื่มมาก”
“ใช่ ๆ เราเพียงแค่จิบ ๆ ก็พอ”
หลินฉีเยว่เปิดไหสุราพร้อมรินและส่งให้ไป๋โม่เสวี่ย
“วันนี้เจ้าก็แค่ดื่มไปพร้อม ๆ กับข้า ลองชิมดูสิ”
ไป๋โม่เสวี่ยรับมา ก่อนจะคิดสักครู่แล้วกล่าวคำเบา
“ถ้าเช่นนั้น”
เขาเม้มริมฝีปาก
“วันนี้ข้าจะเรียนรู้กับศิษย์พี่หญิง”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลินฉีเยว่ นางรู้สึกว่าแผนการสำเร็จแล้ว
คราวแรกนั้น ไป๋โม่เสวี่ยไม่เต็มใจนัก แต่เมื่อหลินฉีเยว่พยายามเกลี้ยกล่อม ไม่นานนักไป๋โม่เสวี่ยจึงยอมดื่ม สาวงามทั้งสองร่วมโต๊ะอาหาร ขณะที่ดื่มอยู่นั้นก็พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ มากมาย เสียงหัวเราะสดใสกังวานราวกับระฆังเงินก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสุราทั้งหมดที่หลินฉีเยว่ซื้อมาหมดลง
หลินฉีเยว่เมาเล็กน้อย… ในลมหายใจของนางมีกลิ่นของสุราปะปน ใบหน้าของไป๋โม่เสวี่ยแดงเรื่อ แน่นอนว่าด้วยความสามารถในการดื่มของเขา ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กหนุ่มจะเมามาย หน้าแดงที่ปรากฏให้เห็นนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาที่เขาสร้างขึ้นโดยการบังคับให้เลือดมาหล่อเลี้ยงที่ใบหน้ามากกว่าปกติ เขาเพียงร่วมเล่นละครไปกับหลินฉีเยว่เท่านั้น
“โม่เสวี่ย เจ้าทราบหรือไม่?”
หลินฉีเยว่ใช้ประโยชน์จากความรุนแรงของสุราที่กินเข้าไปเพื่อให้กล้าหาญยิ่งขึ้น นางลุกขึ้นก่อนจะนั่งลงข้างอีกฝ่าย เหยียดแขนโอบรอบลำคอของเขาพร้อมกระซิบแผ่วเบาข้างหู
“คราวล่าสุดนี้ข้าไปดื่มกับผู้ชายคนหนึ่ง และเด็กน้อยผู้นั้นต้องการให้ข้าเมา แต่หลังจากสุราหมดไปสองขวด เด็กคนนั้นกลับล้มลงกับพื้น ช่างน่าอับอายนัก”
“งั้นหรือ ไม่ดีเลยหากอ่อนแอเช่นนั้น”
ไป๋โม่เสวี่ยแสร้งทำเป็นเมาเล็กน้อยก่อนจะกล่าวสนับสนุน
“ชายผู้นั้นคงจะด้อยกว่าข้าแล้ว”
“โอ้?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของหลินฉีเยว่พลันแปรเปลี่ยน นางเผยความประหลาดใจออกมา
นางเอื้อมมือออกมาลูบไล้ขาของไป๋โม่เสวี่ย
“ถ้าหากเป็นเช่นนั้น เจ้ากล้าหรือไม่?”
หลังจากสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาด ไป๋โม่เสวี่ยก็ขยับขาหลบโดยสัญชาตญาณราวกับถูกฟ้าผ่า
“ข้าไม่อาจอวดอ้างว่าตนเองกล้าหาญ”
ไป๋โม่เสวี่ยค่อย ๆ คลี่ตัวเองออกจากมือของหลินฉีเยว่พร้อมลุกขึ้นยืน
“แต่ข้าไม่เคยกลัวสิ่งใด”
“โอ้… ยอดเยี่ยมแล้ว”
หลินฉีเยว่พยายามโน้มตัวลงไป จนกระทั่งนอนอยู่บนร่างกายของไป๋โม่เสวี่ย และพยายามที่จะรุกล้ำลำคอของเขา
“ข้าชอบเจ้า… แต่เจ้ากลับไม่เข้าใจเลย”
ไป๋โม่เสวี่ยปลดปล่อยเสียงแผ่ว ก่อนจะถามกลับด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว
“เข้าใจ… เข้าใจอะไร?”
“เจ้าอยากเข้าใจหรือไม่? ข้ามีของดีอยู่ในห้องของข้า มันอยู่ชั้นสอง”
หลินฉีเยว่ยกยิ้มประหลาด ซึ่งมันเป็นความละโมบที่ไม่อาจอธิบายได้
“ข้าสามารถทำให้เจ้าเป็นผู้ใหญ่ได้”
“เป็นผู้ใหญ่?”
“ถูกต้องแล้ว!”
หลินฉีเยว่ผลักไป๋โม่เสวี่ยพร้อมเร่งเร้า
“ไปกันเถอะ ขึ้นไปข้างบนกัน”
“ศิษย์พี่หญิง ข้ายังดื่มไม่เสร็จเลย”
“ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ”
ไป๋โม่เสวี่ยถูกหลินฉีเยว่บังคับให้ขึ้นมาชั้นบน และพบว่านี่คือห้องส่วนตัวที่สะอาดและเป็นระเบียบ สิ่งของทั้งหมดถูกจัดวางไว้อย่างเรียบร้อย มีแสงสลัวภายในห้องนี้ ทั้งยังมีกลิ่นเครื่องหอมจาง ๆ ให้ความรู้สึกรัญจวน
และยังมีสิ่งที่ทำให้ผู้คนหน้าแดงนั่นคือ ‘ของเล่นหรรษา’ มากมายที่ไม่เหมาะสำหรับเด็กวางอยู่บนโต๊ะของนาง
“ศิษย์พี่หญิง”
ไป๋โม่เสวี่ยหยิบขึ้นมาดูก่อนจะกล่าวถาม
“ท่านมีสิ่งเหล่านี้เยอะหรือไม่?”
“อ่า ก็ไม่เท่าไหร่”
หลินฉีเยว่เปิดวรรณกรรมลามกของตนเอง
“มานี่สิ ลองอ่านดู”
นางเปิดไปหน้าหนึ่ง และมันคือภาพประกอบของเด็กหญิงสองคนกำลังร่วมรักอย่างเผ็ดร้อน
“ศิษย์พี่หญิง”
ไป๋โม่เสวี่ยทำท่าปิดปากก่อนจะกล่าวถาม
“นี่คือสิ่งใด?”
“โอ้ เจ้าอายงั้นหรือ?”
หลินฉีเยว่คว้ากระโปรงของไป๋โม่เสวี่ยไว้ทันที
“เดี๋ยวข้าตรวจสุขภาพให้”
“ศิษย์พี่หญิง?!”
ไป๋โม่เสวี่ยลุกขึ้นพร้อมกล่าวถามว่า
“ท่านคิดทำสิ่งใด?”
“ข้าจะตรวจสอบว่าสุขภาพของเจ้าปกติดีหรือไม่!”
หลินฉีเยว่ลุกขึ้นก่อนจะกล่าวต่อ
“มาถึงขั้นนี้แล้ว โม่เสวี่ย ข้าจะบอกเจ้าว่าแม้ต้องใช้กำลัง ข้าก็จะต้องลงมือกับเจ้าแล้ว!”
แสงสีแดงประหลาดเปล่งประกายในแววตาของนาง
การต่อสู้ระหว่างทักษะล่อลวงจิตใจกับความรักกำลังทำให้นางสับสนหรือไม่?
ไป๋โม่เสวี่ยลอบคิดในใจ
การใช้ทักษะทำให้จิตใจสับสนจะทำให้จิตใจเสียหายอย่างถาวร และมันไม่ส่งผลดีต่อจิตวิญญาณมนุษย์ ดูเหมือนว่าแม้พวกเขาจะเอาชนะไป๋โม่เสวี่ยได้ แต่ผู้ฝึกตนปีศาจคนนั้นก็จะไม่ต้องการให้หลินฉีเยว่เป็นคนรับใช้ของตนอีกต่อไป
“เช่นนั้นก็ช่วยไม่ได้”
ไป๋โม่เสวี่ยกำหมัดแน่น
“คงต้องใช้กำลังเพื่อฟื้นคืนสติให้ท่านแล้ว”
“หยุดพล่าม!”
ใบหน้าของหลินฉีเยว่บิดเบี้ยวคล้ายกำลังจะคลุ้มคลั่ง
“ขอให้ท่านกลับมามีสุขภาพแข็งแรง!”