ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 628 ไป๋โม่เสวี่ยกับผู้ไม่เข้าใจในความรัก
บทที่ 628 ไป๋โม่เสวี่ยกับผู้ไม่เข้าใจในความรัก
บทที่ 628 ไป๋โม่เสวี่ยกับผู้ไม่เข้าใจในความรัก
เสี้ยวลมหายใจต่อมา หลินฉีเยว่ที่เมามายล้มลงบนเตียงเพราะหลังมือของไป๋โม่เสวี่ย
เพราะหลินฉีเยว่ทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของนางแล้ว ดังนั้นไป๋โม่เสวี่ยจึงใช้พลังของตนได้อย่างไร้ยางอาย แม้อีกฝ่ายจะเข้าสู่ขั้นก่อสร้างรากฐานด้วยความช่วยเหลือของผู้ฝึกตนปีศาจ แต่สุดท้ายแล้วหลินฉีเยว่ยังห่างไกลที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา
และในโลกใบนี้มีผู้ฝึกตนขั้นก่อสร้างรากฐานเพียงคนเดียว นั่นคือชายสกุลไป๋
“ศิษย์พี่หญิง ท่านเมามากแล้ว”
ไป๋โม่เสวี่ยกล่าวพร้อมกับพยายามปราบปรามหลินฉีเยว่
“ข้าไม่ได้เมา”
หลินฉีเยว่ดิ้นรนอย่างอ่อนแรงก่อนจะกล่าวพึมพำ
“โม่เสวี่ย ปล่อยข้า”
โม่เสวี่ยสัมผัสได้ว่านางจะไม่สร้างปัญหา เช่นนี้จึงปล่อยนาง
หลินฉีเยว่นอนอยู่บนเตียงสักครู่ ก่อนจะเข้าไปใกล้ไป๋โม่เสวี่ย โอบรัดเอวของเขา และนอนหนุนท้องของเขาอย่างออดอ้อน
“โม่เสวี่ย”
นางกล่าวพึมพำ
“ความจริงข้าติดตามเจ้ามานานแล้ว…”
“ข้าทราบ”
ไป๋โม่เสวี่ยลูบศีรษะของนาง
“ศิษย์พี่หญิง มีวิธีการแสดงความรักมากกว่าหนึ่งวิธี แม้วิธีที่ท่านต้องการมันจะซื่อตรงที่สุด แต่ก็เป็นเพียงวิธีการที่ตื้นเขินที่สุดเช่นกัน ผู้ฝึกตนปีศาจผู้นั้นอาจเพียงเล่นสนุกกับท่านเท่านั้น ท่านคิดว่าเขารักท่านจริงงั้นหรือ?”
หลินฉีเยว่ที่เมามายกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า
“ไม่หรอก ข้าอยู่กับเขาเพียงแค่ความสนุกชั่วคราวเท่านั้น”
“นั่นไม่ดีเลย…”
ไป๋โม่เสวี่ยก้มศีรษะมองนางพร้อมกล่าวเสียงแผ่ว
“ศิษย์พี่หญิง ข้าจะสอนท่านเองว่าความรักคืออะไร”
…
ไม่กี่ถ้วยชาต่อมา ภายในห้องอาบน้ำ
หลินฉีเยว่นุ่งผ้าเช็ดตัวพร้อมนั่งบนม้านั่ง ขณะที่ไป๋โม่เสวี่ยม้วนแขนเสื้อและยืนสระผมให้นางอยู่ด้านหลัง
“นี่คือสิ่งที่เจ้าหมายถึงงั้นหรือ ยอดรัก?”
หลินฉีเยว่ลอบผิดหวังในใจ นางรู้สึกราวกับทุกสิ่งล้วนเปล่าประโยชน์
“เรื่องแบบนี้ต้องค่อย ๆ เรียนรู้กันไป”
ขณะที่นวดหนังศีรษะให้กับนางเบา ๆ ไป๋โม่เสวี่ยก็กล่าวว่า
“ลองผ่อนคลายดูสิ”
คล้ายจะมีมนตร์เสน่ห์บางอย่างในคำพูดของเขา มันทำให้หลินฉีเยว่ผ่อนคลายลง และนางก็ยอมรับฟังไป๋โม่เสวี่ยอย่างเชื่อฟัง
ทักษะการนวดของไป๋โม่เสวี่ยนั้นไม่ทราบว่าเขาเรียนรู้จากที่ใด หลินฉีเยว่รู้สึกสบายตัวมาก หลังจากสระผมเสร็จสิ้นแล้ว ไป๋โม่เสวี่ยก็เทน้ำร้อนลงในอ่างน้ำเพื่อให้นางลงไปแช่ตัว
เพราะฤทธ์สุราทำให้หลินฉีเยว่หลับในอ่างอาบน้ำอย่างผ่อนคลาย และไป๋โม่เสวี่ยไม่ได้คิดจะปลุกนางในตอนนี้
ก่อนที่น้ำจะเย็น นางก็ฟื้นคืนสติภายใต้มนต์สะกดของไป๋โม่เสวี่ย นางลุกขึ้นพร้อมออกจากห้องน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า ขณะที่ร่างกายกำลังผ่อนคลาย นางนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ไป๋โม่เสวี่ยยืนอยู่ด้านหลังและหวีผมให้อย่างแผ่วเบา
“โม่เสวี่ย”
เมื่อมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังในคันฉ่อง หลินฉีเยว่พลันกล่าวคำอย่างเกียจคร้าน
“หากผู้ใดได้แต่งงานกับเจ้าในอนาคต คงราวกับว่าได้รับพรไปสามชั่วอายุคน… ไม่สิ ข้าควรพูดว่าข้าอยากแต่งงานกับเจ้า”
“ศิษย์พี่หญิงชื่นชมข้าเกินไปแล้ว เมื่อเทียบกับท่านแม่ ข้ายังด้อยกว่ามาก”
ขณะที่กำลังจัดแต่งเรือนผมสีทองของหลินฉีเยว่ ไป๋โม่เสวี่ยก็กล่าวอย่างผ่อนคลาย
“คนคนนั้นรวมถึงคนรักที่ท่านเคยคบหาก่อนหน้านี้ ไม่มีผู้ใดทำเช่นนี้กับท่านเลยหรือ?”
หลินฉีเยว่มองตนเองในคันฉ่องพลางเผยสีหน้าเย้ยหยัน
“การที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรให้กับข้า นับว่าเป็นพรแล้ว”
“นั่นหมายความว่าพวกเขาคงไม่ได้รักท่านจริง”
ไป๋โม่เสวี่ยกล่าวเสียงเรียบ
“พวกเขาอยู่กับท่านเพราะอยากครอบครองความงดงาม ร่างกาย หรือสิ่งไร้แก่นสารที่ท่านต้องการจากข้า”
หลินฉีเยว่ไม่ได้กล่าวตอบ
“ศิษย์พี่หญิง ท่านชอบความรู้สึกในตอนนี้ หรือว่าสิ่งไร้แก่นสารเวลาอยู่กับคนเหล่านั้น?”
ไป๋โม่เสวี่ยลูบไล้เรือนผมของอีกฝ่ายอย่างเบามือด้วยปลายนิ้ว
หลินฉีเยว่ไม่ตอบ แต่ในเวลานี้น้ำใส ๆ พลันร่วงหล่นใส่มือของไป๋โม่เสวี่ย
เขามองคันฉ่องและเห็นวงเวทสีแดงอยู่ด้านนอกของรูม่านตาหลินฉีเยว่ มันห่อหุ้มดวงตาของนางเอาไว้ ทั้งหมดนี้คือทักษะการล่อลวงของผู้ชายชุดดำที่พยายามจะควบคุมจิตวิญญาณของนาง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนลึกของรูม่านตาหลินฉีเยว่ ไป๋โม่เสวี่ยเห็นเปลวเพลิงสีชมพูอบอุ่นค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมา ซึ่งมันกำลังกัดกร่อนลำแสงสีแดงด้านนอก ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณที่ลุ่มหลงของหลินฉีเยว่กำลังถูกทำลาย
พลังแห่งมนต์เสน่ห์สูงสุดของสำนักเหอฮวนคือไฟปรารถนา เป็นพลังเหนือธรรมชาติที่ท่านแม่ของเขาซูเซียงเสวี่ยสร้างขึ้นในห้าร้อยปีหลังจากที่นางแต่งงานกับบิดาของเขา ไป๋ชิวหราน
แม้การฝึกฝนของไป๋โม่เสวี่ยจะไม่ยอดเยี่ยมเท่า แต่ในแง่ความละเอียดอ่อนของสุดยอดพลังนั้นกลับเหนือชั้นกว่ามาก
ในทางทฤษฎี ตราบใดที่เข้าสู่ขอบเขตจักรพรรดิเซียนแล้ว ผู้นั้นจะสามารถเรียนรู้ทักษะนี้ได้ แต่ผู้ฝึกตนปีศาจนั้นต้องสะสมปราณหยินหยางและเซ่นสังเวยโลหิตเพื่อเข้าสู่ขอบเขตเซียน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเหล่านี้ไม่คิดศึกษาคาถาหรือพลังเหนือธรรมชาติ
สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการฝึกฝนเพื่อความแข็งแกร่ง เช่นนี้พวกเขาจึงใช้เวลาทั้งหมดเพื่อทะลวงผ่านขอบเขตไปสู่ระดับที่สูงขึ้นให้เร็วที่สุด
ดังนั้นโครงสร้างรากฐานของทักษะล่อลวงจิตใจนี้จึงไม่ได้ซับซ้อนนัก และหากไม่มีผู้ฝึกตนปีศาจคอยควบคุม ทักษะนี้เป็นเพียงต้นไม้ที่ไม่มีราก ไม่มีน้ำ ไม่มีต้นกำเนิด และไฟรักของสำนักเหอฮวนที่มีพลังสนับสนุนจากไป๋โม่เสวี่ยจะทำลายมันลงได้ง่ายดาย
ในไม่ช้า ไฟปรารถนาแห่งรักก็จัดการวงเวทสีแดงด้านนอกจนหมดสิ้น
ในแววตาของหลินฉีเยว่ ดูเหมือนนางจะโล่งใจไม่น้อยเช่นกัน
“ข้าจะสามารถถูกกระทำอีกครั้งหรือไม่?”
นางกล่าวถาม
“คนผู้นั้นครอบครองพลังยิ่งใหญ่ราวกับเทพเจ้า มันเกินกว่าสิ่งที่ข้าจะเข้าใจ”
“ได้แน่นอน”
ไป๋โม่เสวี่ยโน้มตัวลงไปกล่าวกระซิบกับนาง
“ศิษย์พี่หญิงไม่ต้องกังวลแล้ว ข้าเชื่อว่าท่านตระหนักถึงความจริงของชายคนนั้นได้ สำหรับท่าน เขาคงจะเป็นทวยเทพผู้เป็นอมตะไร้เทียมทาน แต่สำหรับเรา เขาเป็นเพียงผู้ร้ายที่น่ารังเกียจและไร้ยางอาย ไม่ต่างจากหนูขยะข้างถนน ตราบใดที่ท่านต้องการกลับมาเพื่อส่งข่าวของเขา ข้ารับรองว่าเขาจะไม่สามารถทำร้ายหรือควบคุมท่านได้อีก”
หลินฉีเยว่เช็ดน้ำตาก่อนจะกล่าวถามด้วยน้ำเสียงสะอื้น
“จริงหรือ?”
“จริง”
ไป๋โม่เสวี่ยยังโน้มน้าวต่อไป
“แม้ก่อนหน้านี้ท่านจะสูบยาสูบ ดื่มสุรา กระทำตัวจนชีวิตวุ่นวายไปหมด แต่ตราบใดที่ท่านเต็มใจจะกลับเนื้อกลับตัว ข้าเชื่อว่าท่านจะเป็นสตรีที่ยอดเยี่ยมได้แน่นอน”
หลินฉีเยว่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวถาม
“ทั้งหมดนี้เจ้าไม่ได้ทำเพื่อข้าใช่หรือไม่?”
ไป๋โม่เสวี่ยผงะไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะแล้วตอบว่า
“ศิษย์พี่หญิง ดูเหมือนว่าท่านจะฟื้นคืนสติแล้ว”
หลินฉีเยว่เงยหน้าขึ้น หางตายังคงชื้น แต่ลำแสงสีแดงในรูม่านตาหายไปหมดสิ้นแล้ว ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยเปลวไฟสีชมพูอ่อนเจือจาง มันกำลังเด่นชัดในรูม่านตาของนาง
เวลานี้นางตกหลุมรักไป๋โม่เสวี่ยโดยสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ไป๋โม่เสวี่ยพยักหน้าแล้วตอบกลับ
“อืม ข้าทำสิ่งนี้เพื่อผู้หญิงอีกคนหนึ่ง”
“เจ้าช่างซื่อสัตย์นัก”
หลินฉีเยว่ยิ้มพร้อมกล่าวต่อ
“ไม่เหมือนกับบุรุษอื่นทั่วไป เวลาอยู่กับข้า พวกเขามักจะกล่าวคำให้ข้าพึงพอใจเสมอ”
นางหันกลับมาถอดต่างหู วางทุกสิ่งบนโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนจะมองตนเองในคันฉ่องแล้วกล่าวพึมพำ
“แล้วข้าจะต้องอยู่อย่างนี้ตลอดไปงั้นหรือ? ติดอยู่กับความรักนี้ชั่วชีวิต?”
“ย่อมไม่เป็นเช่นนั้น”
ไป๋โม่เสวี่ยส่ายศีรษะพร้อมกล่าวว่า
“หากท่านต้องการ ข้าจะช่วยกำจัดไฟปรารถนา หลังจากนั้นท่านก็จะหยุดตกหลุมรัก และจะสามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของมันโดยสมบูรณ์ จากนั้นค่อยตัดสินใจเรื่องราวในอนาคตด้วยตนเอง”
“ดูเหมือนเจ้าก็ไม่ทราบว่าความรักคืออะไร”
หลินฉีเยว่หัวเราะเบา ๆ
“ลืมไปเถอะ ทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร”
นางส่ายศีรษะพร้อมกับมองไป๋โม่เสวี่ยในคันฉ่อง
“เจ้าไม่อยากรู้งั้นหรือว่าชายคนนั้นอยู่ที่ใด? เอาล่ะ ข้าจะบอกตำแหน่งของเขา”