ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี - บทที่ 655 ราชาคนแคระ
บทที่ 655 ราชาคนแคระ
บทที่ 655 ราชาคนแคระ
เปลวเพลิงทะยานขึ้นสู่อากาศ การระเบิดคราวนี้กลืนกินศัตรูโดยรอบจนหมดสิ้น
ด้วยความช่วยเหลือจากฮั่วฉี อี้ฝานจึงสามารถรวบรวมผงดินปืนที่สามารถหาพบได้ในบริเวณนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ในบรรดาผงดินปืน ฮั่วฉียังยัดผงสีแดงที่เต็มไปด้วยพลังเวทลึกลับ ผลึกแก้วสีแดงเหล่านี้สามารถเปลี่ยนผงดินปืนให้กลายเป็นปีศาจลาวาร่างใหญ่ได้!!
การจุดชนวนของระเบิดมหาศาลในคราวเดียวทำให้เทือกเขาทั้งลูกสั่นสะเทือน! ป้อมปราการของเมืองถึงกับพังทลายอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง อีกทั้งศูนย์กลางระเบิดยังปรากฏหลุมขนาดใหญ่ รูลึกนี้ราวกับหุบเหวไร้ก้นที่เมื่อมองลงไปก็พบเจอเพียงความมืดมิด
แน่นอนว่าศัตรูที่กำลังจัดการกับอาหารภายในจัตุรัสขนาดใหญ่ถูกแรงระเบิดพัดจนเนื้อฉีกขาด
บางส่วนถูกเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน บางส่วนถูกพัดปลิวกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยทั่วพื้นดิน และบางส่วนร่วงหล่นลงสู่หุบเหวไร้ก้น
ทวยเทพของพวกเขายังคงอยู่ในความมืด และทวยเทพผู้นี้เลือกที่จะกลืนกินเนื้อดิบ แน่นอนว่าผลลัพธ์ของเหล่ายักษ์และคนแคระที่ตกลงในรูโหว่ขนาดยักษ์ย่อมไม่ได้เผชิญจุดจบที่สวยงาม
แรงสั่นสะเทือนมหาศาลนี้ ทำให้ราชาคนแคระที่เดิมทีนั่งอยู่บนบัลลังก์สูงถึงกับยืนขึ้น! เขายกขวานในมือปัดป้องแรงระเบิด ดวงตาจ้องเขม็งตามทิศทาง
เขากระโดดลงจากแท่นสูงก่อนจะลากขวานยักษ์ไปยังทิศทางนั้น ทันใดนั้น พลันเกิดเสียงฉีกอากาศดังขึ้นกะทันหัน และราชาคนแคระยังไม่ทันตั้งตัว เขาก็ถูกวัตถุประหลาดที่พุ่งทะยานมาโจมตีเข้าที่ไหล่!
มันคือขวานบินที่โจมตีอย่างแม่นยำ แต่ดูเหมือนราชาคนแคระจะไม่สิ้นชีพ เขาเหยียดมือดึงด้ามขวานที่ปักไหล่อยู่ออกมาอย่างง่ายดาย!
มันขว้างขวานนั้นลงพื้น ก่อนจะมองออกไปยังทิศทางตรงหน้าด้วยแววตาสับสน
“พี่ชาย…”
ฮั่วฉีกล่าวพึมพำ
“ข้ามาที่นี่เพื่อหยุดเจ้า!”
เขายกค้อนมือเดียวขึ้นมาก่อนจะพุ่งเข้าหาราชาคนแคระ ราชาคนแคระไม่กล่าวคำใด เพียงแต่ยกขวานขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับกบฏ
เขาเสียสติไปหมดสิ้นแล้ว บางทีอาจจดจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคนแคระที่อยู่ตรงหน้าคือพี่ชายที่คลานออกจากยมโลก แต่สุดท้ายแล้วสัญชาตญาณของเขายังคงกระตุ้นให้ทุ่มพละกำลังทั้งหมดเพื่อจัดการกับคนตรงหน้า
ตูม!
ความแข็งแกร่งของราชาคนแคระนับว่ามากล้น หลังจากนั่งอยู่บนบัลลังก์มานานหลายปี เขาก็ได้รับพรจากเจ้าแห่งเพลิงและโลหะอย่างใกล้ชิด ความแข็งแกร่งของเขาเหนือยิ่งกว่าฮั่วฉีพี่ชายของตนมานาน …เพียงการโจมตีของเขาก็สามารถสร้างรอยร้าวแตกแยกบนอิฐ หิน ดินขึ้นมานับไม่ถ้วน แท่นบูชาของเจ้าแห่งเพลิงและโลหะแตกสลายก่อนจะร่วงหล่นสู่หุบเหวไร้ก้น
โชคดีที่ฮั่วฉีคุ้นเคยกับวิธีการต่อสู้ของอีกฝ่าย ไม่เช่นนั้นเพียงค้อนมือเดียวของเขาคงไม่สามารถต่อสู้กับราชาคนแคระได้อย่างแน่นอน
แต่ถึงเช่นนั้นฮั่วฉีก็ไม่สามารถเอาชนะราชาคนแคระได้เพียงลำพัง เขาถือค้อนมือเดียวไว้ก่อนจะเข้าโรมรันกับน้องชาย เขาต่อต้านอีกฝ่ายได้เพียงชั่วขณะ สุดท้ายแล้วเขาก็จนมุมและถูกต้อนจนเพลี่ยงพล้ำ
ราชาคนแคระยกขวานในมือขึ้นสับฟันลงอย่างไม่สนใจค้อนของฮั่วฉีที่ดันหน้าอกของตนเองไว้ เวลานี้มันสับฟันออกเป็นแนวเฉียง
ตูม!
กำแพงบนจัตุรัสถูกสับฟันด้วยขวานใหญ่ คนแคระฮั่วฉีกลิ้งออกไปเพื่อหลบการโจมตีเมื่อครู่
ราชาคนแคระยกขาเหวี่ยงเตะพี่ชายของตนอย่างรุนแรง
ฮั่วฉีบ้วนโลหิตคำโตก่อนจะกรีดร้อง และโลหิตนั้นกระตุ้นให้ราชาคนแคระยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้น มันยกขวานขึ้นหมายที่จะตัดศีรษะของฮั่วฉีในคราวนี้
ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน จู่ ๆ ร่างหนึ่งก็กระโดดออกมาจากด้านบนของอาคารชั้นสองที่อยู่อีกฟากหนึ่งของกำแพง เขามาพร้อมกับเสียงฉีกอากาศอันน่าสะพรึง ราชาคนแคระสัมผัสได้ถึงอันตราย สัญชาตญาณบอกให้มันยกขวานขึ้นปิดกั้นศีรษะอย่างรวดเร็ว
ตูม!
แรงมหาศาลปะทะลงสู่พื้นเกิดระลอกคลื่นขนาดใหญ่ ทุกสิ่งใต้ฝ่าเท้าแตกระแหงพังทลายลง ราชาคนแคระ ผู้ที่มาเยือน และฮั่วฉีร่วงหล่นลงหลุมไปพร้อมกัน
นี่คือขอบนอกของจัตุรัส ทั้งสามไม่ได้ร่วงหล่นไปยังแท่นบูชาของเจ้าแห่งเพลิงและโลหะโดยตรง แต่ร่วงหล่นลงสู่สถานที่โล่งใต้ดิน
ควรจะมีคนแคระและยักษ์อยู่ภายในสถานที่แห่งนี้ แต่เพราะการล่มสลายจากเบื้องบนทำให้พวกเขาทั้งหมดตายตกสิ้น
ทั้งสามร่วงหล่นสู่ด้านล้าง อี้ฝานยังคงรักษากระบวนท่าของตน เขาคิดจะปราบปรามราชาคนแคระ จึงเร่งตะโกนบอกฮั่วฉี
“ฮั่วฉี ข้าจะช่วยเหลือเจ้า!”
“ดี!”
คนแคระฮั่วฉีเร่งรีบเข้ามา ทว่าทันใดนั้นราชาคนแคระก็พลันคำรามลั่น แขนสองข้างขยายใหญ่และผลักอี้ฝานออกไป
เปลวเพลิงโคจรรอบร่างกายของเขา ภายใต้พลังมหาศาลนี้ ร่างกายของเขาค่อย ๆ ขยายใหญ่อย่างมั่นคง มันสูงกว่าร่างของอี้ฝาน กล้ามเนื้อทั้งหมดบวมเป่ง ดวงตาสีแดงชาด ลมหายใจกลายเป็นไอน้ำสีขาวคละคลุ้ง
“พรจากเจ้าแห่งเพลิงและโลหะ นี่คือร่างขั้นสุดยอดของเขา!”
ฮั่วฉีกระเด็นถอยออกไปเพราะแรงระเบิด ขณะเดียวกันก็ยังร้องเตือนอี้ฝาน
“แล้วไง? ข้าจะจัดการมันแล้วใช้ค้อนทุบหัวมันซะ!”
อี้ฝานถอดแผงประตูขนาดใหญ่ด้านหลังมาทำเป็นโล่กำบัง พลังแห่งความมืดที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าของราชาคนแคระปะทุออกจากร่างกายของเขา เวลานี้เขาถือโล่พร้อมผลักดันเข้าหาราชาคนแคระในทันที ราชาคนแคระไม่อาจต้านทานจึงล้มลงกับพื้น
อี้ฝานหันกลับมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับดาบสีดำขนาดใหญ่ในมือ วิถีคมดาบม่วงเสี้ยวจันทราเหวี่ยงออกรุนแรงเพื่อโจมตีราชาคนแคระ
ตูม!
ร่างของราชาคนแคระกระเด็นลอยออกไป กลิ้งหลุน ๆ ไปกับพื้นอยู่หลายตลบ
“โอ้ มันยอดเยี่ยมแล้ว”
ฮั่วฉีอุทานออกอย่างประหลาดใจ
“อย่ามัวยืนนิ่ง! เอาค้อนทุบหัวมันเสีย!”
อี้ฝานยกโล่ขึ้นพร้อมกับออกวิ่งด้วยเช่นกัน
“โอ้!”
ราชาคนแคระพยายามลุกขึ้นจากความมึนงง และเขาเห็นว่าอี้ฝานพุ่งทะยานเข้ามาพร้อมกับโล่ขนาดใหญ่ในมือ ราชาคนแคระพยายามรวบรวมกำลังทั้งหมดไว้ในขวานสองมือ ทว่าฮั่วฉีที่ไม่ทราบว่าโผล่มาจากที่ใดใช้ค้อนทุบลงที่เข่าของเขาอย่างรุนแรง
เข่าของราชาคนแคระถูกทุบด้วยค้อนหนัก ขาของมันทรุดลงในทันที เวลานี้อี้ฝานจึงกดร่างของมันให้ตรึงอยู่บนพื้น
พลังศักดิ์สิทธิ์ของทั้งสองปะทะกันชั่วขณะ แต่อย่างไรแล้วราชาคนแคระไม่ใช่เจ้าแห่งเพลิงและโลหะ และเพลิงบนร่างกายของเขาถูกพลังแห่งความตายของอี้ฝานกัดกร่อนและปราบปรามลงได้ในที่สุด
ฮั่วฉีฉวยโอกาสนี้ยกค้อนในมือขึ้นก่อนจะทุบลงบนศีรษะของราชาคนแคระอย่างรุนแรง
หนึ่งครั้ง สองครั้ง… ราชาคนแคระพยายามดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง แต่เขาไม่สามารถสะบัดอี้ฝานที่กดร่างกายของตนอยู่ได้ จนกระทั่งฮั่วฉีใช้ค้อนทุบใบหน้าของเขาจนแหลกเหลว! ร่างกายของเขากระตุกดิ้นรนจนเสี้ยวลมหายใจสุดท้าย ก่อนจะค่อย ๆ สงบลงในที่สุด