ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ - บทที่ 439 ทางที่ดีอย่าโกหกฉัน
กร็อบ!
เห็นกริชของจอห์นพุ่งมา เย่เทียนก็ยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย เขารอให้สบโอกาส คว้าข้อมือจอห์นได้อย่างแม่นยำ
กร็อบ!
จากนั้นเย่เทียนออกแรงบิดให้กระดูกข้อมือของจอห์นหลุด
“โอ๊ย?!”
จอห์นส่งเสียงร้องออกมา เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลพลั่กเต็มหน้าผาก
แต่เย่เทียนไม่หยุดแค่นั้น ใช้เท้าถีบไปบนเข่าของจอห์นอย่างแรง
พลั่ก!
จอห์นลอยขึ้นไปทั้งตัว แล้วตกลงมาบนพื้นโดยเข่าทั้งสองข้างลงอย่างจัง เสียงกระดูกแตกร้าวดังขึ้นเบาๆ
“อ้าก!”
ตอนนี้จอห์นทนไม่ไหวแล้ว ส่งเสียงร้องน่าเวทนาออกมาด้วยความเจ็บปวด
น่าเสียดายที่เสียงร้องน่าเวทนานี้ดังได้แค่1วินาที จากนั้นเย่เทียนก็ปล่อยหมัดกระแทกไปที่ขมับของจอห์น ทำเอาสลบไปทันที!
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในระยะเวลาแค่ไม่กี่วินาที ทางด้านหลี่เหวินเพิ่งหลบปืนที่เย่เทียนขว้างมา กำลังจะเข้าไปช่วย กลับพบว่าจอห์นสลบไปแล้ว
“กะ แกเป็นใครกันแน่?!”
นี่ทำให้หลี่เหวินอยู่ไม่เป็นสุข
หลังจากลูกน้องในกลุ่มหนึ่งลงไปตาม เหตุผลหลักๆที่ทำให้เขากล้าต่อกรกับเย่เทียนต่อไป ก็คือจอห์นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่านักฆ่าชื่อเสียงโด่งดังอย่างจอห์น กลับเป็นคนไร้ความสามารถสำหรับเย่เทียนไปเสียได้
“เมื่อครู่ฉันก็บอกไปแล้วหนิ ว่าฉันเป็นแค่พลเมืองใจร้อนตัวเล็กๆ”
เย่เทียนยิ้มเห็นฟันขาว เหยียดมือออกไปด้วยความอวดดี พลางพูดเชิงหยอกล้อ:“ตอนนี้เหลือแค่แกคนเดียวแล้วนะ แกจะยอมจำนนเสียโดยดี? หรือจะสู้กับฉันให้ตายกันไปข้างหนึ่ง?”
“ฉัน……”
หลี่เหวินอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ส่ายหน้าไปมาอย่างขมขื่น
เข้ารู้อยู่แกใจดีว่าถ้าเทียบพลังของตนกันจอห์นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน ถ้าเขาอยากช่วยจอห์น ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
แต่เขาไม่อาจทำได้อย่างง่ายดายเหมือนเย่เทียน แล้วจะให้เขากล้าสู้ต่อไปได้ยังไงกัน?
“แกดูเป็นคนฉลาดนี่ น่าจะรู้ว่าฉันอยากรู้เรื่องอะไร จะให้ฉันถามแกทีละประโยคๆ? หรือแกจะเป็นคนพูดเอง?”
เย่เทียนมองเขาด้วยความคาดหวัง แล้วเดินไปข้างๆจอห์นที่สลบอยู่ ง้างปากจอห์นควานหาอะไรบางอย่าง จากนั้นดึงฟันซี่นั้นที่ซ่อนพิษเอาไว้ออกมา
ไม่เพียงเท่านั้น เย่เทียนยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางหักมือเท้าทั้งสี่ของจอห์นเป็นท่อนๆ ทำให้แม้เขาจะฟื้นขึ้นมาก็ไม่อาจหนีไปได้ !
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเมื่อครู่เย่เทียนมือหนักไปหรือเปล่า จอห์นที่สลบอยู่จึงส่งเสียงร้องออกมา แต่ก็ไม่ได้ฟื้น
หลี่เหวินมองการกระทำของเย่เทียนแล้วตัวสั่นเทิ้มขึ้นมาทันใด หน้าผากมีเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้
ดูจากท่าทางที่ชำนาญช่ำชองของเย่เทียน เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำแบบนี้
ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าเย่เทียนเป็นใคร ทำไมถึงรู้วิธีฆ่าตัวตายของนักฆ่าได้เป็นอย่างดีเช่นนี้?
“ดูเหมือนแกไม่ยอมพูดเองสินะ งั้นฉันจะถามทีละประโยคๆก็แล้วกัน!”
พอจัดการจอห์นอย่างง่ายๆเสร็จ เย่เทียนจึงหันไปลากเก้าอี้มาแล้วนั่งลงอย่างเฉยเมย จากนั้นมองจอห์นด้วยสีหน้าชั่วร้าย “อย่าหาว่าฉันไม่เตือน เดี๋ยวฉันจะถามจอห์นอีกที แกอย่าโกหกฉันเด็ดขาดเชียวล่ะ”
“ฉันตอบคำถามให้แกได้ แต่ฉันหวังว่าหลังจากนี้แล้วแกจะปล่อยฉันไป”
หลี่เหวินใจสั่นรัว เก็บความในใจเอาไว้ พยักหน้าอย่างจนปัญญา
“ไม่สิ ทำไมแกไม่เก่งเหมือนที่พูดล่ะ? เมื่อครู่ฉันยังบอกว่าแกเป็นคนฉลาดอยู่เลย ทำไมตอนนี้สมองถึงเลอะเลือนไปแล้ว?”
เย่เทียนเลิกคิ้วเบาๆ พลางพูดอย่างไม่สบอารมณ์:“ฉันฆ่าแกได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แกคิดว่าแกมีสิทธิ์อะไรมายื่นข้อเสนอกับฉัน?”
“ถ้าแกไม่ปล่อยฉัน แล้วทำไมฉันต้องบอก?”
หลี่เหวินพูดโต้แย้ง:“ยังไงฉันก็ต้องตายอยู่ดี ทำไมฉันต้องให้แกได้ในสิ่งที่ต้องการ?”
เย่เทียนเบ้ปากพูดเหยียดหยาม :“ต่อให้ฉันรับปากแกแล้วยังไง? แกไม่กลัวฉันกลับคำงั้นเหรอ?”
“ถ้าฉันเดาไม่ผิด แกคงเป็นผู้ฝึกตนระดับดินใช่ไหม?”
หลี่เหวินมองเย่เทียนอย่างมีความหมายลึกซึ้ง พลางพูดหลงตัวเอง:“ คงเป็นเกียรติสำหรับฉัน ถ้าแม้แต่คนระดับอย่างแกก็ยังพูดกลับคำเล่นละครกับฉัน”
“เอาล่ะๆ ฉันตกลงก็ได้?”
เย่เทียนโบกมือไปมาอย่างช่วยอะไรไม่ได้ แล้วพูดเตือน:“แต่ฉันหวังว่าแกจะไม่โกหกฉัน ไม่งั้นฉันรับรองว่าจะให้แกได้ลิ้มลองโทษที่เจ็บปวดที่สุดในโลกก่อนตายแน่นอน!”
“ว่ามาสิ! แกอยากรู้อะไร? ฉันรับรองว่าถ้ารู้ก็จะบอก!”
หลี่เหวินไม่เรียกร้องเงื่อนไขรับประกันอะไรกับเย่เทียนอีก
เพราะยังไงก็เหมือนที่เย่เทียนพูดนั่นแหละ ถ้าจบเรื่องแล้วเย่เทียนกลับคำ เขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ทำไมต้องเสียเวลากับคำพูดพวกนั้นด้วย?
“คำถามแรก แกร่วมมือกับจอห์นและมาประเทศจีนมีจุดประสงค์อะไร?”
เห็นหลี่เหวินพูดอย่างตรงไปตรงมา เย่เทียนจึงไม่อ้อมค้อม
“มะ มีคนต้องการชีวิตของถังเหวินหลง ฉันกลัวจัดการคนเดียวไม่ได้ จึงให้จอห์นมาช่วย”
คำพูดของหลี่เหวินยืนยันได้ทันทีว่าการคาดเดาของเย่เทียนถูกต้อง พวกเขามาเพราะถังเหวินหลงจริงๆ
เย่เทียนหรี่ดวงตาสีดำขลับลงอย่างอดไม่ได้ แอบสงสัยว่าใครกันที่มีอำนาจขนานนี้ ถึงกล้าเอาชีวิตของถังเหวินหลง ขุนนางชั้นผู้ใหญ่คนนี้?
“รู้ไหมว่าใครต้องการชีวิตของถังเหวินหลง?”
“ฉะ ฉันไม่รู้เหมือนกัน”
หลี่เหวินส่ายหน้าอย่างขมขื่น เมื่อเห็นสายตาสงสัยของเย่เทียน เขาก็รีบโบกมือไปมาทันที “คุณน่าจะรู้ ว่าผมได้รับคำสั่งมาจากเว็บมืด ผมไม่รู้จริงๆว่าใครเป็นคนมอบหมายงาน”
เย่เทียนพยักหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้ารับงานมาจากเว็บมืดจริง หลี่เหวินคงไม่รู้จริงๆว่าใครเป็นคนสั่ง
“งั้นแกรู้ไหมว่าทำไมอีกฝ่ายถึงต้องการชีวิตของถังเหวินหลง?”
“ฉะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
หลี่เหวินส่ายหน้าอีกรอบ “ไม่รู้ว่าแกรู้จักเว็บมืดมากน้อยแค่ไหน มันเป็นแค่แพลตฟอร์มสำหรับเผยแพร่และรับงาน ไม่เขียนเหตุผลที่ละเอียดชัดเจน”
“ช่างเถอะๆ”
แม้เย่เทียนคาดหวังกับคำตอนนี้มาก แต่พอได้ยินเข้าจริงๆก็ผิดหวังเล็กน้อย
ทว่าเย่เทียนไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะยังไงอีกฝ่ายไม่ได้พุ่งเป้ามาที่เขา จากความสามารถของถังหลงเหวิน จะมีศัตรูก็ไม่ใช่เรื่องแปลก?
คิดเช่นนั้นเย่เทียนก็ไม่มีอะไรจะถามอีก จึงลุกจากเก้าอี้อย่างโล่งๆ พูดด้วยสีหน้าเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม:“หลังจากนี้ แกคงรู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง?”
“ฉันรู้”
ตั้งแต่วินาทีที่มั่นใจว่าเย่เทียนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับดิน หลี่เหวินก็รู้ว่าตัวเองนั้นไม่มีความเป็นไปได้ที่จะหนีรอด เขากัดฟันย่ำเท้า ปล่อยหมัดกระแทกหลังคอตนอย่างรุนแรง ทำให้ตนสลบไป
เมื่อครู่เย่เทียนพูดไว้แล้ว ว่าจะถามจอห์นอีก เปรียบเทียบคำตอบของทั้งสองฝ่าย
เย่เทียนไม่คิดว่าหลี่เหวินจะตรงไปตรงมาขนาดนี้ แต่นี่ก็ประหยัดแรงเขาไปไม่น้อย เขาเข้าไปตรวจดูหลี่เหวิน หลังจากมั่นใจว่าเขาสลบไปแล้ว จึงปลุกจอห์นให้ฟื้น……