ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ - บทที่ 616 ฉันมั่นใจในตัวนาย
ชายร่างกำยำดูหมิ่นเย่เทียนจากใจลึกๆ อย่างเห็นได้ชัด ต่างก็พุ่งไปตรงหน้าเย่เทียนด้วยความอึกทึก หมัดใหญ่เท่าหม้อพุ่งใส่ตรงหน้าของเย่เทียน
ดูจากสภาพแบบนั้นแล้ว ถ้าพูดจากใจจริง เกรงว่าเย่เทียนไม่ตายก็คงบาดเจ็บสาหัส!
“หมานจือ นายคอยดูไว้เถอะ ข้าพนันว่าไอ้หมอนั่นต้องโดนหมัดนี้จนทรุดลงบนพื้นแน่นอน!”
พวกโอชิเห็นสถานการณ์แบบนี้ ต่างก็ปั้นหน้าตื่นเต้นดีใจขึ้นมา
เพียงแต่ว่า พวกเขาเพิ่งจะพูดจบ ทุกคนที่กำลังรับชมต่างก็หดหู่ใจไปทันที ไม่เข้าใจจริงๆ ว่านี่มันสถานการณ์อะไรกันแน่
ในชั่ววินาทีนั้น อันที่จริงพวกเราเห็นหมัดของชายร่างกำยำกำลังกระแทกลงบนร่างของเย่เทียน ทว่าเย่เทียนกลับไม่รู้ว่าใช้วิธีอะไร กลับหลบหมัดนั้นได้ ทว่าในสายตาของเขา เย่เทียนเหมือนไม่ได้ขยับเลยสักนิด
แม้กระทั่งพวกผู้ชมยังเป็นแบบนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชายร่างกำยำที่เป็นคู่กรณี ยังคงทำหน้าฉงนสงสัย เหมือนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเย่เทียนใช้วิธีอะไรหลบหมัดหนักนี้ของตัวเองไปได้
“คุณช้าเกินไป”
เย่เทียนส่ายหัวเล็กน้อย แล้ววิพากษ์วิจารณ์ “ต่อให้กำลังของคุณจะแข็งแกร่งแค่ไหน แม้แต่หลบศัตรูยังไม่ได้เลย สุดท้ายก็ต้องแพ้อย่างไร้ข้อสงสัยอยู่แล้ว!”
ขณะที่พูด เย่เทียนก็ขยับขาราวกับเสือชีตาห์ที่วิ่งไปโผล่ด้านข้างของชายร่างกำยำคนนั้นทันที
สิ่งที่ทำให้คนไม่คาดคิดก็คือชายร่างกำยำกลับโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ เอี้ยวตัวขว้างหมัดไปอีกครั้งโดยไม่คิด
เย่เทียนไม่ได้มีอารมณ์มาเล่นกับชายร่างกำยำ เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังขว้างหมัดเข้ามา กลับจึงขยับลำตัวเข้าไปใกล้เหมือนมองไม่เห็น
ตอนที่หมัดของชายร่างกำยำกำลังจะสัมผัสกับตัวเอง เย่เทียนก็เอี้ยวคอเล็กน้อย ขณะที่หลบหลีกด้วยความเสี่ยงอันตราย มือขวาแตะร่างของชายร่างกำยำอย่างว่องไวไปสองสามที
อย่าเห็นว่าการแตะแค่สองสามทีนั้นดูธรรมดา ทว่าเย่เทียนเล็งไปที่เส้นลมปราณของชายร่างกำยำอย่างแม่นยำ ขณะที่รับประกันได้ว่าชายร่างกำยำคนนี้จะขาดความสามารถในการต่อสู้ และยังทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรอีกต่อไป
ไม่ว่ายังไงชายร่างกำยำคนนี้ก็คือทหารโดดเด่นคนหนึ่งที่คุ้มครองประเทศชาติ ถ้าต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันครั้งนี้ ก็คงจะไม่คุ้มค่าเกินไป
เย่เทียนรู้สึกว่าตัวเองยังรักชาติมาก แล้วจะให้เสาหลักของประเทศชาติได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?
พอนึกถึงแบบนี้ ไหวพริบอันฉับไวของเย่เทียนประดุจภูตผี แล้วเอาฝ่ามือฟาดไปบนร่างของชายร่างกำยำอีกหนึ่งที
“อึก…”
ชายร่างกำยำอดโอดอวยไม่ได้ ร่างขนาดใหญ่วาดเป็นเส้นโค้งอันสง่างามในอากาศ และตกลงไปตรงตำแหน่งที่ออกห่างสามเมตรอย่างหนัก
เขามีใจที่อยากจะลุกขึ้นต่อสู้ต่อ ทว่าร่างกายกลับอ่อนเพลียมาก เหมือนว่าได้ใช้แรงงานมาทั้งวัน ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย แม้แต่ลุกขึ้นยังยาก!
“กรรมการ เขาลุกขึ้นมาไม่ได้ทันที คุณยังไม่ประกาศผลอีกเหรอ?”
เย่เทียนยังคงยืนอยู่ที่เดิมที่สภาพที่สมบูรณ์ แล้วตะโกนใส่กรรมการที่กำลังถมึงทึงอยู่ที่ไม่ไกล
กรรมการก็คาดคิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นแบบนี้ จึงมองเย่เทียนด้วยสายตาลุ่มลึก แล้วป่าวประกาศออกมา “เขาไม่มีแรงจะต่อสู้อีกแล้ว การแข่งขันครั้งนี้ คุณเป็นฝ่ายชนะ!”
ต้องรู้ว่ายังไงนี่ก็คือการแข่งขันความสามารถของทีมสายฟ้า ผู้เข้าแข่งขันไม่ใช่คนธรรมดา ผู้ที่สามารถเป็นกรรมการได้ ก็ต้องไม่ใช่บุคคลธรรมดาอะไรอยู่แล้ว แล้วจะมองไม่ออกได้อย่างไรว่าชายร่างกำยำเป็นยังไงบ้าง
“เยี่ยมมาก!”
ได้คำตอบที่แน่ชัดแล้ว เย่เทียนก็ขยับสิ่งที่อยู่ในมือเล็กน้อย เข็มชี่ทิพย์ดีดขนาดเล็กดีดออกมาอย่างไม่ทิ้งร่องรอยใด ทิ่มแทงลงบนร่างของชายร่างกำยำทันที
ไหนๆ ไม่ได้ทำร้ายคน และไม่ได้ทำร้ายตัวเอง สำหรับผลสรุปแบบนี้ เย่เทียนยังรู้สึกพึงพอใจมาก
ชายร่างกำยำรู้สึกแค่เหมือนโดนยุงกัดไปหนึ่งที ร่างกายกลับมามีแรงอีกครั้ง แล้วรีบลุกขึ้นอย่างไม่รีรอ พร้อมทั้งตะโกนเสียงดัง “ใครบอกว่าข้าไม่มีแรงสู้อีกแล้ว? นี่ข้าลุกขึ้นมาได้แล้วไม่ใช่หรือไง!”
ขณะที่พูด ชายร่างกำยำก็จู่โจมเย่เทียนอย่างไม่พอใจอีกครั้ง เหมือนว่ากำลังจะต่อสู้สามร้อยรอบ
เพียงแต่ว่าชายร่างกำยำเพิ่งจะถึงครึ่งทาง กลับโดนคนอื่นขวางทางไว้
เวลานี้ ชายร่างกำยำกำลังตกอยู่ในอาการที่ไม่พอใจอย่างมาก จึงเอ่ยปากด่าทอเสียงดัง โดยไม่มองหน้าคนคนนั้นเลย “แม่งเอ๊ย มึงอย่ามาขวาง…”
ปัง!
แต่ว่า ยังไม่ทันรอให้ชายร่างกำยำตะโกนจบ เขาก็วาดเส้นโค้งเหนืออากาศอีกครั้ง แล้วกระแทกบนพื้นแรงๆ อีกที
ชายร่างกำยำเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน จึงทำหน้าเปลี่ยนไปทันที ราวว่ามะเขือเทศที่โดนน้ำแข็งสะท้าน จะกล้าอารมณ์เดือดพล่านอีกได้ยังไง
“เมื่อกี้คุณรู้สึกว่าไม่มีเรี่ยวแรง แม้แต่ลุกขึ้นก็ไม่ไหวใช่ไหม?”
“นั่นเป็นเพราะเขาปิดกั้นเส้นลมปราณของคุณไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาปล่อยพลังภายในคลายเส้นลมปราณให้คุณ ตอนนี้คุณยังคงเป็นหมาตัวหนึ่งที่คลานบนพื้นไปแล้ว!”
กรรมการส่ายหัวเล็กน้อย แล้วอธิบาย “ปล่อยพลังภายในออกมาเป็นสัญลักษณ์ของผู้แข็งแกร่งระดับดำ ความสามารถของคุณฝืนมาได้ถึงระดับเหลืองตอนปลายแล้ว ยังมีอะไรไม่พอใจอีก ไม่รู้จริงๆ ว่าคุณมาเข้าแข่งขันคัดเลือกในครั้งนี้ได้ยังไง!”
กรรมการคนนี้ไม่ธรรมได้จริงๆ คำพูดแค่สองสามประโยค ก็พูดถึงวิธีที่เย่เทียนแสดงออกอย่างชัดเจน กลับทำให้เย่เทียนประเมินค่าของกรรมการคนนี้สูงขึ้น
เขาสามารถบอกสิ่งที่เขาแสดงออกมาทั้งหมด ความสามารถที่ต่ำที่สุดของเจ้าหมอนี่ยังเป็นระดับดำ อีกอย่างต้องได้เป็นระดับดำมาหลายปี เป็นแม่ทัพเก่าแก่ที่ผ่านสนามรบมานานถึงจะได้ ไม่แน่อาจจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับดินก็ได้!
ว่ากันว่าผู้แข็งแกร่งระดับดำก็มีอำนาจที่เพียงพอในประเทศจีนแล้ว ดูๆ แล้วคำพูดนี้ไม่ใช่ความเท็จทั่วไปเลยจริงๆ!
ไม่ใช่ว่าประเทศจีนไม่มีผู้แข็งแกร่ง ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงหนีไปอยู่ในหน่วยหมดแล้ว และไม่น่าล่ะสถานที่ที่เคารพในศิลปะการต่อสู้ในโลกแห่งการศิลปะการต่อสู้ ยังเชื่อฟังคำสั่งของเบื้องบนเลย!
“ปล่อยพลังภายใน? ผู้แข็งแกร่งระดับดำ!”
ชายร่างกำยำรีบถลึงตาทั้งสองข้างทันที ดวงตาดำวาวคู่นั้นมองไปที่กรรมการโดยตรง สายตาเต็มไปด้วยความแปลกใจ
“ไม่ต้องมองข้าแล้ว ข้าคือสมาชิกของทีมสายฟ้า ลู่เกาเจี๋ย!”
กรรมการเห็นสายตาของเย่เทียน จึงยิ้มจางๆ “คุณชื่อว่าเย่เทียนใช่ไหม? ผมมั่นใจในตัวนาย หวังว่าพวกเราจะได้เคียงไหล่ต่อสู้กัน
“ผมจะไม่ให้คุณรอนานเกินไป”
เย่เทียนยิ้มโดยมีปริยาย คำพูดเต็มไปด้วยความมั่นใจ!
เวลานี้ชายร่างกำยำก็ได้สติกลับมา แล้วมองเย่เทียนที่อยู่ตรงกันข้าม นัยน์ตาดั่งกระดิ่งทองแดงก็เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง ชายที่แม้แต่กรรมการยังมั่นใจ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาสามารถเทียบได้จริงๆ!
ชายร่างกำยำรู้สึกเคารพเป็นอย่างมาก และคนอื่นต่างก็รู้สึกตกตะลึง
พวกเขานึกไม่ถึงเลยจริงๆ เย่เทียนจะสามารถทำให้ชายร่างกำยำพ่ายแพ้อย่างง่ายดายแบบนี้ อีกอย่างเพราะว่าระยะทาง ทำให้ทอดทิ้งยอดฝีมือในยอดฝีมือสองสามนาย ส่วนมากก็ไม่เห็นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะคำพูดที่กรรมการเพิ่งจะบอก ก็ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกตกตะลึงกว่าเดิม!
“นี่ๆ พวกนายไม่ได้ยินกันหรือไง แม้กระทั่งกรรมการสนามแข่งขันเบอร์เจ็ดยังบอกว่ามั่นใจในตัวเย่เทียนเลย!”
“กรรมการพวกนั้นเป็นสมาชิกอย่างเป็นการทางของทีมสายฟ้า ต้องเป็นยอดฝีมือในยอดฝีมืออีกที หรือว่าไอ้หมอนั่นแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“นี่มันเป็นไปได้หรือ? ข้าไม่ได้ฝันอยู่ใช่ไหม? รีบตบข้าที ให้ข้าได้เห็นว่ามันใช่เรื่องจริง”
ฉากนี้ทำให้พวกเขาตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยจริงๆ!