ข้าจับปีศาจสาวได้ตัวหนึ่ง 天上掉下个美娇娘 - ตอนที่ 14 ถูกหลอก
เสียงของเขาทำให้อาสะใภ้รองที่วิ่งไปถึงปากตรอกเกือบจะสะดุดล้มหน้าคว่ำ รองเท้าหลุดกระเด็นไปข้างหนึ่ง แต่นางก็ไม่มีเวลาสนใจ ได้แต่รีบหนีเอาชีวิตรอดเท่านั้น
เซียวเถี่ยเฟิงกลับเข้าไปในบ้าน เห็นปีศาจสาวยังคงกอดกระจาดไว้กับอกแน่น ดวงตาสุกใสมองเขาอย่างหวาดระแวง สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เขาส่ายหน้าอย่างจนใจ จากนั้นจึงก้าวเข้าไปลูบผมดำสนิทของนางเบาๆ
“ที่แท้เจ้าชอบกินไข่มากขนาดนี้?”
“ข้าเองก็จำได้ว่างูชอบกินไข่”
“อย่าโมโหไปเลย พรุ่งนี้ข้าจะขึ้นเขาไปหามาให้”
“เด็กดี ถึงข้าจะจน แต่ก็จะไม่ปล่อยให้เจ้าหิวหรอก”
แต่เสียดาย เขาพูดอยู่เป็นนาน สุดท้ายปีศาจสาวกลับสะบัดหน้าหนีพลางทำปากเชิด ฮึ!
กู้จิ้งดูแคลนพฤติกรรมของตาล่ำบึ้กใจดีที่กำลังลูบหัวเธอมาก
เธอตระหนักดีว่า ไม่ว่าหมาป่าพยายามแสร้งทำเป็นใจดีมากขนาดไหน มันก็อยากกินหนูน้อยหมวกแดงอยู่ดี ดังนั้นจะปล่อยให้ตัวเองถูกหลอกจนหลงเชื่อว่าเขาเป็นคนดีไม่ได้เด็ดขาด
จะต้องมองโฉมหน้าที่แท้จริงของศัตรูให้ออก!
ระหว่างที่กู้จิ้งคิดเช่นนี้ ตาล่ำบึ้กใจดีก็พูด “@#%&^*#” กับเธอประโยคหนึ่งก่อนจะเดินออกไป
กู้จิ้งเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวด้านนอก เธอได้ยินเสียงแกรกครั้งหนึ่ง เหมือนเสียงใส่กลอนประตู?
กู้จิ้งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะมองผ่านหน้าต่างเก่าทรุดโทรมออกไปยังลานบ้านว่างเปล่าซึ่งมีน้ำขังเป็นแอ่งๆ ทันใดนั้น เธอก็ยิ่งตระหนักถึงสถานการณ์ของตัวเอง ก็เหมือนแม่หมูที่ถูกเลี้ยงไว้ในคอกน่ะสิ!
หึ! ตาล่ำบึ้กใจดีกลัวเธอจะหนีก็เลยใส่กลอนประตูเอาไว้สินะ
ไม่ เขาอาจจะไม่ได้ใจดี แค่เสแสร้งเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องโกหก ตา 卜ล่ำบึ้ก!
กู้จิ้งนึกเหยียดหยามตา卜 ล่ำบึ้กไปพลาง ทบทวนสถานการณ์ของตัวเองไปพลาง
จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เธอก็พอจะเดาได้ เพียงแต่มีตา 卜 ล่ำบึ้กอยู่ด้วย เธอไม่สะดวกจะพิสูจน์ ยากนักกว่าจะได้อยู่ตามลำพัง เธอจึงรีบล้วงกระเป๋าหนังสีดำใบนั้นออกมาจากอกเสื้อทันที
กระเป๋าหนังสีดำใบนั้นดูค่อนข้างโบราณ ทั้งยังมีสไตล์เรียบง่าย คล้ายกับกระเป๋าทรงถังแบรนด์ดังซึ่งเป็นที่นิยม
กู้จิ้งลองล้วงมือเข้าไปสำรวจอย่างระมัดระวัง
ก่อนหน้านี้เธอโยนของเข้าไปเกือบหมดห้อง สุดท้ายข้าวของเหล่านั้นกลับหายไปจนหมด แต่ตอนที่เธอมุดออกมาจากกระเป๋า เธอกลับสัมผัสโดนข้าวของจำนวนหนึ่ง หนึ่งในนั้นก็คือมีดผ่าตัดเล่มนั้น
ถ้าเธอหยิบมีดผ่าตัดออกมาได้ แล้วของชิ้นอื่นๆ เล่า?
กู้จิ้งควานดูในกระเป๋าด้วยหัวใจเต้นแรง
ควานอยู่นาน ในที่สุดปลายนิ้วก็เหมือนจะสัมผัสโดนอะไรบางอย่าง กู้จิ้งดีใจมาก เธอรีบหยิบมันออกมาดูทันที
พอได้เห็น เธอก็ต้องประหลาดใจไม่น้อย
สิ่งที่อยู่ในมือของเธอคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปห่อหนึ่ง!
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เธอมองมันน้ำตาคลอ อยากกิน…
แต่สุดท้ายเธอก็อดกลั้นเอาไว้ได้ กู้จิ้งล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าอีก จากนั้นก็ล้วงกล่องปฐมพยาบาล, ไขควง, ไฟแช็ก…ออกมาทีละอย่างๆ
กู้จิ้งแทบไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง เห็นชัดๆ ว่าเป็นกระเป๋าแบนๆ ที่เหมือนไม่ได้ใส่อะไรเอาไว้ แต่ข้างในกลับมีข้าวของซ่อนอยู่มากมายขนาดนี้
เธอสูดหายใจ แล้วก็สูดหายใจ สุดท้ายก็ยื่นมือสั่นระริกไปหยิบมีดผ่าตัด, ไขควง, ไฟแช็ก, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใส่กลับเข้าไปในกระเป๋า จากนั้นจึงเปิดกล่องปฐมพยาบาล หยิบยาออกมาทาข้อเท้าของตัวเอง
ยาที่เธอใช้มีสรรพคุณดีมาก อีกไม่นานขาของเธอก็คงจะหายดี ขาหายเมื่อไหร่ เธอจะหาวิธีหนีไปจากที่นี่!
เธอกลัวตา卜ล่ำบึ้กจะค้นพบความลับของเธอ ดังนั้นจึงรีบเก็บมีดผ่าตัดกับกล่องปฐมพยาบาลใส่กระเป๋าแล้วนั่งทับกระเป๋าเอาไว้
ใครคิดจะแตะต้องกระเป๋าของเธอ ต้องข้ามศพเธอไปก่อน!
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน ตรงประตูใหญ่มีเสียงแกรกดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงฝีเท้า ตา卜ล่ำบึ้กกลับมาแล้ว เขายังถือเสื้อผ้าสองชุดกับตะกร้าไม้ไผ่ใบหนึ่งกลับมาด้วย
ตา卜ล่ำบึ้กก้าวเข้ามาในบ้านก่อนจะวางเสื้อผ้าสองชุดลงตรงหน้าเธอ “#$@%&@$”
ปากพูด “#$@%&@$” มือก็โบกไปมา สุดท้ายจึงชี้มาที่ขาของกู้จิ้ง
กู้จิ้งเข้าใจแล้ว เขาบอกให้เธอสวมเสื้อผ้า
เธอหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาคลี่ดู
ตา卜 ล่ำบึ้กเหมือนจะทนดูไม่ได้ เขาดึงเสื้อผ้าไปจากมือเธอแล้วพลิกกลับหัวลง
เอ่อ…ที่แท้ก็หยิบผิดด้าน… มิน่าถึงหาช่องที่จะสอดขาเข้าไปไม่เจอ
กู้จิ้งหาช่องที่จะสอดขาเข้าไปพบแล้วก็ลองสวมดู แต่พอสอดขาเข้าไปก็ยังมีผ้ามีกระเป๋าอีกเป็นกอง นี่ๆๆ นี่มันอะไรกัน?
ตา卜ล่ำบึ้กทนดูไม่ไหวแล้วจริงๆ เขาหย่อนกายลงบนเตียงแล้วเอื้อมมือมาช่วย
กู้จิ้งนั่งยองๆ อยู่บนเตียง ส่วนตา卜ล่ำบึ้กนั่งอยู่ข้างๆ มือทั้งสองของเขาแทบจะโอบรอบกายเธอ ดูเผินๆ จึงเหมือนเธอกำลังถูกเขากอดเอาไว้
จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เขาก็เคยกอดเธอ ตอนนั้นเธอแค่รู้สึกว่าบ่าของเขากว้างสบายดี ไม่ได้คิดเรื่องอื่น แต่ตอนนี้ เธอถูกเขาโอบเอาไว้หลวมๆ ตามองดูแผงอกแข็งแกร่งเป็นมันเลื่อม สมองก็เริ่มมึนงงเหมือนคนขาดออกซิเจน…
ต้องเป็นเพราะเธอเคยเห็นว่าท่อนล่างของแครอตมีหน้าตาเป็นยังไงแน่!
ลมหายใจของเธอหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ พอตา卜ล่ำบึ้กโน้มตัวลงรัดผ้ารัดเอวที่ด้านหลังให้ ร่างของเธอก็ทรุดลงพาดบนบ่าของเขา
กล้ามเนื้อแข็งแกร่งของเขาแข็งมาก แข็งเหมือนหิน
ร่างของตา卜ล่ำบึ้กแข็งค้างอยู่กับที่ เธอได้ยินเสียงลมหายใจของเขา มันหนักหน่วงมากเหมือนสิงโตซึ่งถูกยั่วโทสะ ทำให้ผู้คนหวาดกลัว คาดหวัง และทำอะไรไม่ถูก
หากยอมตา卜ล่ำบึ้กง่ายๆ เสียแต่ตอนนี้ จะดูไร้ศักดิ์ศรีดูไม่เอาไหนดูง่ายเกินไปหรือเปล่า?
แต่เขาใจดีมาก เวลายิ้มดูอบอุ่น หุ่นก็ดูดี…
กู้จิ้งขบฟันเบาๆ ด้วยความลังเล เนื้อชั้นดีที่ลอยมาถึงมือแบบนี้ จะกินหรือไม่กินดีนะ?
ทันใดนั้น ตา卜ล่ำบึ้กก็ส่งเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอ เสียงนั้นฟังดูราวกับลูกโป่งที่กำลังพองตัวเต็มที่และอาจจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
นี่เป็นเสียงของผู้ชาย แถมยังเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรง ผู้ชายที่เปี่ยมด้วยฮอร์โมนของบุรุษเพศ!
กู้จิ้งยื่นมือสั่นระริกไปโอบรอบลำคอของเขาเอาไว้ช้าๆ จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นพลางหลับตาลง
ถึงเธอจะเป็นสาวไร้ประสบการณ์ แต่จริงๆ แล้วเธอไม่ใช่คนหัวโบราณ เพียงแต่ไม่มีโอกาสเท่านั้น ในเมื่อตอนนี้เธอกระหายอยากลองชิมท่อนล่างของแครอตเต็มที ทำไมถึงไม่ปล่อยให้ตัวเองได้มีประสบการณ์วันไนต์สแตนด์ให้สะใจไปเลยเล่า?
เธอแหงนหน้าขึ้นสัมผัสกับกลิ่นอายของชายหนุ่มที่อบอวลอยู่ตรงปลายจมูก
เธอรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งราวหินที่อยู่ตรงหน้า รับรู้ได้ถึงสัมผัสตึงแน่นชื้นเหงื่อใต้ปลายนิ้ว
สิ่งที่เธอทำได้มีเพียงแค่นี้ เรื่องต่อจากนี้ มอบให้เป็นหน้าที่ของเขาเถอะ
ไม่ผิดจากที่คาดไว้ ตา卜ล่ำบึ้กกระชับอ้อมแขนกอดเธอแน่น ราวกับอยากจะรัดร่างเธอให้แหลกเป็นชิ้นๆ
เธอกัดฟันทน ไม่ส่งเสียงสักแอะ
ในเมื่อคิดจะมีอะไรกับตาล่ำบึ้ก เธอก็เตรียมใจไว้แล้วว่าคงไม่มีบทเล้าโลมที่แสนจะอ่อนโยนแน่
แต่ไม่เป็นไร เธอเตรียมใจเอาไว้แล้ว เข้ามาเลย!
ฝนจะตกก็เทกระหน่ำลงมาได้เลย!
ทันใดนั้น ตา卜ล่ำบึ้กก็เอ่ยเสียงทุ้มต่ำขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างที่แข็งแกร่งราวกำแพงก็พลอยสั่นรุนแรงตามไปด้วย
กู้จิ้งเริ่มงง ถึงเธอจะไม่เคยกินเนื้อหมู แต่เธอก็รู้ว่าหมูวิ่งยังไง
ดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกต้องนะ?
กู้จิ้งเริ่มสังหรณ์ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ แต่เธอยังไม่ทันได้คิดให้ละเอียด คนที่กอดเธอเอาไว้ก็ปล่อยมือไปเสียเฉยๆ ทำให้เธอเกือบจะล้มหัวกระแทกเตียง
กู้จิ้งเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มด้วยความงุนงง แต่เขากลับเผ่นหนีไปเสียแล้ว
บนเตียงเหลือเพียงแค่กลิ่นดอกสือหนานหอมอบอวล
เธอนั่งตะลึงอยู่ตรงนั้นเป็นนาน ในที่สุดก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
เป็ดที่กำลังจะอ้าปากงับบินหนีไปแล้ว?
บินหนีไปแล้ว?
หนีไปแล้ว…
ตั้งแต่เกิดเรื่องเป็ดบินหนีเมื่อตอนบ่าย กู้จิ้งก็อารมณ์ไม่ดีนัก เป็นเหตุให้เธอมองตา卜ล่ำบึ้กด้วยสายตาเย็นชาแกมโมโห ตา卜ล่ำบึ้กเองก็คงรู้ดีว่าตัวเองทำผิด เขาจึงไม่กล้ามองเธอตรงๆ ซ้ำหากบังเอิญสบตากัน เขาก็จะรีบเบือนหน้าหนี แต่ถึงจะเบือนหน้าหนี ใบหน้าเขาก็ยังกลายเป็นสีแดงก่ำ แม้กระทั่งหูก็พลอยแดงไปด้วย
ฮ่าๆ ฮ่าๆๆๆ
นอกจากฮ่าๆ กู้จิ้งยังจะพูดอะไรได้อีก…
คืนนั้นตา卜ล่ำบึ้กไม่กล้าขึ้นมานอนบนเตียงก็เลยนอนบนพื้นแทน
ไม่มีหน้าขึ้นมานอนบนเตียงงั้นรึ? กู้จิ้งแค่นเสียงฮึดฮัด จากนั้นก็คว้าผ้าห่มขาดๆ ของตา卜ล่ำบึ้กมาคลุมโปงแล้วหลับไปทันที
คืนนั้นผ่านไปอย่างเงียบสงบ แม้กระทั่งความฝันก็ไม่มี วันรุ่งขึ้น ตา卜ล่ำบึ้กออกไปทำงาน ส่วนกู้จิ้งยังคงปักหลักอยู่บนเตียง เธอไม่เจ็บขาแล้ว ดังนั้นจึงเริ่มฝึกเดินไปรอบๆ แน่นอน เรื่องนี้ต้องปิดบังไม่ให้ตา卜ล่ำบึ้กรู้ จะได้ฉวยโอกาสจัดการกับเขาแล้วเผ่นหนีไปโดยไม่ให้เขาทันได้ตั้งตัว
ตา卜ล่ำบึ้กเอาอาหารกลับมาให้เธอทุกวัน เป็นไข่ชนิดต่างๆ ทั้งไข่นกไข่ห่านไข่ไก่ วันนี้ทอดกิน พรุ่งนี้ต้มกิน มะรืนนี้นึ่งกิน กินไปกินมา เธอก็เริ่มเซ็ง ทำไมต้องกินไข่ทุกวันด้วย!
พอเบื่อมากๆ เข้า เธอก็แอบสังเกตคำพูดของตา卜ล่ำบึ้ก บางครั้งก็วิ่งไปแอบฟังเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงพูดคุยกันที่ข้างประตู หลังจากพิจารณาเปรียบเทียบดูอย่างละเอียด เธอก็เริ่มเข้าใจความหมายของคำหลายคำ