ข้าจับปีศาจสาวได้ตัวหนึ่ง 天上掉下个美娇娘 - ตอนที่ 60 รีบหาผู้ชายมาแต่งงานด้วยสักคน!
“ใช่ ฉันเก่งที่จับผู้ชายเอาไว้ได้ ถ้าเธอมีปัญญาก็อย่ามัวแต่เป็นม่ายอยู่สิ รีบหาผู้ชายมาแต่งงานด้วยสักคน! แต่เธอก็หาไม่ได้ เธอหาผู้ชายดีๆ ไม่ได้ สุดท้ายก็ได้แต่หว่านเสน่ห์ยั่วยวนผู้ชายของคนอื่นไปทั่ว เธอต้องเบิกตามองให้ชัดๆ นะว่าฉันเป็นเมียของเซียวเถี่ยเฟิง เขาเป็นผู้ชายของฉัน อย่ามาทำหน้าน่าสงสารแล้วก็จ้องข้าวในชามของคนอื่นไม่วางตาแบบนี้ หึ! ก็ใช่ เธอดูตัวเองสิ หน้าตาเหมือนถูกหมูจูบมาไม่มีผิด จะมีผู้ชายที่ไหนเอา? วิหารน็อทร์ดามที่ปารีสยังขาดคนเคาะระฆังอยู่ ฉันว่าเธอไปก็เหมาะสมดี!”
ผู้หญิงแบบนี้จะให้กำเนิดลูกหลานที่ฉลาดหลักแหลมและเพียบพร้อมสมเป็นกุลสตรีอย่างยายของเธอได้อย่างไร? ดังนั้นหล่อนต้องไม่ใช่บรรพบุรุษฝ่ายหญิงของเธอแน่ๆ!
ในเมื่อไม่ใช่บรรพบุรุษฝ่ายหญิงของเธอ กู้จิ้งก็สามารถเปิดฉากเล่นงานยัยมือที่สามนี่ได้เต็มที่
กู้จิ้งก้าวเท้าจากไปด้วยท่าทางไม่สะทกสะท้าน ทิ้งผู้หญิงทั้งกลุ่มให้ปากอ้าตาค้างอยู่ตรงนั้น แม้พวกนางจะไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของกู้จิ้งแต่ก็พอจะคาดเดาความหมายได้ “ต้าเซียนปากจัดเป็นบ้าเลย!”
“แถมยังคุมผัวเสียอยู่หมัด เราต้องเอาอย่างบ้าง!”
“ใช่ ข้าว่าเดี๋ยวนี้นางพูดอะไรเถี่ยเฟิงก็เชื่อฟังไปหมด ฝีมือควบคุมผัวแบบนี้ เราต้องไปไหว้บ่อยๆ แล้วก็ขอเรียนรู้ให้มากๆ”
กู้จิ้งย่อมไม่รู้ว่า เธอแค่ด่าหญิงม่ายไม่กี่ประโยคกลับทำให้อากาศนอกถ้ำมีมลพิษเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน
ช่วยไม่ได้ มีคนมาเซ่นไหว้มากควันก็เลยเยอะไปหน่อย
ตอนที่กู้จิ้งก้าวออกจากบ้านตระกูลจ้าว บังเอิญเจอเซียวเถี่ยเฟิงกับพวกหนิวปาจินกลับมาจากข้างนอกพอดี
เห็นได้ชัดว่าหนิวปาจินเป็นเพื่อนรักของเซียวเถี่ยเฟิง พอเห็นเธอ สีหน้าของเขาก็ไม่ค่อยดีนัก
แต่กู้จิ้งไม่สนใจ ช่วยไม่ได้ ปีศาจตัวร้ายทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องนี่นา หากใครเห็นใครก็รักยังจะเรียกว่าปีศาจตัวร้ายอีกหรือ?
เธอยกมือขึ้นปัดผมยาวเบาๆ พลางส่งยิ้มไปให้เซียวเถี่ยเฟิง “เสร็จงานแล้วหรือ?”
เซียวเถี่ยเฟิงเดินมากุมมือเธอเอาไว้ “วันนี้คนในหมู่บ้านแบ่งสัตว์ที่ล่ามาได้กัน เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปดู”
กู้จิ้งได้ยินเช่นนี้ก็ดีใจมาก เธอรีบพยักหน้า “ดีเลย บาดแผลที่หลังของนายยังไม่หาย ต้องบำรุงร่างกายให้มาก เอาไว้ฉันจะตุ๋นน้ำแกงให้ดื่มนะ”
พูดถึงบาดแผลบนหลังของเซียวเถี่ยเฟิง เธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ต้องโทษที่ศึกในถ้ำดุเดือดไปหน่อย บาดแผลที่พันไว้เรียบร้อยก็เลยปริอีก แม้จะมียาวิเศษอยู่ในมือ แต่จะให้หายเป็นปกติก็คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
หนิวปาจินเห็นเซียวเถี่ยเฟิงทั้งรักทั้งเอาใจนางปีศาจเช่นนี้ก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเคียดแค้น พี่น้องของเขา อยู่ดีๆ ก็ต้องถูกบังคับให้ไปอยู่ในถ้ำ
มีคนนับหมื่นมาเซ่นไหว้อะไรกัน? ถุย! เหลวไหล หลอกลวง ล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น!
เซียวเถี่ยเฟิงย่อมมองออกว่าพี่น้องไม่ชอบหน้าภรรยาของตัวเองมากขนาดไหน เขาจึงหันไปกล่าวกับหนิวปาจินว่า “เจ้ามีอะไรก็ไปทำเถอะ ข้าจะพาเมียไปดูเสียหน่อย”
หนิวปาจินมองเซียวเถี่ยเฟิงซึ่งมีเมียแล้วลืมพี่น้องก่อนจะหันไปถลึงตาใส่ผู้หญิงที่แย่งพี่น้องของเขาไปพลางกระทืบเท้า “เฮ้อ… เถี่ยเฟิงถูกปีศาจครอบงำไปแล้วจริงๆ!”
คนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ ส่งเสียงเตือนเบาๆ ว่า “ข้าว่าเถี่ยเฟิงแสดงออกชัดเจนมาก ใครว่าเมียเขาไม่ดี เขาก็จะห่างเหินจากคนคนนั้น ปาจิน ข้าว่าเจ้าต้องเปลี่ยนท่าทีแล้วล่ะ เขาเห็นเมียเหมือนแก้วตาดวงใจ เจ้าก็อย่าชักสีหน้าใส่เมียเขาอีกเลย แถมจะว่าไป เมียของเขาก็ไม่ธรรมดา สามารถรักษาคนหายได้ตั้งหลายคน ทุกคนต่างก็ซาบซึ้งใจมาก”
“ข้าชักสีหน้าใส่เมียเขา? พวกเจ้าไม่เห็นรึไงว่า เมียของเขาไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาเสียด้วยซ้ำ!”
กู้จิ้งย่อมได้ยินเสียงโต้แย้งที่ด้านหลังอย่างชัดเจน เธอยิ้มพลางกระชับแขนกอดแขนของเซียวเถี่ยเฟิงแน่นขึ้น
“เราแบ่งได้อะไรบ้างหรือ?”
“อยู่ตรงนี้”
เซียวเถี่ยเฟิงชี้
กู้จิ้งก้มลงมอง มองปราดแรกเห็นเลือดสีแดงชุ่มโชกดูน่ากลัวไม่น้อย แต่พอมองอีกครั้งก็เข้าใจ แบ่งมาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้เซียวเถี่ยเฟิงก็ล่าสัตว์ แต่สัตว์ที่ล่ามาได้มีแต่พวกกวางเก้งหมูป่ากระต่าย นอกจากเก็บไว้กิน ส่วนที่เหลือจะนำไปขายที่ร้านขายเนื้อในเมือง ก็พอจะแลกเหรียญทองแดงมาได้บ้าง
แต่สัตว์ที่ล่ามาได้ในครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน เพราะมีแต่ของมีค่าหายากทั้งสิ้น
ครั้งนี้มีหมาป่า, หมี, จิ้งจอกขาว, กวางตัวใหญ่, นกเฮยฉิน ยังมีโสมขนาดใหญ่มากๆ ซึ่งใช้เชือกสีแดงร้อยเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
“เราได้ส่วนแบ่งมากขนาดนี้เลยหรือ?” กู้จิ้งประหลาดใจไม่น้อย เพราะการล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ร่วงครั้งนี้มีคนเข้าร่วมค่อนข้างมาก แต่ละบ้านจะได้ส่วนแบ่งมากขนาดนี้เชียวหรือ?
“มีบางส่วนที่ข้าเป็นคนล่ามาเอง” เซียวเถี่ยเฟิงอธิบายสั้นๆ
กู้จิ้งเข้าใจทันที เซียวเถี่ยเฟิงเข้าป่าไปตามลำพัง ก่อนหน้านี้เขาก็บอกแล้วว่าครั้งนี้ตั้งใจจะไปล่าสัตว์ป่าหายาก ในเมื่อเขาพูดแล้ว ย่อมต้องพยายามสุดความสามารถ หลังจากคนอื่นๆ ถูกหมาป่าโจมตี เขาก็ยังช่วยคนอื่นๆ ต่อสู้กับหมาป่า สุดท้ายก็เลยกลับมาด้วยกัน
ด้วยเหตุนี้ นอกจากจะได้ส่วนแบ่งจากการล่าสัตว์ร่วมกับคนอื่นๆ แล้ว เขาก็ยังมีส่วนที่ล่ามาเองอีกด้วย
“พี่ล่ำ ฤดูหนาวปีนี้เราสบายแล้ว!” เธอเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ความไปเสียหมด ย่อมรู้ว่าอุ้งตีนหมีเขากวางโสมล้วนเป็นของมีราคา แค่เอาโสมหัวใหญ่ๆ หัวหนึ่งไปขายที่ร้านขายยา พวกเธอก็มีเงินพอกินพอใช้ไปตลอดฤดูหนาวแล้ว
เซียวเถี่ยเฟิงรีบกลับไปเอารถลากสองล้อที่บ้าน ส่วนกู้จิ้งนั่งเฝ้าสัตว์ที่ล่ามาได้ หมีตัวนั้นยังไม่ตายสนิท มันจึงส่งเสียงครางเป็นพักๆ ฟังดูน่ากลัว แต่ก็น่าสนใจไม่น้อย
ในตอนนั้นเอง เธอได้ยินเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นห่างไปไม่ไกลนัก “มีสัตว์ที่ล่ามาได้มากขนาดนี้เชียว เสียดายที่บ้านข้าแบ่งมาได้ไม่เท่าไหร่!”
เพียงเสียงนี้ดังขึ้น ผู้ชายอีกหลายคนที่ด้านข้างก็พากันหยอกเย้าว่า “ซิ่วเฟิน เฮยต้านคิดถึงเจ้าทั้งวันทั้งคืน ถ้าเจ้ายินดี เราจะให้เขาไปสู่ขอที่บ้านเจ้าวันพรุ่งนี้เลย!”
“ใช่ เฮยต้านของเราออกไปครั้งนี้ อ้าปากทีไรก็พูดถึงซิ่วเฟินอย่างนั้นซิ่วเฟินอย่างนี้ทุกที”
แต่ซิ่วเฟินกลับแค่นเสียงฮึคำหนึ่งพลางปรายตามองเฮยต้านซึ่งกำลังจ้องตัวเองตาไม่กะพริบด้วยสายตาดูแคลน “ช่างเถิด ต่อให้ข้าต้องเป็นม่ายทั้งชาติก็ไม่เอาเขาหรอก!”
แม้เฮยต้านจะมีเรี่ยวแรงมาก แต่ฐานะทางบ้านยากจน หน้าตาก็สู้เซียวเถี่ยเฟิงไม่ได้ ซิ่วเฟินจึงไม่ชอบสักนิด
ระหว่างที่พูดก็ปรายตามองมาทางกู้จิ้งพลางกล่าวเสียงขื่น “จับผู้ชายดีๆ ได้สักคนก็จะได้อยู่ดีกินดี แต่ข้าไม่มีวาสนาเช่นนั้น”
กู้จิ้งได้ยินเช่นนี้ก็พูดไม่ออกไปชั่วขณะ ผู้หญิงคนนี้ยังไม่ยอมเลิกราสินะ?
ท่านบรรพบุรุษของเธอบอกแล้วว่าไม่เคยคิดแบบนั้นกับซิ่วเฟิน แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยชอบ เขาบอกว่าซิ่วเฟินกับจ้าวจิ้งเทียนต่างหากถึงจะเป็นคู่กัน
ถ้าอย่างนั้น พวกเขาเข้าใจหรือเปล่า ทำไมยัยซิ่วเฟินอะไรนี่ถึงเอาแต่จ้องท่านบรรพบุรุษของเธอไม่วางตาแบบนี้?
กู้จิ้งคิดว่าเธอจำเป็นต้องช่วยขจัดอุปสรรคให้บรรพบุรุษฝ่ายหญิงในอนาคต
“เธอชื่อซิ่วเฟินใช่ไหม?” เธอยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างจริงใจ
“ใช่ ทำไมหรือ?” จู่ๆ เห็นกู้จิ้งยิ้มให้ ซิ่วเฟินก็อดหวาดผวาไม่ได้ เพราะจริงๆ แล้วนางเองก็กลัวผู้หญิงคนนี้
“ไม่มีอะไร ฉันแค่รู้สึกว่าพรุ่งนี้เธอน่าจะซื้อธูปไปไหว้ที่หน้าถ้ำของฉันหน่อยนะ รับรองว่าฉันจะคุ้มครองให้เธอได้พบกับผู้ชายดีๆ ในเร็ววัน จะได้ไม่ต้องคอยจ้องผู้ชายของคนอื่นตาเป็นมันอีก”
“เจ้า!” ซิ่วเฟินโมโหมาก นางจ้องอีกฝ่ายด้วยความเคียดแค้น “เจ้าแย่งเซียวเถี่ยเฟิงไป ตอนนี้ยังจงใจเอาเรื่องนี้มายั่วโมโหข้าอีก? เจ้าคิดว่าข้าทำเพื่อเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้หรือ? แม้ผัวของข้าจะตายไปแล้ว แต่ข้าก็ไม่ถึงขั้นต้องละโมบอยากได้ของแค่นี้ ข้า…”
“เธอควรจะเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ได้แล้ว” กู้จิ้งกล่าวเสียงเย็น
“เสื้อผ้า?” ซิ่วเฟินถูกขัดจังหวะก็รีบก้มลงมอง
“ใช่ เธอดูสิ อ้วนตั้งขนาดนี้ เสื้อผ้าแทบจะปริอยู่แล้ว” กู้จิ้งชี้บอกด้วยความปรารถนาดี
พอเธอชี้ ทุกคนก็หันขวับไปมองซิ่วเฟินเป็นตาเดียว เห็นเสื้อผ้าของซิ่วเฟินรัดแนบร่างก็พากันหัวเราะเสียงดังลั่น
“เจ้าท้องงั้นหรือ?”
“ผัวตายไปตั้งนานแล้ว จะท้องได้ยังไง?”
“เฮยต้าน คงไม่ใช่ลูกของเจ้าหรอกนะ?”
ท่ามกลางเสียงหัวเราะหยอกเย้านั้นเอง ไม่นานนัก เซียวเถี่ยเฟิงก็เข็นรถลากกลับมา
ซิ่วเฟินไม่ชอบให้คนเอานางกับเฮยต้านมาล้อเล่นมากที่สุด นางจึงกระทืบเท้าแล้วตวาดใส่ทุกคนด้วยความไม่พอใจ “มองอะไร พวกเจ้าสิท้อง พวกเจ้าท้องกันหมดทุกคนเลย!”
ทุกคนแตกฮือกันไปคนละทาง
เซียวเถี่ยเฟิงเดินมาจับมือกู้จิ้งเอาไว้ “เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
กู้จิ้งซึ่งเมื่อครู่ยังมีสีหน้าเย็นชาไม่สะทกสะท้านกลายร่างเป็นสาวน้อยผู้บริสุทธิ์ไร้เดียงสาน่าสงสารทันที “ไม่มีอะไร ฉันกำลังดูสัตว์ที่นายล่ามาอยู่ จู่ๆ พี่สาวคนนี้ก็โผล่ออกมาพูดแดกดันอย่างนั้นอย่างนี้ แถมยังบอกว่าฉันเป็นปีศาจจิ้งจอกที่ดีแต่ยั่วยวนผู้ชายอีกด้วย”
ปีศาจจิ้งจอกที่ดีแต่ยั่วยวนผู้ชาย?