ข้าจับปีศาจสาวได้ตัวหนึ่ง 天上掉下个美娇娘 - ตอนที่ 77 เงินทำบุญบ้าบออะไรกัน?
ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันด้วยความตื่นเต้น ผู้หญิงทั้งหลายต่างบอกว่าจะไป ทั้งยังบอกว่าตอนที่ไปจะต้องเอาเครื่องเซ่นไหว้อย่างนั้นอย่างนี้ไปด้วย จะไปฟังเฉยๆ โดยไม่เอาอะไรไปเลยได้อย่างไร
ส่วนพวกผู้ชายก็พากันตีอกชกหัวด้วยความเสียดาย “ทำไมถึงให้แต่ผู้หญิงไปฟัง ไม่ให้ผู้ชายไปฟังบ้าง? เราก็ศรัทธาเหมือนกันนะ!”
ให้ความสำคัญกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายงั้นรึ?
“ใช่ ต้าเซียนช่วยชีวิตข้า ข้าเองก็อยากไปฟัง ข้าเตรียมเงินทำบุญเอาไว้แล้วด้วย”
เงินทำบุญบ้าบออะไรกัน?
สุดท้ายพวกผู้ชายก็ได้แต่พูดกับพวกผู้หญิงด้วยความผิดหวังแกมอิจฉา “ไปแล้วช่วยถามด้วยนะว่า เมื่อไหร่จะเทศนาธรรมให้ผู้ชายบ้าง?”
เหล่าสตรีทั้งหลายได้ใจมาก จากนั้น พวกนางก็พากันเอาม้านั่งตัวเล็กกับของเซ่นไหว้ที่จะนำไปมอบให้ต้าเซียนไปที่นอกศาลของกู้ต้าเซียนเพื่อฟังต้าเซียนเทศนาโปรดสรรพสัตว์
จริงๆ แล้วกู้จิ้งเองก็เพิ่งเคยเปิดการบรรยายเป็นครั้งแรก เดิมคิดจะบรรยายให้คนกลุ่มเล็กๆ ฟังก่อน คิดไม่ถึงว่าพอถึงวันจริงเธอกลับต้องตกใจมาก ทำไมถึงมีคนมามากขนาดนี้? นอกบ้านของเธอเต็มไปด้วยผู้คนแน่นขนัดจนเรียกได้ว่าแทบไม่มีที่ยืนเลยทีเดียว
เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ข้ามาจากหมู่บ้านที่เชิงเขา ได้ยินมานานแล้วว่าต้าเซียนมีอาคมสูงส่ง ครั้งนี้เปิดสำนักถ่ายทอดวิชา ข้าเองก็อยากมาฟังเทศนาธรรมของต้าเซียน จะได้รู้ว่าทำอย่างไรคนในครอบครัวถึงจะปลอดภัย”
“สะใภ้ของข้ากำลังจะคลอดแล้ว นางท้องโตมาก ข้ากังวลเหลือเกิน ดังนั้นก็เลยตามมาฟัง ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ผลไหม แต่ข้าคิดว่าไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีผลเสียแน่นอน”
“ข้าเป็นคนหมู่บ้านซ่างหลินบนเขาเว่ยอวิ๋น เสี่ยวฮวาเอ๋อที่หมู่บ้านเราได้รับการช่วยชีวิตจากต้าเซียน นางบอกว่าต้าเซียนเก่งมาก ข้าก็เลยตามคนอื่นๆ มาฟัง พวกผู้หญิงในหมู่บ้านของเราต่างก็มากันหมด”
เทศนาธรรม? นั่นมันเรื่องบ้าบออะไรกัน?
กู้จิ้งยิ่งฟังก็ยิ่งพูดไม่ออก เธอไม่ใช่ปีศาจหรอกหรือ ทำไมถึงได้เทศนาธรรม ต่อให้เทศนาก็น่าจะเป็นมนตร์ปีศาจไม่ใช่หรือ? แต่มองดูแววตาที่เต็มไปด้วยความหวังของเหล่าสตรีทั้งหลายแล้ว เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ภาระหนักหนา หนทางยาวไกล เส้นทางการโปรดสัตว์ของเธอยังอีกยาวไกลนัก เธอต้องพยายามต่อไป
ไม่ว่าจะเป็นพระธรรมหรือมนตร์ปีศาจ เธอก็ต้องพูดๆ ไปก่อน
จริงๆ ครั้งนี้เธอแค่อยากจะลองถ่ายทอดความรู้ด้านสุขอนามัยให้ชาวบ้าน จึงคิดจะเริ่มต้นจากความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของผู้หญิงระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด เช่น ก่อนตั้งครรภ์ควรให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร, ระหว่างตั้งครรภ์ต้องใส่ใจเรื่องอะไร, ตอนคลอดต้องระวังเรื่องอะไร, หลังคลอดต้องดูแลตัวเองอย่างไร, ต้องดูแลเด็กทารกอย่างไร ฯลฯ
กู้จิ้งหยิบโพยที่เตรียมร่างเอาไว้ออกมาแล้วเริ่มพูดช้าๆ ทีละเรื่องๆ อย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์สมควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุราและกินผักผลไม้มากๆ ไปจนถึงระหว่างตั้งครรภ์ไม่ควรทำอะไร, ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไหน รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ ฯลฯ
พอพูดถึงช่วงการคลอด เธอยังเน้นย้ำถึงการออกกำลังสำหรับผู้หญิงหลังคลอดรวมทั้งอาหารที่มีน้ำตาลและแคลอรีสูงซึ่งควรหลีกเลี่ยงอีกด้วย
“เด็กไม่ควรตัวใหญ่มากเกินไป เพราะจะทำให้คลอดยาก ฉันรู้ดีว่าทุกคนต่างก็อยากได้ลูกหลานตัวอวบอ้วน แต่เด็กที่ตัวใหญ่เกินไปก็ไม่ต่างอะไรจากหายนะสำหรับคนเป็นแม่ เพราะนอกจากจะทำให้ต้องเจ็บปวดมากแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่จะคลอดยากสูง ซ้ำยังอาจทำให้เด็กมีพื้นฐานสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงอีกด้วย”
“หลังคลอดต้องให้ความสำคัญกับการฆ่าเชื้อ ทำความสะอาด…”
“สะดือของเด็กต้องทำความสะอาดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสะดือหลุดได้ประมาณสิบวัน โดยใช้แอลกอฮอล์เจือจางหรือไม่ก็ต้นอ้ายเฉ่าที่ทุกคนรู้จักฆ่าเชื้อ”
“ทุกคนควรบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เพื่อสร้างรากฐานร่างกายที่แข็งแรงและชีวิตรักที่มีความสุข”
การบรรยายครั้งนี้ กู้จิ้งพูดจนคอแห้ง คนฟังที่ด้านล่างก็มึนงงไปหมด
หลังจากการบรรยายเสร็จสิ้นลง ทุกคนมีปัญหามากมายที่ยังไม่เข้าใจ กู้จิ้งก็บอกให้ทุกคนถามคำถามได้เต็มที่
“อะไรคือฆ่าเชื้อทำความสะอาด?”
“อะไรคือน้ำตาลและแคลอรีสูง?”
“อะไรคือออกกำลังกาย?”
“อะไรคือการออกกำลังกายสำหรับคนท้อง?”
“อะไรคือการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน?”
คำถามมากมายถาโถมเข้าหากู้จิ้ง กู้จิ้งไม่มีทางเลือกจึงจำต้องอธิบายคำศัพท์พื้นฐานอย่างละเอียด รอจนทุกคนพอจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง เธอก็แสดงท่าโยคะสำหรับสตรีตั้งครรภ์และท่าบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานให้ทุกคนดู
เหล่าสตรีทั้งหลายรู้สึกแปลกใหม่เหลือเกิน มีหลายคนที่อยากจะลอง กู้จิ้งก็เรียกพวกนางออกมาข้างหน้าแล้วช่วยจัดท่าให้ถูกต้อง
กระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน ทุกคนถึงได้ก้าวออกจากศาลของกู้ต้าเซียนไปพร้อมกับความประหลาดใจ ตื่นเต้น และอาลัยอาวรณ์ หน้าบ้านของกู้จิ้งมีของเซ่นไหว้ถูกทิ้งไว้มากมาย บางคนถึงกับนำเงินขาวๆ มามอบให้
กำไรแล้ว~~
หลังจาก ‘การเทศนาธรรมของกู้ต้าเซียน’ เหล่าสตรีในหมู่บ้านต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเทศนาธรรมครั้งนี้เป็นการใหญ่ ในขณะเดียวกันพวกนางยังพูดถึง ‘เคล็ดลับการบำเพ็ญเพียร’ กันอย่างเกินจริงอีกด้วย
“นั่นไม่ใช่วิชาทั่วไป นั่นเป็นการบำเพ็ญเพียร หากบำเพ็ญเพียรได้ดีจะช่วยขจัดโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้ตัวเบาเหมือนนกนางแอ่น!”
“ลูกสะใภ้ของข้าฝึกโยคะสำหรับผู้หญิงท้อง พริบตาเดียวก็คลอดหลานของข้าออกมาได้แล้ว!”
“หงนิวเอ๋อข้างบ้านข้าฝึกวิชานี้ ทำให้ผัวของนางหลงนางมาก อยู่ในบ้านต้องเปิดศึกกันทุกวัน!”
“หมู่บ้านของเราใช้วิชาฆ่าเชื้อทำความสะอาดสะดือที่ต้าเซียนถ่ายทอดให้ เด็กที่เกิดใหม่สามคนไม่มีใครมีอาการสี่หกเลย!”
ยิ่งฟังคนอื่นๆ ก็ยิ่งเลื่อมใส “เราก็อยากฝึกวิชาพวกนี้เหมือนกัน!”
ไม่นานนัก คนที่นำของเซ่นไหว้มาที่หน้าบ้านของกู้จิ้งก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ในใจทุกคนเต็มไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธาและความกระตือรือร้น พวกเขาศรัทธาในตัวเธอ เคารพเธอ แม้กระทั่งที่บ้านมีปัญหากลุ้มใจอะไรก็อยากจะมาอธิษฐานกับเธอ
“ต้าเซียน คุ้มครองให้ผัวของข้าเปลี่ยนใจกลับมาด้วยเถิด”
“ต้าเซียน คุ้มครองให้ข้าคลอดลูกชายด้วย!”
“ต้าเซียน ลูกสะใภ้ของข้าอกตัญญูเหลือเกิน ท่านช่วยทำให้นางดีต่อข้าบ้างเถิด!”
คนที่มาขอร้องต้าเซียนส่วนใหญ่จะได้สมความปรารถนา จากนั้นคนที่สมปรารถนาก็นำความศักดิ์สิทธิ์ของกู้ต้าเซียนไปบอกเล่าต่อๆ กัน ทำให้ชื่อเสียงของกู้ต้าเซียนโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั่งวันหนึ่ง มีผู้หญิงคนหนึ่งมาทำท่าลับๆ ล่อๆ อยู่ที่นอกบ้านของกู้จิ้ง
กู้จิ้งเหลือบมองแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้สนใจอะไรนัก เธอคิดว่าอีกฝ่ายคงจะมาขออะไรบางอย่าง สรุปแล้วไม่ใช่คนป่วยเธอก็ไม่ต้องสนใจ อยากไหว้ก็ปล่อยให้ไหว้ไปเถอะ
ว่ากันว่าหากมากราบไหว้บ่อยๆ กราบไหว้ด้วยความจริงใจ จะได้สมความปรารถนา แถมยังบอกว่าเป็นเพราะเธอคุ้มครองอีกด้วย
เรื่องนี้ทำให้กู้จิ้งจนใจเหลือเกิน เธอไม่มีพลังไปคุ้มครองใครทั้งนั้น แม้กระทั่งคุ้มครองตัวเองก็ยังลำบาก
ดังนั้น พอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งมาทำลับๆ ล่อๆ อยู่ข้างนอก เธอก็เดินกลับเข้าไปในบ้านโดยไม่คิดจะใส่ใจ
คิดไม่ถึงว่า ผู้หญิงคนนั้นจะพึมพำขึ้นว่า “ยี่สิบสองปีก่อน ข้าทำลูกหายไปในภูเขา ลูกสาวของข้าชื่อฮุ่ยเหนียง นางถูกพระรูปหนึ่งจับใส่ถุงหนังสีดำไปโยนทิ้งในภูเขา ข้าคิดถึงลูกของข้ามายี่สิบสองปีเต็มๆ ต้าเซียน ขอร้องท่านช่วยหาลูกสาวกลับมาให้ข้าด้วยเถิด! หากหากลับมาได้ ข้ายินดีถือศีลกินเจไปชั่วชีวิต!”
แต่กู้จิ้งกลับเดินเข้าไปในบ้านแล้วศึกษาน้ำมันหอมระเหยต่อโดยไม่สนใจสักนิด
ตอนนี้เธอกำลังหมกมุ่นอยู่กับการค้นคว้ายาสมุนไพรในสมัยโบราณที่จะนำมาใช้แทนยาในยุคปัจจุบันได้ เธอถึงกับให้เซียวเถี่ยเฟิงทำเครื่องมือที่ใช้ในการผ่าตัดเช่นกรรไกร, มีด, ตะขอ ฯลฯ ให้ ทั้งยังเริ่มศึกษาด้วยว่าจะทำโคมไฟผ่าตัดไร้เงาออกมาได้อย่างไร
การศึกษาค้นคว้าเหล่านี้ดึงเอาความสนใจส่วนใหญ่ของเธอไป แม้กระทั่งท่านบรรพบุรุษก็ยังกลายเป็นที่สองในใจเธอ
เซียวเถี่ยเฟิงเห็นเช่นนี้ย่อมไม่พอใจนัก โดยเฉพาะครั้งหนึ่งที่เขาคิดจะ ‘ฝึกวิชาดูดไอหยาง’ แต่นางกลับไม่กระตือรือร้นนัก ปากก็เอาแต่พึมพำว่าสัดส่วนของยาสมุนไพรเหล่านั้นไม่รู้ถูกต้องหรือไม่ เขาถึงกับโกรธขึ้นมาจริงๆ
เขาเกือบจะสะบัดหน้าหนี ไม่ดูดแล้วเสียด้วยซ้ำ
แต่พอก้มลงมองรูปร่างที่แสนจะเย้ายวนของเสี่ยวจิ้งเอ๋อ เขาก็ทนไม่ไหว ในอกอัดแน่นด้วยความปรารถนาจนรู้สึกเจ็บไปหมด
เซียวเถี่ยเฟิงสูดหายใจลึก จากนั้นก็ตัดสินใจสู้ตาย เขาจะต้องใช้ความสามารถของตัวเองทำให้นางลืมปัญหาเรื่องสัดส่วนของยาสมุนไพรอะไรนั่นให้ได้!
ความพยายามของเขาทำให้กู้จิ้งมีสภาพไม่ต่างจากเส้นก๋วยเตี๋ยวเปียกๆ สุดท้ายเธอก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
เซียวเถี่ยเฟิงห่มผ้าให้ภรรยาเสร็จก็เดินออกจากบ้านไปด้วยความพึงพอใจ เขาพบว่าระยะนี้ร่างกายของภรรยาค่อนข้างอ่อนแอ นอกจากบำรุงด้วยไอหยางแล้วยังต้องบำรุงด้วยอาหาร ดังนั้นเขาจึงคิดจะไปล่าสัตว์มาเสียหน่อย
คิดไม่ถึงว่าเพิ่งเดินไปถึงประตูก็เจอหญิงชราที่เอาแต่พึมพำงึมงำคนนั้นเข้าเสียก่อน