ข้าจับปีศาจสาวได้ตัวหนึ่ง 天上掉下个美娇娘 - ตอนที่ 96 สิ้น วาสนา ต่อ กัน!
เธอจะปล่อยให้ตัวเองมีชื่อเสียงเหม็นโฉ่ไปอีกหมื่นปี ให้ลูกหลานรุ่นหลังก่นด่าว่าเธอเป็นปีศาจจิ้งจอกที่มายั่วยวนบรรพบุรุษของพวกเขาไม่ได้เด็ดขาด
ดังนั้นระหว่างที่กล่าวคำพูดนี้ เธอก็ลนลานกระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งหนีไปข้างนอก
อย่าดีต่อเธอแบบนี้เลย เธอไม่อยากเป็นมือที่สาม!
สีหน้าของเซียวเถี่ยเฟิงเปลี่ยนไปทันที เขาคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ด้วยความงุนงง “เจ้าหมายความว่ายังไง?”
ได้ยินเซียวเถี่ยเฟิงเค้นถามเช่นนี้ กู้จิ้งก็โมโหขึ้นมาจริงๆ
นับแต่ได้พบเขา เธอต้องสะกดกลั้นความในใจเอาไว้ เก็บกดอยู่นานขนาดนี้ ในที่สุดก็ทนไม่ได้อีกต่อไป
“ฉันจะหมายความว่ายังไงได้? นายแต่งงานมีลูกกับคนอื่นไปแล้ว เจอฉันแล้วจะมีประโยชน์อะไร? นายเรียกฉันมา มอบนั่นมอบนี่ให้ นายคิดจะทำอะไรกันแน่? นายคิดจะใช้เงินทองแลกกับร่างกายของฉัน แลกกับวัยสาวของฉัน แลกกับอิสรภาพของฉัน ทำให้ฉันต้องยอมก้มหัว ยอมเป็นมือที่สามแต่โดยดีอย่างนั้นหรือ? เซียวเถี่ยเฟิง ฉันจะบอกให้ ฉันไม่ทำ! ฉันกู้จิ้งไม่ใช่คนที่จะยอมเป็นมือที่สามของใคร ฉันไม่มีวันยอมเป็นเมียน้อยของใครเด็ดขาด! สามีของฉันต้องเป็นของฉันเท่านั้น ห้ามมีผู้หญิงคนอื่น ฉันเป็นคนใจแคบ ยิ่งไม่มีทางยอมให้สามีของฉันไปมีลูกกับผู้หญิงคนอื่น! ลูกของนายเกิดมาแล้ว ไม่มีทางยัดกลับไปได้ เวลาก็ไม่มีทางย้อนกลับไป ชาตินี้เราคงต้องเป็นแบบนี้แล้ว”
“สิ้น วาสนา ต่อ กัน!”
กัดฟันพูดสี่คำสุดท้ายจบ เธอก็สะบัดหน้าหนี ตั้งท่าจะเดินจากไป
คำสี่คำนี้ของเธอ สะกิดต่อมโทสะของเซียวเถี่ยเฟิงเข้าพอดี
ตอนนั้นนางจากเขาไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้กระทั่งเหตุผลก็ไม่บอก ทำให้เขาต้องนอนไม่หลับมาถึงสี่ปี ซ้ำยังได้แต่โทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ยามนี้ยากนักกว่าจะหานางพบ แต่นางกลับแค่พูดง่ายๆ ว่าสิ้นวาสนาต่อกัน?
คำสี่คำนี้เหมือนมีดสี่เล่มที่แทงเข้าสู่จุดตายของเขา!
ใครสิ้นวาสนาต่อกัน?
ไม่ว่าจะเป็นลิขิตสวรรค์หรือน้ำมือมนุษย์ เขาก็จะไม่ยอมให้เขากับนางสิ้นวาสนาต่อกันเด็ดขาด!
กู้จิ้งเพิ่งเดินไปถึงหน้าประตูก็ถูกชายหนุ่มที่สาวเท้าไล่ตามมากระชากกลับไปกอดเอาไว้แน่น
“ปล่อยนะ ไอ้สารเลว!”
เธอร้องตะโกนพลางดิ้นรนสุดชีวิต ทั้งใช้ฟันกัดใช้มือตี เธอแค้นใจนัก แค้นใจที่เขาไปแต่งงานกับคนอื่น!
ก่อนหน้านี้เธอพยายามบังคับตัวเองให้ไม่สนใจ แสร้งทำเป็นเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ แผ่นดินกว้างใหญ่ย่อมมีที่ให้เธอยืน แสร้งทำเป็นว่าตัวเองสามารถสะบัดหน้าจากไปได้อย่างสง่างาม!
แต่บัดนี้เมื่อได้พบ เธอถึงได้รู้ว่าตัวเองตัดใจไม่ได้ ไม่มีทางตัดใจได้เลย
เมื่อได้เห็นเซียวเถี่ยเฟิงตัวเป็นๆ มายืนอยู่ตรงหน้า ได้เห็นผู้ชายที่เคยนำความหวั่นไหวและเร่าร้อนมามอบให้คืนแล้วคืนเล่า เธอจะไม่เสียใจได้อย่างไร?
“ทำไมนายถึงแต่งงานกับคนอื่น? ทำไมถึงให้คนอื่นคลอดลูกให้? แค่คิดขึ้นมาว่านายไปนอนกับคนอื่น ฉันก็เสียใจ ฉันรับไม่ได้! ฉันเกลียดนาย เกลียดนายแทบตายแล้ว!”
“ต่อให้กฎเกณฑ์ประวัติศาสตร์หรือโชคชะตาลิขิตให้นายไปนอนกับผู้หญิงอื่น นายก็ไม่รู้จักอดทนบ้างเลยหรือ!”
เธอร้องไห้พลางตะโกนใส่เขา
เธอไม่สน เธอเป็นคนไร้เหตุผลเห็นแก่ตัววางอำนาจเช่นนี้เอง เธออยากให้เวลาย้อนกลับไป ย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่มีแค่เธอกับเขาสองคน
เธอเกลียดผู้ชายที่ไม่มีปัญญาควบคุมอวัยวะส่วนล่างคนนี้แทบตายแล้ว!
เซียวเถี่ยเฟิงกอดเธอไว้กับอก เรี่ยวแรงของเขามากจนทำให้ร่างของเธอแทบจะฝังเข้าไปในแผงอกของเขา
กู้จิ้งร้องไห้สะอึกสะอื้น
เซียวเถี่ยเฟิงก้มลงแนบริมฝีปากร้อนผ่าวของตัวเองกับริมฝีปากบางที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นของเธออย่างวางอำนาจ เขาบดขยี้ริมฝีปากของตัวเองกับเธออย่างรุนแรงราวกับคนที่ได้มาพบแหล่งน้ำสะอาดหลังจากต้องทนกระหายน้ำมาหลายหมื่นปี
กู้จิ้งรู้สึกเหมือนมีกระแสคลื่นยักษ์ถาโถมเข้าใส่จนทำให้เธอหายใจไม่ออก ส่งเสียงไม่ได้ แม้กระทั่งขยับก็ยังขยับไม่ได้
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดเขาก็ยอมปล่อยเธอ ร่างของกู้จิ้งอ่อนปวกเปียกราวกับเส้นก๋วยเตี๋ยว ได้แต่เอนกายซบกับอกของเขาอย่างไร้เรี่ยวแรงพลางร้องไห้สะอึกสะอื้นเท่านั้น
เซียวเถี่ยเฟิงจ้องหญิงสาวที่ร้องไห้อยู่กับอกพลางกล่าวเสียงแหบ “ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงได้เข้าใจผิดคิดว่าข้าแต่งงานกับคนอื่น แถมยังมีลูกกับคนอื่นด้วย แต่ข้าไม่ได้ทำจริงๆ”
“หา?” เสียงร้องไห้ขาดหายไปเสียเฉยๆ กู้จิ้งลืมตาที่ชุ่มด้วยน้ำตาขึ้นแล้วเงยหน้ามองเขาด้วยความงุนงง
มือหยาบกร้านแข็งแรงของเขาประคองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเธอเอาไว้พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงรักถนอมอย่างที่สุด “เจ้าไปได้ยินใครพูดมา ข้าจะแต่งงานกับผู้หญิงอื่นได้อย่างไร ชีวิตนี้…”
เขาหยุดชะงักก่อนจะก้มลงจุมพิตหยาดน้ำตาของเธอเบาๆ จากนั้นจึงกล่าวเสียงแหบพร่า
“ชีวิตนี้…เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือว่าข้าจะมีเจ้าเพียงคนเดียว?”
“มีฉันคนเดียว?” กู้จิ้งน้ำตาร่วง “ท่านบรรพบุรุษช่างปากหวานจริงๆ จนป่านนี้แล้วยังพูดเอาใจฉันอีก”
คำพูดนี้ช่างไพเราะเหลือเกิน แต่ทำไมถึงเชื่อไม่ได้นะ?
“ยัยโง่!” เซียวเถี่ยเฟิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในใจทั้งโมโหทั้งจนปัญญา “ข้าจะแต่งงานกับคนอื่นได้อย่างไร? จะมีลูกกับคนอื่นได้อย่างไร?”
ถ้าเขาอยากได้ผู้หญิงอยากได้ทายาทย่อมเป็นแค่เรื่องง่ายๆ เท่านั้น เพียงปรายตามองครั้งเดียวย่อมมีผู้หญิงมากมายนับไม่ถ้วนแย่งกันมาเสนอตัวมีทายาทให้เขา เพียงแต่เขาไม่เคยสนใจสักนิด
เขาจะสนใจคนอื่นนอกจากปีศาจน้อยของเขาได้อย่างไร?
“นายไม่เคยแต่งงานกับคนอื่นงั้นหรือ?” ยามนี้สมองของกู้จิ้งเหมือนจะขึ้นสนิมไปแล้ว เธอไม่เข้าใจเลยว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างไรกันแน่
“ไม่” เขาขบใบหูของเธอเบาๆ
“นายไม่เคยมีลูกกับผู้หญิงอื่น?” กู้จิ้งถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“ไม่” จะมีลูกกับผู้หญิงอื่นได้ เขาต้องแข็งให้ได้เสียก่อน!
“นายไม่ได้หลอกฉันจริงๆ?”
“ข้าเคยหลอกเจ้าเมื่อไหร่กัน?”
“นาย…” กู้จิ้งมองใบหน้าที่แข็งกระด้างกว่าก่อนมากของเขา เมื่อก่อนแม้ใบหน้าของเขาจะแข็งกระด้าง แต่ก็มักประดับด้วยรอยยิ้ม ดวงตาทอประกายอ่อนโยน ดูอย่างไรก็เป็นคนซื่อๆ คนหนึ่ง แต่ตอนนี้เขากลับกลายเป็นเทพมฤตยูที่ใครเห็นใครก็กลัว
“ข้าตามหาเจ้ามาตลอด ตามหามานานถึงสี่ปี” เซียวเถี่ยเฟิงประคองใบหน้าของเธอเอาไว้ ดวงตาทั้งคู่ประสานเข้าด้วยกัน ปากพึมพำเบาๆ ว่า “บางครั้งข้าก็รู้สึกว่าตัวเองตามหาเจ้ามาตลอดชีวิต ตามหามานานเหลือเกิน…”
กู้จิ้งเบิกตามองคนตรงหน้านิ่ง สมองของเธอค่อยๆ ซึมซับข่าวสารที่ได้รับ หลังจากทำความเข้าใจกับข่าวสารที่ได้รับแล้ว เธอก็ค้นพบเรื่องเรื่องหนึ่ง
เธอไม่ได้เห็นกับตาว่าเซียวเถี่ยเฟิงแต่งงานกับคนอื่น แต่ได้ยินมาจากหนิวปาจินต่างหาก
หนิวปาจินโกหกเธองั้นรึ?
เพราะเธอปักใจเชื่อมาตลอดว่าช้าเร็วเซียวเถี่ยเฟิงก็ต้องแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงหลงเชื่อคำโกหกนี้อย่างง่ายดาย
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เซียวเถี่ยเฟิงไม่เคยแต่งงานกับคนอื่น เขาตามหาเธอมาตลอด ตามหามานานถึงสี่ปี?
“หลายปีมานี้ นายอยู่ตัวคนเดียวอย่างนั้นหรือ?” เธออดถามให้แน่ใจอีกรอบไม่ได้
ข่าวนี้ช่างเกินความคาดหมายมาก มากจนทำให้เธอแทบไม่กล้าเชื่อ
นาทีก่อนเธอยังโทษฟ้าโทษดิน คับแค้นใจที่ย้อนเวลากลับไปไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าเพียงชั่วพริบตา เขาก็บอกเธอว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแค่ฝันร้าย เขายังคงเป็นของเธอ ยังคงรอเธอตลอดมา
“ใช่” เสียงของเซียวเถี่ยเฟิงหนักแน่น “วันนั้นจู่ๆ เจ้าก็จากไป ข้าตามหาเจ้าอยู่นานแต่ก็หาไม่พบ ต่อมาข้าลงจากเขาไปตามหาเจ้าในเมือง จากนั้นก็ตามหาไปทั่วแผ่นดิน”
กู้จิ้งเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม เห็นลำคอของเขาสั่นน้อยๆ คำพูดที่กล่าวออกมาเดี๋ยวก็ทุ้มหนักเดี๋ยวก็แหบพร่าเพราะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ใบหน้าซูบผอมแข็งกระด้างของเขาดูราวกับหมาป่าซึ่งเดินทางท่องไปทั่วทุ่งหญ้าตามลำพัง
เขากอดเธอเอาไว้อย่างระมัดระวังราวกับเธอเป็นขวดแก้วที่แตกง่าย ทำให้เขาไม่กล้าออกแรงแม้แต่น้อย
นับแต่เธอมาอยู่ที่นี่ ผู้ชายคนนี้ก็คอยอยู่ข้างกายเธอ คอยดูแลเธอมาตลอด
ต่อมาเธอจากไปเพราะเหตุไม่คาดฝัน เขาก็ตามหาเธออย่างยากลำบากอยู่นานถึงสี่ปี
ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนมาเจอผู้ชายแบบนี้ เธอก็คงจะรีบกอดเขาเอาไว้แน่นโดยไม่ลังเลสักนิด
ดวงตาของกู้จิ้งเปียกชื้น ริมฝีปากสั่นระริก สุดท้ายเธอก็โผเข้าไปในอ้อมอกของเขาแล้วกอดเอวแข็งแรงของเขาเอาไว้แน่น
“ฉันคิดถึงนาย คิดถึงนายมาก!” เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น “ทำไมนายถึงเพิ่งมาหาฉัน! เจ้าโง่!”
สำหรับเธอเป็นเวลาเพียงแค่ครึ่งปี แต่ก็ทำให้เธอได้รับความทุกข์ทรมานจากการพลัดพรากมากพอแล้ว เธอไม่กล้าคิดเลยว่า สี่ปีนี้เขาอยู่มาได้อย่างไร
นิ้วสั่นระริกของเธอลูบใบหน้าของเขาเบาๆ ใบหน้าของเขาหยาบกระด้างมาก บอกให้รู้ว่าผ่านประสบการณ์ต่างๆ มามากมาย
“ข้าก็เหมือนกัน เสี่ยวจิ้งเอ๋อ…อย่าไปจากข้าอีก ต่อไปข้าจะไม่ให้เจ้าจากข้าไปไหนอีกแล้ว…” เซียวเถี่ยเฟิงกอดร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นของเธอเอาไว้พลางกล่าวเสียงแหบ “พรุ่งนี้เราจะแต่งงานกัน เรามาจัดพิธีแต่งงานกันดีไหม? แบบนี้เจ้าก็จะไม่โกรธข้าแล้วใช่ไหม?”
“เจ้าดูสิ ตอนนี้เรามีทุกอย่าง เจ้าต้องการอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
ทันใดนั้นเซียวเถี่ยเฟิงก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขารีบเปิดหีบใบหนึ่งออกแล้วรื้อหาอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานนักก็หยิบจอกสีเขียวใบหนึ่งออกมา
“เจ้าดูสิ นี่คือจอกหยกมรกตหลิงหลง ข้าหามาให้เจ้าแล้ว เจ้าชอบไหม?”