ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ - เล่มที่ 16 บทที่ 473 ความว้าวุ่นใจ
ความริษยาเปรียบดั่งงูพิษที่เร้นกายอยู่ในซอกหลืบหัวใจของจั่วหยวนอี จิตใจที่แหลกสลายทำให้เขาบ้าคลั่ง
ท่ามกลางสายตาคาดหวังของหลินเมิ้งหยา จั่วหยวนอีพยักหน้า เขาไม่รู้ตัวเลยว่าท่าทางของตนเองในเวลานี้น่าหวาดกลัวเพียงใด
หลงเทียนอวี้มองจั่วหยวนอีด้วยแววตาประหลาดใจเล็กน้อย เจ้าคนไร้ประโยชน์เปลี่ยนเป็นคนเด็ดขาดเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร?
ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าขณะที่ได้ยินน้ำเสียงอ่อนโยนของหลินเมิ้งหยา เขาเองก็เกือบจะคลุ้มคลั่งเช่นเดียวกัน
ชำเลืองมองหลินเมิ้งหยาอย่างสงสัย สรุปแล้วนี่เป็นเคล็ดลับวิชาอันใดกัน?
จั่วหยวนอีถูกวาจาของหลินเมิ้งหยากระตุ้น เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบเขียนตัวอักษรลงกระดาษ
จากนั้นจึงประทับลายนิ้วมือของตนลงไป
“เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว จากนี้ไปเราเป็นพวกเดียวกันแล้ว”
มุมปากหยักยกขึ้น แม้ของสิ่งนี้จะมิอาจรับรองความเชื่อใจของจั่วหยวนอีได้ แต่อย่างน้อยหากเขาบิดพลิ้ว เช่นนั้นนางจะนำของสิ่งนี้ไปให้บิดา ของเขาดู
หากจะบาดเจ็บก็ต้องบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่ คนธรรมดาทั่วไปมักไม่ทำเรื่องเช่นนี้
“ขอบพระทัยจวิ้นจู่ ส่วนเรื่องไอ้ขยะนั่น….”
จั่วหยวนอียังคงกังวลว่าความพยายามครั้งใหญ่นี้จะสูญเปล่าและถูกคุณชายรองชิงเอาหน้าไป
ทว่าหลินเมิ้งหยากลับหัวเราะก่อนจะเอ่ย
“อย่าเพิ่งร้อนใจไปเลย นอกจากเจ้าและคุณชายรองแล้ว บิดาของเจ้ายังถูกใจใครอีกหรือ? หากเจ้าคิดจะครอบครองตำแหน่งอ๋องชิ่ง เช่นนั้นเจ้าต้องกำจั ดศัตรูทั้งหมดก่อน เมื่อศัตรูของเจ้าถูกกำจัดหมดแล้ว เช่นนั้นตำแหน่งอ๋องชิ่งก็จะตกเป็นของเจ้ามิใช่หรือ?”
ก่อนหน้านี้หลินเมิ้งหยาคิดอยากแก้แค้นอ๋องชิ่งก็เพราะคุณชายรองบังอาจทำร้ายป๋ายซ่าว ทว่าหลังจากที่จิตใจสงบลง หลินเมิ้งหยารู้สึกว่านางไ ไม่ควรละเว้นคนสกุลนี้
แม้ตอนนี้นางจะรู้แล้วว่าเพราะเหตุใดอ๋องชิ่งจึงคิดจะจับกุมนาง แต่เมื่อลองไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนดูแล้ว คนผู้นี้เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก หากมิใช่เพร ราะต้องการช่วงชิงอำนาจ เช่นนั้นเขาจะยอมเสียแรงกายแรงใจถึงเพียงนี้เชียวหรือ
เมื่อครุ่นคิดดูแล้ว เรื่องนี้จะต้องถูกส่งข่าวไปยังเมืองหลวงว่างเทียนแล้วอย่างแน่นอน
หากนางสามารถสร้างความวุ่นวายให้แก่จวนอวี้หลงได้ เช่นนั้นเฉินเปี่ยวเกอจะต้องตีขนาบสอดประสาน [1] ร่วมมือกับนางทำลายจวนอวี้หลงให้สิ้น ได้เป็นแน่
ฉะนั้นนางจึงยืมมือของจั่วหยวนอีเพื่อสร้างความไม่สงบให้แก่อ๋องชิ่ง
“คือ…เช่นนั้นคงไม่ดี แม้พวกเขาจะเป็นญาติมิตรของท่านพ่อ แต่ถึงกระนั้นก็มิได้เกี่ยวข้องอันใดด้วย แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่มีสิทธิสืบทอดตำแ แหน่งของท่านพ่ออย่างแน่นอน”
ดวงตาของจั่วหยวนอีกลิ้งไปมา แม้เขาจะรู้สึกราวกับต้องมนต์และเขียนสัญญาฉบับนั้นขึ้นมา แต่หลังจากสงบสติอารมณ์ลงได้ เขาก็เริ่มรู้สึกเสียใจ จขึ้นมา
“หากไร้ซึ่งพิษสงก็มิอาจเป็นนายคน [2] เจ้ามองพวกเขาเป็นดั่งญาติมิตร แล้วพวกเขาเล่า? เจ้าลองตรองดูให้ดีเถิด แม้แต่คนที่ไม่มีความสัมพันธ์ ทางสายเลือดกับพ่อของเจ้ายังมีสิทธิ์แย่งชิงตำแหน่งกับเจ้าได้ แล้วคนเหล่านั้นเล่า? พวกเขาจะทำไม่ได้เชียวหรือ?”
แม้หลินเมิ้งหยาจะเอ่ยเช่นนี้ แต่ถึงกระนั้นก็มิได้ให้ความหวังใดๆ แก่จั่วหยวนอี
หากเมื่อครู่มิใช่เพราะนางใช้ระบบเซินหนงทำให้ประสาทการรับรู้ของจั่วหยวนอีงุนงงชั่วคราว เกรงว่าแม้แต่สัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรฉบับนี้เขา าก็คงไม่มีวันเขียนขึ้น
นางมิได้คาดหวังว่าจั่วหยวนอีจะทำลายล้างคนเหล่านั้น แต่เพราะความสงสัยยังคงมีอยู่ ดังนั้นจึงยังมิอาจเชื่อใจได้
คาดว่าไม่ช้าก็เร็วเฉินเปี่ยวเกอจะต้องยึดอำนาจในเมืองอวี้หลงได้อย่างแน่นอน
“แต่ข้าจะทำเช่นไรเล่า? ทุกคนล้วนเป็นญาติกันทั้งนั้น พวกเราคงไม่เข่นฆ่ากันทันทีที่พบหน้าหรอกกระมัง”
ตำแหน่งอ๋องชิ่งล่อตาล่อใจเขายิ่งนัก สำหรับจั่วหยวนอีแล้วตำแหน่งนี้เปรียบเสมือนหนทางสู่ความมั่งคั่ง
เขาเคยเห็นบิดาได้รับความเคารพและมีชีวิตที่หรูหราตั้งแต่เด็ก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหากเขาได้รับการสืบทอดตำแหน่งของบิดาแล้ว เช่นนั้นทุกสิ งในจวนอวี้หลงจะกลายเป็นของเขา
ทั้งภรรยาและนางบำเรอ หากเขาต้องการ บุรุษในจวนทั้งหมดก็ต้องหลีกทางให้
เมื่อถึงเวลานั้นหากใครไม่เคารพเชื่อฟังเขา เช่นนั้นมันผู้นั้นก็จะไม่มีโอกาสหายใจอีกต่อไป
หัวใจร้อนรุ่มขึ้นมาหลายส่วน สายตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความโลภ
เพียงหลินเมิ้งหยาได้เห็นสายตาของเขา นางก็รู้ได้ทันทีว่าชายตรงหน้ากำลังคิดอะไร
เขาไม่รู้ตัวเลยว่าความคิดน่าสะอิดสะเอียนเช่นนี้เป็นสิ่งที่นำพาชีวิตของเขาดำดิ่งสู่นรก
“เรื่องนี้ง่ายมาก ขอเพียงทำตามแผนของข้า คนเหล่านั้นไม่มีวันกล้าทำสิ่งใด”
หลินเมิ้งหยาวางแผนให้เขา หนึ่งคือเขาต้องรีบกลับไปยังจวนอ๋องชิ่งแล้วรายงานเรื่องการเคลื่อนไหวของพวกนางต่อหน้าคุณชายรอง
สองคือเขาต้องอยู่ที่จวนแห่งนั้นแล้วรวบรวมหลักฐานความผิดของคนเหล่านั้น จากนั้นส่งคนไปป่าวประกาศต่อหน้าธารกำนัล ขณะที่อ๋องชิ่งกำลังโกรธ เ เช่นนั้นจงสั่งให้คนผู้นั้นปรากฏตัวออกมาแล้วมอบหลักฐานทั้งหมดให้อ๋องชิ่ง
สุดท้ายเขาต้องส่งพวกนางออกจากแผ่นดินของจวนอวี้หลง จะเป็นการดีที่สุดหากพวกนางจากไปแล้ว พวกทหารของอ๋องชิ่งเพิ่งจะมาถึง เท่านี้อ๋องชิ่งก ก็จะไม่สงสัยในตัวเขา จากนั้นเขาก็ใช้โอกาสนี้โยนความผิดให้คุณชายรอง
เมื่อได้รับการชี้แนะจากหลินเมิ้งหยา จั่วหยวนอีจึงมีความมั่นใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
เพียงนึกว่าตนเองจะได้เสนอหน้าเอาความดีความชอบต่อหน้าท่านพ่อ เขาก็รู้สึกดีใจยิ่งนัก
ดังนั้นจึงรีบมอบป้ายเชิญให้แก่หลินเมิ้งหยา
ของชิ้นนี้มีเพียงเครือญาติของอ๋องชิ่งเท่านั้นจึงจะมีได้
ขอเพียงมีสิ่งนี้ พวกเขาจะสามารถผ่านทางทั่วทั้งแผ่นดินเมืองอวี้หลงได้
มองตามร่างที่กำลังดีใจกระโดดโลดเต้นเดินจากไป สายตาของหลินเมิ้งหยาพลันเย็นเยียบ
หลงเทียนอวี้มองนางอย่างทำอะไรไม่ถูก เขาพูดไม่ออกแม้เพียงครึ่งคำ
“พระองค์กำลังคิดว่าหม่อมฉันใจดำอำมหิตใช่หรือไม่?”
ผินหน้าไปมองเพียงได้เห็นสายตาของหลงเทียนอวี้ นางก็เข้าใจความคิดของเขาในทันที
“ใจดำอำมหิตแล้วอย่างไรเล่า ขอเพียงสามารถปกป้องคนของหม่อมฉันได้ก็เพียงพอแล้ว หม่อมฉันหาได้มีคุณธรรมดั่งเช่นพระองค์ เห็นจะมีก็แต่เพียงคว วามโหดเหี้ยมเท่านั้น”
หลินเมิ้งหยากล่าวจบก็เดินออกจากห้องโถงไป
แสงเทียนกลายเป็นเพียงแสงสลัว ร่างบางที่กำลังเดินจากไปดูเป็นภาพเลือนรางไม่ชัดเจน
หลงเทียนอวี้รู้สึกว่าเขาอยู่ห่างไกลจากนางมากเหลือเกิน
ราวกับหลินเมิ้งหยามีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนก่อนแล้ว
ภายในห้องด้านข้างเรือนท้ายจวน หลินเมิ้งหยาช่วยป๋ายซ่าวทำแผลด้วยตนเอง
เหตุเพราะใช้ยาแกล้งตาย ดังนั้นอุณหภูมิร่างกายของป๋ายซ่าวจึงเย็นลงมากจนน่าตกใจ
หากมิใช่ปรมาจารย์ก็คงมิอาจจับชีพจรที่กำลังเต้นอย่างอ่อนแรงของนางได้
ตอนนี้มิอาจบอกได้เลยว่าคนผู้นี้ยังเป็นหรือตาย
นางยังคงจดจำภาพชั่วขณะที่ป๋ายซ่าวได้รับบาดเจ็บได้
ขณะเดียวกันนางหวนนึกถึงภาพการตายของพี่เยว่ถิงขึ้นมา
คนเป็นหมอล้วนชินชากับการเกิดแก่เจ็บตายแล้ว แต่นั่นมิใช่ในกรณีที่นางต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดโดยตรงเช่นนี้
หน้าอกปวดแปลบขึ้นมา อยู่ๆ สีหน้าของหลินเมิ้งหยาก็ซีดเผือด เม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากก่อนจะรินไหลลงมา
ทุกครั้งที่ความรู้สึกของนางถูกกระตุ้น ยาพิษที่ไหลเวียนอยู่ในร่างจะเริ่มทำงานทันที
หลินเมิ้งหยาไม่เคยพูดกับใครมาก่อน เหตุเพราะนางอยากยับยั้งความเจ็บปวดนั้นเอาไว้และทำตัวราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
แต่ความเจ็บปวดในใจจะลบล้างออกไปได้อย่างไรเล่า?
ดังนั้นนางจึงทำเรื่องบางอย่างที่แม้แต่วิทยาการในอนาคตยังมองว่าอันตราย
ใช้กลไกของระบบเซินหนงเข้ามาแทนที่ความคิดของตนเองส่วนหนึ่ง
เรื่องนี้ค่อนข้างอันตรายยิ่งนัก หากไม่ระวังให้ดี เกรงว่าร่างกายของนางอาจจะยังเป็นมนุษย์ ทว่าชีวิตจิตใจล้วนถูกระบบเซินหนงควบคุม
แต่มีเพียงหนทางนี้เท่านั้นที่จะทำให้ความเจ็บปวดของนางทุเลาลงจนเป็นปกติ
หากมองภายนอกนางอาจกลายเป็นคนสุขุมเยือกเย็น แต่มีเพียงนางคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าสุดท้ายแล้วระบบสั่งการป้องกันความคิดของนางจะเปลี่ยนนาง งให้เป็นสัตว์ประหลาด
ทว่าตอนนี้นางไม่มีทางเลือก หวังว่าตำราชิงเจิงผู่จะมีวิธีการขจัดพิษออกจากร่างของนาง
ยิ่งไปกว่านั้นนางสัมผัสได้ว่ายาพิษเหล่านี้กำลังกลายพันธุ์ มิเช่นนั้นทั้งระบบเซินหนงและเรดาร์ต่างก็ล้วนตรวจจับการมีอยู่ของพิษในร่างกายไ ได้แล้ว
มุมปากหยักยิ้มขมขื่น คิดไม่ถึงเลยว่าตนเองจะเจอเรื่องยุ่งยากใจถึงเพียงนี้
ตอนนี้รถม้าของพวกเขาล้วนถูกจั่วหยวนอีตระเตรียมเอาไว้ที่ด้านนอก
สภาพร่างกายของป๋ายซ่าวไม่เหมาะในการเคลื่อนย้าย ดังนั้นหลินเมิ้งหยาจึงสั่งให้คนของหลงเทียนอวี้และจั่วชิวอวี้อยู่เฝ้าป๋ายซ่าวที่นี่
ตลอดระยะเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมาหลินเมิ้งหยาไม่หลับไม่นอนเพื่อปรุงยา
จวนแห่งนี้จึงมีกลิ่นยาสมุนไพรตลบอบอวล คนที่ไม่รู้อาจคิดว่าคุณชายใหญ่ของอ๋องชิ่งกำลังเตรียมตัวกลายเป็นเทพเซียน
หลินเมิ้งหยาเขียนวิธีการใช้งานทั้งหมดลงบนกระดาษเพื่อมอบให้กับลูกน้องสองคนที่ถูกสั่งให้อยู่ที่นี่เพื่อดูแลป๋ายซ่าว
เมื่อพวกเขาออกจากเมืองแล้ว พวกเขาทั้งสองจึงหาบ้านเช่าเพื่อย้ายป๋ายซ่าวไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย
ทว่านางแสร้งทำเป็นว่าพาป๋ายซ่าวไปด้วย เท่านี้แม้จั่วหยวนอีจะคิดตลบหลังพวกนาง เขาก็ไม่มีทางหาป๋ายซ่าวเจอ
ขอเพียงพวกเขาหนีรอดออกไปได้แล้ว คาดว่าการป้องกันของจวนอวี้หลงก็จะผ่อนคลายลง เท่านี้พวกเขาก็จะสามารถพาป๋ายซ่าวหนีไปได้ทุกเมื่อ
ท้องฟ้าเริ่มมีประกายแสงเรื่อเรือง สิ่งที่เตรียมไว้ล้วนพร้อมแล้ว
หลินเมิ้งหยานั่งอยู่ในรถม้า ดวงตาแดงก่ำดั่งดวงตาของกระต่าย
คาดว่าการเดินทางในคราวนี้จะต้องก้าวเข้าสู่สมรภูมิรบอีกหนแล้ว
“ย่ะห์!”
รถม้าเคลื่อนตัวออกไป ขณะที่รถม้าเคลื่อนผ่านใจกลางตำบลอวี้ สายตาของนางพลันเหลือบไปเห็นชายพิการตาบอดในชุดขาดวิ่นกำลังถูกเด็กสองสามคนรุ มด่ารุมตี
โลหิตสีแดงสดรินไหลออกจากบาดแผลเปรอะเปื้อนใบหน้า เขาจึงดูน่ากลัวมากขึ้น
ทว่าชายคนนั้นกลับไม่มีลิ้น เขาทำได้เพียงส่งเสียงงึมงำเพราะความเจ็บปวด
คุณชายรองผู้หยิ่งทะนงในวันนั้นตกนรกทั้งเป็นไปแล้ว
หลินเมิ้งหยาปล่อยชายผ้าม่านลงแล้วหลับตา