ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ - เล่มที่ 18 บทที่ 518 ตู้จ่งตายแล้ว
“ได้ หากคราวนี้ทำสำเร็จ ข้าจะตบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม”
หลินเมิ้งหยายิ้มน้อยๆ ไม่เลวเลยนี่นา ซ้ำยังทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ไม่นานประตูอุโมงค์น้ำแข็งก็ถูกเปิดออก
ไอเย็นแผ่กระจายออกจากปากอุโมงค์ที่มืดสนิท
ร่างของหลินเมิ้งหยาสั่นเทิ้ม ทว่ามือหนาข้างหนึ่งเอื้อมมาดึงนางสู่อ้อมกอด
หลงเทียนอวี้กอดนางแน่นเพื่อขับไล่ความเย็น
อวี้อันและจั่วชิวอวี้เห็นการแสดงความรักต่อกันของพวกเขาจนชินตาแล้ว นอกจากย่นจมูกเพราะความอิจฉา ส่วนใหญ่พวกเขามักแสร้งมองไม่เห็น
“ไม่เป็นไร พวกเราเข้าไปข้างในกันเถิดเพคะ”
หลินเมิ้งหยาเดินนำเข้าไปในอุโมงค์น้ำแข็ง
เพียงเดินเข้าไปภายใน กลิ่นหอมละมุนของผลไม้สดพลันลอยกระทบใบหน้า
จุดไฟในตะเกียงน้ำมันหน้าประตู ภาพบรรยากาศภายในจึงเผยออกมาให้เห็น
แม้เมืองหลินเทียนจะมีสี่ฤดู แต่ฤดูนี้เหมาะแก่การเก็บเกี่ยวผลไม้สุดที่สุด
ทว่านอกจากผลไม้สดแล้ว แม้แต่ผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อนเองก็ถูกเก็บไว้ที่นี่
ดูเหมือนว่าผลไม้สดเหล่านี้จะอยู่อย่างสบายกว่าจั่วชิวอวี้เสียอีก
เพราะเหตุนี้อวี้อันจึงมักมาขลุกตัวอยู่ที่นี่ ถึงอย่างไรถ้าไม่กินก็คงเสียเปล่า
อวี้อันเอ่ยว่าจะออกไปดูต้นทางด้านนอก พวกหลินเมิ้งหยาจึงเข้าไปด้านในสุด
“ข้าเตรียมทองมาแล้ว นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการ ถังไม้ที่บรรจุน้ำไว้ ตอนนี้เจ้าจะให้พวกข้าทำอะไร?”
จั่วชิวอวี้วางของลงตรงหน้าหลินเมิ้งหยา แต่ใครจะรู้เล่าว่าหลินเมิ้งหยาจะโยนกล่องปริศนาลงในถังน้ำ
“น้องสาวของข้า หากของข้างในเปียกน้ำ ข้าคงทำได้เพียงร้องไห้จนตายแล้ว!”
จั่วชิวอวี้รู้สึกร้อนใจ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเมิ้งหยาจะสะบัดมือแล้วนำน้ำที่อยู่ในถ้วยไม้ใบหนึ่งกรอกเข้าไปที่แม่กุญแจ
“อย่าร้อนใจไป นางย่อมมีวิธีของตัวเอง”
น้อยครั้งนักที่หลงเทียนอวี้จะเอ่ยปลอบจั่วชิวอวี้ แม้ความจริงแล้วเขาจะไม่อยากให้อีกฝ่ายเข้าไปก่อกวนหลินเมิ้งหยาก็ตาม
นอกจากกรอกน้ำเข้าไปแล้ว นางยังนำด้ายทองแหย่เข้าไปในรูกุญแจอีกด้วย
ด้านทองมีความอ่อนนุ่มและความยืดหยุ่นไม่เลว แต่ที่น่าประหลาดใจคือมันไหลเข้าไปในรูของแม่กุญแจตามสายน้ำที่หลินเมิ้งหยากรอกเข้าไป
ซ่า ซ่า
ได้ยินเพียงเสียงน้ำ ดวงตาของคนทั้งสามจ้องกล่องปริศนาเขม็ง
“เอาล่ะ เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นำมันไปแช่น้ำ จำเอาไว้ให้ดี อีกสองชั่วโมงพวกเราจะกลับมา”
หลินเมิ้งหยารอจนกระทั่งด้ายทองหลุดออกจากอีกฝั่ง ก่อนจะจุ่มกล่องปริศนาลงในถังไม้
จากนั้นจึงพาจั่วชิวอวี้และหลงเทียนอวี้ออกจากอุโมงค์น้ำแข็ง
“เสร็จแล้วหรือ? เปี่ยวเม่ย มันจะได้ผลหรือ?”
ตอนนี้สมองของจั่วชิวอวี้มีแต่คำถาม แม้จะหยิบกล่องปริศนามาได้ด้วยความบังเอิญ แต่การแช่ลงไปในน้ำเช่นนี้ไม่มีอะไรมารับรองได้ว่าของภายในจะไม่เปียกชื้น
“เชื่อข้าเถิด ข้าช่วยเจ้านำมันออกมาได้อย่างแน่นอน”
หลินเมิ้งหยาปรายตามองเขา ก่อนจะยืดอกดั่งต้นไผ่เพื่อแสดงความมั่นใจ
ทั้งสามจึงกลับไปยังเรือนที่พัก
ทันทีที่กลับไปถึง หลินเมิ้งหยารู้สึกเหนื่อยยิ่งนัก ดังนั้นนางจึงขอตัวเข้าไปนอนแล้วทิ้งหลงเทียนอวี้และจั่วชิวอวี้เอาไว้เบื้องหลัง
น่าเสียดายที่พวกเขาไม่รู้แผนการของหลินเมิ้งหยา
“จวิ้นจู่ จวิ้นจู่! มีคนแอบเข้าไปในอุโมงค์น้ำแข็งพ่ะย่ะค่ะ”
เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง อวี้อันก็รีบเข้ามารายงานที่ห้องของหลินเมิ้งหยา
ขณะเดียวกัน หลินเมิ้งหยาแสร้งลืมตาตื่นขึ้น
ดวงตาสุกสกาววาววับ ไม่เหมือนคนเพิ่งตื่นนอนเลยแม้แต่น้อย
“ไป พวกเราไปดูกัน”
ทั้งสี่คนเดินไปถึงหน้าประตูอุโมงค์น้ำแข็ง ทว่าเวลานี้ใบหน้าของหลินเมิ้งหยากำลังฉีกยิ้มกว้าง
อวี้อันเปิดประตูออก ทันทีที่เข้าไปก็ได้เห็นร่างของใครบางคนบนพื้น
หลินเมิ้งหยาจับชีพจร ตายไปแล้ว
พลิกตัวเขากลับมา ศพตรงหน้าคือคนที่ถูกส่งมาจับตาดูพวกเขาตู้จ่ง
คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าชายคนนี้ไม่ประสงค์ดีต่อพวกนาง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาตายที่นี่
ทว่าเขาคงต้องตำหนิตัวเองแล้ว
ดวงตาทั้งสองข้างเบิกโพลง คาดว่าก่อนตายคงได้รับความทรมานไม่น้อย ใบหน้าบิดเบี้ยว ไม่ต้องชันสูตรหลินเมิ้งหยาก็รู้ได้ว่าเขาหมดลมหายใจไปแล้วอย่างแน่นอน
ทั้งสามคนไม่ต้องออกแรงก็หากล่องปริศนาเจอ ทว่าบัดนี้กล่องปริศนาถูกเปิดออกแล้ว ภายในคือกุญแจดอกหนึ่ง
หลินเมิ้งหยาคิดจะเอื้อมมือเข้าไปหยิบ ทว่าหลงเทียนอวี้กลับร้องห้ามเพราะกลัวนางเป็นอันตราย
หลินเมิ้งหยาส่ายหน้า ก่อนจะหยิบกุญแจออกมา
นางรู้สึกได้ว่ากุญแจดอกนี้น่าพิศวงยิ่งนัก
“ไม่ต้องกังวล ตู้จ่งรับพิษทั้งหมดไปแล้ว มิเช่นนั้นเขาคงไม่ตายอย่างน่าเวทนาเช่นนี้”
หลินเมิ้งหยาส่งลูกกุญแจให้หลงเทียนอวี้ ก่อนจะปรายตามองตู้จ่งด้วยความเสียดาย
กล่องปริศนาใบนี้สามารถป้องกันน้ำได้
เหตุที่นางต้องใช้ด้ายทองและน้ำแข็งก็เพราะหากไม่แช่แข็งของที่อยู่ภายในเอาไว้ เกรงว่าเมื่อกล่องถูกเปิดออก เข็มอาบยาพิษขนาดเท่าขนวัวหลายพันเล่มคงพุ่งออกมาคร่าชีวิตของทุ กคนแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นของสิ่งนี้น่าประหลาดยิ่งนัก ในกรณีที่ไม่มีกุญแจ เช่นนั้นต้องใช้ด้ายทองทะลุผ่านรูกุญแจด้วยน้ำเย็นจึงจะสามารถนำกุญแจเย็นเฉียบอันนั้นออกมาได้
นั่นหมายความว่าหากนำลูกกุญแจธรรมดามาเปิดกล่องปริศนาใบนี้แล้วล่ะก็ เช่นนั้นชีวิตคงจบสิ้น!
นี่คือสิ่งที่ถูกบันทึกเอาไว้ในตำราชิงเจิงผู่ ดังนั้นหลินเมิ้งหยาจึงรู้วิธีแก้ไข
“ศิษย์พี่ตู้จ่ง! ศิษย์พี่ตู้จ่ง! เกิดอะไรขึ้น! เข้ามา! มีคนถูกฆ่า!”
เสียงแผดร้องดังขึ้นที่ด้านหลัง
พวกหลินเมิ้งหยาหันหน้ากลับไป ก่อนจะพบร่างหนึ่งวิ่งออกจากหน้าประตูอุโมงค์
ทั้งสามรีบวิ่งตามไป แต่กลับพบว่าร่างของอวี้อันล้มกองลงอยู่หน้าประตู
เขาน่าจะถูกตีจนสลบเท่านั้น โชคดีที่ไม่เป็นอะไร
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกซ้อนแผนเสียแล้ว”
หลินเมิ้งหยาเป็นคนฉลาด หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งจึงมองออก
ที่แท้พวกเขาก็มอบกล่องปริศนาใบนี้ให้จั่วชิวอวี้ก็เพราะมีวัตถุประสงค์เช่นนี้
นางคิดไว้อยู่แล้วเชียวว่าพวกเขาไม่มีทางมอบของล้ำค่าเช่นนี้ให้กับจั่วชิวอวี้อย่างง่ายดาย
ที่แท้ก็คิดจะยืมมีดฆ่าคน
แม้จะเปิดกล่องออกได้ แต่จั่วชิวอวี้ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร จากนั้นของสิ่งนี้ก็จะถูกริบกลับไปเป็นของพวกเขา
อำมหิตนัก! คนพวกนี้จิตใจโหดเหี้ยมเหลือเกิน!
เหตุเพราะลูกศิษย์คนนั้นส่งเสียงแตกตื่น ดังนั้นจึงมีคนวิ่งเข้ามาดูมุงเป็นจำนวนมาก
คนเหล่านั้นห้อมล้อมพวกหลินเมิ้งหยาเอาไว้ตรงกลาง
หลินเมิ้งหยามิได้แก้ตัว แต่นางกลับปลุกอวี้อันที่นอนหมดสติบนพื้นด้วยตัวเอง
“อุบ...หัวของข้า…จวิ้นจู่…พวกท่าน...”
อวี้อันยกมือลูบศีรษะตัวเอง เขาคิดจะรีบเข้าไปเตือนเจ้านายของตนเอง
แต่หลังจากได้เห็นดวงตาหลายคู่ที่กำลังจับจ้องมองมา เขาผงะไป
หลินเมิ้งหยาส่ายหน้าเบาๆ อวี้อันมีไหวพริบเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงไม่ถามอะไรอีก
“ตู้จ่ง ตู้จ่ง ลูกศิษย์ของข้า เหตุใดเจ้าจึงกลายเป็นเช่นนี้เล่า”
ยังไม่ทันจะเดินเข้าไป เฉียนอวี้หมิงก็แผดเสียงร้องดังลั่นเสียแล้ว
ทว่ามีเพียงเสียงร้องไห้ แต่ไร้ซึ่งความจริงใจ คาดว่าตู้จ่งคงเป็นตัวตายตัวแทนเท่านั้น
คิดไม่ถึงเลยว่าทันทีที่เฉียนอวี้หมิงเดินเข้ามาใกล้อุโมงค์น้ำแข็ง หลินเมิ้งหยาจะห้ามเขาเอาไว้
เฉียนอวี้หมิงรีบถลึงตา ราวกับต้องการกินนางอย่างไรอย่างนั้น
“จวิ้นจู่ พระองค์คิดจะทำอะไร?”
ตู้จ่งตายไปแล้ว แต่ก่อนที่พวกเขาจะกลับไปยังเรือน อวี้อันลงกลอนประตูอุโมงค์น้ำแข็งอย่างแน่นหนา
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังใช้เพียงกุญแจที่อวี้อันนำมา ดังนั้นตอนนี้บนร่างของตู้จ่งจะต้องยังมีหลักฐานอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นเหตุที่ชายคนนั้นตีอวี้อันจนสลบ แต่ไม่กล้าเข้าใกล้ตัวตู้จ่งก็เพราะมีจั่วชิวอวี้และหลงเทียนอวี้อยู่ข้างศพ
ดังนั้นเฉียนอวี้ที่คิดจะเข้าไปข้างในอุโมงค์ทันทีที่มาถึงจึงทำให้หลินเมิ้งหยารู้สึกข้องใจไม่น้อย
ขยับตัวขวางหน้าเฉียนอวี้หมิงพร้อมทั้งเอื้อนเอ่ย
“ผู้อาวุโสเฉียน ข้าเสียใจด้วยที่ท่านต้องเสียลูกศิษย์ไป เพื่อไม่ให้มีใครเข้ามาทำลายหลักฐาน เช่นนั้นพวกเราทั้งสองฝ่ายส่งคนของตัวเองเข้าไปยกศพออกมาดีหรือไม่?”
คำพูดของหลินเมิ้งหยาทำให้เฉียนอวี้หมิงอึ้งงัน
หรือนางจะมองออก?
แต่เมื่อลองไตร่ตรองดูอีกหน เขาคิดว่านางไม่มีทางฉลาดเฉลียวถึงขั้นนั้น
มือชี้ไปทางคนสนิททั้งสองของเขาเพื่อสั่งให้เข้าไปภายใน
“โอ้ ข้าเพิ่งนึกได้ว่าศพถูกวางยาตาย หากลูกศิษย์ของท่านโดนยาพิษไปด้วยคงไม่ดีแน่ เช่นนั้น…เอาเป็นสองคนนั้นก็แล้วกัน”
เฉียนอวี้หมิงคิดไม่ถึงเลยว่านางจะกัดไม่ปล่อยเช่นนี้
ตอนแรกหลอกล่อให้เขาส่งตัวลูกศิษย์คนสนิทออกไป ทว่าตอนนี้นางกลับเลือกคนตามใจนาง
สีหน้าเคร่งขรึมไม่น่ามอง
เขาเฉียนอวี้หมิงอยู่ในหอป๋ายเฉามานานหลายปีแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยตกอยู่ในกำมือของสตรีคนไหนทั้งสิ้น
“จวิ้นจู่ นี่ท่านกำลังรังแกข้าอยู่ใช่หรือไม่! คนที่ตายคือลูกศิษย์ของข้า! แค่ข้าไม่สั่งให้พวกท่านต้องชดใช้ด้วยชีวิตก็ถือว่าไว้หน้ามากแล้ว จวิ้นจู่ได้โปรดไตร่ตรองให้ดี!”
เมื่อเจรจาไม่สำเร็จก็เลือกที่จะข่มขู่แทน
หลินเมิ้งหยาหาใช่ลูกพลับนิ่ม นางจ้องหน้าเฉียนอวี้หมิงอย่างไม่หวั่นเกรง
“ศิษย์ของท่านถูกพิษจนตาย ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกพิษจากเข็มของกล่องปริศนา ไม่เพียงเท่านั้นในมือของเขายังถือกุญแจของกล่องปริศนาเอาไว้ แต่เท่าที่ข้ารู้ กล่องใบนี้เป็นของญา าติผู้พี่ของข้า นี่คือกล่องที่ใช้ในการแข่งขันของเซิ่นจวิ้นอ๋อง ผู้อาวุโสสั่งสอนลูกศิษย์เช่นไร เหตุใดเขาจึงทำผิดคิดชั่วเช่นนี้ หรือเขาจะได้รับคำสั่งจากท่าน!”
ทันทีที่สิ้นเสียงของหลินเมิ้งหยา หนานรุ่ย ตวนมู่หยาง ตวนมู่หยินและฉางเทียนหัวล้วนมาถึงแล้ว