ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything - Chapter 10 ไปที่ว่าการกับข้า
ในทันทีที่เฉินเฉินมาถึงหมู่บ้าน เขาก็เห็นคนกลุ่มนึงที่อยู่บนหลังม้า
พอมองไปที่พวกคนที่อยู่บนม้า เฉินเฉินก็คิดในใจ ‘พวกนั้นมาที่นี่แล้วหรอ? ใจร้อนจังเลยนะ’ ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ฝีเท้าของเขาก็เร็วขึ้น และไปถึงบ้านของเขาในเวลาไม่นาน
ในครั้งนี้ มีผู้คนมากมายได้มารวมตัวกันที่ประตูบ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบด้วย
ศพของนักฆ่าเมื่อวานได้ถูกย้ายจากศาลบรรพบุรุษและมาวางไว้ที่หน้าประตู
เจ้าหน้าที่ที่มีหนวดกำลังตรวจสอบศพด้วยมีดบนหลังของเขา
เฉินเฉินแทรกเข้ามาในฝูงชนอย่างเงียบๆ แล้วเฝ้ามองฉากที่อยู่ตรงหน้าเขา
“หมูฆ่าเขาหรอ? ไร้สาระ ข้าทำงานไล่ล่าคนมาหลายปียังไม่เคยได้ยินว่ามีคนถูกหมูที่เลี้ยงในบ้านฆ่ามาก่อนเลย” เจ้าหน้าที่หนวดพูดเย้ย ในขณะที่กำลังจับดูที่หน้าอกของศพ
เมื่อได้ฟังน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรของเขาแล้ว เฉินเฉินก็รู้ว่าคนพวกนี้ไม่ได้มีเจตนาดี จากนั้นพอมองเข้าไปในฝูงชน เขาก็สังเกตเห็นชายแก่คนนึงที่สวมเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมในทันที เขามีใบหน้าที่ซีดเซียวแล้วไม่มีหนวดเครา เขากำลังมองดูศพด้วยสีหน้ามืดมน…
เฉินเฉินรู้จักคนๆนี้ เขาเป็นพ่อบ้านของตระกูลหวัง ชื่อหวังเอ้อ เขาเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการเก็บค่าเช่าที่ดินรายปี
‘นักฆ่าเมื่อคืนเป็นฝีมือของตระกูลหวังจริงๆสินะ’ เฉินเฉินคิดในใจ เขาพอเดาได้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ตอนนี้เขาแทบจะมั่นใจร้อยเปอร์เซนต์แล้ว
สาเหตุที่หวังเอ้อทำหน้าตาบูดบึ้งนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆ
มีความเป็นไปได้ว่าที่ชายคนนี้มาพร้อมกับพวกเจ้าหน้าที่ก็เพื่อเก็บศพครอบครัวของเขา เขาคงคิดไม่ถึงว่าจะได้มาเจอศพของนักฆ่าในตอนที่มาถึง สีหน้าของเขาแสดงความไม่พอใจอย่างมาก
“ข้าคิดว่านี่คงเป็นนักเดินทางที่ผ่านทางมา เขาน่าจะแค่อยากพักที่นี่สักคืน แต่ครอบครัวนี้กลับมีเจตนาที่ชั่วร้ายและทำการสังหารเขา!” หวังเอ้อพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ
แน่นอนว่าเขารู้จักศพนี้ เขาเป็นคนจ้างเองกับตัว
งานที่เขาเสียเงินไปไม่กี่ตำลึงเงิน ตอนนี้มันได้สูญเปล่าไปด้วยความตาย เขาต้องหาวิธีใช้คุณค่าจากมันให้ถึงที่สุด
คิ้วของเจ้าหน้าที่มีหนวดกระตุกกับคำพูดเหล่านี้
แม้ว่าเขาจะถูกตระกูลหวังซื้อตัวไปแล้ว แต่เรื่องราวของหวังเอ้อมันฟังดูปลอมเกินไป
นักเดินทางหรอ? นักเดินทางที่ไหนเขาจะสวมชุดนักฆ่ากัน?
“พ่อบ้านหวัง ถ้ามีนักเดินทางเดินผ่านมาในหมู่บ้าน พวกเขาก็มักจะพักที่บ้านของข้า เพราะบ้านข้าหลังใหญ่กว่ามาก”
ห่างออกไปไม่ไกล หัวหน้าหมู่บ้านฝืนยิ้มออกมา
“ใช่ครับ บ้านของเฉินชานอยู่ใจกลางหมู่บ้าน มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะมีนักเดินทางไปที่บ้านของเขา แถมการแต่งตัวของเขาก็ดูไม่น่าจะเป็นคนดีด้วย เขาสมควรตายแล้ว!” ชาวบ้านบางส่วนชี้แจง
สีหน้าของหวังเอ้อบิดเบี้ยวขึ้นในตอนที่ได้ยินเช่นนั้น แล้วตะโกนด่าทอ “ไอ้พวกโง่ อย่างพวกแกจะไปรู้อะไร!? ถ้าไม่ทำตัวให้ดูร้ายเข้าไว้ในตอนที่อยู่ข้างนอก แล้วเกิดไปเจอคนไม่ดีขึ้นมาจะทำยังไง?”
คำพูดที่ไร้เหตุผลของหวังเอ้อก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมา
ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มคนนึงก็วิ่งเข้ามา เขาตะโกนในขณะที่วิ่ง “หัวหน้าหมู่บ้าน ข้ารู้ตัวตนของชายคนนั้นแล้ว! ชื่อของเขาคือเว่ยเหลาซาน! เขาเป็นหัวหน้าแกงค์ในมณฑล และทำงานฆ่าคนเพื่อหาเลี้ยงชีพ!”
เมื่อได้ฟังเช่นนี้ ชาวบ้านทุกคนก็มองไปที่หวังเอ้อด้วยสายตาแปลกๆ
หวังเอ้อรู้สึกว่าแก้มของเขาร้อนฉ่าขึ้นมาแต่เขาก็ยังคงรักษาท่าทีที่แข็งกระด้างเอาไว้
“คนที่เชี่ยวชาญด้านการลอบสังหารจะถูกฆ่าตายในหมู่บ้านนี้ได้ยังไง? หรือว่ามีคนที่แข็งแกร่งอยู่ในกลุ่มพวกน่าสมเพชนี่? ช่างน่าขันซะจริง!”
เจ้าหน้าที่หนวดรีบกระพริบตาให้หวังเอ้อ และด้วยรอยยิ้มบนหน้าเขาก็พูดกับเฉินชาน “เฉินชาน เจ้าก็ดูเป็นคนที่ใช้ได้นะ เอาแบบนี้เป็นไง… ครอบครัวของเจ้าไปที่ว่าการกับข้าเพื่อสะสางเรื่องวุ่นวายนี้ ถ้าผลลงเอยว่าเขาเป็นคนไม่ดีจริงๆ ทางการก็อาจจะตบรางวัลให้ครอบครัวของเจ้าด้วยนะ”
เฉินชานตอบกลับด้วยน้ำเสียงฮึดฮัด “ลูกชายของข้าออกจากบ้านไปเมื่อคืนยังไม่กลับมาเลย ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าเขาจะกลับ”
สีหน้าของหวังเอ้อเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อได้ฟังเช่นนี้
“ไอ้เจ้านั่นคงหนีไปแล้วหล่ะสิ!? กล้าดียังไง!”
คำสั่งของหวังหู่คือฆ่าทั้งตระกูล แต่ตอนนี้มีคนนึงหนีไปได้! แล้วเขาควรทำยังไงดี?
ครู่ต่อมา ดูเหมือนว่าเขาจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วน้ำเสียงของเขาก็ดุดันขึ้นมาอย่างกระทันหัน
“ข้าคิดว่าเจ้านั่นฆ่าชายคนนี้ จากนั้นก็หนีไปเพราะความกลัว! ไม่อย่างนั้นเขาจะออกไปข้างนอกกลางดึกทำไมกัน?”
เจ้าหน้าที่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ในที่สุดหวังเอ้อก็พูดเรื่องที่สามารถตั้งข้อสังเกตได้
“พูดอะไรไร้สาระ! ลูกชายของข้าบริสุทธิ์! ไก่ในหมู่บ้านเขายังไม่กล้าฆ่าเลย นับประสาอะไรกับคนเป็นๆเล่า!?” ฉินโหลวแผดเสียงออกมาอย่างโกรธเคืองในขณะที่พยายามอธิบาย
ในสายตาของเธอ เฉินเฉินเป็นเด็กดีมาโดยตลอดตั้งแต่ที่เขายังเด็กแล้ว เขาเป็นเด็กที่มีเหตุผลที่สุดในโลก แล้วเด็กดีแบบนั้นจะฆ่าคนได้ยังไงกัน?
“บริสุทธิ์หรอ? เหอะ! ใครจะไปรู้ว่าเจ้านั่นคิดอะไรอยู่? ถ้ามันไม่ได้ฆ่าเขา แล้วมันจะหนีออกไปกลางดึกทำไมกัน? เจ้าหน้าที่โจว ตอนนี้ไอ้เจ้าเด็กนั่นทำการสังหารคนแล้วหนีไป ข้าคิดว่าพวกเรารีบออกหมายจับเลยดีกว่า ในส่วนของสองคนนี้ ในเมื่อพวกเขาปกป้องอาชญากรและยอมให้เขาหนีไป พวกเขาก็ควรจะถูกจับขังเข้าคุกในทันที!”
ในขณะที่หวังเอ้อพูด เขาก็รีบโบกมือให้เจ้าหน้าที่หนวด ครั้งนี้ เขารู้สึกมั่นใจมาก ใบหน้าที่ชั่วร้ายของเขาดูค่อนข้างมีความชอบธรรมจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ในทันทีที่เขาพูดจบ ก็มีเสียงเล็กๆดังขึ้นมา
“อะไรกันเนี่ย? ข้าออกไปแค่แปบเดียว ตอนนี้กลายเป็นอาชญากรไปแล้วหรอ? พ่อบ้านหวัง ข้าไม่สมควรได้รับข้อกล่าวหานั้นนะ”
ในตอนที่ชาวบ้านได้ยินเสียงของเขา พวกเขาก็รู้สึกตัวว่าเฉินเฉินมายืนอยู่ในกลุ่มพวกเขาซักพักนึงแล้ว
หัวหน้าหมู่บ้านเองก็ดูประหลาดใจ
เขารู้ว่าเฉินเฉินโตแล้ว แต่ท่าทีของเด็กหนุ่มในวันนี้ดูแตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง มันแตกต่างมากจนก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สังเกตว่าเป็นเฉินเฉิน
“เจ้า! นี่เจ้า!”
ความชอบธรรมบนหน้าของพ่อบ้านหวังหายไปอย่างไร้ร่องรอย เขาชี้ไปที่เฉินเฉินอย่างไม่พอใจ ในขณะที่พูดไม่ออก
พวกเขาบอกว่าออกไปเมื่อคืนแล้วยังไม่ได้กลับมาไม่ใช่หรอ? หรือว่าพวกเขากำลังหลอกเขา?
เฉินเฉินไม่สนใจเขา เขารีบเดินไปหาพ่อแม่ของเขาแล้วปลอบโยนพวกเขา “ท่านพ่อ ท่านแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
“ลูกเฉิน เจ้าไม่น่ากลับมาเลย” เฉินชานถอนหายใจ
ตอนนี้หวังเอ้ออาจจะแพ้แล้ว แต่ตระกูลที่ทรงอำนาจอย่างหวังนั้น สามารถฆ่าล้างตระกูลของพวกเขาได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย
เขาก็แค่ยังรักษาหน้าตัวเองและยังไม่จนมุมเฉยๆ
“ถ้าข้าไม่กลับมา พวกท่านก็จะถูกทิ้งไว้สิครับ ข้าทำแบบนั้นไม่ได้หรอก” เฉินเฉินยิ้ม เหมือนกับว่าเขาไม่ได้จริงจังกับสถานการณ์ในตอนนี้เลย
เฉินชานและภรรยาถอนหายใจออกมาด้วยความตื่นตันกับคำตอบของเขา
เมื่อเห็นว่าหวังเอ้ออยากจะพูดอะไรบางอย่าง เจ้าหน้าที่โจวก็พูดขัดขึ้นมา”
“เอาเถอะ ในเมื่อทั้งสามคนมาอยู่ที่นี่แล้ว ก็ช่วยตามไปที่ว่าการมณฑลกับข้าด้วย พอไปถึงที่นั้นแล้ว ค่อยสะสางเรื่องทั้งหมดกัน”
เขาทนร่วมงานกับหวังเอ้อไม่ได้จริงๆ เขาหัวแข็งเกินไป ถ้าขืนปล่อยให้หวังเอ้อพูดต่อ เขาก็จะสร้างความอับอายให้ตัวเองด้วย
พวกเขาเป็นแค่ชาวนา พวกเขาจะต้องถูกลงโทษในที่ว่าการ
หรือถ้าพวกเขาไม่อยากรอ จะให้ตระกูลเฉินถูกฆ่าในระหว่างทางแล้วโบ้ยความผิดไปให้โจรก็ยังได้
มันไม่มีประเด็นอะไรให้พยายามใช้เหตุผลที่นี่อีกแล้ว
หวังเอ้อเข้าใจเจตนาของเจ้าหน้าที่โจว แล้วส่งเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขามองไปยังตระกูลเฉินเหมือนกับว่าพวกเขาตายไปแล้ว
ชาวนาพวกนี้ไม่ควรค่าแก่ความพยายามของเขาแล้วจริงๆ
ฉินโหลวมองสามีของเธอในตอนที่ได้ฟังเจ้าหน้าที่
เฉินชานขมวดคิ้วแล้วไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ไปพักนึง
อย่างไรก็ตามเฉินเฉินยิ้มแล้วพูดออกมา “เอาสิครับ พวกเราจะไปที่ว่าการกับท่าน”
เจ้าหน้าที่โจวตบไหล่ของเฉินๆเบา แล้วชื่นชมเขา “หนุ่มน้อย เจ้าเป็นคนมีเหตุผลดีนี่ อนาคตของเจ้าจะต้องได้เป็นคนใหญ่คนโตแน่!”
เขาพูดออกมาเช่นนี้แม้ว่าในใจของเขาจะเต็มไปด้วยคำดูถูกที่มีให้เฉินเฉิน
‘เจ้าเด็กโง่…ด้วยIQเท่านี้คงไม่มีอนาคตหรอก แกสมควรเป็นชาวนาไปทั้งชีวิต! อ้ะเดี๋ยวนะ ฮ่าฮ่า! ตอนนี้แม้แต่เรื่องนั้นก็ทำไม่ได้แล้วนี่หว่า!’
Comments for chapter "Chapter 10 ไปที่ว่าการกับข้า"
MANGA DISCUSSION
YOU MAY ALSO LIKE
Lost your password?
Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.
← Back to novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF