ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything - Chapter 126 หุ่นศพอสูรหยิน
“จุดพลังวิญญาณสูงสุด คริสตัลหินวิญาณ!”
เฉินเฉินพึมพำออกมาเบาๆ เขาบอกได้เลยจากชื่อของไอเทมว่ามันล้ำค่ากว่ามาก
ตั้งแต่ที่มันเรียกว่าจุดพลังวิญญาณสูงสุดแล้ว มันก็สามารถบอกได้เลยว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดของเส้นวิญญาณ
มนุษย์สามารถที่จะตายได้ ถ้าพวกเขาไม่มีวิญญาณ แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นกับเส้นวิญญาณกันถ้าพวกมันขาดแก่นกลางไป?
เมื่อคิดเรื่องนี้แล้ว เฉินเฉินก็เอื้อมมือไปไปด้านหน้า ก่อนที่หยวนฉิงเทียนที่อยู่ข้างเขาจะตะโกนออกมาอย่างหวาดหวั่น!
“เวรเอ้ย! ไอ้นี่มันอะไรกันเนี่ย? น่ากลัวชะมัด!”
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเขา การเคลื่อนที่ของเฉินเฉินก็หยุดชะงักไป
เขานั้นประมาทไปมากแล้ว ถ้าใครบางคนจากสำนักอู๋ซิ่นวางกับดักไว้ด้านในแล้ว เขาคงจะทำให้เกิดอะไรบางอย่างขึ้นมาแล้ว
“ระบบ มีกับดักอยู่แถวนี้ไหม?”
“ไม่มีค่ะ”
หลังจากได้รับคำตอบจากระบบ เฉินเฉินรู้สึกโล่งอกและเขาเดินเข้าหาหยวนฉิงเทียนด้วยความโล่งอก
“เจ้าเป็นนักฆ่านะ ทำไมเจ้าถึงขี้ขลาดเสียจริง?”
“ศิษย์พี่ ดูนี่! มันมีโลงศพอยู่ด้วย!” หยวนฉิงเทียนตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน
เฉินเฉินตื่นตระหนก
‘หรือว่ามันมียอดฝีมือที่ทรงพลังหลับไหลอยู่กัน? ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วมันจะไม่แย่แล้วเหรอเนี่ย?’
ยังไงก็ตาม เขาก็ตกตะลึงและตัวแข็งทื่อต่อหน้าโลงศพ
โลงศพนี้มันโปร่งใสและทุกสิ่งทุกอย่างก็สามารถที่จะมองเห็นได้อย่างชัดเจน
มันมีคนนอนอยู่ด้านในนั้น พูดตามจริงแล้ว มันมีสิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์ที่ถูกขนแกะพันอยู่และร่างกายของพวกเขาส่องแสงออกมาจนเหมือนกับคริสตัลหยก
“มนุษย์” ตนนี้มีร่างกายที่บิดเบี้ยวและทุกสิ่งทุกอย่างของมันไม่เหมือนกับรูปร่างของมนุษย์ธรรมดาทั่วไป
สิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดก็คือขากำลังยิ้มกว้างอยู่ มันเหมือนกับว่าเขากำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่งอยู่!
“เวรเอ้ย! มันทำข้ากลัวแทบตายเลย!”
เฉินเฉินบ่นออกมาในใจ เขารู้สึกว่าเจ้านี่มันมีคำอธิบายเดียวคือสัตว์ประหลาดเท่านั้น
ยังไงก็ตาม ด้านนอกเขายังคงดูใจเย็นอยู่และพูดออกมาอย่างเย็นชา “พวกเราเป็นสมาชิกของสำนักอสูรนะ พวกเราเห็นของแปลกๆแบบนี้ทั้งหมดแล้วละ”
หลังจากพูดเสร็จ เฉินเฉินถามระบบในหัว “ระบบ ใครคือคนที่ทรงพลังที่สุดที่นี่?”
“เป็นท่านค่ะ ท่านเจ้าของ” ระบบตอบกลับอย่างซื่อตรง
เมื่อได้ยินดังนี้ เฉินเฉินจึงทวนคำถามอีกครั้งหนึ่ง “สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในบริเวณนี้อยู่ที่ไหนกัน?”
ในเวลานี้เอง เขาก็เก็บถั่วเขียนลงไปในกระเป๋าหนังสัตว์วิญญาณ มีเพียงแค่หยวนฉิงเทียนและสัตว์ประหลาดในโลงศพเท่านั้นในม่านหมอกแห่งนี้
“มันอยู่ด้านหน้าเจ้าของหนึ่งเมตรค่ะ มันคือหุ่นศพอสูรหยินกึ่งสำเร็จที่ถูกสร้างขึ้นมาจากการซึมซับอารมณ์ทางลบอย่างความโลภ ความโกรธ ความลุ่มหลวง ความแค้น ความเกลียดชังและความชั่วร้ายค่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ เฉินเฉินก็บ่นออกมาในใจ
เขาบอกได้ลยว่ามันเป็นของที่พิเศษอย่างมาก สำนักอู๋ซิ่นนั้นได้ฝึกวิชาสุดยอดหวังฉิงเต๋า แต่พวกมันเขากลับใช้อารมณ์ด้านลบทั้งหมดในการหลอมรวมเจ้าปีศาจนี้ใต้ผืนดิน!”
“ศิษย์พี่ พวกเราควรจะทำยังไงดี? พวกเราควรจัดการมันไหม?” หลังจากหยวนฉิงเทียนตั้งสติได้ เขาก็ชักมีดออกมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร
เฉินเฉินรีบหยุดเขาก่อนที่จะหยิบของออกมาจำนวนมากจากแหวนของเขา รวมทั้งไม้เลี้ยงมังกรและดาบสังหารมังกรซึ่งมีหน้าที่ปัดเป่าปีศาจ
“ระบบ มันมีอะไรบางอย่างที่สามารถกำจัดเจ้าสัตว์ประหลาดนี่ไหม?”
“ท่านค่ะ ท่านเจ้าของ”
“ข้า? ข้าจัดการมันยังไง?” เฉินเฉินตกใจเล็กน้อย
“มันไม่น่าจะใช่เลือด ไม่อย่างงั้นแล้วระบบคงจะบอกมาแล้ว ฉันยังมีวิธีอื่นในการจัดการมันอีกอยู่เหรอ?”
หลังจากครุ่นคิดไปสักพักหนึ่ง สายตาของเฉินเฉินก็ดูเป็นหนักแน่นกว่าเดิม
“เจ้าสิ่งนี้มันจะต้องเป็นของล้ำค่าอย่างมาก ตั้งแต่ที่ข้าสามารถกำจัดมันได้แล้ว ข้าก็จะทำมัน”
‘ไม่อย่างงั้นแล้ว ข้าคงจะสบายใจไม่ได้’
‘ข้าจะกำจัดมันในขณะที่ทุกคนกำลังสนใจอย่างอื่นอยู่!’
ตั้งแต่ที่เขาตัดสินใจขึ้นมาได้แล้ว เฉินเฉินก็อัญเชิญเจ้าถั่วเขียวออกมาโดยไม่ลังเลและทำลายการป้องกันของโลงศพ
หลังจากที่เปิดโลงศพออกแล้ว พลังหยินที่น่าหวาดกลัวก็ปลดปล่อยออกมาจากด้านในจนทำให้เฉินเฉินสั่นไหว
ในเวลาเดียวกัน ความเกรี้ยวกราดของเขาก็ปะทุขึ้นมาจนทำให้ตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง!
เฉินเฉินหายใจเข้าและส่ายหัว นอกจากนี้แล้วสร้อยคอดอกไม้เลือดที่เขาได้รับจากการหลอกเซี่ยวฮวงก็ปล่อยแสงสีแดงบนมือขวาของเขาเพื่อกำจัดพลังมารออกไป
“เจ้านี่มันชั่วร้ายมาก!”
ด้วยความตกตะลึง เฉินเฉินหันไปมองหยวนฉิงเทียนที่อยู่ข้างเขา
“ฉิงเทียน ยืนห่างออกไปสักหน่อย เจ้านี่มันแปลกมาก มีเพียงคนอย่างข้าที่เลือดร้อนและมีความสามารถในระดับที่มั่นใจในตัวเองเท่านั้น จะไม่ส่งผลกระทบ!”
เมื่อได้ยินดังนี้แล้ว หยวนฉิงเทียนก็รีบถอยกลับไปไกลจนแอบซ่อนตัวอยู่ในหมอก
ยังไงก็ตาม เขาพึ่งจะดูดซึมพลังหยินไปส่วนหนึ่งและเกือบจะเสียสติไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะศิษย์พี่แล้ว เขาก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
‘ศิษย์พี่สามารถพึ่งจะช่วยให้ข้ายังมีสติอยู่ หลังจากถูกพลังหยินเข้าโจมตี ข้าละทึ่งกับความแข็งแกร่งทางจิตใจของงพี่เขาจริง’
เมื่อเห็นหยวนฉิงเทียนถอยไปไกลแล้ว เฉินเฉินรู้สึกเหนื่อยน้อยลงและเขาก็เอื้อมมือเข้าไปในโลงศพ หลังจากนั้นเขาก็ใช้พลังสายฟ้าระเบิดเข้าใส่สัตว์ประหลาดในโลงศพ!
แคร้ก!
สายฟ้าที่เป็นตัวแทนของพลังอำนาจซึ่งมันส่งผลร้ายต่อสูรอย่างมาก หลังจากที่ถูกระเบิดโดยพลังสายฟ้าของเฉินเฉิน หุ่นศพอสูรหยินที่ยิ้มอยู่ก็บิดเบี้ยวและมันเหมือนกับกำลังเปิดตาอยู่ก็ดูสั่นสะท้านเล็กน้อย
ปัง ปัง ปัง…
โลงศพสั่นสะท้านอย่างหนักหน่วงพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของสีหน้าศพอสูรหยิน เมื่อเห็นดังนี้แล้ว เฉินเฉินก็รีบกดไปยังฝาโลง ในขณะที่โจมตีออกไปอย่างต่อเนื่อง
“มันเหมือนจะไม่ได้ผลเลยแหะ!”
เมื่อเห็นว่าแรงปะทะจากโลงศพมันเพิ่มขึ้น เฉินเฉินตื่นตระหนกและกัดฟันแน่นก่อนที่จะเปิดแหวนเก็บของ
ไอเทมทั้งหมดที่ใช้งานปัดกวาดพลังอสูรนั้นถูกเอามาใช้งาน
เขารีบกระจายผงสลายศพจากสาขาปรับแต่งศพ
พิษที่เข้มข้นจากสาขาพิษก็ถูกโยนลงไปยังโลงศพด้วยเช่นกัน
เขาก็ใช้ของต้องสาปที่ได้รับมาจากสำนักแม่มดลงไปด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้แล้วเขายังใช้ยาอมฤตพิเศษที่ใช้โดยสาขาอสูร
หุ่นโจมตีรูปร่างแมลงจากสำนักหุ่นก็ถูกโยนลงไปเช่นกัน
…
แคร้ก!
โลงศพสั่นสะท้านอย่างรุนแรง มันเหมือนกับมีพลุถูกจุดอยู่ด้านใน ไม่เพียงแต่มันจะส่องประกายออกมา ควันก็พวยพุ่งออกมาอย่างมากด้วยเช่นกัน
เหงื่อไหลบนใบหน้าของเฉินเฉินอย่างควบคุมไม่ได้ เขาพยายามอย่างดีที่สุดแล้วแต่มันก็ยังสังหารมันทิ้งไม่ได้ เขาจะสาปแช่งระบบจนเขาตายเลย!
หยวนฉิงเทียนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากระยะไกลและพูดออกมาด้วยความกังวล “ศิษย์พี่ ท่านต้องการให้ข้าช่วยไหม? มันรู้สึกหนักหน่วงมาก!”
เฉินเฉินปฏิเสธอย่างเร่งรีบ “อย่า…อย่า…อย่ามา สถานการณ์นี้มันตึงเครียดมากเกินไป เจ้าจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก ถ้าเจ้ามองเห็นมัน”
‘ก็แย่ละ ข้ายังใช้พลังสายฟ้าอยู่เลย ถ้าตัวตนของข้าถูกเปิดเผยขึ้นมาจะทำยังไงกันละเนี่ย?’
เมื่อเห็นว่าฝาโลงศพไม่สามารถที่จะกดลงไปได้อีกแล้ว เฉินเฉินจึงรีบเอาเจ้าถั่วเขียวออกมาและวางลงไปบนฝาโลง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สัมผัสได้ถึงพลังหยินแล้ว ตาของเจ้าถั่วเขียวก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาและร่างกายของเขาก็ปล่อยแสงสีดำออกมา
ปัง!
เจ้าถั่วเขียวกระทืบขาหน้าของมันและแสงสีดำที่สว่างขึ้นก็กดเจ้าฝาโลงศพลงไป
ฝาโลงศพปิดสนิทและมันไม่มีการเคลื่อนไหวอีกต่อไป ยังไงก็ตามมันก็ยังปล่อยควันและเปลวเพลิงสีดำออกไปทั่วทุกทิศทาง
สามนาทีได้ผ่านไป
การเคลื่อนไหวของโลงศพก็หยุดลงและสัตว์ประหลาดก็หายไปอย่างสมบูรณ์ เหลือเพียงแต่น้ำที่ดูสกปรกอยู่ด้านใต้โลงศพ
ชั่วครู่ต่อมา คริสตัลใสที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นโลงศพก็แตกหัก ในขณะที่รอยแตกนั้นมาจากจุดแก่นกลางก็เปลี่ยนกลายเป็นฝุ่นด้วยเช่นกัน
เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น เฉินเฉินก็เข้าใจได้บ้าง
มันเหมือนว่าหุ่นศพหยินไม่เพียงแต่ซึมซับอารมณ์ทั้งหมด แต่รวมทั้งพลังจากคริสตัลหินวิญญาณผ่านคริสตัลอีก
“ข้าสงสัยว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมันได้ดึงดูดความสนใจของคนอื่นไปหรือเปล่า”
เฉินเฉินเป็นกังวลเล็กน้อย โดยที่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาก็เดินไปหาคริสตัลหินวิญญาณและชักดาบทำลายวิญญาณออกมา
ปัง!
พร้อมกับเสียงแตก ดาบทำลายวิญญาณก็พังลงทันที
“…”
เฉินเฉินพูดไม่ออก เขาพยายามที่จะเคลื่อนที่คริสตัลหินวิญญาณด้วยกำลังทั้งหมดแต่มันก็ไม่ช่วยอยู่ดี
เมื่อเห็นดังนี้แล้ว เฉินเฉินก็ตัดสินใจได้และกดมือลงไปยังคริสตัลหินวิญญาณก่อนที่จะใช้ร่างจิตต้นกำเนิดอย่างเต็มกำลัง เขาเริ่มดูดซึมพลังของคริสตัลหินวิญญาณไป!
พลังวิญญาณในคริสตัลหินวิญญาณนั้นบริสุทธิ์มากและเฉินเฉินรู้สึกว่าพลังปราณของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก!
ยังไงก็ตาม แสงของคริสตัลหินวิญญาณไม่ได้หม่นหมองลงเลยสักนิด เมื่อเห็นหยวนฉิงเทียนและเจ้าถั่วเขียวที่อยู่ห่างไกลออกไป เขาก็ตะโกนออกมา “เจ้าถั่วน้อย ฉิงเทียน มาที่นี่และดูดกลืนพลังวิญญาณไป พวกเราจะทำให้ไอ้นี้มันหมดไปเลย!”