ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything - Chapter 27 ห้องลับ
“อะแฮ่ม ถ้างั้นแล้วข้าจะไม่แต่งงานกับน้องสาวเจ้า…”
เฉินเฉินรู้สึกเซงเล็กน้อย
ยังไงก็ตาม เป้าหมายหลักของเขาไม่ได้ใช่การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่มาจัดการเกี่ยวกับเรื่องราวของตระกูลจางและตระกูลหวัง
ทั้งสองคนต่างพูดคุยกันเรื่องนี้สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะได้บทสรุปกับการต่อรอง
แน่นอนว่าทรัพย์สมบัติหลายอย่างของตระกูลหวังจะถูกส่งให้กับเฉินเฉิน
ส่วนสมบัติของตระกูลเจาแล้ว แต่ละฝ่ายจะรับกันไปคนละครึ่งหนึ่ง
ยังไงก็ตาม ตระกูลจางจำเป็นต้องแก้ปัญหายุ่งยากในการส่งมอบมันให้กับเฉินเฉิน รวมทั้งจัดการเกี่ยวกับการสอบถามทั้งหมดจากทางรัฐบาล
…
ครึ่งวันต่อมา ทุกสิ่งทุกอย่างก็จัดการลง เฉินเฉินและจางจีถูกนำทางไปโดยหัวหน้าคนรับใช้เจาไปยังบ้านของตระกูลเจา
บ้านของตระกูลเจานั้นใหญ่กว่าของตระกูลหวังและจางทั้งสอง
ยังไงก็ตาม ตั้งแต่ที่เจาเบียวเป็นโจรขี่ม้าที่ไม่มีครอบครัว ภายในบ้านของเขาดูว่างเปล่ามาก
เขามีลูกบุญธรรมที่รับเลี้ยงมาหลายคนก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาส่วนใหญ่ก็ตายกันไปหมดแล้ว
นางสนมของเจาเบียวหลายต่อหลายคนที่ซื้อมาจากซ่องก็วิ่งหนีหายไปแล้ว หลังจากที่ได้ยินถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจาเบียว มันทำให้บ้านของตระกูลเจายุ่งเหยิงมาก
“ไม่ต้องกังวลไป กล่องสมบัติของเจาเบียวได้ถูกล็อคไว้แน่นมาก หญิงสาวเหล่านี้ไม่มีทางที่จะเปิดพวกมันได้อย่างแน่นอน”
หัวหน้าคนรับใช้พาทั้งสองคนไปยังห้องนอนของเจาเบียว ในขณะที่อธิบายเหตุการณ์ไปด้วย เพื่อที่แสดงคุณค่าในตัวของเขาออกมา
ในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา พวกเขาทั้งหมดต่างอยู่ในห้องนอนของเจาเบียว
ห้องนอนของเจาเบียวนั้นใหญ่ แต่ของล้ำค่าทั้งหมดต่างหายกันไปหมดแล้ว เหลือไว้เพียงแต่เตียงใหญ่ที่นอนได้สามถึงสี่คน
เมื่อหัวหน้าคนรับใช้เจาเห็นมัน เขาก็ขึ้นไปบนเตียงและขว้างผ้าห่มออกและแตะลงไปบนเตียง
ตึง! ตึง! ตึง!
เสียงดังขึ้นจากด้านล่างของเตียงดูหนักแน่น
เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว เฉินเฉินประหลาดใจ หรือว่าเจ้าหัวหน้าคนรับใช้เจาจะไม่รู้ว่ากล่องสมบัติมันอยู่ที่ไหนงั้นเหรอ?
“มันไม่ได้อยู่ใต้เตียงงั้นเรอะ?! แล้วทำไมเจ้าโจรเจาถึงได้มีเตียงใหญ่แบบนี้กันละ?”
หัวหน้าคนรับใช้เจาตื่นตระหนก เขากระโดดออกจากเตียงและเคาะไปบนกำแพงทั่วรอบห้อง แต่ยังไม่พบเจออะไร
จางจีมองไปที่เตียงอย่างรู้สึกสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ เขากระโดดขึ้นไปบนเตียงและพยายามที่จะลองหาดู แต่เฉินเฉินหยุดเขาไว้
“มันไม่ได้อยู่ใต้เตียงหรอก ไม่อย่างงั้นแล้วเมื่อเขากำลังมีบทเพลงความรักกันบนเตียง มันคงจะมีเสียงดังมาจากใต้เตียงแน่นอน ใครกันจะโง่วางของไว้ใต้เตียงแบบนั้นกันละ”
“สาวของเจาเบียวไม่ใช้คนที่รักเขาอย่างแท้จริง เจาเบียวก็รู้ดี ดังนั้นเขาจึงไม่บอกพวกเธอให้รู้ว่ากล่องสมบัติของเขาซ่อนไว้ไหน”
“อะไรคือบทเพลงความรักกันครับ?” จางจีดูสับสน เขาไม่เข้าใจว่าเฉินเฉินพูดอะไร
หัวหน้าคนรับใช้เจานั่งลงกับพื้นและคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเฉินเฉิน
“ท่านเซียน ข้าเห็นกับมันด้วยตาตัวเองจริงๆนะ! เจาเบียวได้เอากล่องสมบัตินี้เข้ามาในห้องนอนเขา!”
เฉินเฉินเมินเขาและถามกับระบบ “มันมีห้องลับหรือกล่องสมบัติในระยะสิบห้าเมตรไหม?”
“มันอยู่ใต้ฝ่าเท้าของคนที่อยู่ด้านหน้าท่าน มันลึกลงไปสี่สิบเซนติเมตร” ระบบตอบกลับอย่างรวดเร็ว
คนที่อยู่ด้านหน้าเฉินเฉินนั้นคือจางจี เขากำลังดูขมวดคิ้วอยู่เหมือนกับว่าเขากำลังสงสัยว่าบทเพลงแห่งความรักคืออะไร
เฉินเฉินมองไปที่เขาอย่างสงสาร
“น้องชาย หลบไปหน่อยสิ”
จางจีงุนงง แต่เขาก็ขยับตัวหนีให้
เฉินเฉินเดินไปที่เขาอยู่ก่อนหน้านี้ก่อนจะกระทืบลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง
ตึง! ตึง! ตึง!
มันยังคงเป็นเสียงที่หนักแน่นอยู่เหมือนเดิม แต่หลังจากที่สังเกตให้ดีแล้ว มันก็แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้เล็กน้อย
ถ้าเขาไม่รู้ว่ามันมีกล่องสมบัติซ่อนอยู่ด้านล่าง มันคงจะเป็นเรื่องยากที่จะสังเกตเห็นความแตกต่างเพียงเล็กน้อย ยังไงก็ตาม ตั้งแต่ที่เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามันมีของอยู่ด้านล่าง เขาจึงไม่ได้มีท่าทีอะไร
เฉินเฉินทุบลงไปบนพื้นอย่างไม่ลังเล หลังจากนั้นเขาก็ก้าวถอยไปครึ่งเมตร ก่อนที่จะจับไปที่แผ่นไม้ที่อยู่ตรงกลางด้วยมือทั้งสองข้าง ก่อนที่จะลงแรงไป
แคล้ง!
ควบคู่ไปกับเสียงปะทะของหิน พื้นไม้หนาสี่สิบเซนติเมตรถูกยกขึ้นโดยเฉินเฉินและเปิดเผยอุโมงค์มืดด้านล่าง
“ด้วยน้ำหนักของก้อนหินนี่แล้ว คนส่วนใหญ่ไม่สามารถยกมันได้หรอก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ถึงกลไกของมัน แม้ว่ามันจะไม่มีกลไกอะไร ก้อนหินเหล่านี้ก็มากพอที่จะหยุดคนจำนวนมากได้แล้วละ”
“มันมีสมบัติอยู่ข้างใต้มากเพียงใดกัน จนทำให้เจาเบียวมันระมัดระวังตัวมากขนาดนี้”
เฉินเฉินยกก้อนหินออกไป เขามีความคาดหวังอยู่ภายในใจ แต่เขาไม่ได้เร่งรีบที่จะเดินลงไปด้านล่าง เขามองไปที่หัวหน้าคนรับใช้เจาแทน
หัวหน้าคนรับใช้เจาที่เหงื่อไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง เขาเข้าใจถึงสิ่งที่เฉินเฉินต้องการดี เขามุดลงไปด้านในและเป็นคนเดินนำ
เมื่อจางจีเห็นมัน เขาจึงพูดออกมาอย่างละอายใจ “พี่เฉิน ตั้งแต่ที่พี่เป็นคนพบขุมสมบัตินี้ ของด้านในก็จะเป็นของพี่ ข้าจะไม่ลงไปข้างล่าง ข้าจะรอเฝ้าระวังคนอื่นอยู่ด้านนอกเอง!”
“เฮ้ เจ้าเป็นน้องชายของข้านะ เจ้าก็ต้องได้รับการแบ่งไปด้วย สมบัติแค่นี้มันจะมีค่าเหมาะสมกับความสัมพันธ์พี่น้องของพวกเราได้ยังไงกัน? เฉินเฉินโบกมือและพูดอย่างดูดี
เขาล้อเล่นกันใช่ไหม? เขาปฏิเสธที่จะให้ระบบค้นหาของที่ล้ำค่าที่สุดด้านใน เนื่องจากว่าเขาต้องการให้จางจี ผู้ที่เป็นดั่งตัวนำโชคลาภเป็นคนตรวจสอบก่อน จางจีจะไม่เข้าไปข้างในได้ยังไงกัน?
จางจีรู้สึกตื้นตันใจกับคำพูดที่เขาได้ยิน เขาไม่ได้ปฏิเสธการเข้าไปภายในอุโมงค์ เขาเดินตรงเข้าไปอุโมงค์ก่อนเฉินเฉิน
เขาสาบานกับตัวเองว่าถ้ามีอันตรายอันใดที่หัวหน้าคนรับใช้เจาหยุดมันไม่ได้ เขาจะเป็นคนหยุดมันเอง!
ทั้งสามคนเข้าไปภายในอุโมงค์ ซึ่งนำไปยังห้องลับ
ภายในมันไม่มีกับดักที่ซ่อนไว้ มีเพียงกล่องใหญ่แปดกล่องเท่านั้น
เมื่อเห็นภาพที่เห็นได้เพียงแต่ในทีวีในชาติก่อนของเขา เฉินเฉินอดที่จะเดินไปด้านหน้ากล่องหนึ่งก่อนจะเปิดมันออกด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังไม่ได้
แต่ว่า…
แทนที่จะเป็นเพชรนิลจิลดาหรือเงินทอง สิ่งที่เฉินเฉินเห็นเพียงแต่กองขยะ
มีดขึ้นสนิม เสื้อผ้าฉีกขาด ชุดชั้นในผู้หญิง แส้ กุญแจมือและของวุ่นวายอย่างอื่น
มันดูเหมือนว่าพวกมันต่างเป็นของที่ระลึกในความทรงจำของเจาเบียว ถ้าพวกมันถูกเอาไปขายแล้ว…พวกมันก็ขายได้แค่ไม่กี่เหรียญเงิน
‘โชคร้ายชะมัด!’ เขาบ่นกับตัวเอง เขาเดินไปเปิดกล่องตรงกลาง แต่มันกลับเป็นของเหล่านี้ได้ยังไงกัน?
เขายิ้มเจื่อนๆก่อนที่จะมองไปที่จางจี “น้องชาย เจ้าไปเปิดกล่องที่เหลือได้เลย”
จางจีไม่ได้คิดอะไรมากเท่าไหร่ เมื่อเขาได้ยินพวกมัน เขาทำตามคำสั่งของพี่ชายตัวเองทันที
หลังจากที่เดินไปเปิดกล่องแรก เขาเดินไปเปิดมันโดยไม่ได้ใช้ความสามารถอะไร วินาทีต่อมา แสงสว่างนับไม่ถ้วนก็สะท้อนออกมาจากด้านใน มันจนทำให้หัวหน้าคนรับใช้เจาเดินถอยกลับไปหลายก้าว
‘แม่งเอ้ย นี่มันกล่องเพชรนี่นา! มันมีค่ามากกว่าหมื่นเหรียญทองด้วยซ้ำ! ทำไมความแตกต่างของคนเรามันยิ่งใหญ่มากถึงเพียงนี้กัน?!’
หลังจากที่เฉินเฉินมองเห็นของด้านใน เขาก็บ่นออกมาในหัว
ตาของจางจีก็แสดงให้เห็นถึงความตกใจเช่นเดียวกัน เมื่อเขาเห็นกล่องสมบัติ
เขารู้ดีว่าตระกูลเจามันรวย แต่เขาไม่ได้คิดว่าพวกเขาจะรวยถึงเพียงนี้ เพียงแค่กล่องเพชรเหล่านี้มันก็มากเกินกว่าทรัพย์สมบัติจางตระกูลจางถึงสองเท่าแล้ว…
“พี่เฉิน พวกเรารวยแล้ว!”
แม้แต่จางจีที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยยังตื่นเต้นเลย
“อย่าพึ่งดีใจไป ไปเปิดกล่องเพิ่ม!” เฉินเฉินเดินถอยออกมาจากกล่องเหล่านี้ เขากลัวว่าความโกรธในตัวเองจะส่งผลกระทบกับจางจี
จางจีเปิดกล่องอย่างต่อเนื่อง
กล่องที่สองเต็มไปด้วยทอง มันมีราคานับหมื่นตำลึงทอง
กล่องที่สามเป็นกล่องที่เต็มไปด้วยเงิน มันมีค่าราวเจ็ดถึงแปดพันตำลึงทอง
กล่องที่สี่เต็มไปด้วยอาวุธเวทมนตร์ เจาเบียวไปขโมยมันมาจากไหนกัน? คุณค่าของมันยังไม่รู้จัก
กล่องที่หกเต็มไปด้วยใบอสังหา สิ่งที่คนรับใช้ทำและของอย่างอื่น
มันไม่ได้มีของอะไรเท่าไหร่ในกล่องเจ็ด มีเพียงแค่ก้อนหินที่ดูหน้าตาธรรมดาทั่วไป ลูกปัดสีเทาและเหรียญตราอะไรสักอย่างหนึ่ง
เฉินเฉินไม่รู้ว่าลูกปัดและเหรียญตรามันคืออะไร แต่สำหรับการเป็นผู้ฝึกตนแล้ว เขารู้สึกถึงออร่าที่แข็งแกร่งจากหินเหล่านั้น
“กล่องสุดท้ายนี้มันดูไม่ได้ล้ำค่ามากเท่าไหร่” จางจีพูด เขามองไปที่ก้อนหินอย่างไม่พึงพอใจอะไร
ตาของเฉินเฉินกระตุก เขาพูดอะไรไม่ออกมาอีกสักพักหนึ่ง
สำหรับกล่องสุดท้ายมันไร้ค่าอย่างที่จางจีคิดหรือไม่นั้น…
เขาจะรู้มัน เมื่อเขาถามระบบเสร็จแล้ว