ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything - Chapter 72 ตรวจจับความโชคดี
หลังจากดื่มน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์เข้าไป พลังชีวิตอันยิ่งใหญ่ก็ปะทุขึ้นจากแขนขวาของเซี่ยวอู่โยวและแขนใหม่ก็งอกออกมาในเวลาไม่นาน
เฉินเฉินรู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นแบบนี้ น้ำระฆังวิญญาณสวรรค์นั้นสมกับชื่อของมันในฐานะสมบัติสวรรค์จริงๆ ไม่เพียงแค่มันจะสามารถรักษาหัวใจที่ได้รับความเสียหายของหูเซียงเอ๋อได้ แต่มันยังทำให้อาจารย์ของเขางอกแขนที่หายไปกลับมาได้ด้วย
‘ถ้าฉันรู้มาก่อน ฉันคงจะให้ท่านอาจารย์มากกว่านี้อีกซักหน่อย’
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขารู้สึกอับอายเกินกว่าที่จะให้เขาเพิ่ม ถึงยังไง เขาก็เคยพูดไปแล้วว่าเขามีแค่ปริมาณจำกัด
เขาทำได้แค่ชดเชยมันให้ในภายหลังด้วยวิธีอื่น
“น้ำระฆังวิญญาณสวรรค์ อู่โยว เจ้าไปเอาของดีแบบนี้มาจากไหน?”
โยวหลัวฉุยชะโงกมาดู ความกังวลส่วนใหญ่ได้หายไปจากน้ำเสียงของเธอแล้ว
“ข้าบังเอิญได้รับมันมาหน่ะ” เซี่ยวอู่โยวตอบด้วยรอยยิ้ม โดยไม่ได้พูดถึงเฉินเฉิน
“เหอะ ในเมื่อตอนนี้เจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว ก็ใช้เวลาทะลวงลำดับขั้นซะ!”
โยวหลัวฉุยสามารถบอกได้ในชั่วพริบตาว่าเซี่ยวอู่โยวตอบแบบขอไปที แต่เธอก็ไม่ได้เก็บมาคิดจริงจังและแค่ส่งเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา
เซี่ยวอู่โยวพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเขาก็มองเฉินเฉินแล้วให้คำแนะนำ “ศิษย์เอ๋ย ในตอนที่ข้าเอาชนะภัยพิบัติสายฟ้าได้หลังจากนี้ มันจะถึงเวลาที่ปราณวิญญาณสายฟ้าในสวรรค์และผืนดินจะหนาแน่นที่สุด เจ้าจะต้องสร้างรากฐานของเจ้าในตอนนั้น เข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้วครับ!” เฉินเฉินตอบอย่างจริงจังและกำไข่มุกมังกรแน่น
เมื่อได้ฟังคำตอบของเฉินเฉิน เซี่ยวอู่โยวก็แหงนหน้ามองทองฟ้าที่ห่างไกล ดวงตาของเขาดูจริงจังและเขาก็พึมพำออกมาอย่างต่อเนื่อง “ข้า ศิษย์รุ่นที่ 28 แห่งสำนักเทียนหยุน เซี่ยวอู่โยวนั้นไร้ซึ่งพรสวรรค์ แต่ตอนนี้ข้ากำลังจะทะลวงขั้นก่อกำเนินวิญญาณในวันนี้ ท่านบรรพบุรุษทั้งหลาย โปรดอวยพรให้ข้าด้วย!”
หลังจากที่พูดเช่นนั้น คลื่นพลังปราณที่ไม่สามารถเทียบเคียงได้ก็ปะทุขึ้นจากร่างกายของเซี่ยวอู่โยวและพลังที่มองไม่เห็นก็ผลักดันเฉินเฉินและโยวหลัวฉุยที่อยู่ในระยะ
หลังจากนั้นในทันที น้ำอมฤตทองคำที่ปกคลุมด้วยสายฟ้าก็ค่อยๆลอยออกมาจากร่างกายของเซี่ยวอู่โยวก่อนที่จะลอยค้างอยู่กลางอากาศ
ในทันทีที่น้ำอมฤตทองคำปรากฏขึ้น ท้องฟ้าก็ครึ้มขึ้นมาในทันที และเมฆก็ลอยมาบรรจบกันที่เหนือหัวของเซี่ยวอู่โยว
แม้กระทั่งเฉินเฉินที่อยู่ห่างออกไปก็ยังสัมผัสได้ว่ามีพลังที่ไม่สามารถอธิบายได้กำลังทำให้ท้องฟ้าสั่นสะเทือนเหมือนกับว่ามันพร้อมที่จะจุติลงมาบนโลกทุกเมื่อ
ครืน!
ด้วยเสียงฟ้าร้อง สายฟ้าสีแดงเลือดก็ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าอย่างกระทันและผ่าลงมาที่แก่นทองคำของเซี่ยวอู่โยว
ร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรง และใบหน้าของเขาก็เริ่มซีดเล็กน้อย แต่ว่าความมั่นใจนั้นยังคงอยู่ในดวงตาของเขา
ดูเหมือนว่าสายฟ้านี้จะไปเปิดกล่องแพนโดร่าเข้าให้ และมีสายฟ้าผ่าตามมาอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งที่ผ่าลงมานั้นมันจะหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ พวกมันทั้งหมดประดังเข้าไปในน้ำอมฤตทองคำที่มาพร้อมกับสายฟ้า
ไม่นานนัก น้ำอมฤตทองคำก็ถูกปกคลุมด้วยรอยแตก
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ พลังปราณสายฟ้าระหว่างสวรรค์และโลกได้พุ่งถึงจุดสูงสุดเช่นเดียวกัน
โดยไม่จำเป็นต้องเตรียมใจ เฉินเฉินก็กลืนไข่มุกมังกรที่มีขนาดพอๆกับหนึ่งกำปั้นเข้าไปพรวดเดียว
ในฐานะคนใจแข็งที่กล้ากระโดดลงหน้าผาโดยไม่มีสถานการณ์ฝึกตนนั้น การกลืนไข่มุกมังกรไม่ได้น่ากลัวอะไรสำหรับเขาเลย
เฉินเฉินสูดลมหายใจเข้าไปอย่างรุนแรง
ในทันทีที่ไข่มุกมังกรลงไปในท้องของเขา เฉินเฉินก็อดหายใจเข้าไปไม่ได้ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าไข่มุกมังกรกำลังระเหยหลังจากที่เข้ามาในร่างกายของเขา
คลื่นพลังปราณที่ทั้งรุนแรงและไม่สามารถอธิบายได้กำลังปั่นป่วนไปทั่วร่างกายของเขา ความรู้สึกนี้…
มันเหมือนกับดื่มน้ำโซดาสิบลิตรเข้าไปพรวดเดียว ก๊าซทุกรูปแบบกำลังปั่นป่วนในท้อง แต่ว่าคนนอกคงจะไม่มีวันเข้าใจว่ามันรู้สึกยังไง…
เขาสามารถทนผลกระทบนี้ได้เพราะเขามีร่างกายที่พิเศษ ถ้าเป็นเซียนระดับฝึกพลังปราณทั่วๆไป หรือแม้กระทั่งเซียนขั้นสร้างรากฐานที่พยายามจะทำเช่นนี้ พวกเขาก็อาจจะตายได้หลังจากที่กลืนไข่มุกมังกรเข้าไป
กรรร!
ครู่ต่อมา เฉินเฉินก็เงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วส่งเสียงคำรามของมังกรออกมา
พลังปราณที่รุนแรงซึ่งกำลังปั่นป่วนในร่างกายของเขานั้นได้ดึงน้ำวนทั้งสองของวิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุนออกมาในที่สุด
แล้วพวกมันก็เริ่มผสานเข้าด้วยกัน
เฉินเฉินเข้าใจว่าเขากำลังเริ่มสร้างรากฐาน!
“เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้เนี่ย?” โยวหลัวฉุยถาม เธออ้าปากค้างกับภาพที่เห็น ตอนแรกเธอกำลังสนใจเซี่ยวอู่โยวอยู่ แต่ตอนนี้เธอหันมาตกใจกับความวุ่นวายที่เฉินเฉินก่อขึ้น
พูดตามตรง ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้สังเกตว่าระดับการฝึกตนของเฉินเฉินนั้นอยู่ขั้นไหน
อย่างไรก็ตาม เธอนึกขึ้นได้ว่าดูเหมือนเซี่ยวอู่โยวจะพูดคำว่าสร้างรากฐานออกมา
‘เด็กคนนี้กำลังทะลวงขั้นสร้างรากฐานหรอ?’ โยวหลัวฉุยรู้สึกสงสัยด้วยความไม่เชื่อ การทะลวงขั้นสร้างรากฐานมันทำให้เกิดความปั่นป่วนได้ขนาดนี้เลยหรอ? สมัยที่เธอทะลวงขั้นสร้างรากฐานเองก็ไม่ได้สร้างความปั่นป่วนมากขนาดนี้!
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะเข้าใจสถานการณ์ แสงจ้าก็เปล่งออกมาจากร่างกายของเฉินเฉินอย่างกระทันหันและตัวเขาก็ส่องสว่างในทันที ในขณะเดียวกันพลังปราณระหว่างสวรรค์และโลกก็เริ่มถาโถมเข้าใส่เขาเหมือนแม่น้ำนับร้อยสายกำลังไหลทะลักสู่ทะเล
แม้กระทั่งเมฆภัยพิบัติของเซี่ยวอู่โยวก็เริ่มเคลื่อนมาทางเฉินเฉินจากที่ไกลๆ เหมือนกับว่าพวกมันถูกเขาดึงดูด
…
ฟู่ว!
หลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆ เฉินเฉินก็ถอนหายใจออกมาและแสงในร่างกายของเขาก็หายไปในที่สุด ในขณะเดียวกันน้ำวนทั้งสองในร่างกายของเขาเองก็ผสานเป็นหนึ่งเดียว และแผ่พลังปราณที่รุนแรงกว่าเดิมหลายเท่าตัวออกมา
เมื่อความสงบกลับมาแล้ว เฉินเฉินก็เงยหน้ามองท้องฟ้า หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็ลอยขึ้นไป
หลังจากที่ก้าวเข้าสู่ขั้นสร้างรากฐาน เขาก็ได้รับความสามารถบินมา
ในช่วงขั้นฝึกพลังปราณนั้น ปริมาณพลังปราณทั้งหมดมีขนาดใหญ่ แต่ระดับการเชื่อมต่อกันไม่ได้ดีเท่ากับคนที่อยู่ในขั้นสร้างรากฐาน ดังนั้นก่อนที่จะมาถึงขั้นนี้คนจึงไม่สามารถบินได้
ตอนนี้เมื่อเขาได้ความสามารถบินมาแล้ว เขาก็จะสามารถใช้ระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิมหลายสิบเท่า!
“ท่านเจ้าของได้สร้างรากฐานของเต๋าอันยิ่งใหญ่ และระยะการตรวจจับได้เพิ่มขึ้นเป็น 30 เมตร! นอกจากนี้ท่านเจ้าของยังได้รับรางวัลเป็นโอกาสในการตรวจจับความโชคดี”
เมื่อได้ฟังการแจ้งเตือนจากระบบในใจของเขา เฉินเฉินก็รู้สึกมีความสุขเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ตามมาด้วยความสับสน
‘ตรวจจับความโชคดีนี่มันคืออะไรกัน?’
‘มันไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนนะ!’
“เริ่มการตรวจจับความโชคดี!”
หลังจากการแจ้งเตือน เฉินเฉินก็รู้สึกว่ามีรายการผุดขึ้นมาในหัวของเขาอย่างรวดเร็ว มันเร็วมากจนเขาเห็นรายละเอียดแค่บางส่วน
“ตรวจจับหาคนเพศตรงข้ามที่มีความเข้ากับรสนิยมของท่านเจ้าของมากที่สุด
“ตรวจจับชุดวิชาที่จิตใต้สำนึกของท่านเจ้าของชื่นชอบมากที่สุด
“ตรวจจับทหารศักดิ์สิทธิ์ที่เข้ากันได้กับท่านเจ้าของมากที่สุด
“ตรวจจับลูกน้องที่รู้สึกยินดีและยอมรับท่านเจ้าของเมื่อได้เห็นท่าน”
…
ในขณะที่จ้องมองรายการที่ปรากฏขึ้นมา เฉินเฉินก็ถึงกับตกตะลึง
‘พวกนี้มันอะไรเนี่ย?’
ก่อนที่เขาจะทำความเข้าใจได้อย่างชัดเจน รายการก็หยุดปรากฎขึ้นในหัวของเขา
“ตรวจจับอาหารที่ท่านเจ้าของโปรดปราณ เริ่มการค้นหา!
“มีจิตวิญญาณหอยแมลงภู่อายุ 100,000 ปีอยู่ในมหาสมุทรไร้ก้นในระยะ 2,620,000 กิโลเมตรทางเหนือของท่านเจ้าของ หลังจากที่กินเนื้อของหอยแมลงภู่เข้าไป ท่านจะรู้สึกว่ามันเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก จบการตรวจจับความโชคดี!”
‘แค่เนี้ยอะนะ?’
เฉินเฉินถึงกับพูดไม่ออก เพราะเขาคิดไม่ถึงเลยว่าอาหารที่เขารู้สึกโปรดปราณในจิตใต้สำนักจะถูกค้นหา
‘แต่ว่านี่มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย!’
‘ห่างออกไปหลายล้านกิโลเมตร! จิตวิญญาณหอยแมลงภู่อายุ 100,000 ปีเนี่ยนะ!’
‘ฉันจะได้กินมันชาติไหนกัน!? แล้วฉันจะสามารถเดินทางหลายล้านกิโลเมตรแค่เพื่อไปกินมันได้ด้วยหรอ?’
‘และต่อให้ฉันไปจริงๆ ฉันก็อาจจะเป็นฝ่ายที่ถูกกินแทนก็ได้!’
‘ฉันนี่ไร้ความสามารถซะจริง…’
เฉินเฉินถอนหายใจอยู่ลึกๆ มันคือเรื่องที่เศร้าที่สุดในโลก
‘แน่นอนว่าฉันรู้อาหารที่ฉันชอบอยู่แล้ว แต่ฉันอาจจะไม่มีวันได้กินมันในชีวิตนี้…’
แต่ก็โชคดีที่ระบบไม่ได้ตรวจจับผู้หญิงให้เขา ไม่อย่างนั้นคงทำให้เขารู้สึกแย่มากที่ได้รู้จักตัวตนของเธอแต่ไม่สามารถเห็นเธอได้…
หอยแมลงภู่คงจะไม่ขยับไปไหนมากนักในทะเล แต่มนุษย์คงจะเดินทางไปทั่ว แค่เพราะมันถูกตรวจจับไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถหามันเจอได้
ในขณะที่เฉินเฉินกำลังมีความรู้สึกที่ซับซ้อน แก่นทองคำของเซี่ยวอู่โยวก็แตกออกในที่สุดและคนตัวเล็กที่ดูเหมือนเซี่ยวอู่โยวจริงๆก็เคลื่อนตัวออกมา
คนตัวเล็กที่มาจากไหนก็ไม่รู้นี้มีสีหน้าที่เคร่งขรึม แต่เนื่องจากความจริงที่ว่าร่างกายของเขาเล็กมาก เขาจึงดูตลกมากกว่าน่าเกรงขาม
ในตอนที่เซี่ยวอู่โยวเห็นคนตัวเล็กนี้ รอยยิ้มจากความโล่งอกก็เบ่งบานขึ้นบนหน้าของเขาและเขาก็ทำความเคารพคนตัวเล็ก
คนตัวเล็กเองก็ทำความเคารพกลับ จากนั้นก็เคลื่อนตัวเข้าไปในร่างกายของเซี่ยวอู่โยวอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเอง เซี่ยวอู่โยวก็ได้ก้าวเข้าสู่ขั้นก่อกำเนิดวิญญาณอย่างเป็นทางการ
ใบหน้าของเฉินเฉินบูดบึ้งอย่างน่าเหลื่อเชื่อ ในฐานะคนที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ เขาจึงนึกถึงคำถามเดียวไม่หยุด
‘วิญญาณหอยแมลงภู่นี่มันมีรสชาติยังไงกันแน่นะ?’